เดินตลาด 5 แผ่นดิน : บ้านบางแค
กฎแห่งแรงดึงดูดได้รับการพิสูจน์แล้วเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ช่วงนั้นรู้สึกเบื่อและเซ็งกับการทำงาน (อารมณ์แบบนี้เป็นมา 3 ปีแล้ว) และต้นเดือนมีนาคมก็มีทริปภูเก็ตรออยู่แน่นอนแล้ว ความที่อยากเที่ยวสุดๆ ก็เร่งวันเร่งคืนให้ถึงเวลาเที่ยวเร็วๆ และแล้วก่อนจะถึงวันเดินทางไปภูเก็ต เราก็มีรายการ "เที่ยว" เข้ามา 2 รายการติดๆ กัน คงเป็นด้วยแรงดึงดูดที่ว่า "อยากไปเที่ยว อยากไปเที่ยว อยากไปเที่ยว" วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธุ์ : เที่ยวตลาด 5 แผ่นดิน จัดโดย กองการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร และไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อนร่วมงานอ่านข่าวเจอ ก็เลยตัดมาให้ เราโทรไปตามข้อมูล เจ้าหน้าที่บอกว่า ยังรับได้ค่ะ และฝากบอกต่อด้วย แสดงว่าคนไม่ค่่อยรู้แหงๆ จัดการจองไป 2 ที่ก่อนเลย แล้วค่อยหาคนไปด้วย แน่นอน ..ได้คู่หูคนเดิม พวกเบื่อที่ทำงานเหมือนกันๆ
จุดนัดหมายคือสำนักงานกองการท่องเที่ยว ตรงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เราก็เดินตัดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปเช่นเคย
8 โมงครึ่ง คงจะเช้าเกินไป ไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่รอรับเลย ประตูสำนักงานก็ยังไม่เปิด ยืนรีรออยู่ข้างๆ สำนักงานนั่นแหละ ไม่นานก็มีคนทะยอยมา คงเป็นเพื่อนร่วมทริปกับเรา จนเกือบ 9 โมงเช้า เจ้าหน้าที่จึงมาถึง เปิดสำนักงานให้เข้าไปลงทะเบียนและรอเวลา ระหว่างนั้นก็หยิบเอกสารแจกฟรีทั้งหลายแหล่ ติดมือมาด้วย <หนักเปล่าๆ นะเนี่ย มาเอาตอนขากลับก็ได้ >
จุดแรกที่จะแวะเที่ยวคือบ้านพักคนชราบางแค เพื่อนเราบ้านอยู่ละแวกนั้นอยู่แล้ว ก็เลยไม่ย้อนเข้าเมืองมาเริ่มต้นกับเรา นัดหมายกันว่า เราออกเดินทาง ..ก็โทรบอก ทางนั้นก็จะได้ออกมารอ
9 โมงเช้า ควรจะเป็นเวลาออกเดินทางได้แล้ว เจ้าหน้าที่ก็พร้อมแล้ว คนนำทางก็คือคนคุ้นเคย (เคยดิวงานกันมาบ้าง) พร้อมแล้ว แต่ที่ไม่พร้อมคือ รถบัส ดันสตาร์ทไม่ติด ซะงั้น เพื่อไม่ให้เสียเวลามากเกินไป ก็เลยใช้รถบัสเล็ก และเรียกแท็กซี่เสริม .. เอาเถอะ..ถึงจะเลทไปบ้าง แต่เราก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรนี้นา คนร่วมทางแค่ 40 คนเอง
เมื่อมาถึงพร้อมกันที่หน้า "บ้านบางแค" แล้ว ก็ฟัง brief สั้นๆ กันเล็กน้อยถึงประวัติความเป็นมา แล้วเจ้าหน้าที่ก็พอนำชมบริเวณภายใน เยื่ยมคุณตาคุณยายที่พักอาศัยทั้งที่บ้านและที่หอพักรวม
บ้านบางแค เป็นบริการของรัฐ ที่เปิดให้ผู้สูงอายุเข้าพักอาศัยตามสมัครใจ แต่ด้วยพื้นที่มีจำกัด จึงต้อง "จองล่วงหน้า" คุณยายคนนี้ อยู่บ้านเดี่ยว ซึ่งเป็นหลังเก่าแก่ดั่งเดิม เล่าให้ฟังว่า หลังเกษียณก็ยืนใบสมัครจองเลย 13 ปีต่อมาจึงได้เข้ามาอยู่แบบหอพักรวมก่อน และ 7 ปีต่อมาจึงได้อยู่บ้านพักเดี่ยว ซึ่งเสียค่าทำนุบำรุงในช่วงแรกเท่านั้น
ที่นี่มีบริการอาหารและเสื้อผ้า พร้อมคนดูแลให้ทั้งหมด โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่อีกประเภทที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้นอีกนิด ก็ยินดีเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม คุณตาคุณยาย สามารถออกไปเดินตลาดใกล้ๆ กันนี้ได้
บรรยากาศภายในบริเวณที่พัก ดูสบายร่มรื่น
แบ่งพื้นที่เป็นชาย-หญิงแยกจากกัน ผู้ที่มาอยู่โดยสมัครใจ ก็ดูมีความสุขดี ผู้ที่ลูกหลานส่งมา อาจมีเหงาบ้าง แต่ที่นี่ก็มีกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ให้เช่นกัน
มีการแบ่งเวลาชัดเจนว่า ตอนนี้ต้องเป็นเวลากินข้าวแล้วนะ ไปร่วมตัวกันที่ห้องอาหาร หรือถ้าจะดูที่วี ก็ไปดูด้วยกันในพื้นที่ส่วนกลาง
ที่อาคารมหาดไทยร้อยปี ออกจะดูหดหู่ที่สุด เนื่องจากเป็นพื้นที่รวมของผู้สูงอายุที่มีอาการหลงลืมและช่วยตัวเองไม่ได้ มีการจัดแบ่งส่วน และจัดคนดูแล 1 ต่อ 8 เจ้าหน้าที่่ส่วนนี้คงเหนื่อยที่สุดเลยล่ะ นอกจากนี้ ก็ยังมีอาคารพยาบาลอยู่ในบริเวณเดียวกัน
เดินชมและแวะทักทายคุณตาคุณยาย และอุดหนุนโปสการ์ดมา 4 ใบด้วย พร้อมกับตรึกตรองต่อไปว่า หลังจากนี้เมื่อเราอายุ 60 ปีไปแล้ว จะมายืนใบสมัครจองห้องพักไว้ล่วงหน้าเลยก็คงจะดี
ออกจากบ้านบางแค ก็เลี้ยวเข้าตลาดเลียบคลองราชมนตรี เป็นตลาดเล็กๆ ของย่านนี้ มีอุปกรณ์เย็บปักถักร้อยหลายร้าน ร้านรับตัดเสื้อผ้า ร้านตัดผม และร้านอาหาร เดินดูไปดูมา เราก็เลยได้กระเป๋าผ้ามา 1 ใบ เอาแผ่นพับที่หยิบมาใส่กระเป๋าสะพายไว้ ทีนี่ มือก็วางพอจะถ่ายรูปได้ถนัดขึ้นซะที
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่พาแวะ "บ้านรักษ์ไทย" ซึ่งเป็นบ้านที่เปิดสอนนาฏศิลป์ให้เด็ก เราก็ปลีกตัวมาเก็บภาพบรรยากาศของคลองราชมนตรี
ดูสงบดีเหมือนกัน
แต่ชาวบ้านคลองนี้สัญจรด้วยเรือเร็ว ...น้ำกระจาย
เด็กสาธิตการฝึกรำไทยเสร็จแล้ว พวกเราก็เดินตลาดเลียบคลองต่อไป ผ่านร้านก๋วยเตี๋ยว ..เริ่มหิวแล้ว ก็เลยรีบจ้ำตามคนนำทาง...ไปยังจุดหมายต่อไป
โปรดติดตามตอนต่อไป
ปล. 1) อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ "บ้านบางแค" ได้ที่ >> //www.banbangkhae.go.th/ 2) ติดตามทริปเดียวกันนี้ได้ที่ Blog นู๋เมี่ยง
Create Date : 29 มีนาคม 2553 |
|
7 comments |
Last Update : 21 ธันวาคม 2553 23:26:49 น. |
Counter : 1635 Pageviews. |
|
|
|
นับถือ นับถือครับ ที่เขียนเรื่องตลาดน้ำหน้าวัดนิมานฯ ชาวบ้านแถวนั้นเขาเรียกกันอย่างนี้ ความจริงบ้านผมก็อยู่แถวนั้นแหละ ผลัดวันประกันพรุ่งว่าจะไปชมสักครั้ง จนแล้วจนรอดก็ได้ไปสักที จนต้องมาอ่านที่คุณนัทธ์เขียนนี่แหละ ขอบคุณครับที่เขียนให้อ่าน