<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
10 ธันวาคม 2554
 

ทริปผจญภัย...ปายหน้าฝน : Part III ชมวัดเกตการาม


ความเดิมตอนที่แล้ว

เดินไปตามหลังนักเรียนข้ามแม่น้ำปิง ...มุ่งหน้าไปยังวัดที่มองเห็นยอดเจดีย์สวยงามอยู่ตรงหน้า



และแล้วก็มาถึง "วัดเกตการาม"



พระธาตุที่เห็นตรงหน้านั้น เป็นเจดีย์ทรงกลมแบบล้านนา
ฐานสีเหลี่ยมย่อเก็จ ประดับด้วยทองจังโกดุนลาย ตั้งแต่ปากระฆังถึงบัลลังก์ ปล้องไฉน ปลียอด ฉัตร
ด้านหน้ามีพระพุทธรูปประทับยืน และราวบันไดนาค




วัดเกตเป็นวัดเก่าแก่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง ตามประวัติวัดบอกบว่าสร้างในปีพ.ศ.1971 สมัยพระเจ้าสามฝั่งแถน กษัตริญราชวงศ์มังราย (ครองราชย์พ.ศ.1954 – 1985)

พระธาตุวัดเกตเป็นที่ประดิษฐานของพระเกศาธาตุ เดิมชาวบ้านเรียกว่า พระธาตุเกศแก้วจุฬามณี ถึอเป็นการจำลองพระเกศแก้วจุฬามณีขั้นดาวดึงส์มาไว้ในโลกมนุษย์ ดังนั้นจึงสร้างให้ยอดพระธาตุเอียง เพื่อมิให้ยอดชี้ขึ้นไปตรงกับองค์ที่อยู่บนสวรรค์เพราะถือว่าเป็นการไม่สุภาพ นอกจากนี้ยังมีความเชื่อตามตำราโบราณที่ว่าคนเราที่เกิดมาในโลกนี้ เมื่อสิ้นอายุขัย ดวงวิญญาณจะไปสถิตอยู่ตามพระธาตุเจดีย์ต่างๆ ตามปีที่เกิด และขณะที่ยังมี่ชีวิตอยู่หากได้ไปนมัสการพระธาตุประจำปีเกิด ถือได้ว่าเป็นบุญกุศลและทำให้อายุมั่นยืนยาว สำหรับพระธาตะวัดเกตถือเป็นพระธาตประจำปีเกิดของคนปีจอ แทนพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์






จากศิลาจารึกวัดเกต ซึ่งตั้งอยู่บนมุขบันไดด้านใต้ของพระวิหารระบุว่ามังนรชาถ่อ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ (พศ.2121 – 2150) โปรดให้บูรณปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ที่พังลงมา เริ่มบูรณะเมือพ.ศ.2121 บูรณะเสร็จพ.ศ. 2124 โปรดให้มีการฉลองพร้อมกัลปนาคนถวายเป็นข้าวัดจำนวนมาก
ในสมัยรัตนโกสินทร์ มีคนต่างชาติต่างศาสนาเข้ามาตั้งถิ่นฐานในย่านวัดเกต ทำให้ย่านวัดเกตเป็นย่านที่อยู่อาศัยร่วมกันของคนต่างชาติ ต่างศาสนา ต่างวัฒนธรรม โดยส่วนใหญ่เป็นลูกหลายชาวจีนที่ค้าขายทางเรือแต่เดิมมา


ยังเช้าอยู่มาก และเป็นเวลาก่อนโรงเรียนเข้า มีนักเรียนทะยอยเดินเข้าไปยังเขตโรงเรียนที่อยู่ติดกับวัด
แล้วก็มีนักท่องเที่ยว 2 คนคือเรากับเพื่อนเดินท่อมๆ วนเวียนดูสิ่งก่อสร้างภายในวัด



โบสถ์ (เราเข้าใจว่าคงเป็นโบสถ์ เพราะมีแนวเสาเสมา) งามมาก
มีงานปูนปั้นประดับกระจกสี และเขียนลายน้ำทอง สวยจริงๆ



กรอบหน้าต่างเป็นปูนปั้น มีลายเป็นสัตว์ประจำปีเกิดต่างq




บันไดเป็นรูปพญานาค เป็นลักษณะของอาคารแบบล้านนา


อาคารเก่าแก่อีกหลัง คลับคล้ายจะเป็นอาคารเรียนของพระภิกษุ พอดีว่าเราไมได้ถ่ายป้ายมาให้ชัดๆ
มีการประดับไม้แกะสลัก ไม้ฉลุลาย ตกแต่งอาคารอย่างสวยงาม



เราสองคนพากันเดินวนเวียนถ่ายรูปอาคารและผลัดกันถ่ายภาพกันและกันอยู่บริเวณนี้พอสมควร
เพราะความร่มรื่นของร่มไม้ใหญ่และความเขียวสดชื่นของต้นไม้ใบหญ้าในบริเวณแวดล้อมทำให้เย็นใจกันจริงๆ
พอเงยหน้ามองฟ้า อ้าว...เมฆเริ่มหนาหนึกขึ้นมาอีกแล้ว ก็พากันเดินชมบริเวณอื่นต่อ
แต่จะเข้าอาคารไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้น ยังเช้าเกินกว่าจะเปิดอาคารต้อนรับนักท่องเที่ยว



ตัววิหารเองก็มีความงดงามด้วยลวดลายแบบช่างล้านนา
ก็ไม่รู้นะว่าตามหลักวิชาการ หรือศาสตร์ทางศิลปะจะเรียกลวดลายหรือเทคนิคเหล่านี้ว่าอะไร
เอาเป็นว่า เราเหมาเอาเองว่า นี่คือ "ศิลปะแบบล้านนา"

นอกจากสถาปัตยกรรมของวัดที่สวยงาม ทั้งโบสถ์ วิหาร และองค์เจดีย์แล้ว
ที่วัดนี้ยังมี "พิพิธภัณฑ์" ให้ชมและศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่นด้วย
แต่เรามาเช้าไป ...ยังไม่ถึงเวลาเปิดให้ชม เพราะฉะนั้น ก็เมียงมองกันแต่ภายนอนละกันนะ




สิ่งของที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ คือ สมบัติเดิมของวัด เช่น พระพุทธรูป ช่อฟ้า ใบระกา ซึ่งเป็นไม้แกะสลักจากโบสถ์หลังเก่า ถ้วยชาม ภาชนะต่างๆ และสิ่งของที่รับบริจาคมา นอกจากนี้ยังแบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ เช่น เครื่องดนตรี ผ้าโบราณเครื่องแต่งกายพิพิธภัณฑ์


เดินดูภายนอกก็จริง แต่สายตาก็เล็งแลไปเห็นความงดงามของลายเขียนสีภายใน
อดไม่ได้ ต้องเก็บภาพมาด้วย เป็นงานเขียนสีที่สวยงาม (อีกตามเคย)



ซ้ายมือ คือ ลายที่เสา ขวามือ คือ ลายเหนือกรอบหน้าต่าง



เขามอ มีเจดีย์พระธาตุพระธาตุอินทร์แขวนจำลองด้วย



วนมาอีกด้าน ใกล้จะออกประตูแล้ว เหลียวกลับมามองอีกที
หน้าบันสวยอ่ะ ...แวะถ่ายรูปอีก
เป็นหน้าบันของอาคารไหนก็จำไม่ได้แล้วหละ
แต่ด้านหลังพระวิหาร มีลายกระจกสี ลายปูรณฆฏะ หรือลาย หม้อน้ำแห่งความอุดมสมบูรณ์
ที่เราเคยให้ในงานศิลปะของศิลปินชาวเหนือหลายคนแล้ว



สมควรแก่เวลาแล้ว ก็ตัดใจจากวัดอันงดงามข้ามถนนมาอีกฝั่งเพื่อกลับไปตลาด
ก็ไปปะกับร้านขาย "ข้าวเกรียบปากหม้อ" น่าจะเป็นเจ้าดัง เพราะมีป้ายใหญ่ติดไว้
มีพนักงานยืนเรียงกันละเลงแป้ง ใส่ไส้ พับห่อเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอคำ
อ่ะ ซื้อใส่กล่องถือมาด้วย 1 กล่อง ...จะลองชิมซะหน่อย

พอข้ามสะพานกลับมายังอีกฝากของแม่น้ำปิง ก็มองหากันว่าจะฝากท้องมื้อเช้าที่ไหน
หรือจะกลับไปกินขนมปังปิ้งที่โรงแรม ,,,สุดท้ายก็ตกลงกันได้ว่า
ไปหาอะไรกินใน "ตลาดวโรรส" ...เดินวนดูหมูทอด ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู ข้าวเหนียว
ผ่านไปหลายร้าน เลือกไม่ได้ และรู้สึกว่ามันจะหนักท้องเกินไป
ก็พากันเดินขึ้นไปชั้น 3 กินอาหารตามสั่งนั่นแหละ ง่ายดี



แล้วก็ได้กินข้าวเกรียบปากหม้อซะที ...มีน้ำกะทิให้ราดด้วย
ต่างจากข้าวเกรียบปากหม้อที่กรุงเทพฯ ไส้ก็ไม่หวานจัด อร่อยใช่ได้เลย



กินกันอิ่มดีแล้ว ...แต่กลับไม่ได้ค่ะ ...ฝนตกหนักมากกกกกก
ต้องเตร็ดเตร่ในตลาด รอให้ฝนซาลงอีกนิด เลยจึงเดินออกจากตลาด
จะเรียกรถแดงกลับโรงแรม ...ก็ไม่มีรถซะอีก ...
ชาวบ้านเห็นเราสองคน หมุนซ้ายหมุนขวา ก็มาถามว่าจะไปไหน
พอบอกชื่อโรงแรมไป เขาก็ยิ้มแล้วบอกว่า "เดินกลับไปก็ได้ ไม่ไกล"

เป็นอันว่า ต้องพากันเดินเลียบชายคาตึก กลับโรงแรม
ไม่ไกล แต่เปียกนิดหน่อย...จัดการกับตัวเองกันให้เรียบร้อย
ลงมาทำเรื่องเช็คเอาท์ ...ถามพนักงานว่าจะไป "อาเขต" หรือสถานีขนส่งยังไง
น้องพนักงานน่ารักมาก บอกให้ไปรถตุ๊กตุ๊ก บอกราคาด้วยว่าไม่เกิน 60 บาท
เพราะถ้าเรียกรถแดง แล้วเขาเห็นว่าเป็นนักท่องเที่ยว อาจถูกโขกราคา
โชคดีที่ออกจากโรงแรมก็เรียกรถได้ ...ราคาเดียวกับที่พนักงานบอกไว้เลย

มาถึงอาเขตก็ลากกระเป๋าไปถามประชาสัมพันธ์ก่อนเลยว่า จะซื้อต๋วไปปายตรงไหน
เจ้าหน้าที่บอกตำแหน่งแห่งทีให้ เหมือนว่าจะมีแค่บริษัทเดียวนะ
จากตำราบอกไว้ว่า มีทั้งรถบัสและรถตู้ ...ความที่กลัวโค้งมากมาย ก็เลยซื้อตั๋วรถบัส
คนละ 150 บาท เป็นรถขนาด 24 ที่นั่ง ....มีขนมบริการด้วย



ดีนะที่พวกเรามาทันรอบเวลา 10 โมง ขึ้นรถกันได้ ก็ได้เวลารถออกพอดี
อำลาเชียงใหม่...มุ่งหน้าสู่ปายท่ามกลางสายฝนพรำ






โปรดติดตามตอนต่อไป


ปล.
ข้อมูลวัดเกตการาม
จากป้ายประวัติที่ติดไว้ที่วัด
และ
//www.chiangmai-thailand.net/temple/gategaram/gategaram.html


Create Date : 10 ธันวาคม 2554
Last Update : 10 ธันวาคม 2554 22:43:47 น. 8 comments
Counter : 1794 Pageviews.  
 
 
 
 
สวัสดีครับคุณนัทธ์

ไปเชียงใหม่จนนับค รั้งไม่ถ้วนแล้วยังไม่เคยไปเที่ยววัดเลยครับ น่าเสียดายจังเลย

นี่ขนาดคุณนัทธ์เก็บแค่รายละเอียดได้นอกยังมากมายสวยงามขนาดนี้เลย และยังได้รู้ศัพท์คำเรียกสิ่งประกอบต่าง ๆในวัดอีก

แสดงว่าต้องเป็นนักอ่านหนังสือทุกประเภทแน่ ๆเลยเนอะ

มีไอศครีม banana splitมาฝากครับ

 
 

โดย: find me pr วันที่: 11 ธันวาคม 2554 เวลา:14:23:03 น.  

 
 
 
มาตามไปเที่ยวบ้างครับ อยากไปปายจัง
แต่ตอนนี้คงหนาวน่าดู

 
 

โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 11 ธันวาคม 2554 เวลา:21:57:40 น.  

 
 
 
สวัสดีค่ะคุณนัทธ์

เพิ่งรู้ว่าปายมีวัดที่สวยมากขนาดนี้ ส่วนใหญ่เวลาพูดถึงปาย ก็จะนึกถึงที่เที่ยวมากกว่า ไม่ค่อยมีคนพาเที่ยววัดแบบนี้ ดีจังค่ะ

ข้าวเกรียบปากหม้อใส่กะทิด้วย แปลกดีแต่ก็น่ากินมาก ๆ

ขอบคุณที่เก็บภาพมาฝากกันนะคะ
 
 

โดย: haiku วันที่: 11 ธันวาคม 2554 เวลา:23:52:14 น.  

 
 
 
สวัสดีครับค ุณนัทธ์

อากาศเริ่มเย็นแล้วละ อยู่ริมน้ำน่าจะต้องยิ่งหนาวจับใจในอีกไม่ช้าครับ ผมยกเตาผิงมาให้เลยนะ



อากาศเริ่มหนาวแล้ว...ดูแลตัวเองด้วยนะ
 
 

โดย: find me pr วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:19:38:24 น.  

 
 
 
สวัสดีครับคุณนัทธ์

มาติดตามต่อครับ วัดเกตการาม มองมุนไหนก็สวย
เหมือนจะมีงานศิลปะแฝงอยู่ทุกตารางนิ้นครับ
 
 

โดย: Insignia_Museum วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:21:10:10 น.  

 
 
 
คุณ find me pr > ข้อมูลที่นำมาบอกเล่าก็จะอ่านจากป้ายในสถานที่นั้นๆ หรือไม่ก็มาหาเพิ่มเติมจากเวปต่างๆ ในภายหลังค่ะ

คุณพี่หนูหล่อ > อยากไปเที่ยวหน้าหนาวค่ะ แต่ที่ได้ไปคือ หน้าฝน

คุณ haiku > วัดนี้อยู่ในเมืองเชียงใหม่ค่ะ ..ยังไม่ถึงปายเลยจ๊ะ

คุณ Insigna_Museum > ใช่ค่ะ มีความงดงามแฝงอยู่ในงานสถาปัตยกรรมและลวดล่ายต่างๆ มองได้ไม่รู้เบื่อ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:21:15:20 น.  

 
 
 
ย้อนกลับมาอ่านวัดในเชียงใหม่ก่อน หลายวัดที่นี่สวยจริงๆ ค่ะ มองมุมไหนก็น่าถ่ายรูปไปหมดเลย
 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม IP: 124.122.152.112 วันที่: 14 ธันวาคม 2554 เวลา:7:59:29 น.  

 
 
 
วัดเกตดูสวยจังเลยนะคะ ถ้าีมโอกาสได้ไปเชียงใหม่อีก(เมื่อไรน้อ..อ...) ต้องแวะไปชมความงดงามของวัดดูบ้างละคะ
 
 

โดย: pichayaratana วันที่: 30 ธันวาคม 2554 เวลา:18:03:37 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com