<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
15 เมษายน 2553
 

ไหว้พระ 9 วัดกับเขตจอมทอง : วัดราชโอรส



ความเดิมตอนที่แล้ว


จาก วัดบางประทุนนอก ใช้เวลาแป๊บเดียว ไม่ทันที่น้องไกด์จะเล่าประวัติวัดถัดไปเสร็จ
เรือก็จอดเทียบท่าวัดราชโอรสซะแล้ว

วัดนี้สวยมาก เป็นสถาปัตยกรรมแบบพระราชนิยมผสมผสานไทย-จีน
ซึ่งเป็นลักษณะศิลปะที่รุ่งเรืองในช่วงรัชกาลที่ 3
ไปดูเหอะ ....ถ้าวัดไหนเป็นสไตล์นี้ สันนิษฐานก่อนเลยว่า บูรณะในช่วงรัชกาลที่ 3



เห็นวัดแล้ว ก็แจ้นขึ้นไปถ่ายรูปกัน ....วัดเก่าๆ แบบนี้ชอบนักล่ะ
ได้ประวัติวัดจากป้ายแนะนำสถานทีท่องเที่ยวของกทม. (หรือททท. ไม่แน่ใจว่างบประมาณหน่วยงานไหน)


วัดราชโอรส เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร เดิมชื่อว่า “วัดจอมทอง” เป็นวัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยรัชกาลที่ 2 ได้รับพระราชทานนามใหม่เป็น วัดราชโอรส หมายถึง วัดที่พระราชโอรสทรงสถาปนาขึ้น ด้วยเหตุที่เมื่อครั้งรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็น พระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ในรัชกาลที่ 2 ได้เป็นแม่ทัพคุมพลเสด็จไปสกัดกั้นทัพพม่าที่เมืองกาญจนบุรีโดยทางเรือ และเส้นทางเดินทางในวันแรกได้เสด็จผ่านคลองบางกอกใหญ่ (ปัจจุบันคือคลองบางหลวง) เข้าคลองด่าน เมื่อเสด็จถึงหน้าวัดจอมทอง ทรงหยุดประทับแรมที่หน้าวัด และได้ทรงประกอบพิธีเปิดโขลนทวารตามตำราพิชัยสงคราม เล่ากันว่าท่านเจ้าอาวาสวัดจอมทองได้จับย่ามสามตาดู แล้วถวายคำพยากรณ์ว่าจะประสบผลสำเร็จและเสด็จกลับมาโดยสวัสดิภาพ จึงทรงเลื่อมใสและประทานพรไว้ว่า หากเป็นเช่นนั้นจริงจะสร้างวัดถวายให้ใหม่ หลังจากเลิกทัพเสด็จกลับพระนครโดยปลอดภัยแล้ว จึงโปรดให้ปฏิสังขรณ์วัดนี้ขึ้นใหม่ทั้งวัด ตามที่ทรงประทานพรไว้กับเจ้าอาวาส


วัดนี้ก็มีมีพิธีอุปสมบทในพระอุโบสถ ...ถ่ายรูปไม่ได้ อีกแล้ว เสียดายจัง
ก็อาศัยซูมผ่านช่องประตูเข้าไปแทนละกัน




เนื่องจากพระองค์ทรงนิยมศิลปะจีน รูปทรงสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมต่างๆ ในพระอารามนี้จึงเป็นศิลปะประยุกต์แบบ ไทยผสมจีน เรียกกันในสมัยนั้นว่า ศิลปะพระราชนิยม

ศิลปกรรมไทยในวัดนี้ ล้วนประยุกต์สร้างสรรค์อย่างกลมกลืน งดงาม หาที่ติมิได้ เช่น ลายกระแหนะรูปเลี้ยวกางที่บานประตูหน้าต่างพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ รูปหลังคาแบบจีนของพระอุโบสถ พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ ตลอดถึงกุฎิ นับเป็นครั้งแรกที่มีการสร้างโบสถ์ วิหารที่ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์ แต่ยังคงรูปสิ่งเหล่านั้นไว้เป็นสัญลักษณ์แห่งศาสนสถานได้อย่างสง่าและงดงาม





กราบพระประธานในพระอุโบสถไม่ได้ ก็ไปกราบพระพุทธไสยาสน์ที่วิหารพระพุทธไสยาสน์แทนละกัน
ปางประจำวันอังคาร วัดเกิดเราซะด้วย



เราใช้เวลาที่วัดนี้กันอย่างเต็มที่
เพราะมีแต่สิ่งก่อสร้างและลวดลายที่น่าสนใจมากมาย
สมกับที่เป็นเป็นวัดหลวงเลยล่ะ




วิหารอีกหลัง อ่านจากป้ายได้ความเป็นว่าเป็นวิหารพระยืน
ดูเก่าแก่มาก และไม่ได้เปิดให้เข้าชม เลยได้แต่เก็บภาพจากภายนอกแทน



เอา..ไกด์เรียกแล้ว ...หมดเวลาสำหรับวัดนี้
ต้องรีบวิ่งไปลงเรือ ...เรากับเพื่อนเกือบจะเป็นคู่สุดท้ายที่ลงเรืออีกแล้ว


ตามอ่านกันต่อใน Blog ถัดไปนะ

ปล. ด้วยความที่กลัวว่าภาพจะเยอะเกินไป เราก็เลยจัดการรวบซะ 4 ภาพใน 1 ภาพที่แปะไว้
ออกมาไม่เยอะเกินไปสำหรับวัดนี้ แต่ก็ยังไม่อยากเล่าถึงวัดถัดไป ซึ่งมีประวัติความเป็นมาค่อนข้างเยอะเช่นกัน
ขอเล่าไว้แค่วัดเดียวก่อนละกันนะ ...หรือแวะไปอ่านทริปเดียวกันที่ blog นู๋เมี่ยงก็ได้จ๊ะ



Create Date : 15 เมษายน 2553
Last Update : 21 ธันวาคม 2553 23:29:33 น. 2 comments
Counter : 1190 Pageviews.  
 
 
 
 
แวะมาเที่ยววัดตามคุณนัทธ์
ภาพจิตรกรรมในวัดนี้ สวยดีค่ะ
ชอยภาพนกยูงตรงประตู ^^
 
 

โดย: BeCoffee วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:22:23:23 น.  

 
 
 
คุณอ้อน >> ด้วยความยินดีเลยค่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 16 เมษายน 2553 เวลา:12:44:05 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com