<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
12 กุมภาพันธ์ 2555
 

ชม : วัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า) - Part I




เพียงแค่ได้เห็นจดหมายข่าวจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เชิญร่วมกิจกรรม
บรรยายและนำชม ภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ "วัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า)"
เราก็พยายามล๊อคเวลา และสะกัดกั้นที่อาจเป็นอุปสรรค์ขัดขวางการร่วมกิจกรรมนี้
แล้ววันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 ก็จรลีมุ่งหน้าไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร



นัดหมายลงทะเบียนเวลา 9 โมงเช้า ..เราก็ค่อยๆ เดินจากท่าพระจันทร์
ตัดเข้าธรรมศาสตร์ แล้วมาถึงจุดนัดหมายก่อนเวลา ...
ระหว่างรอเพื่อนร่วมทริป...ก็เตร็ดเตร่ถ่ายภาพในบริเวณพิพิธภัณฑ์เล่นๆ
ตามประสาช่างภาพมือใหม่อ่ะนะ ต้องฝึกมุมมอง ฝึกใช้กล้องไปเรื่อยๆ



พอได้เวลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการชี้แจ้งความเป็นมา และแนะนำวิทยากร
คุณณัฏฐภัทร จันทวิช ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมศิลปากร เป็นวิทยากรนำชม
เราเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามท่านมาบ้างแล้ว เพิ่งได้รู้จักหน้าค่าตาก็วันนั้นเอง



ก่อนอื่นก็ต้องมาทำความรู้จักกับสถานที่ซะก่อน
วัดบวรสถานสุทธาวาส หรือ วัดพระแก้ววังหน้า เป็นวัดในพระราชวังบวรสถานมงคล เช่นเดียวกับวัดพระศรีรัตนศาสดารามภายในพระบรมมหาราชวัง และด้วยเหตุที่เป็นวัดในวัง ดังนั้น จึงไม่มีพระภิกษุจำพรรษา สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ ซึ่งเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคลในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่การยังไม่แล้วเสร็จพระองค์เสด็จทิวงคตเสียก่อน การก่อสร้างวัดพระแก้ววังหน้าจึงมาก่อสร้างแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและได้รับพระราชทานนามว่า วัดบวรสถานสุทธาวาส ปัจจุบัน วัดบวรสถานสุทธาวาสตั้งอยู่ในสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป เป็นวัดที่ไม่มีการประกอบสังฆกรรมใด ๆ และถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีไหว้ครู พิธีครอบครู และพิธีมงคลต่าง ๆ ของบรรดานาฏศิลปิน ดุริยางคศิลปินและกรมศิลปากร






รู้จักพอคร่าวๆ แล้วก็เดินตามวิทยากร ตัดสนามในพิพิธภัณฑ์
ผ่านโรงละครแห่งชาติ เข้าประตูข้างที่เชื่อมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
ก็แลเห็นอาคารจตุรมุข ตรงหน้า ...ถึงแล้ว "วัดพระแก้ววังหน้า"



เมื่อครั้งที่รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดในวังหน้าให้แล้วเสร็จนั้น ทรงมีพระราชดำริจะอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษษฐานเป็นพระประธาน จึงโปรดให้วาดภาพจิตรกรรมฝาผนัง เรื่อง ตำนานพระพุทธสิหิงค์ ภาพพุทธประวัติอดีตพระพุทธเจ้า 27 พระองค์ บนผนังทั้งสี่ด้าน



ดังนั้น เมื่อเราก้าวเท้าข้ามธรณีประตูสู่ภายในพระอุโบสถ ซึ่งปกติไม่เปิดให้ชมนั้น
เราจึงตะลึงงันไปชั่วขณะหนึ่ง ที่ได้เห็นความสวยงามของภาพจิตรกรรม
เต็มทั่วผนังทุกด้านเลยทีเดียว ...งานนี้ ต้องเดินชมกันยาวซะแล้ว





ตรงกลางมุขด้านทิศตะวันตก ตั้งบุษบกประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางประทานอภัยสองพระหัตถ์
บุษบกไม้จำหลักทรงสี่เหลี่ยมสูงโปร่งสามด้าน มีผนังด้านหลังเพียงด้านเดียว บนผนังประดับลายรดน้ำเป็นลายพันธุ์พฤกษา เสาทั้งสี่แกะสลักลายลงรักปิดทองประดับกระจกสี หลังคาทรงปราสาท ตัวบุษบกซ้อนอยู่บนฐาน 3 ชั้น ฐานบุษบกชั้นล่างเป็นฐานเท้าสิงห์มีฐานบัวซ้อน 2 ชั้น หรือเรียกว่า ฐานบัวเท้าสิงห์
พระพุทธรูปยืนมีพระพักตร์รูปไข่ พระนลาฎกว้าง พระปรางสูง พระขนงโก่ง พระนาสิกเป็นสัน พระโอษฐ์อิ่ม พระเนตรทอดมองต่ำ เม็ดพระศกเล็ก เป็นรูปกก้นหอยเวียนขวา พระอุษณีษะเป็นต่อมสูง พระรัศมีเป็นเปลว ครองจีวรห่มเฉียง สบงยาวถึงข้อพระบาท ด้านหน้าจีบทบ ประทับยืนบนฐานกลมรูปดอกบัว จากลักษณะประติมานวิทยา แสดงว่าเป็นพระพุทธรูปในแบบศิลปะพระราชนิยมในรัชกาลที่ 3



พอนั่งนิ่ง ฟังบรรยายถึงองค์พระพุทธรูป และภาพจิตรกรรมบนผนังด้านต่างๆ รวมทั้งบนทวารบาลแล้ว
ชาวคณะก็แยกย้าย กล้องใครกล้องมัน มุมใครมุมมัน
กดชัดเตอร์กันเป็นการใหญ่ แล้วก็ถกกันถึงเรื่องและตำนามที่ปรากฎอยู่ในภาพนั้นๆ
...นี่คือความสนุกสนานของการเที่ยวชมศิลปวัฒนธรรมในแบบที่เราชอบ
เราเองก็พยายามเดินเก็บภาพให้ทั่วๆ เช่นกัน เพราะตั้งการเก็บไว้เป็นหลักฐาน
และไม่รู้ว่าตัวเองจะมีโอกาสให้เข้าชมภายในอย่างนี้อีกหรือไม่
วิธีการถ่ายภาพจิตรกรรมฝาผนัง ต้องระวัง "อย่าใช้แฟลต"
และต้องระมัดระวังตัวเอง ไม่ให้ยืนมือไปแตะต้อง หรือกระทบกับภาพเด็ดขาด
หากยังต้องการให้คนรุ่นหลังได้ชมความงดงามของฝีมือช่าง ก็ต้องระวังกันหน่อย


ภาพผนังส่วนบนด้านหลังพระประธาน วาดเป็นภาพจักรวาล มีวิมานเทวดาลอยอยู่ ท่ามกลางปุยเมฆ ต่ำลงมาเป็นภาพเทวดาเหาะลงมา ด้านขวาวาดภาพสุริยเทพทรงรถเทียมราชสีห์ ด้านซ้ายวาดภาพพระจันทร์ทรงทรงเทียมม้า







ผนังพระอุโบสถอีก 3 ด้าน เขียนภาพเล่าเรื่องตำนานพระพุทธสิหิงค์ฉบับโพธิรังษี จิตรกรรมฝาผนังนี้วาดโดยจิตรกรหลายคน ซึ่งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าอัศรพงศ์ ทรงเป็นแม่กองคัดเลือกช่างในกรมของพระองค์เองมาร่วมกันวาด ช่างที่มีฝีมือดี มีชื่อเสียงในยุคนั้น เช่น พระอาจารย์แดง จากวัดหงส์รัตนาราม และนายมั่น






แม้ว่ากล้องของเราจะตัวเล็ก ขาตั้งกล้องก็ไม่ได้ติดมาด้วย
เราก็พยายามยืนนิ่งๆ ขาตั้งมั่น ปรับฟังก์ชั่นให้เหมาะ
เพื่อเก็บความงดงามเหล่านี้ให้ดีที่สุด สั่นไหวน้อยที่สุด





ภาพจิตรกรรมอีกชุดคือ เรื่องอดีตพระพุทธเจ้า 27 พระองค์
อันนี้คงต้องอ่านหนังสืออีกหลายเล่มกว่าจะเข้าใจ ...
เอาสั้นๆ เลยว่า เราอยู่ในยุคของ "ภัทรกัลป์" มีพระพุทธเจ้าตรัสรู้ 4 องค์
คือ พระกุกุสันโธพุทธเจ้า พระโกนาคมน์พุทธเจ้า พระกัสสปพุทธเจ้า
และพระโคดมพุทธเจ้า และจะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ในภายภาคหน้า
คือ พระศรีอาริยเมตไตรโพธิสัตว์








ดูจิตรกรรมฝาผนังแต่ละวัด ...มีเรื่องให้เรียนรู้และค้นคว้าหาอ่านเพิ่มเติมเยอะมาก
ทั้งเรื่องพุทธประวัติ เรื่องอดีตพุทธเจ้า เรื่องไตรภูมิ และตำนานต่างๆ
รวมทั้งยังมีเรื่องราวชีวิต ความเป็นอยู่ และภาพสังคม บันทึกอยู่ในภาพเหล่านั้นด้วย




ชักจะเยอะไปแล้ว ....เอาไว้ไปดูภาพจิตรกรรมชุดสุดท้าย
และสถาปัตยกรรมภายนอก ใน blog ต่อไปแล้วกันนะคะ



โปรดติดตามตอนต่อไป




ปล. เนื้อหาความรู้เรียบเรียงจากเอกสารประกอบการบรรยายและนำชม



Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2555 20:10:31 น. 4 comments
Counter : 2996 Pageviews.  
 
 
 
 
นับว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากมากครับ ในการได้เข้าชมภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า)

ผมเคยไปเรียนศิลปะช่วงสั้นๆที่ช่างศิลป์ แวะเวียนอยู่รอบๆ แต่ไม่เคยเข้าไปชมเลย ได้เห็นคุณนัทนำมาเผยแพร่เช่นนี้ นับว่าเป็นวิทยาทานให้กับคนที่อยากรู้อยากเข้าใจความเป็นมา ซึ่งแม้แต่ชื่อวัดดูเหมือนจะไม่ได้อยู่ในความคุ้นเคยเลย อ่านบล็อกนี้คุ้มค่าจริงๆครับ
 
 

โดย: Insignia_Museum วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:9:12:16 น.  

 
 
 
สวัสดีครับคุณนัทธ์มือใหม่

ไม่ค่อยอยากเชื่อเลยว่าเป็นมือใหม่ด้านกล้องนะ วิธีการจัดวางภาพทำได้ส่วยไม่มีที่ติเลยจากภาพบนกว่าพุทธประวัติ เพราะบาล้านซ์ภาพได้เยี่ยมครับ

ขอให้มีความสุขสมหวังในรักตลอดไปจ้ะ


 
 

โดย: find me pr วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:19:26:03 น.  

 
 
 



Happy Valentine's Day
วันแห่งความรัก และเอื้ออาทร
ป้าขอมอบกุหลาบแทนความปรารถนาดีที่มีต่อกันค่ะ
.........................

ภาพสวยมากค่ะคุณนัทธิ์
นี่ขนาดบอกว่ากล้องตัวเล็กและขาตั้งกล้องก็ไม่ได้เอาไปนะคะ
ขอบคุณที่บันทึกภาพมาฝากกันค่ะ


 
 

โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:0:26:31 น.  

 
 
 

อยากเข้าชมด้านในพระอุโบสถ ต้องทำยังไงคะ เคยไปแต่ถ่ายได้เฉพาะด้านนอก



 
 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 9 มีนาคม 2555 เวลา:11:11:32 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com