<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
21 เมษายน 2553
 

ไหว้พระ 9 วัดกับเขตจอมทอง : วัดไทร (จบ)



ความเดิมตอนที่แล้ว

เรือลำที่่ 9 กลับมาส่งชาวคณะที่ วัดไทร ซึ่งเป็นวัดสุดท้าย
แต่เหมือนรายการจะจบเอาซะง่ายๆ ตรงนี้
เพราะน้องเจ้าหน้าที่เขตและน้องไกด์ ร่ำลาพวกเราและตัวกลับไปที่สำนักงานเขต
ส่วนคณะนักท่องเที่ยว ก็ยังกินข้าวไม่เสร็จ เลยต้องมานั่งห้อยขา กินข้าวกันอยู่ที่ท่าน้ำนั่นแหละ

ที่นี่เคยเป็นตลาดน้ำที่ขึ้นชื่อมาก่อนนะ
เพราะเคยทราบจากผู้ให้บริการเรือเช่าบอกว่า เส้นทางที่นักท่องเที่ยวจะล่องคลอง
มี 3 เส้นทาง เข้าทางคลองบางกอกน้อย คลองบางกอกใหญ่ (คลองบางหลวง)
สุดท้ายก็คือ คลองด่าน ...ซึ่งเส้นทางนี้จะแวะตลาดน้ำวัดไทร ฟาร์มจระเข้ ..
แต่ว่าเป็นเส้นทางที่ไม่ค่อยสวย ทำให้นักท่องเที่ยว (หรือที่จริงก็คือบริษัทนำเที่ยวนั่นแหล่ะ) ซาลงไป

ส่วนตัวตลาดน้ำวัดไทร (ที่เราไม่เคยไปมาก่อน) ก็ผันแปรขึ้นมาขายบนบก
ก็ตรงหน้าวัด มันเป็นตลาดอยู่แล้วอ่ะ ...ไม่ต้องลงเรือขายกันแล้ว
เรือที่แล่นไป แล่นมาในคลองสายนี้ ก็เป็นเรือเครือ น้ำกระจาย
แล้วแม่ค้าจะมานั่งพายเรือขายของ เอาบรรยากาศได้ยังไง

กินข้าวกันอิ่มแล้ว ..ก็เดินพากันไปดู ตำหนักทองวัดไทร กันก่อน



ตำหนักทองวัดไทร หรือ ตำหนักพระเจ้าเสือ ตั้งอยู่ริมคลองสนามไชย (คลองด่าน) เป็นสถาปัตยกรรไม้สมัยอยุธยาที่สำคัญและเหลืออยู่เพียงไม่กี่หลัง ตามประวัติเชื่อว่าเป็นตำหนักที่ประทับของสมเด็จพระศรีสุริเยนทราธิบดี(พระเจ้าเสือ) พ.ศ.2245 – 2251 หรือของพระมหากษัตริย์ พระองค์ใดองค์หนึ่งในช่วงนั้นจนสิ้นกรุง ได้สร้างถวายรวมกับหมู่กุฏิสงฆ์โดยรอบตำหนัก (ถูกรื้อไปแล้ว) ในคราวเสด็จประพาสทางทะเล โดยใช้เส้นทางคลองด่านเป็นทางพระราชดำเนินผ่าน และมีการแวะพักกลางทาง ณ สถานที่แห่งนี้


ศาลาท่าน้ำนี้ได้เห็นแล้วแต่เช้า พร้อมกับศาลาพระรูปพระเจ้าเสือกับพันท้ายนรสิงห์
ก็อยากรู้ว่า มันเกี่ยวกับวัดไทร ยังไงเหรอ

ก็เลยเดินตัดวัดข้ามสะพานเล็กๆ มายืนอ่านป้าย และเข้าชมใกล้ชิด แบบขึ้นไปเหยียบพระตำหนักกันเลย
อ้อ ...หลังจากไปไหว้พระเจ้าเสือกับนายสิงห์ที่ศาลก่อนนะ
ข้างๆ ศาลก็มีเรือขุดและเรือกระบวนเก่า ตั้งโชว์ไว้ด้วย ไม่มีข้อมูลที่มาที่ไป



รูปแบบอาคาร เป็นอาคารไม้ทรงไทยขนาด 3 ห้อง (3 ช่วงเสา) มีชานข้างพร้อมบันไดปูน (สันนิษฐานว่าเป็นการต่อเติมภายหลัง) ภายในอาคารมีการตกแต่งด้วยลวดลายเขียนสีทั้งฝาและโครงหลังคา หลังบานประตูภายในห้องบรรทมเขียนเป็นรูปทวารบาล ฝาภายนอกมีการลงรักเขียนลายรดน้ำตกแต่งบ้านหน้าต่าง ประดับด้วยกระจกเกรียบสีเขียวและขาว

อาคารหลังนี้เชื่อว่าถูกบูรณะมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จนกระทั่งปัจจุบันในปีพ.ศ.2545 กรมศิลปาการร่วมกับทางวัดได้ทำการบูรณะอาคารหลังนี้อีกครั้งตามหลังวิชาการ โดยมีการบูรณะโครงสร้างอาคารและชานข้างที่ชำรุด พร้อมปรับระดับพื้นล่างให้สูงขึ้น โดยคงสัดส่วนอาคารไว้เช่นเดิม พร้อมทั้งทำการอนุรักษ์ลายรดน้ำ จิตรกรรมที่เหลืออยู่ โดยทำความสะอาด เสริมความมั่นคงภาพ เพื่อสงวนรักษาและส่งต่อสมบัติของชาติอันมีค่ายิ่งชิ้นนี้ให้แก่ลูกหลานต่อไป




ลายรดน้ำบนฝาไม้ ยังเห็นชัดเจน กรอบหน้าต่างแกะลายงดงาม ตัวเรือนก็แข็งแรงดี
ทำให้เราขึ้นไปยืนพิจารณาดูลักษณะเรือนไทยได้ชัดๆ ว่าหลังคาสูง เข้าไม้ยังไง
ลักษณะการแบ่งห้องเป็นยังไง แต่ส่วนพื้นที่ห้องบรรทม ไม่ได้เปิดให้เข้าไปชมนะ
เรามองดูพื้นที่จากภายนอก ..รู้สึกว่าห้องแคบชะมัด ...ก็แต่พักชั่วคราวนี่เนอะ ...

ชื่นชมเรือนไทยโบราณกันแล้ว ก็ย้อนกลับเข้าวัดไทรกันอีกครั้ง
ตั้งใจว่าวัดสุดท้ายคงได้ใช้เวลานานหน่อย ชมให้ทั่วๆ วัด



เดินผ่านหอกลองแบบโบราณ และทึบทึมมาก ..
ถ้าเข้าไปตีกลอง เสียงคงกังวาลพิลึกเลยล่ะ

มาถึงหน้าโบสถ์ ปรากฎว่า โบสถ์ปิดแล้ว
ก็เลยต้องยกมือวันทา กราบนมัสการในใจแทน



วัดไทรเป็นวัดที่มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ดังที่ยังปรากฏหลักฐานพระพุทธรูปสลักหินทรายสีแดง ปางสมาธิ ปางมารวิชัย พระพุทธรูปทรงเครื่อง อยู่ในพระวิหาร และมีใบเสมาสลักหินทรายสีแดง อยู่ด้านตะวันตกของพระอุโบสถ เหลืออยู่ 1 หลัก วัดไทรได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อประมาณ 2251 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 8.15 เมตร ยาว 16.15 เมตร


เป็นอันว่า เราไม่ได้เข้าชมอะไรเลย ...แม้แต่ระเบียงโบสถ์ก็ไม่ได้ย่างเหยียบ
ได้แต่เดินวนและเก็บภาพมานิดหน่อย ก็ในเมื่อเข้าไม่ได้จะอยู่ำทำไมล่ะ
แสงแดดแผดกล้าขนาดนั้น ...สะท้อนกระเบื้องที่ประดับผนังโบสถ์จนแสบตา
งั้นก็ ..แยกย้ายกันกลับบ้านละกัน นะ


ปล. ข้อมูลวัดไทร >>//arcbs.bsru.ac.th/local/jt/jt_s.pdf

อ่านทริปเดียวกันนี่ที่ Blog นู๋เมี่ยง ก็ได้นะ ตอนแรก / ตอนจบ



Create Date : 21 เมษายน 2553
Last Update : 21 ธันวาคม 2553 23:33:07 น. 18 comments
Counter : 2007 Pageviews.  
 
 
 
 
ตามมาอ่านจนจบทริปแล้วค่ะ
ดีจังเลยที่คุณนัทธ์ได้มีโอกาสไปเที่ยวกับรายการดีๆอย่างนี้ อ่านแล้วชอบมากเลยล่ะค่ะ
ขอบคุณนะคะที่เอามาฝากกันค่ะ
 
 

โดย: pichayaratana วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:11:34:50 น.  

 
 
 
คุณพิชญ์ >> ขอบคุณที่ติดตามจนจบเช่นกันค่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:16:53:54 น.  

 
 
 
ยอดเลยหะ

 
 

โดย: TanaPon_M. วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:20:03:00 น.  

 
 
 
ที่วัดไทร พอเราเห็นหลวงพี่เดินออกจากหอพระอุโบสถมาเปิดรั้วประตูให้เข้าโบสถ์ได้ เราก็รีบแจ้นขอเข้าไปไหว้พระประธานก่อนล่ะ เพราะกว่าเพื่อนๆ มา/ เรือก็ต้องรอผู้โดยสาร และยังก็ต้องรอเจ้าของเรือออกตั๋ว ไหนๆ เข้าวัดแล้วก็เลยไหว้พระวัดนี้เป็นวัดแรกไปเลย
 
 

โดย: นู๋เมี่ยง IP: 61.90.80.36 วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:20:46:07 น.  

 
 
 
คุณ TanaPon_M >> ขอบคุณค่ะ

นู๋เมี่ยง >> เธอโชคดีกว่าทุกคนในทริปนี้เลยล่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:21:28:21 น.  

 
 
 

ฝากหมอน..ไว้ฝันยามหนุนค่ะ



วัดสวยจัง..ไว้จะตามรอยไปในวันหน้านะคะ

 
 

โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 24 เมษายน 2553 เวลา:0:17:04 น.  

 
 
 
ผลัดกันไปวัดเนาะคุณนัทธ์
แต่เราเก็บรายละเอียดได้น้อยจริงๆ
วัดเจดีย์หอยทางไปค่อนข้างไกลสำหรับเรานะ
แถมรอบข้างก็ไม่มีอะไรเลย
ตอนแรกเรานึกว่าหลงซะอีกไม่มีจุดสังเกตุอ่ะ
เราต้องอาศัย GPS ช่วยอีกต่างหาก
 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 24 เมษายน 2553 เวลา:21:20:21 น.  

 
 
 
^
^
^

ฮุๆ เพิ่งไปบ้านคุณส้มมา
พอมาบ้านคุณนัทธ์

ไปวัดเหมือนกันเลย

ตูนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนบาปยังไงก็ไม่รู้

เห็นด้วยกับคุณนัทธ์เรื่องงานเขียนของมูราคามิ
 
 

โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 24 เมษายน 2553 เวลา:23:41:06 น.  

 
 
 
คุณเริงฤดีนะ >> ขอบคุณสำหรับของฝากค่ะ

คุณส้ม >> เก็บมาเป็นภาพ ก็บอกเล่าเรื่องราวได้แล้วค่ะ

คุณตูน >> ไม่ถึงขนาดหรอกน่า ...เราก็ไม่ค่อยได้ไปวัดบ่อยซะหน่อย
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:8:46:37 น.  

 
 
 
รูปสวย glitter emoticon comment

แวะมาทักทายตอนที่อากาศยังไม่ร้อนนัก ตอนบ่ายกะว่าจะไปซื้อของใช้ที่โลตัสอยุธยาและพาลูกศิษย์ไปดูหนังกัน เด็กๆเขาอยากดู ๙ วัดกันค่ะ คุณนัทธ์สบายดีนะคะ
 
 

โดย: เกศสุริยง วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:8:56:58 น.  

 
 
 
แวะมาทักทายยามเช้าครับ..

เพิ่งมาดูตอนนี้..
เดี๋ยวขอย้อนกลับไปดูตอนแรกๆก่อนนะครับ..อิอิ

มีความสุขมากๆครับผม

 
 

โดย: Little Knight วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:9:17:08 น.  

 
 
 
ครูเกศ >> สบายดีค่ะ

คุณ Little Knight >> ดูให้ทั่วๆ เที่ยวให้ตลอดทริปนะคะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:21:51:34 น.  

 
 
 
สวัสดียามเช้าครับคุณนัทธ์





วันนี้พาน้องเรฟหลานชายมาเที่ยวบ้าง..อิอิ
 
 

โดย: Little Knight วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:8:32:42 น.  

 
 
 
ตามมาเที่ยวต่อด้วยคนค่ะ


มาตอบว่า ปกติเราก็ไม่ชอบพุทธพาณิชย์เหมือนกันค่ะ แต่ก็พยายามคิดว่า ตั้งใจมาไหว้ท่านแล้วก็มาทำทานน่ะค่ะ แหะๆ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:10:03:48 น.  

 
 
 
แวะมาทักทายครับ
ไม่ได้เข้ามานาน สบายดีเหมือนเดิมมั้ยเนี่ย
 
 

โดย: หนึ่งในชาวโลก วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:12:37:15 น.  

 
 
 
คุณ Little Knight >> สวัสดีค่ะ หลานชายน่ารักจัง

คุณเต้ย >> เหมือนกันแหละ ...พยายามมองข้ามเรื่องพุทธพาณิชย์ไป จะได้สบายใจขึ้น

คุณหนึ่ง >> สบายดีค่ะ ดีใจจังที่เห็น comment จากคุณหนึ่ง
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:13:26:05 น.  

 
 
 
ตามมาเที่ยวกับคุณนัทธ์ต่อ เป็นทริปที่น่าประทับใจมากเลยค่ะ เราชอบแนวนี้ ดูแล้วซาบซึ้ง และคิดถึงบรรพบุรุษ เราชอบภาคกลาง เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมายให้น่าศึกษาและค้นคว้า ขอบคุณที่นำมาฝาก
 
 

โดย: sawkitty วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:15:21:36 น.  

 
 
 
คุณ sawkitty >> เราชอบเที่ยวสถานที่ประวัติศาสตร์แบบนี้ค่ะ มีอะไรให้ศึกษามากมาย
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:17:28:57 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com