<<
สิงหาคม 2555
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
1 สิงหาคม 2555
 

ล่องแม่น้ำสามสี : Part II

ความเดิมตอนที่แล้ว

ในย่านบางรักที่เราเดินย่ำเท้ากันอยู่นี้ เป็นพื้นที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5
โปรดพระราชทานให้กับ "แขกมุสลิม" ที่เข้ามาตั้งรกรากถิ่นฐานในแผ่นดินสยาม
จึงเป็นที่ตั้งของมัสยิดเก่าแก่แห่งหนึ่ง ชือว่า มัสยิดฮารูณ


ณ ที่นี่ผู้ดูแลมัสยิดเป็นผู้ให้ข้อมูลและบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ 
โดยเริ่มจากว่า การทำพิธีละหมาดนั้น ผู้ที่จะเข้าไปในมัสยิดจะต้องทำความสะอาดเนื้อตัวซะก่อน 
พร้อมทั้งสาธิตการล้างมือ ล้างเท้า บ้วนปาก  แล้วจึงพาคณะนักท่องเที่ยว ขึ้นไปบนชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องทำพิธี 




มัสยิดฮารูณ 
ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 36 แต่เดิมเป็นเรือนไม้สักชั้นเดียวต่อมาทรุดโทรมลงไป 
จึงก่อสร้างขึ้นใหม่เป็นแบบก่ออิฐถือปูนดังเช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ภายในชั้นบนมีการตกแต่งด้วยอักษรภาษาอาหรับ 
รอบๆขอบชั้นบนของมัสยิด (ใต้เพดาน) 
เป็นฝีมือแกะสลักและฉลุของชาวเมืองเจอะนะ ประเทศอินโดนีเซีย 







ศาสนาสถานของอิสลาม ไม่มีการตกแต่งอะไรมาก  
เป็นห้องโล่งๆ  ประดับลวดลายด้วยอักษรอาหรับ ที่เราอ่านไม่ออก 
ในส่วนที่อิหม่ามหรือผู้นำสวดยืนทำพิธีจะมี 2 อย่าง ที่เราจำชื่อเฉพาะนั้นไม่ได้แล้ว 
ก็ไม่มีการตกแต่งอะไรมากมาย  ...ถือว่าศาสนาสถานของศาสนานี้ เรียบง่ายมากกกกกกกก 




โคมไฟนี้เป็นเครื่องสังเค็ดที่มอบให้แก่ศาสนาสถานอิสลาม
เนื่องการพระราชพิธีออกพระเมรุพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5  
แต่เรากลับชอบโคมไฟอีกดวงหนึ่งมากกว่านะ 



ออกจากมัสยิด ก็เดินตามหลังทีมงานเรือคุณแม่ไปบุกบ้านที่ผลิตโรตีแช่แข็ง ยี่ห้อ Rotini 
ดูการสาธิต ชิม และพูดคุยกับเจ้าของร้านเลย แล้วก็ซื้อโรติแช่แข็งกลับมาเป็นของฝากด้วย 



จากนั้นก็เดินย้อนกลับมาลงเรือ เพื่อล่องไปยังจุดหมายต่อไป  
เป็นกุศลสถานซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรสมาชิกของสมาคมสหมิตรการกุศล "เต็กก่า" แห่งประเทศไทย
ทำงานด้านเผยแพร่ธรรมะและงานกุศลลงเคราะห์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2495
และได้เจริญเติบโตเรื่อยมา จนกระทั่งมาซื้อที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา 
ก่อสร้างเทววิหารและอาคารที่ทำการถาวรขี้น   



ว่ากันว่าที่นี่สร้างตามหลักฮวงจุ้ยที่ดีมากกกกกกกก  
จากที่ได้มาร่วมทริปต่างๆ  เราได้แวะที่นี้หลายครั้งแล้ว 
และครั้งนี้เป็นครั้งที่เดินชมแบบละเอียดสุดๆ 





ในอาคารด้านหลังมีรูปเคารพตามลัทธิเต๋า และพุทธมหายานประดิษฐานอยู่มาก 
ร่วมทั้งบรรดาเทพและเซียนต่างๆ   
การจะเขียนอธิบายเรื่องเหล่านั้น เป็นเรื่องที่ยากจริงๆ 
ลำพังแค่จำชื่อแต่ละองค์ให้ได้ ก็ยากแล้ว 
เป็นเรื่องที่เราต้องศึกษาและอ่านหนังสืออีกเยอะ จึงจะเข้าใจประวัติความเป็นมา





ครั้งนี้ก็เลย ฟังไปพลางๆ ยกกล้องส่องทางซ้ายที ทางขวาทีไปเรื่อย 
หามุมกล้องใหม่ๆ อย่างสนุกสนาน สำราญใจ 



ทำบุญ ทำทาน หยอดตู้บริจาคโน้นนั่นนี่กันสนุก 
แล้วจึงลงจากอาคารด้านใน เดินออกมาไต่บันไดขึ้นศาลาแปดเหลี่ยม 




เวียนยกมือพนมไหว้สักการะเทพเจ้าและเซียนทีละชั้น ทีละชั้น 
จนกระทั่งขึ้นไปกราบสักการะพระสารีริกธาตุชั้นบนสุด 





จากบนนี้มองลงไปเราจะเห็น บ้านหวั่งหลี ที่บูรณะซ่อมแซมใหม่ ...
หวังว่าจะมีสักวันจะมีทริปที่ทำให้เราได้เข้าไปเยี่ยมชม บ้านเจ้าสัวหลังนี้ 





โปรดติดตามตอนต่อไป 



Create Date : 01 สิงหาคม 2555
Last Update : 1 สิงหาคม 2555 21:28:59 น. 1 comments
Counter : 2674 Pageviews.  
 
 
 
 
ชอบโคมไฟกลมๆ ด้วยคนค่ะ
งามดี รูปทรงแปลกตา
 
 

โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 3 สิงหาคม 2555 เวลา:17:03:56 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com