ปัญหาของข้าวไทย (2)
พล.ต.ต. พรวิสุทธิ์ งามปัญญา ผู้บังคับการ
กองบินตำรวจ เชิญอดีต ผบ.มว. ร้อย 9
กก.ตชด.เขต 7 ที่ชื่อ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์
พูด Change : Learn to love it,
learn to lead it รับใช้พี่น้องเพื่อนพ้องข้าราชการ
สังกัดกองบินตำรวจ 200 คน ที่อาคารชุมนุมสัญญาบัตร
กองบินตำรวจ ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง
เขตบางเขน กรุงเทพฯ พุธวันนี้ 10.00-12.00 น.
เมื่อวานผมรับใช้ความเห็นและข้อเสนอแนะของ
สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเรื่อง
แนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องข้าวอย่างยั่งยืน
ที่นายโอกาส เตพละกุล ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติส่งไปถึงนายกรัฐมนตรี พุธวันนี้
เปิดฟ้าส่องโลกขออนุญาตนำเอาประเด็นเรื่องปัญหามาว่ากันต่อครับ
ปัญหาของข้าวไทยมีมากมายหลายอย่าง
ตั้งแต่ปัญหาด้านการผลิต
ปัญหาประสิทธิภาพทางการผลิตตกต่ำ
ปัญหาจากข้าวที่ผลิตได้มีคุณภาพต่ำ
เนื่องจากพันธุ์ที่ปลูกไม่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่
ปัญหาด้านการตลาด
รวมทั้งปัญหาการบริหารจัดการของนโยบายรัฐบาล
ผู้อ่านท่านก็ทราบปริมาณผลผลิตข้าวไทยกันดีนะครับ
ว่าขึ้นกับสภาพดินฟ้าอากาศ เพราะชาวนาไทยปลูกข้าว
โดยอาศัยน้ำฝนเป็นหลักถึง 73% ของพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด
ปริมาณผลผลิตของข้าวไทยไม่สอดคล้องกับความต้องการ
เพราะเราขาดการวางแผนการผลิต ผู้อ่านท่านจะพบว่า
บางปีข้าวหอมมะลิมีมากกว่าความต้องการของตลาด
ในขณะที่ข้าวเหนียวมีขายไม่พอ
ประสิทธิภาพการผลิตของข้าวไทยต่ำเมื่อเทียบกับ
ของเพื่อนบ้านหลายประเทศ ที่เป็นเช่นนี้เพราะเมล็ดพันธุ์ดี
ที่เหมาะกับแหล่งปลูกในแต่ละปีไม่พอ เรื่องแหล่งน้ำก็มีปัญหา
ปัจจัยการผลิตราคาสูง ต้องพึ่งพาจากต่างประเทศ
ทั้งปุ๋ย ทั้งสารเคมี การถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกข้าว
ตามวิธีเกษตรกรรมที่ถูกต้องยังอยู่ในวงจำกัด ขาดความรู้
และเงินทุนที่จะใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม
เรื่องข้าวไทยที่ผลิตได้มีคุณภาพต่ำ บางครั้งสาเหตุก็มาจาก
พันธุ์ที่ปลูกไม่เหมาะกับสภาพพื้นที่ ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพเปลี่ยน
และมีการปะปนกันในระหว่างข้าวพันธุ์ต่างกัน
เนื่องจากมีพันธุ์หลากหลายในแหล่งเพาะปลูกเดียวกัน
ส่วนปัญหาด้านการตลาด ปัญหาหนึ่งมาจากการที่
ผลผลิตข้าวมีการเก็บเกี่ยวพร้อมกันใน
ระยะเวลาสั้นๆ ทำให้เกิดปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ
แถมข้าวไทยขาดการวางระบบการตลาดที่เหมาะสม
ทำให้ราคาข้าวในประเทศถูกกำหนดโดยราคาในตลาดโลก
ทั้งที่ไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก
และปริมาณการส่งออกมีปริมาณน้อย
กว่าการบริโภคในประเทศ ผู้อ่านท่านครับ เราต้องยอมรับว่า
ขีดความสามารถในการแข่งขันส่งออกข้าวไทย
มีแนวโน้มลดลง การดำเนินการด้านการตลาดในการรักษาตลาด
เก่าและหาตลาดใหม่ ขาดประสิทธิภาพ ไม่สามารถแข่งกับ
ประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหม่ได้ ประเทศไทยเริ่มประสบปัญหา
สูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดข้าว
คุณภาพดีให้กับประเทศผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศรายใหม่
ทั้งในตลาดฮ่องกง ตลาดสิงคโปร์ ตลาดสหรัฐอเมริกา ฯลฯ
ที่สำคัญก็คือ เราขาดการวิจัยและพัฒนาในการสร้างมูลค่าเพิ่ม
ในเรื่องข้าว โดยเฉพาะการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์
ทำให้การส่งออกข้าวไทยมีมูลค่าต่ำ
ปัญหาการบริหารจัดการของนโยบายรัฐบาล รัฐให้ความสำคัญ
กับการแก้ไขปัญหาเรื่องราคาข้าวตกต่ำมากกว่า
การลดต้นทุนการผลิตและการผลิตข้าวที่มีคุณภาพดี
อันนี้นะครับทำให้มาตรการด้านการผลิตไม่ได้รับงบประมาณ
ดำเนินการทั้งทางด้านวิจัยและพัฒนา
พันธุ์ ปุ๋ย ดิน และการหาแหล่งน้ำชลประทาน
เพื่อที่จะบรรลุผลตามที่ต้องการได้
ที่สุดของที่สุด เราขาดหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องข้าวโดยตรง
อย่างครบวงจร แม้เมื่อ พ.ศ. 2549 รัฐบาลจะจัดให้มีการตั้ง
กรมการข้าวขึ้นภายในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
แต่ก็เป็นเพียงการรวบรวมหน่วยงานที่ปฏิบัติงาน
ในเรื่องการผลิตข้าวในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาอยู่รวมกัน
และยกฐานะขึ้นเป็นกรม โดยหน้าที่ความรับผิดชอบต่างๆ
ยังคงปฏิบัติเช่นเดิมโดยแยกกัน
ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูในด้านการผลิต
กระทรวงอุตสาหกรรมดูในเรื่องโรงงานแปรรูป
และกระทรวงพาณิชย์ดูแลในเรื่องการตลาด
ทำให้การบริหารจัดการไม่สอดคล้อง
และไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบ
เรื่องข้าวยังมีต่อครับ.
อ้างอิงจาก คอลัมน์ "เปิดฟ้าส่องโลก" โดย คุณนิติ นวรัตน์
จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 30 กรกฎาคม 2556
| Create Date : 01 สิงหาคม 2556 |
| Last Update : 1 สิงหาคม 2556 21:04:17 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 874 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [
