Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
4 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
แด่ 'รัฐบาลใหม่-นายกฯใหม่' ด้วยรัก โดย เปลว สีเงิน จาก ไทยโพสต์


เมื่อวาน "สะดุ้ง" จนเรือนไหว "ทั้งวัน"

เพราะทองน่ะซีครับ ราคางอกเร็วกว่าเพาะถั่วงอก

วันเดียวขึ้นไป ๔-๕ รอบ ที่ "รัฐบาลปู ๑"

จะกู้ ๘ แสนล้าน ทำเมกะโปรเจ็กต์นั้น แบบนี้คงไม่ต้องกู้แล้ว

เพราะประเทศเรารวยทั้ง "ทอง-หลวงตามหาบัว"

ในท้องพระคลัง ทั้ง "ทอง-หลวงพ่อทองคำ" วัดไตรมิตรฯ

แถมยังมี "ประธานรัฐบาลปู" ที่รวย ๔-๕ แสนล้าน

ตอนนี้ไทยกลายเป็นประเทศรวยโคตร..โคตร

ติดอันดับท็อป-เทนโลก ไปแล้วมั้ง!?

ทำไม "คนทั้งโลก" จึงแห่ซื้อทองกักตุน?

คำตอบชัดๆ สั้นๆ คือ สหรัฐเจ๊งแล้ว ทั้งโลก-ทิ้งยูเอสดอลลาร์

ให้คืนสู่สภาพเดิม คือกระดาษธรรมดาๆ ใบหนึ่ง

มนุษย์โลกเลิกนับถือยูเอสดอลลาร์ เพราะมีแต่เสื่อมค่า-เสื่อมราคา

ก็เลยเอายูเอสดอลลาร์ไปเปลี่ยนค่า โดยซื้อเป็น

การลงทุนแบบ "กะเก็ง" กำไรกับสิ่งอื่นที่คิดว่า

น่าจะมีค่า-มีราคาเป็น "ผลตอบแทน" ให้มากกว่าในอนาคต

แล้วอะไรล่ะคือ "เทพเจ้า" องค์ใหม่ ที่ชาวโลกแห่กัน

นับถือ-บูชา เวลานี้ ในความหมาย "ลดความเสี่ยง"

แล้วไปถือครองสิ่งนั้น ด้วยเจตนา "กะเก็งกำไร"?

ทองคำเป็นอันดับแรก ที่รองลงมาก็จำพวก น้ำมัน สินค้าเกษตร

อาหาร แร่ธาตุสำคัญๆ เช่น ยูเรเนียม ที่ดิน หุ้น พันธบัตร

อัตราแลกเปลี่ยน ฯลฯ

คำถามต่อมาคือ ในเมื่อ "ยูเอสดอลลาร์"

ที่เป็นพระเจ้าของมนุษย์โลกมาตลอด

ถึงวันนี้มนุษย์โลกเลิกนับถือพระเจ้าแล้ว มันหมายความว่าไง?

ก็หมายความว่า "สแต็ก" ไงครับ!

สแต็ก ที่ไม่ใช่ ที-โบนสเต๊ก เซอร์ลอยน์-เทนเดอร์ลอยน์สเต๊ก

แต่มันคือ Stagflation หมายถึงภาวะ "ท้องอืด-ท้องเฟ้อ"

ทางเศรษฐกิจและการเงิน

ท้องอืด คือภาวะเศรษฐกิจฝืด ท้องเฟ้อ คือภาวะเงินเฟ้อ

แล้วมันมาพร้อมๆ กันเป็น "เศรษฐกิจฝืด-เงินเฟ้อ"

อาการหลักๆ ของมัน คือเงินในระบบนั้น-มี

แต่สถาบันการเงินไม่กล้าปล่อยให้กู้ เมื่อไม่ให้กู้

ก็ไม่มีใครลงทุน เมื่อไม่มีการลงทุน คนก็ตกงาน

เมื่อไม่มีงานก็ไม่มีเงิน ในขณะที่คนไม่มีกำลังซื้อ

สินค้าข้าวของกลับแพงขึ้น เพราะปัจจัยการผลิตหลัก

เช่น น้ำมันแพง ดอกเบี้ยแพง ข้าวปลาอาหารแพง

ค่าชีวิตความเป็นอยู่แพง ค่าตกใจก็แพง

เมื่อต้นทุนสูง สินค้าผลิตออกมาจึงราคาสูงตาม

ขืนปลัดพวงลากไปควบคุมราคา ธุรกิจอุตสาหกรรมเจ๊งอีก

มันพันกันเป็นลูกโซ่ เหมือนคนร้อยหัวแต่ลำตัวเดียว

เขกหัวไหน ครางระงมกันไปทั้งร้อยหัว

แล้วจะแก้ไง ในขณะที่สินค้ามี คนมีความต้องการซื้อ

แต่กลับขายไม่ได้ ถึงขายได้-ก็ขายน้อย

เพราะนอกจากคนไม่มีงาน-ไม่มีเงินซื้อแล้ว

ราคายังแพงโลดอีกตะหาก!?

เผลอๆ เฟรนช์ฟรายด์ อาหารวิเศษอเมริกันชน

จากขยุ้มขาย คงต้องนับชิ้นขาย บ้าน-ปักป้ายขาย

คนต้องการมี แต่เขาไม่มีเงินซื้อ

นี่คือสภาพเศรษฐีอเมริกันกระเป๋าฉีกเวลานี้

ถึงกฎหมายเพิ่มหนี้ผ่านรัฐสภาก็ไม่มีความหมาย

มันแค่เงินจ่ายดอกเบี้ย เหมือนคนเป็นหนี้

"เงินกองทุนหมู่บ้าน" ถึงกำหนดก็ต้องไปกู้อีกที่-ไปจ่ายอีกที่

เพื่อเป็น "หนี้พอกหนี้" เหมือนขี้เรื้อนกินหนังหมา!?

ไม่ได้สร้าง "หนังใหม่" ให้ขนขึ้นเลย มีแต่ "หนังกลับ"

มันระยับจนเยิ้มอยู่อย่างนั้น รอแต่วันรัฐบาลปลดหนี้

หรือไม่ก็ล้มละลายจากความรวยลวง

จากยอดยางคืนสู่ยอดหญ้า ราคาจริงของชีวิตจริง!

สหรัฐตอนนี้ไม่ต้องสงสัยอะไรอีกแล้ว เพราะเข้าสู่สภาพ

"เศรษฐกิจฝืด-เงินเฟ้อ" สมบูรณ์แบบแล้ว

ท่านรู้จัก "นกเตน" ใช่มั้ย นั่นแหละ...จากแปซิฟิก

กว่าอิทธิพล "ฝนตก-น้ำท่วม" จะมาถึงไทย

ใช้เวลาเป็นสัปดาห์

ภาวะ "เศรษฐกิจฝืด-เงินเฟ้อ" ก็ทำนองนั้น มันมาแน่ครับ

แต่ไม่ใช่วันนี้-พรุ่งนี้ อย่างเร็วปลายปีนี้

อย่างช้าปลายไตรมาสแรกของ ๒๕๕๕ ได้เห็นแน่บ้านเรา!

เมื่อดอลลาร์ไร้ราคา เงินบาทก็แข็ง ดีอย่างเดียวคือ

"สั่งซื้อสินค้านอก" พวกรถยนต์ ไอพอด-ไอแพด

พวกจิ๋มกระป๋องของเล่นเศรษฐี เข้ามาขายได้ราคาแพงในบ้านเรา

ทีไม่ดีมากๆ คือ "สินค้าส่งออก" พวกเอาวัตถุดิบจากนอกเข้ามา

ประกอบในไทย อย่างรถยนต์ ไม่เจ็บเท่าไหร่

แต่สินค้าไทยทั้งดุ้น พวกสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป

วัตถุดิบในประเทศ แต่เครื่องจักร ปุ๋ย ยาเคมี

ค่าจ้าง-ค่าแรง-ค่าขนส่ง-ค่าน้ำมัน-ค่าไฟ-ค่าน้ำ เป็นต้นทุนที่

"สูงขึ้น" ชนิดไม่มีแต้มต่อ พวกนี้แหละ...เจ็บ

ในขณะที่ต้นทุนการผลิตสูง ค่าแรงขั้นต่ำรัฐบาลปู

ก็จะให้ขึ้นเป็น ๓๐๐ แล้วใครจะซื้อสินค้าไทยกันล่ะ..ทีนี้

เพราะปกติราคาสมเหตุ-สมผล แต่เมื่อบาทแข็ง

มันก็เลยแพงขึ้นตามอัตราแลกเปลี่ยน

แต่คนยุโรป-สหรัฐอยู่ในภาวะจนจ่อ

ก็ต้องทิ้งของไทยซึ่งดีกว่า ไปหาของจีน ของเวียดนาม

ในยามที่ต้องกระเหม็ดกระแหม่!

ตามที่ผมสังเกต เราจะพังตามสหรัฐเร็วกว่ากำหนด

ปี ๕๓ รัฐบาลอภิสิทธิ์ทำเศรษฐกิจขยายตัวสูงสุดในรอบ ๑๕ ปี

ที่ร้อยละ ๗.๘ ส่วนปีนี้ ปี ๕๔

คาดจะเหลือประมาณร้อยละ ๔-๕ ที่ลดลงเพราะอะไร

เพราะพิษ Stagflation ส่งผลให้การส่งออกของเรา

ชะลอตัวนั่นเอง!

มันเริ่มแล้ว จึงเป็นไปได้สูง ปีหน้าการส่งออกเราจะมีปัญหาหนักขึ้น

เพราะการแก้ปัญหาของสหรัฐยิ่งแก้-ยิ่งรัดตัว ๑๐ ปี-อย่างเร็ว

จะฟื้นสู่ภาวะหายไข้หรือไม่ ยังไม่มีใครตอบได้เวลานี้

ภาวะเศรษฐกิจฝืด-เงินเฟ้อรอบนี้ ที่มันหนักและดูท่าจะแก้ยาก

เพราะพวก "กระสือเศรษฐกิจ" Hedge Fund

เป็นตัวล้วงก้น-กินตับอยู่ตามตลาดค้า-ตลาดทุน-ตลาดหุ้น

"ทุกที่ ที่มีโอกาส" นั่นแหละ เป็นทั้งตัวเหตุ และตัวซ้ำเติมให้พังเร็ว

เหมือนผู้หญิง เป็นไข้ตามปกติไม่เท่าไหร่

แต่ถ้าเป็นไข้ตอนมีประจำเดือนที่เขาเรียกว่า "ไข้ทับระดู"

แบบนี้ เผลอๆ ตายเอาง่ายๆ

เจ้า Hedge Fund เหมือนไข้ทับระดู

โลกเจอภาวะทั้งเศรษฐกิจฝืด-เงินเฟ้อ

เรียกว่าเศรษฐกิจโลกขาลง Hedge Fund กลับซ้ำเติม

ด้วยการเข้าเก็งกำไร ชนิดไร้ปรานี เหลือน้ำในรอยตีนควายที่ไหน

มันก็จะเป็นไดรโวเข้าไปสูบเอาก่อนจะเหลือเป็นซาก

ไม่ใช่แค่ในตลาดหุ้น-ตลาดทุน

แม้ในตลาดทรัพยากรปัจจัยผลิต-ปัจจัยบริโภคหลัก

กลุ่มทุนโลกผ่าน Hedge Fund

มันจะเป็นเทพในร่างอสูรมหาอำนาจ

เข้ามาหวังหากำไรชดเชย

ฉะนั้น อย่าแปลกใจที่ตอนนี้จะเห็น "ทูตานุทูต"

ทั้งทูตจริง ทูตหลอก ทูตติ่ม ถอดหน้ากาก-เปลี่ยนนโยบาย

เข้าเลียซ้าย-เสียขวามหาอำมาตย์นางไพร่

น้ำมัน-ก๊าซในอ่าวไทย พืช-สมุนไพรเพื่อการสกัด-วิจัยทางยา

ทรัพยากรเกษตร รวมถึงป่าไม้ ไม่เพียงเฉพาะในบ้านเรา

ในเขมร-ลาว-พม่า คือในอาเซียน มันคือปัจจัยคืนความร่ำรวยสู่

ศตวรรษใหม่ที่ยังสดๆ ซิงๆ ซึ่งในถิ่นฐานของมันไม่มีเหลือแล้ว

จึงเข้ามาถือข้าง-ถือหาง ปลุกปั่น เพื่อมันจะได้ฟันซ้าย-ฟันขวาใน

ฐานะ "มหาอำนาจ" ร่วมยึดครองและแบ่งปัน

ผลประโยชน์ทางทรัพยากร!


ท่านรู้จัก Hedge Fund แล้วใช่มั้ย แปลตามตัวก็คือ

กองทุนป้องกันความเสี่ยง เอาทั้งซื้อ-ทั้งขาย-ทั้งปล้น

แต่ตามนิยามของผม Hedge Fund

ก็คือพวกขายักตามบ่อนไฮไล

เอากำไรจากส่วนต่างโดยไม่ต้องลงทุน

วงไฮโล..เห็นมั้ย มีคนเอาเงินมาแทงต่ำ ๑๐๐ บาท

คนยักจะหยิบ ๑๐๐ นั้นไปแทงโต๊ด ต่ำเอี่ยวบ้าง กั๊กบ้าง

หรือยักขาดไปแทงสูง แล้วนักยักคนอื่นก็จะยัก ๑๐๐ นั้นอีก

ไปแทงตรงนั้น-ตรงนี้ คือ ๑๐๐ บาท ยักกันไป-ยักกันมา

สมมุติว่า ๑๐ เที่ยว เงินจริงๆ มีแค่ ๑๐๐ บาท

แต่เกิดมูลค่าลวงจากการยัก ๑๐๐X๑๐ = ๑,๐๐๐ บาท!


สรุปแล้ว หน้าเสื่อ คือในการตลาดธุรกิจ-เศรษฐกิจจริง

มีมูลค่าแค่ ๑๐๐ เท่านั้น แต่เจ้า Hedge Fund

ไม่ลงทุนด้วยเงินตัวเอง แต่ใช้วิธียักเงินคนอื่นมาแทง

ก็ระบบชอร์ตเซล ระบบมาร์จิน เอาเงินชาวบ้านเขา

มาหากำไรจากส่วนต่างของราคาไปกินนั่นเอง

แต่ถ้ามือไม่ถึง หรือถึงคราวซวย "เจ๊งทันตา"

เหมือนกัน เพราะต้องจ่ายหลายต่อ ที่เจ๊งเพราะไม่มีจ่าย

หรือมีแต่ไม่พอจ่าย ที่เรียกกันว่ายักษ์ไม่มีตะบองบ้าง

ยักษ์ ทบ.หรือยักษ์ทับบักบ้าง บางราย

ถูก ต.สระอีน สลบคาวงก็มี

นี่แหละที่ผมมองว่า อาการ Stagflation เที่ยวนี้

จากสหรัฐ-ยุโรป แล้วมันจะลามทั่วโลก

"เร็ว" กว่าที่คาด เพราะเจ้า Hedge Fund

ที่เจ๊งบ้านเขา แล้วออกล่ากำไรแถวๆ

บ้านเราที่ยังมีเนื้อ-มีหนัง ทำตื่นเต้นดีใจ

ตามแห่เขาไปเถอะ จะหมดตูดพูดไม่ออก

แล้วพวกไหนล่ะเจ้าตัวเห็บ-ตัวเฮดจ์ฟันด์นี่...

ก็จะมีใคร พวกกลุ่มทุนครองโลกสหรัฐ-ยุโรปนั่นแหละ

มันสร้างเครื่องมือเป็นกลไกปั่นโลก-ปั่นเศรษฐกิจเอง

แล้วลงท้าย ถึงวันนี้พวกมันเองนั่นแหละ...ตายก่อน

Hedge Fund มีร่วม ๔๐๐ บริษัท

เฉพาะสหรัฐปาเข้าไปร่วม ๒๐๐

แล้วใครรู้มั้ยที่เป็นปิศาจในคราบธรรมาภิบาลทางเศรษฐกิจ

และการเงินของโลกที่แอบอยู่ในกระดอง Hedge Fund?

เจ.พี.มอร์แกน...

โกลด์แมนแซคส์!!!

แล้ว เจ.พี.มอร์แกน, โกลด์แมนแซคส์ คือใคร...

ก็คือกลุ่มทุนที่ร่วมตั้ง Federal Reserve Bank

ที่เรารู้จักกันในนาม ธนาคารกลางสหรัฐ

ที่เรียกกันว่าเฟด ซึ่งเป็นตัวกำหนดชะตาอนาคตโลก

ผ่านดอกเบี้ยและนโยบายเศรษฐกิจโลกนั่นแหละ

คำตอบอันเป็นทางแก้ปัญหา Stagflation

ไม่ใช่ดอกเบี้ย ไม่ใช่การเพิ่มเงิน ไม่ใช่การคุมราคาสินค้า

มันมีทางเดียวที่แก้ได้คือ

ทาง "เศรษฐกิจพอเพียง" !!!


อ้างอิงจาก //thaipost.net/news/040811/42820




Create Date : 04 สิงหาคม 2554
Last Update : 15 มิถุนายน 2556 15:09:45 น. 2 comments
Counter : 966 Pageviews.

 
ประเทศไทยโชคดีที่มี "ในหลวง"
ขอพระองค์ทรงพระเจริญครับ


โดย: มีนาครับ วันที่: 9 สิงหาคม 2554 เวลา:23:37:33 น.  

 
canada goose
//www.darinkamontano.com/
//www.awfmmellowtouch.net/
//www.rajasthantour-travels.com/
[url=//www.darinkamontano.com/]canada goose expedition[/url]


โดย: canada goose expedition IP: 31.41.217.112 วันที่: 20 ธันวาคม 2556 เวลา:8:17:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ART19
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]





ความเสมอภาคที่แท้จริง คือ
การที่ทุกคนต้องมีหน้าที่
การทำหน้าที่ของตนเอง
จะเป็นสิ่งที่กำหนดว่า
เราควรได้รับอะไร แค่ไหน
Friends' blogs
[Add ART19's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.