|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
วันพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โดย วิษณุ เครืองาม จาก เดลินิวส์
วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม
ที่ผ่านมาเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของบ้านเมือง คือเป็นวันที่
คณะรัฐมนตรีกราบบังคมทูลขอพระราชทาน
พระบรมราชานุญาตให้กำหนดวันดังกล่าว
ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตของพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 7
แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เป็น วันพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อประเทศ โดยเฉพาะการพระราชทานรัฐธรรมนูญที่เปลี่ยนระบอบการปกครอง
มาเป็นระบอบประชาธิปไตยจนตราบเท่าทุกวันนี้
อันที่จริง พระราชกรณียกิจต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์ยิ่งใหญ่ในด้านต่าง ๆ
แก่คนไทยและเมืองไทย ได้รับการกล่าวขวัญเทิดทูนมามากแล้ว
ไม่ว่าน้ำพระทัยประชาธิปไตยอัน
ทรงแสดงให้เห็นด้วยการเตรียมการพระราชทานรัฐธรรมนูญ
แต่ทรงถูกคัดค้านถึงสองครั้งสองครา
การมีพระมหากรุณาริเริ่มทรงวางรากฐาน
การปกครองท้องถิ่นไทยในรูปแบบเทศบาล
การสถาปนาระบบข้าราชการพลเรือนที่อยู่บนระบบคุณธรรม
ซึ่งใช้มาจวบจนทุกวันนี้ การที่ทรงตั้งการสหกรณ์
เพื่อส่งเสริมการรวมกลุ่มของประชาชนในทางเศรษฐกิจ
การสถาปนาราชบัณฑิตยสถานและ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และการอื่น ๆ อีกมาก
แต่ที่ไม่ค่อยมีใครกล่าวถึงก็คือ พระราชจรรยา
ในความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงในยุคนั้น ซึ่งรุนแรงไม่แพ้ในวันนี้ ความขัดแย้งทางการเมืองในยุคนั้นเริ่มต้น
เมื่อคณะราษฎรเข้ายึดอำนาจการปกครองเมื่อ
วันที่ 24 มิถุนายน 2475 โดยคณะราษฎร
ได้ออกแถลงการณ์โจมตีพระราชวงศ์จักรี
และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวอย่างรุนแรง
โดยทรงฟังประกาศดังกล่าวทางวิทยุ รับสั่งว่า
ทรงรู้สึกเสียใจ และเจ็บใจมากที่กล่าวหาร้ายกาจมากมาย
อันไม่ใช่ความจริงเลย อย่างไรก็ตาม
แม้จะเสียพระทัย และการที่ประทับอยู่ที่หัวหินก็ทรงมีทางเลือก 3 ทาง
คือ ทรงสู้ ทรงหนี หรือทรงยอม
รับสั่งว่า ถ้าจะหนีก็มีเวลาตั้ง 24 ชั่วโมงพอหนีได้
จะสู้ก็ยังมีกำลังทหารทางหัวเมือง
แต่มีพระราชดำริว่าถ้าหนีจะร้ายใหญ่
อาจฆ่ากันตายและร้ายแก่พระราชวงศ์ การจะต่อสู้ก็ไม่อยากจะทำ
จึงได้ทรงรับโดยไม่อยากให้เสียเลือดเนื้อ
ความนี้ปรากฏในบันทึกลับที่เจ้าพระยามหิธร
เสนาบดีกระทรวงมุรธาธรบันทึกไว้เมื่อ 30 มิถุนายน 2475
ซึ่งพระยาพหลพลพยุหเสนา พระยามโนปกรณ์นิติธาดา
และหลวงประดิษฐ์มนูธรรมมาเข้าเฝ้าฯ อย่างไรก็ตาม เมื่อพระยาพหลฯ
และหลวงประดิษฐ์กราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษ
ก็โปรดพระราชทานอภัยโทษ อันแสดงให้เห็นน้ำพระทัย
ใฝ่สันติและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองมากกว่าความหวงแหน
พระราชอำนาจสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่ทรงมี
นั่นคือจุดเริ่มประชาธิปไตยไทย และเป็นจุดเริ่ม
ความขัดแย้งทางการเมืองที่ตามมาในระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน
เป็นความขัดแย้งที่รุนแรงและเสียเลือดเนื้อ
โดยมีการประกาศปิดสภาผู้แทนราษฎรโดยพระยามโนปกรณ์นิติธาดา
ในวันที่ 1 เมษายน 2476
ซึ่งตามมาด้วยการยึดอำนาจของพระยาพหลพลพยุหเสนา
และคณะในวันที่ 20 มิถุนายน 2476
ทั้งนี้ เนื่องมาจากความขัดแย้งในเรื่อง เค้าโครงทางเศรษฐกิจ
ตามมาด้วยกบฏบวรเดช ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 11 ตุลาคม 2476
เมื่อพระองค์เจ้าบวรเดชและคณะนำทหารหัวเมืองมายึดอำนาจ
ในการสู้รบระหว่างคนไทยครั้งนี้มีคนตายหลายสิบคน
และหนีออกไปอยู่ต่างประเทศหลายสิบคน
ตามมาด้วยการจัดตั้งศาลพิเศษชำระคดีกบฏ
และการออกพระราชบัญญัติจัดการป้องกันรักษารัฐธรรมนูญ
พุทธศักราช 2476 ซึ่งทรงพระราชวิจารณ์ว่าจำกัดเสรีภาพบุคคลอย่างรุนแรง ในเรื่องส่วนพระองค์นั้น การเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ก็กระทบต่อพระราชสถานะและฐานะพระราชวงศ์อย่างมาก
ดังจะเห็นได้จากการพยายามยกเลิกทหารรักษาวังของรัฐบาล
และการอภิปรายจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์
ในสภาผู้แทนราษฎรอย่างรุนแรง ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน
การพยายามปรับโครงสร้างกระทรวงวัง
รวมถึงกระทำการอันเป็นการกระทบพระราชทรัพย์
อาทิ การเก็บภาษี รวมถึงการที่รัฐบาลจะยึดเงินพระคลังข้างที่
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์
พระองค์ท่านในสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่เท่ากับ
การที่ทรงถูกฟ้องต่อสภาผู้แทนราษฎร
โดยนายถวัติ ฤทธิเดช ผู้นำกรรมกรรถราง ซึ่งกล่าวหาว่า
ทรงบริภาษใส่ความเป็นการหมิ่นประมาทตน
อันเป็นบทพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม
พุทธศักราช 2475 มาตรา 3 ที่ว่า องค์พระมหากษัตริย์
ดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้
การฟ้องร้องต่อสภาผู้แทนราษฎรจบลงเมื่อสภา
ไม่รับคำฟ้องและนายถวัติถูกดำเนินคดี
ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ต่อมานายถวัติ
เข้าเฝ้าฯขอพระราชทานอภัยโทษที่สงขลา
โดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติบันทึกรายงานว่า
นายถวัติ เล่าว่า พระเจ้าอยู่หัวทรงรับคำขอขมาโทษ
และยังทรงแสดงพระราชอัธยาศัยเสรีนิยม
มีพระราชปฏิสันถารกับนายถวัติ ถึง 1 ชั่วโมง
โดยรับสั่งขอโทษต่อนายถวัติ ที่ทรงรับทราบข้อมูลผิดมา
นายถวัติพูดกับประชาชาติว่า
ผมมีความปลาบปลื้มในน้ำพระทัยของพระเจ้าอยู่หัวอย่างที่สุด
ท่านทรงขอโทษราษฎรของท่านเช่นนั้น
แสดงว่าท่านทรงเป็นสปอตแมนเต็มที่
แล้วผมได้ก้มลงกราบที่ฝ่าพระบาทของพระองค์ท่าน
ในท้ายที่สุดเมื่อพระราชทานอภัยโทษแก่นายถวัติแล้ว
อัยการก็ถอนฟ้องนายถวัติ นี่เป็นพระราชจรรยาอันเป็นทศพิธราชธรรมข้อ
อักโกธะ คือ ไม่ทรงถือโกรธ
แม้จะมีผู้ล่วงละเมิดพระองค์ท่าน
ความขัดแย้งและความตึงเครียดดำเนินมาตลอด
จนพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
ตัดสินพระราชหฤทัยเสด็จพระราชดำเนิน
ออกนอกประเทศด้วยพระราชดำริพระองค์เอง เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2477
โดยเสด็จฯไปรักษาพระองค์ที่อังกฤษ ระหว่างนั้นก็มีการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับ
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่คงไม่ราบรื่นนัก
ความขัดแย้งที่รุนแรงนี้จบลงด้วยการสละราชสมบัติ
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2478 พร้อมพระราชหัตถเลขาที่อ้างอิงเสมอว่า
ข้าพเจ้า มีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่เดิม
ให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้า
ให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด
และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร ต่อมาได้เสด็จสู่สวรรคาลัยในวันที่ 30 พฤษภาคม 2484
การพระบรมศพไร้พระบรมโกศ และเครื่องสูงประดับพระเกียรติยศทั้งปวง
ไร้ริ้วขบวนแห่ แต่ที่สำคัญคือทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรก
และพระองค์เดียวที่มีพระราชสมภพในมาตุภูมิสยาม
แต่เสด็จ สวรรคตที่เวอร์จีเนีย วอร์เตอร์ ชานกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
อันเป็นเมืองต่างด้าวท้าวต่างแดน นี่คือพระราชจรรยาของพระมหากษัตริย์
ผู้ทรงทศพิธราชธรรมโดยเฉพาะข้อ บริจาคะ
คือ ทรงเสียสละประโยชน์ส่วนพระองค์เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
และประเทศชาติอย่างแท้จริง
เป็นความดีที่เรา-ท่านระลึกถึงในวันนี้
ท่านราชบัณฑิต จำนง ทองประเสริฐ เคยกล่าวว่า
ถ้านักการเมืองทั้งหลายไม่ได้เอาเพียงอำนาจการเมือง
ไปจากพระองค์ท่าน แต่เอาธรรมะของท่านไปด้วย
บ้านเมืองเราก็คงไม่ต้องเดือดร้อนถึงปานนี้ดอกครับ
อ้างอิงจาก //www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=630&contentID=69322
Create Date : 03 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 15 มิถุนายน 2556 15:14:18 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1049 Pageviews. |
|
|
|
โดย: pook (MaGicPlus ) วันที่: 24 เมษายน 2554 เวลา:20:03:03 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจ
ขอบคุณมากๆ ค่ะ