|
ยำผักกูด 3 สูตร
ยำผักกูด ตำรับพื้นบ้านภาคใต้
ส่วนผสม ผักกูดหั่นประมาณ 1 นิ้ว 1 จาน หอมแดง 2 หัว กระเทียม (เล็กน้อย) พริกไทย ตะไคร้ 1 ต้น มะพร้าวคั่วครึ่งถ้วย มะพร้าวขูด ขิง (เล็กน้อย) เนื้อปลาต้มครึ่งถ้วย หัวกะทิ ๒ ช้อนโต๊ะ พริกสด น้ำมะนาว เกลือ น้ำบูดู
วิธีทำ นำพริกไทย ตะไคร้สดตำละเอียด แล้วหั่นขิง หอมแดง กระเทียมตำให้ละเอียดเข้าด้วยกัน ใส่เนื้อปลาต้ม มะพร้าวคั่ว โขลกให้เข้ากัน ปรุงรสให้เปรี้ยวนำ โดยจะใส่เกลือและน้ำตาลเล็กน้อย หากเป็นแบบพื้นบ้านจะออกแห้งๆ ส่วนการดัดแปลงในตำรับสมัยใหม่ จะเติมหัวกะทิลงไปตอนโขลกเครื่องเพื่อให้มีน้ำขลุกขลิก จากนั้นลวกผักกุ่มนำมาคลุกกับเครื่องที่เตรียมไว้ อาจเติมน้ำบูดูแทนน้ำปลา โรยพริกซอย ทำให้ดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น
ยำผักกูด สูตรไทยเลย
ส่วนผสม ผักกูด 1 กำ หอมหัวใหญ่ครึ่งหัว ตะไคร้ 1 ต้น พริกสด 3 เม็ด มะเขือเทศ 2 ผล น้ำมะนาว 2 ช้อนชา น้ำกระเทียมดอง 2 ช้อนชา น้ำปลา น้ำตาล
วิธีทำ นำยอดผักกูดมาเด็ดยาวประมาณพอดีคำ ต้มน้ำให้เดือดแล้วเอาผักกูดใส่ลงไปลวกพอสุก เคี้ยวกินพอออกกรอบๆ ตักใส่จาน
เตรียมเครื่องปรุง นำหอมหัวใหญ่ ตะไคร้ มะเขือเทศ ซอย น้ำมะนาวเอาผสมน้ำกระเทียมดอง ตำพริก กระเทียม หอม ใส่เกลือนิดหน่อย ตำให้เข้ากันละเอียด แล้วเอาน้ำมะนาวผสมน้ำกระเทียมดองมาใส่ ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา แล้วเอาผักกูดมาใส่ ใส่หอมหัวใหญ่ ตะไคร้ที่ซอย คนให้เข้ากัน
เคล็ดลับ หากจะใส่ไข่ดาว ก็ทอดไข่ดาวแล้วนำมาหั่นใส่คลุกเคล้าให้เข้ากัน
ยำผักกูด
อาหารจานนี้ จึงน่าจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดหรือควบคุมน้ำหนักตัว แต่สำหรับผู้ที่ต้องการพลังงานตามปกติ เช่น เด็ก หญิงวัยทำงาน และผู้สูงอายุต้องการ พลังงานวันละ 1,600 กิโลแคลอรี การกินอาหารจาน นี้เพียงอย่างเดียวจะได้พลังงานไม่ถึง 1 ใน 3 ของพลังงานที่ควรได้รับใน 1 วัน ดังนั้นจึงควรกินอาหารชนิดอื่นๆ ด้วย โดยอาจมีกับข้าวเพิ่มอีก 1 อย่าง หรือกินผลไม้เพิ่มอีก 1½ -2 ส่วนหลังมื้ออาหาร โดยผลไม้ 1 ส่วน ได้แก่ กล้วยไข่ 1 ผลใหญ่ ส้มโอ 2 กลีบ แอปเปิ้ล 1 ผลเล็ก เงาะ/สละ 5 ผล ชมพู่ 2 ผล เป็นต้น หรืออาจเป็นนมสด 1 แก้วอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้
เมื่อดูคุณค่าโภชนาการอื่นๆ พบว่าอาหารจานนี้ให้กากใยอาหารค่อนข้างดี คือคิดเป็นประมาณร้อยละ 13 ของปริมาณที่แนะนำให้กินใน 1 วัน (แนะนำ 25 กรัม) ให้คอเลสเตอรอลไม่มาก (แนะนำไม่เกินวันละ 300 มิลลิกรัม)
อีกสิ่งหนึ่งที่พบจากยำผักกูด ก็คือบีตาแคโรทีนค่อนข้างสูง และให้วิตามินซีค่อนข้างดี คือคิดเป็นประมาณร้อยละ 58 ของปริมาณวิตามินซีที่แนะนำให้กินใน 1 วัน (แนะนำ 60 มิลลิกรัม)
สำหรับการลวกผักกูด ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งของการปรุง อาจทำให้บีตาแคโรทีนและวิตามินซีถูกทำลายไปบ้างเล็กน้อย
ผักกูดที่ชาวบ้านนิยมกินกัน จะเป็นผักกูดที่ออกในหน้าแล้งเพราะรสชาติจะอร่อยกว่าฤดูอื่นๆ ปัจจุบันมีการเก็บขายส่งไปญี่ปุ่น ซึ่งชาวญี่ปุ่นจะนำไปดองกับเกลือ เรียกว่า "วาราบิ"Ž
ส่วนประกอบ (สำหรับ 2 ที่) ผักกูดลวก 200 กรัม น้ำปลา 30 กรัม น้ำตาลทราย 10 กรัม กุ้งลวกสุกหั่นครึ่ง 100 กรัม หอมแดงซอย 40 กรัม น้ำมะนาว 40 กรัม น้ำพริกเผา 50 กรัม พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเส้นตามยาว 20 กรัม
วิธีทำ 1. ลวกผักกูดในน้ำเดือด พอสุกตักใส่น้ำเย็น นำขึ้นให้สะเด็ดน้ำ 2. ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย น้ำพริกเผา ให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย 3. ราดน้ำยำลงบนผักกูด ใส่หอมแดงซอย คลุกให้เข้ากัน ใส่กุ้งลวก คลุกให้เข้ากันอีกครั้ง จัดใส่จานแต่งหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าแดง
ที่มาข้อมูล : //thrai.sci.ku.ac.th //www.doctor.or.th
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : 'ผักกูด'สมุนไพรต้าน'โรค'
Create Date : 07 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 7 มิถุนายน 2553 12:55:20 น. |
|
1 comments
|
Counter : 25803 Pageviews. |
|
|
|
โดย: nichapatr วันที่: 7 มิถุนายน 2553 เวลา:15:25:24 น. |
|
|
|
|
|
|
|