Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 
16 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

“ถ้ำปราสาทนาฬาคิริง” ถ้ำใหม่เมืองกระบี่ มหัศจรรย์ธรรมชาติ

 ถ้ำปราสาทนาฬาคิริง ถ้ำใหม่เมืองกระบี่ มหัศจรรย์ธรรมชาติ
หินงอกที่จินตนาการรูปร่างว่าเป็นเพนียด

ธรรมชาติเป็นผู้สร้างสรรค์สิ่งสวยงาม ขึ้นมาประดับโลกไว้มากมาย
ไม่ว่าจะเป็นหาดทรายขาวใสกับน้ำทะเลสีฟ้าสด น้ำตกสูงอลังการ หน้าผาสูงใหญ่ตั้งตระหง่าน
ดูแล้วทำให้มนุษย์เรารู้สึกว่าธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่เสียเหลือเกิน

ในบ้านเราก็มีสิ่งสวยงามด้วยฝีมือของธรรมชาติอยู่มากมายที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว อย่างในวันนี้
ที่ “ตะลอนเที่ยว” ได้มาที่จังหวัดกระบี่ มาชมความงดงามจากการสรรค์สร้างของธรรมชาติอิกชิ้นหนึ่ง
ไม่ใช่ทะเลอย่างที่หลายๆคนมักนึกถึง แต่กลับเป็น “ถ้ำ” เพราะสภาพพื้นที่ที่เป็นภูเขาหินปูน
จึงก่อให้เกิดภูมิประเทศเป็นหน้าผาสูงและโพรงถ้ำหลายแห่ง และภายในถ้ำก็มีหินงอกหินย้อยตระการตา

 ถ้ำปราสาทนาฬาคิริง ถ้ำใหม่เมืองกระบี่ มหัศจรรย์ธรรมชาติ
หินงอกหินย้อยตระการตาในถ้ำปราสาทนาฬาคิริง

แต่ถ้ำที่มีความงดงามไม่แพ้ถ้ำไหนๆ ในจังหวัดกระบี่ หรือแม้แต่ถ้ำอื่นๆทั่วประเทศไทย
ก็ต้องยกให้กับ “ถ้ำปราสาทนาฬาคิริง” ที่ตั้งอยู่ในบริเวณวัดถ้ำปราสาทนาฬาคิริง อำเภอปลายพระยา
ห่างจากตัวเมืองกระบี่ไปประมาณ 70 กิโลเมตร

ชื่อ “นาฬาคิริง” อาจฟังดูไม่คุ้นหู แต่สำหรับผู้ที่สวดมนต์บทพาหุงเป็นประจำอาจจะทราบความหมาย
เพราะในบทหนึ่งของบทสวดพาหุงมีอยู่ว่า “นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง...ฯลฯ”
ซึ่ง แปลความออกมาเป็นภาษาไทยได้ว่า “พญาช้างนาฬาคิรีตกมันหนักดุร้ายเหลือ แล่นเข้ามาราวกับไฟไหม้ป่า
ดุจจักราวุธ เหมือนฟ้าผ่า พระจอมมุนีทรงชนะด้วยน้ำพระเมตตา ด้วยพระเดชนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า

 ถ้ำปราสาทนาฬาคิริง ถ้ำใหม่เมืองกระบี่ มหัศจรรย์ธรรมชาติ
หินที่มีลักษณะคล้ายช้างเผือกทรงเครื่อง ที่มาของชื่อถ้ำ

อธิบายให้ละเอียดลงไปอีกนิดก็คือ ช้างนาฬาคิรีเชือกนี้เป็นช้างที่พระเทวทัตสั่งให้มาทำร้ายพระพุทธเจ้า
แต่พระพุทธองค์ก็ได้ใช้ฤทธานุภาพแห่งความเมตตาในการหยุดช้างนาฬาคิรีให้สงบ ลงได้

เรื่องราวความเป็นมาเหล่านี้ “ตะลอนเที่ยว” ได้ฟังมาจาก “หลวงพ่อขจิต กมโล”
เจ้าอาวาสวัดถ้ำปราสาทนาฬาคิริง และยังเป็นผู้ค้นพบถ้ำ เป็นผู้นำนักท่องเที่ยวเข้าชมถ้ำ
และยังเป็นผู้ดูแลถ้ำให้คงสภาพเป็นธรรมชาติอันงดงามไม่ถูกทำลายไปอีกด้วย

 ถ้ำปราสาทนาฬาคิริง ถ้ำใหม่เมืองกระบี่ มหัศจรรย์ธรรมชาติ
หินย้อยดูบอบบาง แต่ยังคงมีการเจริญเติบโตเรื่อยๆ

นอกจากชื่อของถ้ำจะมีที่มาน่าสนใจแล้ว เรื่องราวการค้นพบถ้ำก็ยังเป็นเรื่องที่น่าสนใจด้วยเช่นกัน
โดยเมื่อปี พ.ศ.2529 หลวงพ่อขจิตซึ่งโดยพื้นเพเป็นคนจังหวัดสงขลา แต่ได้ไปจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำวัว
จังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น ได้นิมิตเห็นชายตัวดำรูปร่างสูงใหญ่ นุ่งผ้าขาวโจงกระเบนไม่ใส่เสื้อ
สะพายย่ามมือถือเทียนมาชวนหลวงพ่อให้ไปดูถ้ำแห่งหนึ่ง ชายคนนั้นพูดอะไรมากมายหลายอย่าง
พร้อมกับให้หลวงพ่อไปอยู่ในถ้ำนั้น ทีแรกหลวงพ่อปฏิเสธ แต่ชายคนนั้นก็พยายามชักจูงพร้อมอธิบายต่างๆนานา
จนในที่สุดหลวงพ่อต้องยอมรับตามที่นิมิต ชายคนนั้นจึงพาหลวงพ่อออกจากถ้ำ

หลังจากนั้นหลวงพ่อขจิตก็ได้สืบหาถ้ำตามที่นิมิตอยู่หลายแห่ง จนกระทั่งใน พ.ศ.2533
เมื่อหลวงพ่อได้รับนิมนต์มาเป็นเจ้าสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในอำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่
และมีชาวบ้านมานิมนต์ไปในงานบุญเดือนสิบ หลวงพ่อจึงสอบถามกับชาวบ้านว่า
ในละแวกบ้านมีวัดมีถ้ำบ้างหรือไม่ เมื่อชาวบ้านบอกว่ามีถ้ำ แต่เป็นป่ารกทึบไม่มีใครกล้าเข้าไป
หลวงพ่อจึงไปดูถ้ำดังกล่าว และพบว่าเป็นถ้ำที่เหมือนเคยพบมาก่อนตามนิมิต

 ถ้ำปราสาทนาฬาคิริง ถ้ำใหม่เมืองกระบี่ มหัศจรรย์ธรรมชาติ
ความงดงามของหินงอกหินย้อยที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้น

หลังจากนั้นหลวงพ่อจึงได้สำรวจถ้ำ และได้ตั้งชื่อถ้ำแห่งนี้ว่า “ถ้ำปราสาทนาฬาคิริง”
โดยถือเอานิมิตก้อนหินในถ้ำซึ่งเป็นรูปคล้ายหัวช้างเผือกทรงเครื่องขนาดใหญ่ และได้มีการพัฒนาพื้นที่บริเวณถ้ำ
จัดทำทางทางเดิน ติดหลอดไฟให้ความสว่าง ต่อมาจึงเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยหลวงพ่อขจิตเป็นคนนำชมเอง
หรือบางครั้งก็ให้ลูกศิษย์เป็นผู้นำชม อีกทั้งไม่คิดค่าเข้าชม เพียงแต่ช่วยกันบริจาคตามศรัทธา

วนอยู่รอบปากถ้ำกันนานแล้ว คราวนี้เราเข้าไปเยี่ยมชมด้านในถ้ำพร้อมกับหลวงพ่อขจิต
และ “ตะลอนเที่ยว” กันเลยดีกว่า

ก่อนเข้าถ้ำหลวงพ่อชี้ให้ดูชะง่อนหินหน้าปากถ้ำที่ดูแล้วมีลักษณะ คล้ายหัวช้าง อีกทั้งยังได้เล่าให้ฟังคร่าวๆ
ถึงภายในโพรงถ้ำว่ามีลักษณะเป็นรูปตัวยู (U) เดินเข้าทางหนึ่งเดินออกอีกทางหนึ่ง และมีอากาศถ่ายเท
ทำให้ภายในถ้ำเย็นสบายไม่เหม็นอับ ส่วนความงดงามของหินงอกหินย้อยภายในถ้ำนั้น
หลวงพ่อให้เข้าไปชมกันด้วยตาของ ตัวเอง แต่รับรองว่าต้องตะลึงเลยทีเดียว

 ถ้ำปราสาทนาฬาคิริง ถ้ำใหม่เมืองกระบี่ มหัศจรรย์ธรรมชาติ
หินย้อยรูปร่างเหมือนเท้าช้าง


เมื่อ “ตะลอนเที่ยว” ก้าวเท้าเข้าไปภายในก็เริ่มเห็นความงดงามอย่างที่หลวงพ่อขจิตบอกไว้ไม่ผิดเพี้ยน
หินงอกหินย้อยอันสมบูรณ์สะท้อนกับแสงไฟส่องให้เห็นไปทั่วทั้งโพรงถ้ำ
บางอันมีประกายระยิบระยับคล้ายกากเพชรดูงดงามตระการตา
หลวงพ่อชี้ให้ดูหินงอกก้อนใหญ่ที่เรียกว่า เพนียด
และไม่ไกลกันนักมีหินย้อยรูปทรงคล้ายหัวช้างเผือกทรงเครื่องอันเป็นที่มาของชื่อ ถ้ำนาฬาคิริง

ยิ่งเดินลึกเข้าไปก็ยิ่งเห็นความอลังการของหินงอกหินย้อย ที่บางอันยังมีน้ำหยดลงเรื่อยๆ
แสดงว่ายังเป็น “หินเป็น” ที่ยังมีโอกาสงอกขึ้นได้อีกเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นหลวงพ่อจึงคอยเตือนเป็นระยะๆ
ให้เราคอยระวังหัว หรือระวังแขนขาไม่ให้ไปสัมผัสโดนหินเหล่านั้น
มิฉะนั้นจากหินเป็นจะกลายเป็น “หินตาย” หมดโอกาสงอกสร้างความงามให้เราชมกันอีกต่อไป

 ถ้ำปราสาทนาฬาคิริง ถ้ำใหม่เมืองกระบี่ มหัศจรรย์ธรรมชาติ
หน้าปากทางเข้าถ้ำมีหินรูปร่างคล้ายหัวช้าง

หลังจากเดินก้มๆเงยๆ ลัดเลาะบรรดาหินงอกหินย้อยลึกเข้ามาด้านใน หลวงพ่อก็ชี้ให้มองไปข้างหน้า
และบอกให้ชมภาพที่ทำให้ต้องเรียกถ้ำแห่งนี้ว่าเป็นปราสาท
เพราะภาพที่ “ตะลอนเที่ยว” เห็นนั้น ก็คือ หินย้อยที่เหมือนจะหยาดลงจากเพดานถ้ำเป็นบริเวณกว้าง
ส่วนพื้นถ้ำก็มีหินงอกที่บางอันก็งอกยาวชนกับหินย้อยด้านบน
บางอันก็กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มองดูแล้วคล้ายกับวิมานปราสาทอันงดงามจริงๆ

ยังมีรายละเอียดเล็กๆน้อยที่หลวงพ่อชี้ชวนให้ชมอีกมาก เช่น หินย้อยอันใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายกับเท้าช้าง
ลวดลายบนหินที่มองแล้วคล้ายใบหน้าของช้าง หินงอกหินย้อยที่งอกออกมามีลักษณะคล้ายปะการังใต้ท้องทะเล
บางอันก็ดูบอบบางคล้ายจะหักได้ทุกวินาที
นอกจากนั้นก็ยังมีโครงกระดูกของมนุษย์ซึ่งคาดว่าจะเป็นฤาษีที่เข้ามาบำเพ็ญ พรตภายในถ้ำ
และร่องรอยเหมือนเขม่าไฟบนก้อนหินแสดงถึงว่า มีคนเคยเข้ามาอยู่อาศัยภายในถ้ำนี้
รวมไปถึงชี้ให้สังเกตดูใยหนอนไหมเรืองแสงที่ถักทอเส้นใยบางๆ เกาะอยู่ตามหินอีกด้วย

ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีกับเส้นทางเดินภายในถ้ำนาฬาคิริง ทำให้ “ตะลอนเที่ยว” เพลิดเพลิน
จนเมื่อเดินมาพบกับแสงสว่างภายนอกถ้ำที่สาดส่องเข้ามา ก็ทำให้พบว่าเดินมาถึงทางออกโดยไม่รู้ตัว

 ถ้ำปราสาทนาฬาคิริง ถ้ำใหม่เมืองกระบี่ มหัศจรรย์ธรรมชาติ
หลวงพ่อขจิต กมโล เจ้าอาวาสวัดถ้ำปราสาทนาฬาคิริง

หากนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่ถ้ำนาฬาคิริงในช่วงเดือนกันยายน การท่องเที่ยวภายในถ้ำก็จะเป็นอีกบรรยากาศหนึ่ง
เพราะเป็นช่วงที่น้ำฝนจากภูเขาจะไหลลงมาท่วมถึงปากถ้ำ การเข้าไปชมก็ต้องนั่งเรือท้องแบนเข้าไปด้านใน
และเดินชมความงามในถ้ำกันต่อ

ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติภายในถ้ำนาฬาคิริงแห่งนี้ยังคงอยู่ได้
เนื่องจากไม่มีคนเข้าไปรบกวนมาเป็นเวลานาน อีกทั้งหลวงพ่อขจิตยังคอยดูแลรักษาเป็นอย่างดี
ไม่ให้นักท่องเที่ยวที่เข้าไป ชมรบกวนการเจริญเติบโตของหินงอกหินย้อย
แต่หากมีนักท่องเที่ยวเข้าไปมากๆ การดูแลก็อาจไม่ทั่วถึง ผู้ที่เข้าชมจึงใช้ความระมัดระวัง
ใช้จิตสำนึกช่วยกันรักษาสภาพธรรมชาติอันงดงามนี้ให้อยู่ต่อไปนานๆ

* * * * * * * *

การเดินทางไปถ้ำนาฬาคิริง จากตัวเมืองกระบี่วิ่งไปตามทางหลวงหมายเลข 4
จากนั้นให้เลี้ยวแยกขวามือที่อำเภออ่าวลึกไปตามถนนสายอ่าวลึก-พระแสง
แล้วถึงแยกซ้ายมือมีป้ายบอกไปถ้ำนาฬาคิริง รวมระยะทางจากตัวเมืองกระบี่ประมาณ 70 กิโลเมตร
สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.08-1978-0131

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์




 

Create Date : 16 กรกฎาคม 2552
3 comments
Last Update : 17 กรกฎาคม 2552 23:33:59 น.
Counter : 2789 Pageviews.

 

ขอแปะ link ท่องเที่ยวของเราไว้หน่อยนะคับ

เทศกาลปีใหม่โล้ชิงช้า ปีใหม่ของชนเผ่าอาข่า ทัวร์3วัน2คืน เริ่ม 2,3,4,กันยายน52

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=khundoi&group=3


//www.hilltribeguide.com/autopage/show_page.php?h=1&s_id=3&d_id=4


 

โดย: guide doi 17 กรกฎาคม 2552 10:54:00 น.  

 

ไปมาเมื่อวันที่ 15 feb สวยมากคะ

 

โดย: rain IP: 180.183.211.55 18 กุมภาพันธ์ 2554 11:57:54 น.  

 

สวยมากจริงๆค่ะไปมาแล้ว

 

โดย: แอน IP: 118.173.167.157 25 กุมภาพันธ์ 2556 19:36:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.