Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 
4 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

เยือนนครพนม ชมถิ่นไทย-เวียดนาม

นครพนม,ท่องเที่ยว

ช่วงนี้หลายพื้นที่ หลายอณูของเมืองไทยมีฝนฟ้าเทลงมาให้เราๆ
ได้เย็นชุ่มฉ่ำสบายกายคลายความร้อนลงได้บ้าง บางคนถึงกับไม่อยากที่จะลุกออกจาก

ที่นอนด้วยซ้ำไป แอบขอนอนต่อเวลาเป็นว่าเล่น... พูดไปแล้วน้ำผึ้งเองก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกันค่ะ
แหม... ก็อากาศดีซะขนาดนี้ใครจะร้อนจะหนาวกันซะขนาดไหน ก็อย่าลืมที่จะดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ
เดี๋ยวจะอดเที่ยวพักผ่อนยาวๆที่จะถึงนี้อย่างสถานที่ท่องเที่ยวของทริปนี้ที่ น้ำผึ้งจะแนะนำอยู่ที่ จ.นครพนม ค่ะ
ที่นี่นอกจากจะเป็นเมืองริมโขงที่น่าอยู่และสงบเงียบแล้ว
ยังเป็นดินแดนคู่ความสัมพันธ์อินโดจีนที่มีเรื่องราวน่าสนใจอีกด้วยค่ะ

อย่างที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมหลังเก่า ภายนอกตึกดูเก่าๆ แต่ซ่อนด้วยความสวยแนวคลาสสิก
เป็นสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสสไตล์คอเรียน ออกแบบโดยใช้ผนังรับน้ำหนัก
ภายในตัวอาคารมีนิทรรศการภาพเก่าเล่าเรื่องเมืองนครพนม
จากห้องแรก เราจะได้รู้จักกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดท่านแรก ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด
นับจากการปฏิรูปการปกครองในสมัยรัชกาลที่ 5 และยังเป็น ผู้อำนวยการสร้างอาคารหลังนี้อีกด้วยนะคะ
มีภาพของท่านผู้ว่าฯ แต่ละท่านทั้งที่เคยอยู่ที่จวนหลังนี้และไม่ได้อยู่ที่จวนหลังนี้ค่ะ

ห้องถัดไปก็จะเป็นห้องเก็บรวมภาพย่านเก่าของเมืองนครพนมไว้ ตัวเมืองจะเรียบยาวตามแม่น้ำโขง
ถนนเส้นเรียบแม่น้ำโขงคือถนนสายหลักสายแรกของ จ.นครพนม ค่ะ
เมืองนครแห่งอีสาน ดินแดนสองฝั่งแม่น้ำโขงแถบนี้เดิมทีเป็นที่ตั้งของอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์
ตัวเมือง ตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของลำน้ำโขง (ฝั่งลาว) บริเวณทางใต้ปากเซบั้งไฟตรงข้ามกับ พระธาตุพนมในปัจจุบัน
ผู้คนในเมืองนครพนมจะอยู่รวมกันอย่างกลมกลืน มีทั้งคนญวนคือ คนไทยเชื้อสายเวียดนาม คนจีนและคนลาว
แต่เดิมในประวัติศาสตร์ประเทศไทย กับประเทศลาวนั้น เป็นเมืองเดียวกันในอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ และ
มรุกขนคร ต่อมาได้แยกกันตอนที่มีสงครามฝรั่งเศสยึดเมืองลาวไป
ภาพที่จัดแสดงอยู่ภายในก็จะเป็นภาพที่ให้คนในนครพนม ได้มีส่วนร่วมในการส่งเข้ามาประกวด
ไม่ว่าจะเอาภาพมาจากที่ไหนก็ตามนะคะ

นครพนม,ท่องเที่ยว

และห้องถัดไปจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมและก็ศิลปกรรมของทางนครพนมนะคะ
จากนั้นเราเดินตามรอยพ่อไปที่ชั้น 2 ซึ่งเรา ก็จะได้เห็นภาพเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ
มาเยี่ยมราษฎร ปีพ.ศ. 2498 ทำให้เกิดภาพประวัติศาสตร์ภาพนี้ นี่ก็คือ
แม่เฒ่าตุ้มที่รอรับเสด็จถวายดอกบัว 3 ดอก ทำให้เป็นภาพที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายๆ คน
ภาพนี้เกิดขึ้นที่นครพนมบริเวณสามแยกชยางกูรทางไปพระธาตุ พนมค่ะ
และหลังจากที่เราได้เยี่ยมชมนิทรรศการภายในจวนหลังเก่านี้เรียบร้อย
เราเข้าไปกันที่ “เฮือนเฮือไฟ” หรือเรือนเรือไฟกันต่อค่ะ

สำหรับเฮือนเฮือไฟนี้นะคะ เป็นเรือน ที่จัดแสดงภาพ
และเล่าเรื่องราวประเพณีและวัฒนธรรมการไหลเรือไฟของชาวจ.นครพนม ซึ่งมีความน่าสนใจมาก
ไม่แพ้ที่อื่นเลยล่ะค่ะ จากจวนผู้ว่าฯ เราเดินมา ได้สักพักเราก็ต้องมาสะดุดอยู่ที่หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์
ซึ่งเป็นเหมือนสิ่งแทนความขอบคุณของชาวเวียดนามที่มีต่อผืนแผ่นดินไทย
ก่อนที่จะอพยพกลับประเทศเวียดนามไปเมื่อปีพ.ศ. 2503
แต่ถ้าหาก อยากจะซึมลึกกับวัฒนธรรมไทย–เวียดนาม มากกว่านี้ ก็ต้องไปที่หมู่บ้านมิตรภาพ ไทย-เวียดนามค่ะ
ที่หมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม หรือหมู่บ้านนาจอก เป็น หมู่บ้านเก่าแก่
ชาวบ้านส่วนใหญ่มีเชื้อสายเวียดนามทั้งสิ้น และที่นี่ก็มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมาก
โดยเฉพาะเป็นหมู่บ้านที่ท่านโฮจิมินห์ได้เคยเข้ามาพักอาศัยนานถึง 2 ปี
ก่อนที่จะกอบกู้อิสรภาพได้สำเร็จอีกด้วยนะคะ งานนี้เราได้เข้าชมบ้านของลุงโฮได้อย่างเต็มที่
บ้านของท่านโฮจิมินห์เป็นบ้านชั้นเดียว หน้าบ้านมีต้นมะพร้าว 2 ต้น ที่ท่านปลูกเอง
ซึ่งเป็นสัญลักษณ์และรหัสที่เข้าใจกันในกลุ่มกอบกู้อิสรภาพ ภายในบ้านเป็นที่พักและที่ทำงานที่เรียบง่าย
ซึ่ง สมัยก่อนเวลาที่ท่านส่งข่าวสารถึงสมาชิกในกลุ่ม ก็จะใช้นกพิราบที่เลี้ยงไว้ในบ้านเล็กๆ หลังนี้
ส่งข่าวอีกด้วยล่ะค่ะ

นครพนม,ท่องเที่ยว

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ คุณผู้อ่านคงรู้สึกว่าเป็นหมู่บ้านเล็กๆ แต่กลับมีเรื่องที่น่าสนใจมากมายใช่ไหมล่ะค่ะ
น้ำผึ้งอยากจะบอกนะคะว่า การที่เราได้มาเยือนนครพนมครั้งนี้ ได้ทั้งความสนุก และก็ความรู้มากมายเลย
นอกจากเป็นเมืองสงบและน่าอยู่
ยังเป็นเมืองที่สานสัมพันธภาพมิตรภาพดีๆ ระหว่างเพื่อนบ้านไว้อย่างเหนียวแน่นด้วยล่ะค่ะ
ถ้าหากคุณผู้อ่านมีโอกาสก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวที่ จ.นครพนม นะคะ

ที่มา โพสต์ทูเดย์




 

Create Date : 04 กรกฎาคม 2552
1 comments
Last Update : 4 กรกฎาคม 2552 15:04:51 น.
Counter : 1382 Pageviews.

 

ขอบคุณที่ให้หนูได้ความรู้มากมายเลย

 

โดย: เบียร์ IP: 118.172.127.158 10 กรกฎาคม 2556 18:15:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.