Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
18 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
เที่ยวบางสะพาน ยลหาดทรายสงบงาม ที่"บ้านกรูด"


เรือน้อยลอยสงบนิ่งอยู่ในทะเลหน้าหาดบ้านกรูด

พูดถึงชายหาดขึ้นชื่อของจังหวัดประจวบฯ แทบทุกคนต้องนึกถึงหาดหัวหิน
แหล่งตากอากาศคลาสสิคของชาวกรุงมาทุกยุคทุกสมัย มนต์เสน่ห์หัวหินงดงามไม่เสื่อมคลายก็จริง แต่ในช่วงหน้า
ร้อนที่ใครๆก็ต้องการไปดับร้อนที่ชายทะเล ก็ทำให้หัวหินคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ
จนอาจขาดความสงบไปสักเล็กน้อย แต่หากนั่งรถเลยหัวหินมาอีกซักหน่อย ความสงบเงียบแต่งดงามของ
"บ้านกรูด" ในอำเภอบางสะพาน ก็อาจทำให้ใครหลายๆคนเกิดความประทับใจได้ไม่น้อยเช่นกัน


ชายหาดอันเงียบสงบที่หาดบ้านกรูด

"ตะลอนเที่ยว" ได้ยินชื่อเสียงความสงบงามของบ้านกรูดมานาน แต่เพิ่งได้มาสัมผัสอย่างใกล้ชิดก็วันนี้
โดยเราเลือกเดินทางไปเยือนบ้านกรูดโดยรถไฟ ซึ่งหากไปกับขบวนรถด่วนพิเศษหรือสปรินเตอร์ก็จะใช้เวลาราว
5 ชั่วโมง ออกเดินทางตอนเช้าก็จะมาถึงสถานีบ้านกรูดตอนบ่ายพอดี

ทริปนี้เราเลือก "คีรีวารี ซีไซด์ วิลล่า แอนด์ สปา" บูติครีสอร์ทน่ารักๆเป็นสถานที่พักผ่อน ก่อนจะออกมาสำรวจ
ชายหาดบ้านกรูด และพบว่าความสวยงามและเงียบสงบที่ร่ำลือกันมานั้นไม่ผิดไปจากความเป็นจริง
น้ำทะเลสีเขียวสดใส หาดทรายสีขาวทอดยาวไปไกลเหมาะแก่การเดินเล่นสัมผัสบรรยากาศสบายๆ
ถนนเส้นเล็กๆ ที่คั่นระหว่างชายหาดและรีสอร์ทหลากหลายแห่งก็เป็นเส้นทางขี่จักรยานกินลม
ทะเลที่น่าเพลิดเพลินไม่น้อย และการมีถนนมาคั่นนี้ทำให้เราไม่รู้สึกว่าหาดทรายถูกครอบครองเป็นหาดส่วนตัว
โดยรีสอร์ทแห่งใดแห่งหนึ่งอีกด้วย


หลวงพ่อใหญ่ หรือพระพุทธกิติสิริชัย

ที่บ้านกรูดนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงามอย่าง "พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ"
พระเจดีย์อลังการบนเขาธงชัยที่สามารถมองเห็นได้ไกลตั้งแต่เดินเล่นอยู่บนชายหาดบ้านกรูดนั่นแหละ
พระมหาธาตุองค์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ "วัดทางสาย" ได้รับการออกแบบโดย ม.ร.ว.มิตรารุณ เกษมศรี
ศิลปินแห่งชาติและสถาปนิกในสำนักพระราชวัง สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครอง
ราชย์ครบ 50 พรรษานั่นเอง ก่อนจะขึ้นไปถึงองค์พระธาตุ นักท่องเที่ยวแทบทุกคนก็จะต้องแวะกราบ
"หลวงพ่อใหญ่" หรือ "พระพุทธกิติสิริชัย" พระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่
ศิลปะแบบคันธาระที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะกรีกนั่นเอง สร้างขึ้นในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
ทรงมีพระชนมายุครบ 5 รอบ พระพุทธรูปองค์นี้มีขนาดหน้าตักกว้างถึง 10 เมตร
มองเห็นได้เด่นชัดในระยะไกลเช่นกัน และบริเวณองค์หลวงพ่อก็ยังเป็นจุดชมวิวหาดบ้านกรูดในมุมสูงที่สวยงาม


พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ

จากองค์หลวงพ่อใหญ่เราเดินขึ้นเขาไปอีกนิดหน่อย ก็จะถึงองค์เจดีย์ซึ่งประกอบไปด้วยหมู่เจดีย์ 9 องค์
มีเจดีย์องค์ประธานอยู่ตรงกลาง บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน

เราได้รับรู้เรื่องราวต่างๆภายในพระมหาธาตุเจดีย์นี้จากน้องๆมัคคุเทศก์น้อยจาก โรงเรียนธงชัยวิทยา
ทำให้ทราบว่าภายในนี้นั้นแบ่งเป็น 5 ชั้นด้วยกัน ชั้นล่างสุดเป็นชั้นใต้ดินเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
ชั้นที่สองเป็นศาลาอเนกประสงค์ ส่วนชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นชั้นที่เราเดินขึ้นบันไดมานั้น ก็เป็นชั้นพระวิหาร
ที่ประดิษฐานพระพุทธรูป 4 อิริยาบถประจำ 4 ทิศ
และมีงานจิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับงานพระราชพิธี 12 เดือน และประเพณีท้องถิ่นของภาคต่างๆ


พระพุทธรูปงดงามในชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นพระอุโบสถ

ส่วนบนชั้น 4 เป็นชั้นพระอุโบสถ มีพระพุทธรูปปางลีลาอันสง่างามเป็นพระประธานอยู่กลางห้อง
และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันประณีต โดยเฉพาะภาพที่อยู่ด้านหลังพระประธานนั้นเป็นภาพพระพุทธเจ้าเสด็จลง
จาก สวรรค์ชั้นดาวดึงส์วาดได้งดงามเป็นอย่างยิ่ง และในชั้นนี้ยังมีการประดับแผ่นกระจกสีตามช่องหน้าต่าง
โดยบนแผ่นกระจกสีนั้นเป็นเรื่องราวของเรื่องพระมหาชนก มีจำนวน 20 ภาพด้วยกัน เดินชมได้ตามอัธยาศัย

และด้านชั้นบนสุดหรือชั้น 5 นั้น เป็นชั้นที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูป
ทองคำปางประจำพระชนมวารของในหลวง แต่สำหรับคนที่อยากขึ้นไปกราบสักการะนั้นก็ต้องเตรียมตัวให้ดี
เพราะทางวัดนั้นจะเปิดให้ขึ้นไปไหว้เพียงแค่ปีละ 3 วันเท่านั้น
คือวันวิสาขบูชา วันก่อนวันวิสาขบูชา และหลังวันวิสาขบูชาเท่านั้น


ปลามากมายมาเล่นน้ำด้วยที่อ่าวกรวด เกาะทะลุ

มาทะเลทั้งทีก็ต้องได้สัมผัสน้ำทะเลกันหน่อย นอกจากจะเล่นน้ำกันตรงหน้าหาดบ้านกรูดแล้ว
ใครที่ชอบดำน้ำแบบผิวน้ำ (Snorkeling) ก็ต้องไม่พลาดการไปดำน้ำที่ "เกาะทะลุ"
เกาะใหญ่ในอำเภอบางสะพานน้อยที่อยู่ห่างจากฝั่งไป 7 กิโลเมตร และเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังที่สวยงามแห่ง
หนึ่งของฝั่งอ่าวไทย เหตุที่ได้ชื่อว่าเกาะทะลุก็เนื่องจากภูเขาทางทิศเหนือที่มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงนั้นมีช่องทะลุ
ทางด้านล่างของเกาะ สามารถมองลอดไปได้ ช่องดังกล่าวนั้นเกิดจากการกัดกร่อนของคลื่นลมและกระแสน้ำ
เวลาน้ำลงจะเห็นเป็นโพรงชัดเจนนั่นเอง

เรือของ "สุชาติทัวร์" เป็นคนพาเรามาดำน้ำที่เกาะทะลุ แต่ในครั้งนี้เราไม่ได้ขึ้นไปเหยียบเกาะ
เพียงแค่ไปดำน้ำที่ "อ่าวกรวด" อ่าวด้านหนึ่งของเกาะทะลุ ที่เต็มไปด้วยปลาตะกรับลายที่ว่ายวนเวียนกันเป็นฝูง
นักท่องเที่ยวมักเตรียมขนมเล็กๆน้อยๆ ไปฝากเจ้าปลาพวกนี้


เกาะสิงห์ แหล่งดำน้ำขึ้นชื่อของจังหวัดประจวบฯ

ปะการังบริเวณอ่าวกรวดนั้นก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นปะการังโขด และปะการังเขากวาง
ดอกไม้ทะเลที่มีปลาการ์ตูนยื่นหน้าออกมาเยี่ยมๆมองๆ ส่วนบรรดาปลานั้นนอกจากปลาตะกรับลายที่กล่าวไปแล้ว
ก็ยังมีทั้งปลานกแก้ว ปลาผีเสื้อ และอีกหลายชนิดที่ระบุชื่อไม่ได้
ส่วนอีกที่หนึ่งที่เราจะไปดำกันนั้นก็คือที่ เกาะสิงห์ เกาะเล็กๆที่อยู่ไม่ห่างจากเกาะทะลุมากนัก
ที่นี่ก็เป็นจุดดำน้ำอีกแห่งหนึ่งที่มีปะการังโขด ปะการังเขากวาง และปลานานาชนิดให้ชมเช่นกัน

และเมื่อได้เดินทางมาถึงอำเภอบางสะพานน้อยแล้วก็ไม่ควรพลาดที่จะไปเยี่ยมชม "สถานีวิจัยสิทธิพรกฤดากร"
หรือหากเอ่ยว่า ฟาร์มบางเบิด อาจจะคุ้นหูมากกว่า เพราะเป็นถิ่นกำเนิดของ "แตงโมบางเบิด"
ซึ่ง มจ.สิทธิพร กฤดากร บิดาแห่งการเกษตรแผนใหม่ ได้ทรงนำแตงโมพันธุ์ทอม วัตสัน
จากอเมริกามาปลูกได้ผลผลิตน้ำหนักถึง 30 กิโลกรัม จนเป็นที่ฮือฮา และทำให้คนรู้จักบางเบิดกันมากขึ้น


ตำหนักที่สร้างจำลองตำหนักของ มจ.สิทธิพร ปัจจุบันจัดเป็นพิพิธภัณฑ์

วันนี้ฟาร์มบางเบิดหรือสถานีวิจัยสิทธิพรกฤดากรอยู่ในความดูแล ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำหน้าที่ทดลอง
ค้นคว้า ศึกษาหาวิธีทำการเกษตรที่เหมาะสมแก่พื้นที่ในภาคใต้ ซึ่งภายในสถานีฯก็มีแปลงทดลองพันธุ์พืชต่างๆ
เช่นปาล์ม ข้าวโพด ยางพารา กระบองเพชรชนิดต่างๆ ฯลฯ แต่ที่มาเยี่ยมชมที่สถานีฯในวันนี้ก็เพราะอยากมาชม
"พิพิธภัณฑ์หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร" ซึ่งตั้งอยู่ในตำหนักบางเบิด ตำหนักที่สร้างจำลองจากตำหนักบางเบิด
เก่าอันเป็นที่ประทับของ มจ.สิทธิพร ซึ่งตอนนี้เหลือให้ชมเพียงฐานรากของอาคารเท่านั้น

ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแต่งอย่างเรียบง่าย แต่มีพระประวัติของ มจ.สิทธิพรอย่างครบถ้วน
ทำให้เราได้ทราบเรื่องราวชีวิตของเชื้อพระวงศ์ที่เคยมีตำแหน่งใหญ่โตอยู่ในราชการ
แต่กลับเลือกที่ถวายบังคมลาออกมาทำไร่ทำสวนอยู่ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญในขณะนั้น
ได้ทราบเรื่องราวของชายาของพระองค์คือเจ้าศรีพรหมา ซึ่งก็มีพระประวัติน่าสนใจไม่แพ้กัน
รวมไปถึงมีข้าวของส่วนพระองค์บางส่วนจัดแสดงไว้ให้ชม
และมีเหรียญรางวัลแมกไซไซที่ทรงได้รับการถวายใน พ.ศ.2510 จัดแสดงไว้ด้วย


ภายในพิพิธภัณฑ์หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร

จากสถานีฯ เดินทางต่อไปอีกนิดเดียวก็จะได้ชมสิ่งมหัศจรรย์ของเมืองไทย
เพราะฉะนั้นเดินทางไปต่อกันที่ "สันทรายบางเบิด"
สันทรายขนาดใหญ่มหึมาทอดตัวอยู่ริมชายฝั่งระหว่างอำเภอบางสะพานน้อย ของจังหวัดประจวบฯและอำเภอปะทิว
ของจังหวัดชุมพร ซึ่งถือเป็นแนวสันทรายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว

คนที่ยังไม่เคยเห็นอาจจะไม่คิดว่าแปลกตรงไหน ในเมื่ออยู่ติดทะเลก็ต้องมีเนินทรายเป็นธรรมดา
แต่ขอบอกว่าที่นี่ไม่ธรรมดา เพราะเป็นเนินทรายสูงกว่า 30 เมตร หรือเนินเขาขนาดย่อมๆ
มีเม็ดทรายขาวละเอียดตลอดระยะทางที่ยาวถึง 10 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,000 ไร่
เกิดขึ้นจากฝีมือของธรรมชาติมายาวนานเป็นพันปี โดยมีส่วนสำคัญจากลมที่พัดต้องแรงสม่ำเสมอต่อเนื่องยาวนาน
หน้าทะเลเปิดโล่ง หาดทรายต้องมีระยะน้ำขึ้นลงกว้าง ส่วนเมล็ดทรายนั้นก็ต้องละเอียดและมีน้ำหนักเบามากพอที่
จะปลิวตามแรงลมทับถม กันขึ้นมาอย่างต่อเนื่องทีละเล็กทีละน้อยจนกลายเป็นเนินสันทรายขนาดมหึมาอย่างที่เห็น
และบนสันทรายนี้ก็ยังมีพืชพันธุ์เฉพาะถิ่นกว่า 150 ชนิดที่หาดูได้ยาก


สันทรายบางเบิด อีกหนึ่งความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ

ใช้เวลาสัก 3 วัน 2 คืน กับการพักผ่อนบนหาดบ้านกรูด และท่องเที่ยวไปในอำเภอบางสะพาน
เป็นเวลาที่กำลังดี ไม่เหนื่อยกับการเดินทางมากจนเกินไป แต่เชื่อว่าใครที่ได้มาถึงที่นี่แล้ว
อาจจะคิดว่า 2 คืนยังน้อยไป ขออยู่ต่ออีกซัก 3-4 หรือ 5 คืน อันนี้ก็ตามแต่ใจ ไม่ขัดศรัทธา


เส้นทางชมธรรมชาติที่สันทรายบางเบิด

* * * * * * * * * * *

การเดินทางมายังหาดบ้านกรูด
สามารถเดินทางได้โดยรถทัวร์ หรือรถไฟ หากขับรถยนต์ส่วนตัวจากหัวหินให้วิ่งมาทาง อ.ปราณบุรี
ผ่าน อ.สามร้อยยอด ผ่าน อ.เมืองประจวบฯ และผ่าน อ.ทับสะแก จาก อ.ทับสะแกไป 19 ก.ม.
จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าบ้านกรูด วิ่งตามถนนไปอีกประมาณ 10 ก.ม.ก็จะถึงชายหาดบ้านกรูด

"พิพิธภัณฑ์ มจ.สิทธิพร กฤดากร" เปิดให้บริการวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 08.00-17.00 น.
หากต้องการเข้าชมควรแจ้งลวงหน้าที่โทร.08-1868-2022

สอบถามเกี่ยวกับที่พักน่าสนใจได้ที่ "คีรีวารี ซีไซด์ วิลล่า แอนด์ สปา" โทร.0-3269-5511
และสอบถามรายละเอียดการไปดำน้ำที่เกาะทะลุได้ที่ "สุชาติทัวร์" โทร.08-1759-4997,
0-3269-9455

ที่มา ผู้จัดการ



Create Date : 18 เมษายน 2552
Last Update : 18 เมษายน 2552 12:47:48 น. 0 comments
Counter : 1516 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.