Group Blog
 
<<
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
13 เมษายน 2554
 
All Blogs
 

สวนสวยช่วยครัว

ผมให้เวลา 1 นาที หลับตาแล้วลองจินตนาการดูว่า “ภาพ” ของ “สวนครัว”
ในความคิดของคุณเป็นอย่างไร…เอาล่ะ…หมดเวลาแล้ว เชื่อว่าภาพที่เห็นคงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก
และคงไม่ต่างจากภาพ “แปลงเกษตร” สมัยประถมมากนัก ที่ดินเป็นแปลงๆ มีผักสีเขียวขึ้นอยู่บนนั้น

ภาพแบบนี้เชื่อว่าเมื่ออยู่ในบ้าน ตำแหน่งที่ได้รับน่าจะเป็นหลังบ้านซึ่งไม่ได้มีไว้โชว์ “แขก”
แต่เป็นการมีเอาไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในครัวเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว สวนครัวเขียวๆ แบบนี้แหละ
หากนำมาใส่ผังที่สวยงามก็สามารถกลายเป็นสวนสวยในบ้าน ที่สามารถช่วยประหยัดในครัวได้ด้วย

ผศ.ศศิยา ศิริพานิช
ผศ.ศศิยา ศิริพานิช

ผศ.ศศิยา ศิริพานิช แห่งภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร ม.เกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน
ก็มีความคิดนี้เช่นกัน เธอบอกว่า “เรื่องของสวนสวยช่วยครัวนี่มันเกิดเหตุมาจากตอนช่วง IMF ค่ะ
หลายๆ คนคิดปลูกพืชผักเองจะได้ประหยัด
กิจกรรมของกระทรวงเกษตรเกิดขึ้น เช่น พืชสวนครัวรั้วกินได้ สวนสวยช่วยครัวก็เลยเกิดตามมาด้วย”

จุดหลักที่ทำให้ “สวนสวยช่วยครัว” เกิดขึ้นก็คือวิชาที่ ผศ.ศศิยาสอนใน Class
ประกอบกับที่เธอมองเห็นว่าการปลูกสวนครัวแบบดั้งเดิมซึ่งอยู่ในชนบท
มักจะเป็นแบบปลูกตรงไหนก็ได้ เป็นหย่อมๆ เป็นจุดๆ ไป
หรือแม้กระทั่งในกำแพงแสนเองก็จะปลูกเป็นแปลง ไม่ได้สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบคนเมืองนัก

“การใช้ชีวิตแบบคนในเมืองนี่ ไม่ค่อยชอบทำอะไรที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อน
ทำให้คงจะไม่แฮปปี้กับวิธีทำสวนครัวแบบนี้เท่าไหร่ แต่โดยปัญหาของพื้นที่ปลูกในเมืองใหญ่ๆ แล้ว
มีอยู่ 2 อย่างนั่นก็คือไม่ค่อยมีที่กับมีที่แต่ที่นั้นไม่ค่อยมีแสงเท่าไหร่” ผศ.ศศิยาว่า



รูปแบบของสวนครัวต่างประเทศ ความจริงแล้วไม่แตกต่างจากสวนครัวเมืองไทย
นั่นก็คือปลูกเป็นแถวเป็นแนว ยกร่อง ยกแปลง แต่สวนครัวเมืองนอกดูสวยงามกว่าสวนครัวเมืองไทย
นั่นเป็นเพราะผักเมืองหนาวนั้นมีสีสันที่สวยงามนั่นเอง
อย่างไรก็ตามสวนครัวสามารถจัดแต่งให้สวยงาม ออกอวดสายตาแขกผู้มาเยือนได้เหมือนกัน

“วิชานี้มีการทำงานร่วมกับนิสิต ออกไปจัดสวนในบ้านจริงๆ มีหลายบ้านที่จัดทำเป็นสวนครัวด้วย
ก็เรียนรู้กันไประหว่างอาจารย์ ระหว่างนิสิต พบข้อบกพร่องเยอะแยะมาก
พอทำไปสักพักก็นำข้อสรุปเป็นหลักการสำหรับสวนสวยช่วยครัวขึ้นมา” ผศ.ศศิยาว่า

หลักง่ายๆ ก็คือจัดเป็นสวนครัวธรรมดานี่แหละ แต่ทำให้ดูมีเรื่องของการจัดสวนเข้าไปด้วยเท่านั้นเอง
โดยสามารถทำที่ไหนก็ได้ภายในบ้าน รวมไปถึงคอนโดมิเนียม ทาวเฮาส์ อาคารแถว
หรือแม้กระทั่งบนดาดฟ้าก็ได้
ข้อจำกัดที่ต้องจดจำอย่างหนึ่ง ก็คือสวนสวยช่วยครัวเลือกตำแหน่งไม่ได้ จึงต้องสามารถจัดลงได้ทุกที่



“คือถ้าระเบียงหันหน้าไปทางทิศเหนือ แสงจะน้อยนิดนึง ถ้าหันทางทิศใต้ก็จะได้แสงเยอะหน่อย
แต่เราไม่สามารถเลือกพื้นที่ของการจัดสวนได้มากนัก พอเลือกไม่ได้ก็ไม่ต้องเลือก
เอาไว้ตรงไหนก็ได้เท่าที่จะจัดได้ ถ้าแนะนำก็ขอแนะนำให้เลือกที่ที่ใกล้ครัวที่สุดจะดีกว่า
เรื่องแสงไม่สำคัญเท่า” ผศ.ศศิยาอธิบาย

หลักการที่เกี่ยวกับพื้นที่ก็คือ หากพื้นที่ในบ้านมีจำกัด เราสามารถดัดแปลงใช้พื้นที่ในแนวตั้งได้ด้วย
ส่วนพื้นราบนั้นถ้าจะให้ดี ผศ.ศศิยาแนะนำว่าควรใช้พื้นแข็งเป็นขอบเขตกำหนดรูปร่างของสวน
โดยอาจจะทำเป็นกระบะมาวางเรียงๆ กันไว้เพื่อให้สะดวกในการทำงานมากขึ้นก็ได้

“พื้นแข็งเป็นตัวที่ทำให้เกิดกรอบ เกิดรูปร่างของแปลง ทำให้มันไม่สูญเสียรูปร่างไปได้ง่ายๆ
รวมทั้งทำให้พื้นไม่เฉอะแฉะอีกด้วย สามารถเดินไปบนพื้นแข็งนั้นแล้วเข้าไปทำงานในครัวได้ง่าย
ส่วนเรื่องดินที่ใช้ปลูกไม่ต้องกังวลนะคะ
ถ้าพื้นที่ในบ้านมีดินไม่ดี เราสามารถซื้อดินดีมาผสมปลูกใหม่ได้” คือคำแนะนำจากผศ.ศศิยา

แนวความคิดหลักๆ ในการวางแปลนของสวนสวยช่วยครัวนั้น
จะให้ดีควรดึงเอาคอนเซ็ปต์ใหญ่ๆ ของสวนประดิษฐ์ (Formal Garden) มาใช้
สวนประดิษฐ์คือสวนที่มีลักษณะเป็นเลขาคณิต มีการวางจังหวะที่ Balance
ทำให้เราสามารถวางจุดเด่นลงไปในสวนได้ง่าย รวมทั้งสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างได้ง่ายด้วย



ทีนี้ก็มาว่ากันเรื่องขนาดของสวนสวยช่วยครัวกันบ้าง ผศ.ศศิยาบอกว่า
ขนาดของสวนถูกกำหนดด้วยระยะของการทำงาน
ระยะที่เราสามารถเอื้อมมือเข้าไปทำงานได้สะดวกที่สุด โดยที่เท้ายังวางอยู่บนทางเดินหรือพื้นแข็งนั่นเอง
โดยปรกติจะอยู่ที่ 60-80 เซนติเมตร แต่ถ้าสวนเดินได้โดยรอบ ขนาดของสวนจะใหญ่ขึ้นอีกเท่านึง

นอกจากนี้รูปแบบของสวนยังสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายอย่าง เช่น
การใช้แผ่นไม้วางเป็นทางเดินเข้าไปในสวนโดยการแบ่งสวนออกเป็น 4 ส่วน
ซึ่งแต่ละส่วนควรมีขนาด 1 ตารางฟุต
หรือจะใช้เป็นกระบะ (ซึ่งทำให้สามารถนำไปวางบนดาดฟ้าก็ได้ ระเบียงก็ดี)
รวมไปถึงการใช้วัสดุเหลือใช้อย่างยางรถยนต์ด้วย

สวนครัวเป็นสวนที่อยู่คู่กับบ้านแบบไทยๆ มาตลอด
ถ้าสามารถนำมาดัดแปลงให้สวยงามเป็นสวนสวยช่วยครัวได้ ก็นับว่ามีประโยชน์ 2 ทางเลยทีเดียว
คือนอกจากให้ความงดงามในมุมมองของบ้านแล้ว
ยังถือเป็นการสร้างเศรษฐกิจแบบพอเพียงในบ้านอีกด้วย

เรื่องของผักในสวนสวยช่วยครัว

เรื่องของผักในสวนสวยช่วยครัว
วิถีชีวิตแบบไทย ๆ นั้น แทบทุกบ้านจะปลูกผักเพื่อรับประทานกันเองในบ้านเป็นการลดค่าใช้จ่าย
แถมยังใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วย
แต่ในปัจจุบันนั้นสังคมเมืองที่เติบโตขึ้น ทำให้วัฒนธรรมดั้งเดิมค่อยๆ จางหายไป
บ้านในเมืองแทบไม่มีบ้านไหนปลูกผักสวนครัวกันแล้ว

“เหตุผลหลักๆ น่าจะเป็นเพราะรูปแบบของสวนครัวนั้น ไม่เหมาะกับวิถีชีวิตคนเมืองนั่นเอง”
ผศ.ศศิยา ศิริพานิชจากภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร ม.เกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสนว่า
“ภาพลักษณ์ของสวนครัว ดูเป็นสวนที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อน
คนเมืองจึงไม่แฮปปี้กับการทำสวนแบบนี้เท่าไหร่”

สวนสวยช่วยครัวตามแนวคิดของผศ.ศศิยา
จึงเกิดขึ้นมาด้วยการนำพืชผักสวนครัวมาจัดสวน โดยมีการวางแปลนอย่างสวยงาม
แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้น คือภูมิสถาปนิกทั้งหลายจะดัดแปลงแนวทางการออกแบบเข้ามาใช้
ให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตปัจจุบันอย่างไร?
ผักสวนครัวชนิดไหนที่จะเหมาะกับ “สวนสวยช่วยครัว” อย่างนี้

“สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาก็คือลักษณะ, รูปทรงของต้นรวมทั้งการนำมาใช้งานด้วย”
ผศ.ศศิยาแนะนำทริค
“และก็อย่างว่าถึงแม้การจัดสวนสวยช่วยครัว จะไม่เน้นว่าพื้นที่นั้นมีแสงมากขนาดไหน
แต่เราก็ควรจะรู้อยู่ดีว่านิสัยของพืชแบบไหนชอบแสงประมาณไหน
เพื่อที่เราจะเลือกใช้ได้ถูกกับพื้นที่นั้นๆ


ทีนี้ เราลองไปดูตัวอย่างพืชสวนครัวที่ ผศ.ศศิยา ยกขึ้นมาให้ดูดีไหม เริ่มจาก…อะไรเอ่ย
คิดไม่ออกสั่งอาหารชนิดนี้ ติ๊กต่อกๆ เฉลยคือ…“กระเพรา” นั่นเอง
“ลักษณะของพืชเป็นไม้ล้มลุก พุ่มกลม ลำต้นเป็นรูปสี่เหลี่ยม ใบมีขน ควรตัดแต่งบ่อยๆ ให้แตกกอ
สามารถปลูกได้ทั่วไป ชอบแสงแดดจัดๆ ไปจนถึงปานกลาง” ผศ.ศศิยาว่า

ส่วนการใช้งานนั้น ต้นกระเพราจะมี 2 สีคือสีขาวและสีแดง
สามารถใช้ปลูกประดับแปลงได้โดยใช้เมล็ดหรือกิ่งชำ
สามารถเก็บใบเอามาใช้ผัด ทำอาหารสุดฮิตได้เมื่ออายุมากกว่า 45 วัน
เอาล่ะมีใบกระเพราแล้วจะให้ครบเครื่องต้องมี “พริก” ด้วยสิ

พริกขี้หนูเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 30-75 เซนติเมตร ปลูกได้ทั่วไป ชอบดินร่วนและอากาศร้อน
รวมทั้งแดดจัดครึ่งวันด้วย สามารถนำมาใช้ปลูกประดับแปลงได้
แต่ต้องยอมรับว่าเป็นพืชที่เลี้ยงยากเพราะมีโรคเยอะจึงต้องฉีดยา
ปลูกโดยการเพาะกล้า 30 วันจึงย้ายปลูกและเก็บมาทำอาหารได้เมื่ออายุมากกว่า 85 วัน” ผศ.ศศิยาว่า

เอาล่ะ ตอนนี้ขอยกตัวอย่างพืชบางอย่างคร่าวๆ นะครับ เช่น

ตำลึง เป็นไม้เถา ขึ้นได้ทุกที่ ชอบดินร่วน ทนแล้ง ทนฝน ไม่ต้องดูแลมาก ชอบแดดจัด ใช้ปลูกขึ้นซุ้ม,

ผักชี เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กสูง 30-90 เซนติเมตร ชอบดินร่วน น้ำไม่ขังควรปลูกในฤดูหนาว
ชอบแสงแดดปานกลาง ใช้สำหรับปลูกในกระบะริมหน้าต่าง

กระชาย เป็นไม้หัวล้มลุก ใช้เป็นกอกลม ชอบแดดปานกลาง-รำไร สำหรับปลูกเป็นฉาก,

กระถิน เป็นไม้ยืนต้นใหญ่ ตัดให้เตี้ยได้ ชอบแดดจัด ใช้ทำเป็นพุ่มหรือทำรั้วได้,

ข่าและขิง เป็นพืชล้มลุก ชอบแดดปานกลาง-รำไร ใช้สำหรับปลูกเป็นฉากหลังเพื่อบัง

ขี้เหล็ก เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง โตเร็ว ทนแล้งดี ชอบแดดจัด ใช้สำหรับให้ร่มเงา,

แค เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีดอกสีขาวและแดง ชอบแดดจัด
ใช้สำหรับปลูกให้ร่มเงา เป็นประธานก็ได้ เป็นรั้วก็ได้ นิยมปลูกริมถนน,

ตะไคร้ เป็นพืชล้มลุกพวกหญ้า ออกดอกยาก ชอบแดดจัด-รำไร
ใช้สำหรับปลูกเป็นพุ่มเว้นจังหวะริมทางเดิน

เตยหอม เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ชอบแดดจัดแบบครึ่งวัน ใบมีกลิ่นหอม
ใช้สำหรับปลูกริมตลิ่งกันการพังทลาย,

ถั่วพู เป็นพืชล้มลุก ลำต้นเลื้อยได้ ชอบแดดจัดครึ่งวัน มีดอกสวย ใช้สำหรับปลูกประดับแปลง,

สะระแหน่ เป็นพืชล้มลุก ชอบแดดจัด-ปานกลาง-รำไร
ใช้ปลูกกระถางแขวน กระบะริมหน้าต่างไปจนถึงปลูกคลุมแปลงก็ได้

มะละกอ เป็นไม้ยืนต้น เนื้ออ่อน หักโค่นง่าย ชอบที่ชุ่มชื้นมากกว่าแล้ง ชอบแดดจัด
ใช้ปลูกเป็นประธานสวนครัวได้ หรือปลูกมุมรั้ว ริมรั้วที่แคบ ๆ ก็ได้,

มะเขือพวง เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ทนแห้งแล้งได้ดี ชอบแดดจัดครึ่งวัน ใช้ปลูกเป็นประธานสวนได้

นั่นก็คือตัวอย่างคร่าว ๆ แต่พืชสวนครัวไม่ได้มีแค่พืชผักหรือผลไม้เท่านั้น
การปลูกพืชในสวนสวยช่วยครัว ยังสามารถใช้ไม้ประดับที่กินได้มาปลูกประดับร่วมก็ได้
เช่น กระดังงาไทยซึ่งมีดอกสีเหลือง หอม ชอบแดดจัด ปลูกให้ร่มเงารวมทั้งปลูกเอากลิ่น,
กุหลาบ ใช้ปลูกประดับแปลง

ทับทิม ใช้เป็นไม้ประธาน ให้ร่มเงา เป็นฉากหลังสำหรับบังสิ่งที่ไม่สวยงาม,
เฟื่องฟ้า ใช้สำหรับขึ้นซุ้มขนาดใหญ่และแข็งแรงหรือปลูกเป็นแปลงก็ได้,

เล็บครุฑใบฝอย ใช้เป็นไม้รองประธานหรือบังกำแพง
หรือลีลาวดี ไม้ยอดฮิตอีกชนิดหนึ่งของการแต่งสวน ให้ร่มเงา รวมทั้งเป็นไม้สถาปัตยกรรมด้วย

เราสามารถแทรกดอกไม้เข้าไปในสวนครัวของเราได้ ทำให้เกิดความงามมากขึ้น
ผศ.ศศิยาแนะนำปิดท้าย
อย่างไรก็ตามสวนสวยช่วยครัวจะสวยขนาดไหน ใช้งานได้ขนาดไหนอยู่ที่ไอเดียของคนจัดทั้งสิ้น
ที่สำคัญยังถือเป็นการยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงด้วย


เรื่องและภาพโดย พรชัย พงษ์สุกิจวัฒน์
เอื้อเฟื้อข้อมูลโดย ผศ.ศศิยา ศิริพานิช
ที่มา : //www.homeandi.com


สารบัญ ตกแต่งบ้าน และ จัดสวน




 

Create Date : 13 เมษายน 2554
0 comments
Last Update : 13 เมษายน 2554 17:03:55 น.
Counter : 5709 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.