|
อยู่ให้เย็นและเป็นสุขกับสถาปนิกหนุ่ม
“ร้อนแรง” ถ้านำมาผูกกับอากาศ ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นสภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ที่ไม่สบาย ชวนให้เหงื่อไหลไคลย้อย ส่งผลไปถึงสภาพจิตใจ แต่ถ้านำมาผูกกับคน นั่นแปลว่าคนๆ นั้นต้องเป็นคลื่นลูกใหม่ ที่กำลังสร้างผลงานออกมาในแนวทางที่เขาถนัดอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเอง
แวดวงสถาปัตยกรรมมีการสร้างคนรุ่นใหม่ออกมา เป็นระยะๆ สิทธิพงษ์ จิตสัตย์ซื่อ ก็เป็น 1 ในหลายๆ คนที่พร้อมจะแจ้งเกิดในวงการนี้ เวลา 4 ปีที่เขาจบจากมหาวิทยาลัยอาจจะดูอ่อนวัย แต่การที่เขา “กล้า” ออกมาร่วมกับเพื่อนๆ รวม 4 คนเปิดบริษัทเล็กๆ นั่นแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเขา
“ตอนจบออกมาก็ทำมาหลายที่นะครับ แต่รู้สึกว่าด้วยระบบบริษัทมันรัด เลยไม่คล่องตัวในเรื่องการแสดงความคิดเห็น ก็เลยคิดว่ามาทำเองมันน่าจะได้ผลงานที่เราพอใจกว่า ก็ลองออกมาทำดู รับเหมาทำ Interior ก็เป็นที่น่าพอใจสำหรับผม ลูกค้าก็พอใจ” คุณสิทธิพงษ์เท้าความย้อนหลัง
ผลงานออกแบบที่สร้างชื่อให้สถาปนิกไฟแรงคนนี้ เห็นจะหนีไม่พ้นร้านนวดแผนโบราณ “Body Relax" และร้านขนมเค้กสุดหวาน (แหวว) “Something Sweet” จากนั้นเขาก็ได้มาพบกับเพื่อนเก่าที่ไปเรียนจบปริญญาโทมา จึงร่วมกันเปิดบริษัท Adverb ขึ้น
“ลูกค้าจะถามครับว่าเป็นบริษัทใคร มีใครอยู่เบื้องหลังไม๊? ทุกครั้งเราก็จะเรียนตามความจริงว่าเราเป็นบริษัทใหม่ ข้อดีมีเพียงอย่างเดียวคือเราตั้งใจทำงาน และไม่ขายของเก่ากิน คือทุกอย่างจะดีไซน์ตามหลักวิชาการ ตามแบบที่เราเรียนมา ทุ่มเทเกินเงินที่เค้าให้มาทุกครั้ง” คุณสิทธิพงษ์พูดถึงความเป็นบริษัทเล็กและใหม่
ส่วนตัวแล้วคุณสิทธิพงษ์ชอบงานแบบ Baroque และ Classic เป็นพิเศษ ตามความเห็นของสถาปนิกวัยหนุ่มคนนี้ เขามองว่างานศิลปะแนวนี้ จะแฝงไว้ด้วยความตั้งใจของช่างที่สรรค์สร้างงานออกมา ส่วนงาน Modern ที่กำลังฮิตนั้น เขาก็ชื่นชอบตรงความเรียบง่าย เหมาะสมกับเมืองไทยในเรื่องการทำความสะอาดและการติดตั้งระบบต่างๆ
“Classic นี่ก็รวมศิลปะแบบของไทยด้วยนะครับ จะเห็นได้จากวัด จากพระราชวัง เราจะเห็นว่ารายละเอียดต่างๆ ของงานหรือแม้กระทั่งรูปวาด ทุกอย่างจะแสดงออกถึงคติธรรม ค่านิยม ความคิดของช่างในรุ่นนั้นๆ ด้วย” คุณสิทธิพงษ์กล่าว
ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่เขาคิด รสนิยมของเขาจะดูขรึมขลัง ในขณะที่ภายนอกดูเป็นกันเองและมีอารมณ์ขัน บางทีนั่นอาจจะเป็นการยืนยันว่าถึงแม้เขาจะอ่อนวัย ขี้เล่น แต่งานของเขาจะต้องกลั่นกรองออกมาจนเป็นที่น่าเชื่อถือทุกชิ้น หน้าร้อนนี้ homeandi.com เลยอยากให้คน “ไฟแรง” พูดถึงการปรับบ้านรับ “อากาศแรง” กันหน่อย
“หลักสำคัญเวลาออกแบบบ้านก็คือจะต้องคำนึงถึงการใช้ชีวิตเป็นหลัก หน้าร้อนก็ต้องคิดว่าเราทำตัวอย่างไร บ้านก็ควรทำอย่างนั้น เราเปลี่ยนเสื้อผ้า ใช้แบบที่บางลง พยายามทำให้ตัวเองได้ระบายอากาศ ระบายอารมณ์ ผมว่าบ้านก็น่าจะถูกทำไปในแนวทางเดียวกัน” คุณสิทธิพงษ์ให้ความเห็น
การออกแบบบ้านให้โปร่งจึงดูจะเป็นการเหมาะสมที่สุดสำหรับหน้าร้อน อาจจะมีการเพิ่มช่องทางระบายอากาศให้มากขึ้น หรือการใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมรอบบ้านอย่างต้นไม้ บ่อน้ำ สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยลดอุณหภูมิให้กับบ้านได้ทั้งสิ้น
“แต่บางครั้งเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงด้านสถาปัตยกรรมในบ้านได้ ผมมองว่าเราน่าจะมาปรับวิถีการใช้ชีวิตมากกว่า อย่างอาม่าของผมจะหยิบถังน้ำมาราดหน้าบ้านที่เป็นตึกแถว นั่นก็เป็นวิธีที่ถูกต้อง ทำให้แสงแดดที่กระทบพื้นเข้ามาในบ้านน้อยลง มันก็หลักการเดียวกับการสร้างบ่อน้ำนั่นเอง” คุณสิทธิพงษ์อธิบาย
นอกจากนี้สถาปนิกหนุ่มยังฝากข้อคิดอีกว่า คนเราพยายามชนะธรรมชาติ แต่ธรรมชาติก็ยังดูยิ่งใหญ่เกินมนุษย์ เพราะฉะนั้นการปรับตัว ปรับชีวิตให้สอดคล้องธรรมชาติน่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า การนั่งพัดให้คุณพ่อ คุณแม่ในหน้าร้อนนี้ การร่วมวงกันปั่นน้ำแข็งใสแล้วรับประทานร่วมกัน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ยามอากาศไม่เป็นใจทั้งสิ้น
“ผมว่าอาจจะสร้างมุมเล็กๆ ในบ้านไว้เป็นมุมพักผ่อนร่วมกัน ก็อาจจะเป็นการประหยัดแอร์ได้ทางหนึ่ง มาเปิดมุมเดียวไปเลย มุมนี้เลี่ยงทิศใต้หรือทิศตะวันตกแต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็หาผ้าม่าน ผ้าร่มหรือผ้าใบมาบัง ที่สำคัญ ก่อนจะเข้าหน้าร้อนควรเริ่มทำความสะอาดระบบแอร์กันได้แล้ว เพื่อการประหยัดพลังงาน” คุณสิทธิพงษ์เสริม
ด้วยความมองโลกในแง่ดี คุณสิทธิพงษ์จึงปิดท้ายบทสนทนาว่า ควรจะฉวยโอกาสที่แดดจัดนี้ใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด อย่างน้อยมันก็ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ พวกจุดอับต่างๆ ที่เป็นที่ซ่องสุมเหล่าพลพรรคแมลงตัวเล็กต้องเปิดให้แสงแดดส่องถึง ผ้าปูที่นอนหรือผ้าอะไรที่เก็บในตู้มาทั้งปีก็น่าจะเอาออกมาตากด้วย
“ถ่ายมุมข้างแล้วเอาไปทำใน Photoshop ให้เบลอๆ เอาแบบไม่หล่อนะครับ” คุณสิทธิพงษ์กล่าวเมื่อทีมงาน homeandi.com ขอเก็บภาพของเขา บางทีการปรับ ตกแต่งบ้านอาจจะเป็นศาสตร์และศิลป์ที่เรียนได้ แต่การตกแต่งใจให้เย็นแบบสถาปนิกหนุ่มคนนี้นี่สิ...เพราะบ้านคือปัจจัยในการดำรงชีวิต มันจึงสอดคล้องกับการใช้ชีวิตอย่างเลี่ยงไม่พ้นนั่นเอง
เรื่องและภาพโดย พรชัย พงษ์สุกิจวัฒน์ ขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับข้อมูล คุณสิทธิพงษ์ จิตสัตย์ซื่อ บ.Adverb จำกัด ที่มา : //www.homeandi.com
สารบัญ ตกแต่งบ้าน และ จัดสวน
Create Date : 11 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 11 พฤษภาคม 2554 15:52:30 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1814 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|