ขั้นตอนการออกกำลังกายที่ยุ่งยากซับซ้อน หรืออุปกรณ์การออกกำลังกายราคาแพง ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก ความสม่ำเสมอในการออกกำลังกายต่างหาก ที่เป็นข้อสำคัญอันดับต้นๆ การออกกำลังกายด้วยวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้บ่อยหรือทำได้ทุกวันจะให้ผลดีต่อร่างกาย อย่างที่คุณคาดไม่ถึง


อย่างที่เรารู้กัน น้ำหนักตัวเราไม่ได้เพิ่มขึ้นเป็น 10 กิโลในชั่วข้ามคืน และเราก็คงไม่สามารถกำจัดไขมันออกได้ ในทันทีทันใดเช่นกัน แต่หลายคนก็คงรู้สึกเบื่อหน่าย กับการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก จึงพยายามเสาะแสวงหาวิธีการง่ายๆ ที่จะลดน้ำหนักโดยไม่ต้องทำอะไรมาก เพราะไม่อยากเสียเหงื่อ เสียเวลา


ถึงแม้เราจะหุ่นดีภายในเวลาอันรวดเร็วไม่ได้ แต่เราก็ยังสามารถค้นหาโปรแกรมออกกำลังกายอย่างง่าย ที่ใช้เวลาไม่มากนัก เหมาะกับผู้ที่มีเวลาไม่มากในแต่ละวัน และมันทำให้คุณกลับมามีรูปร่างที่สวยเพรียวได้ ถ้าออกกำลังกายตามโปรแกรมควบคู่ไปกับการลดแคลอรี่ในอาหาร โปรแกรมออกกำลังกาย 6 ขั้นตอนต่อไปนี้ สามารถทำได้โดยใช้เวลาเพียง 15 นาที หัวใจของมันคือการทำแต่ละท่าอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลดีต่อร่างกายอย่างแท้จริง การออกกำลังกายนี้  ไม่ต้องการอุปกรณ์ราคาแพงใดๆ  และไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิก     สถานออกกำลังกายราคาแพง


คุณสามารถใช้เวลากับมันที่บ้าน หรือสวนสาธารณะใกล้บ้าน ในแต่ละท่าบริหารควรทำซ้ำประมาณ 8-12 ครั้ง มาเริ่มกันเลย


ขั้นที่ 1 วอร์มอัพ


ใช้เวลา 2-3 นาทีในการวอร์มอัพด้วยการเดินเล็กน้อย ถ้าทำที่บ้านก็เดินไปรอบๆ ห้อง หรือวิ่งอยู่กับที่ เป็นการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ


ขั้นที่ 2 โหนบาร์


บาร์เดี่ยว เป็นอุปกรณ์การออกกำลังกายที่คุณพบเจอได้เสมอ ตามสวนสาธารณะหรือสนามเด็กเล่น การเล่นบาร์เดี่ยวถือเป็นการออกกำลังกายที่ดีเยี่ยม เราจะได้ใช้กล้ามเนื้อหลัก ๆ ของร่างกายส่วนบน วิธีการคือกางแขนกว้างเท่าช่วงไหล่ หงายฝ่ามือจับราวและดึงตัวขึ้นไป ถ้าอยู่บ้านก็ใช้วิธีโหนวงกบประตูหรือบันไดแทน


 


ขั้นที่ 3 วิดพื้น


วิดพื้นเป็นหนึ่งในการออกกำลังกายที่เบสิคและสุดยอด สามารถทำได้โดยไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์อะไรเลย แค่นอนคว่ำกับพื้นและวางฝ่ามือลงบนพื้น ทำหลังตรง จากนั้นดันตัวเองขึ้นจนกระทั่งศอกตรง เกร็งกล้ามเนื้อค้างไว้ 1-2 วินาที จึงค่อยลดตัวลงจนกระทั่งร่างกายใกล้แตะพื้นแล้วดันตัวเองขึ้นไปใหม่อีกครั้ง แต่ถ้าไม่เคยทำแนะนำให้คุกเข่ากับพื้นน่าจะง่ายกว่า แต่ถ้ารู้สึกว่ายากอยู่ ลองวางมือกับกำแพงแล้วดันตัวออก เมื่อเริ่มทำได้ ให้คุณเปลี่ยนมาจับโต๊ะหรือเก้าอี้แทน ฝึกบ่อยๆ จนกระทั่งคุณสามารถทำท่านี้บนพื้นได้ อย่าลืมว่าให้คอ หลัง และขา เป็นเส้นตรง


เดียวกันเสมอ


ขั้นที่ 4 ท่า Squat และท่า Lunge


การบริหารนี้เป็นการบริหารกล้ามเนื้อส่วนล่าง โดย Squat เริ่มด้วยการยืนแยกขาเท่าความกว้างของไหล่ ปลายเท้าชี้ออกข้างลำตัวเล็กน้อย งอเข่าให้ต้นขาขนานกับพื้น จากนั้นกลับสู่ท่าเริ่ม ส่วน  Lunge เริ่มโดยก้าวยาวๆ ไปข้างหน้า 1-2 ฟุต ให้ลำตัวตั้งตรงเสมอ พยายามไม่ให้เข่ายื่นออกมาเกินหัวแม่เท้า กลับสู่ท่าเริ่มและทำซ้ำ


ขั้นที่ 5 ท่าครันช์ (Sit up)


บริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง ด้วยการนอนหงายบนพื้น ประสานมือใต้ศีรษะ หรือไขว้มือไว้ที่หน้าอก งอเข่า วางเท้าราบบนพื้น เกร็งหน้าท้อง ยกศีรษะและไหล่ขึ้นเหนือพื้น กลับสู่ท่าเริ่มและทำซ้ำ


ขั้นที่ 6 ท่าเหยียดหลัง


หลังจากจบท่าครันช์ให้พลิกตัวนอนคว่ำ และทำท่าเหยียดหลังต่อกันไป วางแขนไว้ใต้คางหรือวางแนบข้างลำตัว ค่อยๆ ยกไหล่ขึ้นเหมือนงูแผ่แม่เบี้ย กดต้นขาให้แนบพื้นไว้ และอย่ายืดหลังจนเกินไป จากนั้นกลับสู่ท่าเริ่มต้นแล้วทำซ้ำ