ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

วิธีขับรถลุยน้ำท่วมให้ปลอดภัย

ช่วงนี้ทั่วทุกภาคของประเทศกำลังรับมือกับฝนที่ กระหน่ำลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้บางพื้นที่มีน้ำท่วมสูงจนสร้างปัญหาให้หลายครัวเรือน ขณะเดียวกันความช่วยเหลือจากหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงคนไทยทั่วประเทศพร้อมส่งกำลังใจ และให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ

ก่อนอื่นถ้าต้องลุยน้ำจริงๆ
เราควรคะเนระดับน้ำคร่าวๆ และพิจารณาความสูงของรถคุณเองว่าน่าจะฝ่าไปได้ไหม ซึ่งถ้าเป็นรถเก๋งบ้านๆทั่วไป แล้วน้ำสูงประมาณ 5 - 10 ซม. ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าสูงกว่านั้นหรือเริ่มปิ่มๆท่อไอเสียก็ต้องระวังแล้ว
   
ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำเป็นลำดับแรก คือปิดแอร์ เพราะถ้าพัดลมแอร์ทำ งานอยู่ มันจะพัดน้ำที่อยู่บนถนนกระจายไปทั่วห้องเครื่อง ส่งผลให้เครื่องยนต์ดับได้ ขณะเดียวกันช่วงน้ำท่วมมักมีเศษขยะต่างๆลอยน้ำมา แล้วอาจเข้าไปพันติดกับมอเตอร์พัดลม หรือเกี่ยวใบพัดจนเสียหาย ส่งผลต่อระบบระบายความร้อนในเครื่องยนต์ได้เช่นกัน

ที่สำคัญควร ขับช้าๆ ใช้เกียร์ต่ำ หรือถ้ารถเป็นเกียร์อัตโนมัติก็เลื่อนไปที่เกียร์ L และต้องเลี้ยงรอบให้นิ่งที่สุดประมาณ 1,500 รอบ ต่อนาที ส่วนบางคนที่กลัวว่าน้ำจะเข้าท่อไอเสีย แล้วยิ่งเร่งเครื่องยนต์เพราะกลัวเครื่องดับนั้นต้องบอกว่าอย่าเด็ดขาด! ไม่เช่นนั้นพวกคลื่นน้ำที่เราดันไปข้างหน้า อาจทะลักกลับมายังห้องเครื่องได้ ซึ่งในความเป็นจริง ถ้าน้ำทะลักเข้าไปยังท่อไอเสียบ้างเครื่องยนต์ยังไม่ดับ เพราะที่รอบเดินเบา ท่อไอเสียจะมีแรงดันให้น้ำออกมาได้สบาย แต่ถ้าท่วมมิดหรือระดับน้ำสูงถึงเครื่องยนต์หรือฝากระโปรงอย่างนั้นไม่รอด แน่นอน
 
ขณะเดียวกันหากขับรถผ่านน้ำท่วมจนถึงจุดหมายแล้ว ก็ไม่ควรดับเครื่องยนต์ทันที ควรทิ้งไว้สักพักเพื่อให้น้ำที่อาจจะค้างอยู่ในหม้อพักไอเสียระเหยออกให้หมด นอกจากนั้นควรย้ำเบรก (สำหรับรถเกียร์อัตโนมัติ) เพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรก และย้ำคลัทซ์(ในรถเกียร์ธรรมดา)เพื่อป้องกันคลัทซ์ลื่น
    
ส่วนใครที่นำรถไปลุยน้ำ แล้วรุ่งเช้าพบอาการเบรกติด ก็ให้ลองสตาร์ทเครื่อง แล้วเข้าเกียร์หนึ่ง เดินหน้าไปเล็กน้อย จากนั้นกระทืบเบรกให้แรงที่สุด จากนั้นก็ทำแบบนี้อีกครั้งแต่เปลี่ยนเป็นเข้าเกียร์ถอยหลัง ทำสลับกันไปเรื่อยๆ จนอาการหาย แต่ถ้าไม่หายหรือมีอาการผิดสังเกต ก็รีบนำเข้าศูนย์บริการโลด!

เอาเป็นว่าถ้าเจอน้ำท่วมเลี่ยงได้ก็เลี่ยง แต่ถ้าต้องลุยก็นำวิธีการข้างต้นไปลองใช้ พร้อมหมั่นตรวจเช็ครถอย่างสม่ำเสมอแล้วกันนะครับ

ที่มาข้อมูล+รูปภาพ oknation.net/blog/kritwat/2010/10/22/entry-2




Create Date : 20 กันยายน 2555
Last Update : 20 กันยายน 2555 8:20:39 น. 0 comments
Counter : 2583 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]