|
|
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ขยายทางเลือกให้คนรักความกรีนต่อเนื่องจาก Jazz Hybrid ด้วยการเปิดตัว Honda Civic Hybrid พร้อมจบยุคแบตเตอรี่ NiMH: นิคเกิล เมทัล ไฮไดรด์ ด้วยการเปลี่ยนมาใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตาม Honda CR-Z รุ่นปรับโฉมที่ เปิดตัวในอินโดนีเซีย โดยจะแบ่งการจำหน่ายเป็น 2 รุ่น คือ Civic Hybrid รุ่นพิ้นฐาน 1,035,000 บาท และ Civic Hybrid Navi ราคา 1,095,000 บาท มีให้เลือก 3 สี คือ ขาวออร์คิด (มุก), ขาวฟรอสตี้ (เมทัลลิก) และ เงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) ภายในเป็นสีเทาทั้ง 2 รุ่น พร้อมรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง งานนี้ ฮอนด้า เพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าด้วยการขยายเวลารับประกันแบตเตอรี่เพิ่มอีก 5 ปี เป็น 10 ปี พร้อมประกาศขยายอายุการรับประกันแบตเตอรี่ให้กับ Honda CR-Z และ Honda Jazz Hybrid จาก 5 ปีเป็น 10 ปีด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งโปรแกรมขยายเวลารับประกันนี้ ครอบคลุมถึงลูกค้าที่ทั้ง 2 รุ่นไปก่อนหน้านี้ด้วย |
|
|
|
• (จากซ้าย) นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และ มร. มิตสึรุ โฮริโกชิ หัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนา Civic Hybrid บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) |
|
|
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า "ฮอนด้า ซีวิค ไฮบริด รับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ ซึ่งประกอบไปด้วย มอเตอร์ไฟฟ้า อุปกรณ์ควบคุม แบตเตอรี่ไฮบริด และระบบสายไฟไฮบริด เป็นระยะเวลา 5 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง และเพื่อตอกย้ำคุณภาพนวัตกรรมยานยนต์ไฮบริดจากฮอนด้า เราจึงได้ขยายเวลาการรับประกันแบตเตอรี่เพิ่มอีก 5 ปี รวมเป็น 10 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง รวมทั้งยังครอบคลุมถึงลูกค้าที่ได้ซื้อ CR-Z และ Jazz Hybrid ไปก่อนหน้านี้ด้วย" หมายเหตุ: การขยายเวลารับประกันแบตเตอรี่จาก 5 ปี เป็น 10 ปี มีผลสำหรับลูกค้าที่ซื้อหรือสั่งจองฮอนด้าไฮบริดทั้ง 3 รุ่น ก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2556 ทั้งนี้เงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด |
|
|
|
Honda Civic Hybrid Civic Hybrid มากับระบบไฮบริดแบบคู่ขนาน หรือ Parallel Hybrid ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 8 วาล์ว i-VTEC ความจุ 1.5 ลิตร SOHC ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Integrated Motor Assist หรือ IMA ของ ฮอนด้า เครื่องยนต์ผลิตกำลังสูงสุดได้ 91 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.4 กก.-ม. ที่ 2,800 รอบ/นาที ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุดเทียบเท่า 23 แรงม้า ที่ 1,546 - 3,000 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงสุด 10.8 กก.-ม. เริ่มที่ 500 - 1,546 รอบต่อนาที เครื่องยนต์รับหน้าที่ในการขับเคลื่อน เสริมแรงด้วยพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการออกตัวและเร่งแซง เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำคงที่ เครื่องยนต์จะหยุดทำงานและเข้าสู่โหมดไฟฟ้าล้วน หรือ EV Mode มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว โดยในขณะที่ใช้งาน EV Mode นี้ จะไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียออกมาเลย |
|
|
|
นอกจากนี้ ยังมีระบบชาร์จพลังงานไฟฟ้ากลับเข้าไปยังแบตเตอรี่ในขณะเบรค หรือยกคันเร่ง เพื่อนำพลังงานที่สูญเสียไปมาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าสำหรับเก็บพลังงานไว้ใช้ต่อไป และเมื่อหยุดรถ เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะหยุดทำงานโดยอัตโนมัติ และเข้าสู่โหมด Idling Stop เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน และลดมลพิษ สำหรับเทคโนโลยีอัจฉริยะใน Civic Hybrid ประกอบไปด้วยระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ One Push Ignition System, Smart Key System, จอแสดงข้อมูลอัจฉริยะ หรือ i-MID: Intelligent Multi-Information Display ซึ่งเป็นแบบ Smart Interface สามารถควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ตามความต้องการของผู้ขับขี่ รวมไปถึงระบบ Eco Assist สำหรับช่วยเหลือในการขับขี่แบบประหยัด |
|
|
|
ระบบความปลอดภัย Civic Hybrid ใช้โครงสร้างตัวถังแบบ G-Force Control (G-CON) ช่วยลดระดับความเสียหายจากการชน ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ Dual SRS ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ i-Side Airbags ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว Vehicle Stability Assist หรือ VSA ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist และระบบบังคับเลี้ยวพร้อมระบบช่วยผ่อนแรงแบบใหม่ Motion Adaptive Electric Power Steering ลดอาการหน้าดื้อโค้งหรือท้ายปัด ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารตอนหน้า กล้องมองหลัง กุญแจนิรภัย Immobilizer และจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX & Child Anchor มร. มิตสึรุ โฮริโกชิ หัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนา Civic Hybrid บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) กล่าวว่า "การพัฒนาฮอนด้า ซีวิค ไฮบริด นั้น ยังคงไว้ซึ่งดีไซน์สุดล้ำทั้งภายในและภายนอก เพื่อให้อารมณ์การขับขี่ที่สนุกคล่องตัว ห้องโดยสารกว้างขวางด้วยเอกลักษณ์การออกแบบ Man Maximum Machine Minimum เน้นการจัดวางพื้นที่โดยให้ความสำคัญสูงสูดต่อผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ครบครันด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ คงสมรรถนะการขับขี่ที่โฉบเฉี่ยว ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งยังได้นำชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งให้กำลังมากขึ้น แต่ขนาดเล็กลง และน้ำหนักเบา มาใช้เป็นครั้งแรกกับรถไฮบริดของฮอนด้า" นายพิทักษ์ กล่าวเสริมว่า "ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ที่ลงตัว ฮอนด้ามั่นใจว่า ซีวิค ไฮบริด ใหม่ จะเข้ามาเติมเต็มตลาดรถยนต์ไฮบริดในระดับคอมแพคท์ซีดานให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยเราตั้งเป้าหมายการจำหน่ายไว้ที่ 7,200 คันภายในหนึ่งปี" "นอกจากนี้ ฮอนด้าจะยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์พลังงานสะอาด เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า ด้วยความรวดเร็ว ในราคาที่ย่อมเยา และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ พร้อมๆ กับการตอบสนองนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม Blue Skies for Our Children เพื่อส่งมอบสิ่งแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัยให้กับลูกหลานในอนาคตได้มีความสุขในการใช้ชีวิตในสังคมที่ยั่งยืน" • |
|
|
|
Vision 2020: Blue Skies for Our Children ภายใต้นโยบาย วิสัยทัศน์ปี 2020 ที่ ฮอนด้า ประกาศเมื่อปี 2553 เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่น สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า ด้วยความรวดเร็ว ในราคาที่ย่อมเยา และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ ฮอนด้า จึงได้กำหนดนโยบาย Blue Skies for Our Children ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ ฮอนด้า มุ่งมั่นในการส่งมอบสิ่งแวดล้อมเพื่อลูกหลานในอนาคต ให้มีความสุขและอิสระในการใช้ชีวิตในสังคมอย่างยั่งยืน ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน คือ ปี 1970 วิศวกร ฮอนด้า ได้แสดงเจตนารมณ์อย่างแรงกล้า ในการคิดค้นผลิตภัณฑ์เพื่อลดการปล่อยมลพิษให้ได้ตามกฎหมาย Clean Air Act ที่นับว่าเป็นกฎหมายที่เข้มงวดที่สุดของสหรัฐอเมริกา ทั้งยังส่งผลถึงความมุ่งมั่นของ ฮอนด้า ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจวบจนปัจจุบันและในอนาคต เดือนมิถุนายน 2011 ฮอนด้า ได้ประกาศเจตนารมณ์ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 ลง 30% จากผลิตภัณฑ์ของ ฮอนด้า ทุกชนิด ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ ให้เป็นผลภายในปี 2020 จากเป้าหมายเปรียบเทียบกับปี 2000 รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิต และในทุกกิจกรรมการดำเนินงานของ ฮอนด้า อีกด้วย การคิดค้นนวัตกรรมพลังงานสะอาด และการใช้พลังงานทางเลือก คือหัวใจสำคัญในการก้าวสู่เป้าหมายในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ฮอนด้า ได้คิดค้นเทคโนโลยีหลากหลายรูปแบบ อาทิ ยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยก๊าซธรรมชาติ, ไฮบริด, Fuel Cell, BEV และ PHEV รวมถึงการคิดค้นนวัตกรรมพลังงานรูปแบบใหม่ๆ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้แก่ อุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ของ ฮอนด้า เป็นต้น |
|
|
|
เป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 2020 เพื่อก้าวไปสู่วิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้กำหนดไว้ ฮอนด้า ได้วางแนวทางใหม่ๆ ด้วยการดำเนินมาตรการควบคุมทั้งวงจรผลิตภัณฑ์ ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อลดผลกระทบการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้ผลิตภัณฑ์สู่สิ่งแวดล้อม จากการประเมินข้อมูลสถิติวงจรผลิตภัณฑ์ หรือ LCA System (Life Cycle Assessment) ของ ฮอนด้า พบว่า 83% ของตัวเลขการปล่อย CO2 เกิดจากการใช้งานผลิตภัณฑ์ ด้วยเหตุนี้ ฮอนด้า จึงเชื่อมั่นว่า วิธีในการบรรเทาปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและพลังงาน คือการลดการปล่อย CO2 จากผลิตภัณฑ์ให้ได้มากที่สุด อันนำไปสู่การกำหนดวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมของ ฮอนด้า ทั่วโลก เพื่อมุ่งมั่นในการลดการปล่อย CO2 ให้ได้ตามเป้าหมายภายในปี 2020 เมื่อ ฮอนด้า สามารถลดการปล่อย CO2 ได้ตามเป้าหมายของปี 2010 และได้กำหนดเป้าหมายใหม่โดยการลดการปล่อย CO2 ลง 30% ภายในปี 2020 จากทุกผลิตภัณฑ์ ฮอนด้า ยังให้ความสำคัญในด้านการวิจัยและพัฒนา และการคิดค้นนวัตกรรมยานยนต์ประหยัดเชื้อเพลิงออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องอีกด้วย • |