|
|
ส่วนประกอบ - ข้าวเหนียว 150 กรัม
- ลำใย 150 กรัม
- น้ำเปล่า 1 ลิตร
- น้ำตาลทราย 200 กรัม
- ข้าวโพดนึ่งสุกแกะเป็นเม็ด 50 กรัม
- หัวกะทิ 100 กรัม
- เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
- แป้งข้าวเจ้า 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ - นำข้าวเหนียวไปซาวในน้ำสะอาด จากนั้นนำไปสะเด็ดน้ำให้แห้ง
- ปอกเปลือกลำใย คว้านเอาเม็ดออก ทำความสะอาดและล้างด้วยน้ำเปล่า จากนั้นนำไปสะเด็ดน้ำให้แห้ง
- ตั้งน้ำในหม้อด้วยไฟร้อนปานกลาง รอจนน้ำเดือดจึงใส่ข้าวเหนียวลงไป คนอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ข้าวเหนียวติดกันเป็นก้อน เมื่อข้าวเหนียวเริ่มสุก จึงใส่น้ำตาลทรายลงไปรอจนเดือดอีกครั้งและน้ำตาลทราย ละลายหมด ใส่ลำใยและข้าวโพดลงไป คนส่วนผสมทุกอย่าให้เข้ากัน ปิดไฟ
- ทำน้ำราดกะทิ โดยใส่น้ำกะทิ, แป้งข้าวเจ้าและเกลือลงในหม้อเล็ก ตั้งบนไฟอ่อนๆจนเข้ากันดี ปิดไฟและพักไว้
- ตักข้าวเหนียวเปียกลำใยใส่ถ้วย ราดหน้าด้วยน้ำกะทิ พร้อมเสริฟรับประทานได้ทันทีี
| Create Date : 06 สิงหาคม 2557 | | |
|
| Last Update : 6 สิงหาคม 2557 12:01:30 น. |
| |
| Counter : 758 Pageviews. |
| |
|
|
|
 |
|
|
ส่วนประกอบ - ข้าวเหนียวเขี้ยวงูใหม่ 1 กิโลกรัม
- น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
- หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
- เกลือ 2 ช้อนชา
- กล้วยน้ำว้าสุก 1 หวี
วิธีทำ - ล้างข้าวเหนียวให้สะอาด นำไปแช่น้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง หรือ แช่ข้ามคืนก็จะดี
- นำหัวกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือ ผสมเข้าด้วยกัน พักไว้
- นำข้าวเหนียวที่ล้างและแช่ไว้ ไปนึ่งจนสุกทั่ว เสร็จแล้วนำไปคลุกกับ ส่วนผสมน้ำกะทิ (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 2 - การคลุกข้าวเหนียวกับน้ำกะทิ นี้เรียกว่า มูน) ทิ้งไว้ให้แห้ง
- ตัดใบตอง เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวพอประมาณ ใช้ผ้าสะอาดเช็ดผิวใบตอง วางข้าวเหนียวลงบนใบตอง เป็นชั้นบางๆ จากนั้นจึงนำกล้วยน้ำว้าวางบนข้าวเหนียว แล้วจึงวางข้าวเหนียวปิดทับบนกล้วยอีกชั้น จากนั้นจึงนำใบตองปิดด้านบน ห่อให้เรียบร้อยและกลัดด้วยไม้กลัดทั้งด้านหัวและท้าย
- นำข้าวเหนียวที่ห่อไว้แล้ว ไปปิ้งบนไฟอ่อนๆ จนใบตองสุกเหลืองจึง ยกลงจากเตา รับประทานตอนร้อนๆจะอร่อยและรสดีมาก
| Create Date : 06 สิงหาคม 2557 | | |
|
| Last Update : 6 สิงหาคม 2557 11:56:07 น. |
| |
| Counter : 1577 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
|
|
ส่วนประกอบ - ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 6 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 1 กิโลกรัม
- มะพร้าวขูดขาว 800 กรัม
- งาขาวคั่วพอเหลือง 1/2 ถ้วย
วิธีทำ - ล้างข้าวเหนียวให้สะอาด และแช่น้ำทิ้งไว้หนึ่งคืน หรืออย่างน้อยสี่ชั่วโมง จากนั้นนำข้าวเหนียวไปสะเด็ดน้ำ นึ่งให้สุก แล้วจึงนำมาเทใส่ตะแกรง ผึ่งให้แห้งหมาดๆ
- นำมะพร้าวขูดไปคั้นกับน้ำอุ่นให้ได้กะทิ 4 ถ้วยตวง
- นำกะทิไปเคี่ยวในกระทะทองเหลืองบนไฟร้อนปานกลาง ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปด้วย เคี่ยวจนน้ำตาลละลายดี และกะทิเหนียวเป็นยางมะตูม
- นำข้าวเหนียวลงไปกวนให้เข้ากันดี จนน้ำแห้ง จึงปิดไฟ ยกลงจากเตา
- เทใส่ถาดสี่เหลี่ยม เกลี่ยหน้าให้เรียบ แล้วจึงตัดเป็นชิ้นๆ โรยด้วยงาขาวคั่ว
- นำข้าวเหนียวแดงใส่จาน เสริฟเป็นของว่างในวันสบายๆ หรือเก็บใส่ภาขนะ มิดชิดไว้ทานภายหลังก็ได้
| Create Date : 06 สิงหาคม 2557 | | |
|
| Last Update : 6 สิงหาคม 2557 11:53:25 น. |
| |
| Counter : 1634 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
|
|
ส่วนประกอบ - ข้าวเหนียวดำ 1/2 ถ้วยตวง
- เผือกหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 3 1/2 ถ้วยตวง
- หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง
- (ปรับได้ตามความหวานที่ต้องการ)
วิธีทำ - นำข้าวเหนียวดำไปล้างทำความสะอาด แล้วจึงใส่หม้อและใส่น้ำเปล่าลงไป ต้มทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที คนเป็นระยะๆ จนข้าวเหนียวสุก
- ระหว่างรอข้าวเหนียวสุก นำเผือกมาปอกเปลือกและหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า แล้วนำไปนึ่งจนสุก ทิ้งไว้ให้เย็น
- เมื่อข้าวเหนียวสุก เติมหัวกะทิ (เหลือหัวกะทิไว้นิดหน่อยเพื่อราดหน้าตอนเสริฟ) น้ำตาลและเผือกนึ่ง ต้มต่อไปอีกประมาณ 5 นาที
- ตักใส่ถ้วย ราดหน้าด้วยน้ำกะทิ และเสริฟเป็นของว่างได้ทันทีขณะยังร้อน หรือเสริฟขณะเย็นแล้วก็ได้
| Create Date : 06 สิงหาคม 2557 | | |
|
| Last Update : 6 สิงหาคม 2557 11:49:07 น. |
| |
| Counter : 845 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
|
|
ส่วนประกอบ - ข้าวสุกตากแห้ง 250 กรัม
- น้ำตาลมะพร้าว 250 กรัม
- น้ำกะทิ 50 กรัม
- มะพร้าวขูดฝอย 300 กรัม
- เนื้อมะพร้าวอ่อน 120 กรัม
- น้ำมะพร้าวอ่อน 200 กรัม
- เทียนอบ
วิธีทำ - นำข้าวสุกไปตากให้แห้ง ถ้าตากแล้วไม่แห้งดี สามารถนำไปอบได้ เมื่อแห้งดีแล้ว นำไปคั่วทีละน้อย โดยใช้ไฟอ่อนๆ เสร็จแล้วนำไปโม่บดให้ละเอีย
- ตั้งกระทะทองเหลือง (หรือใช้กระทะเทฟลอนแทนก็ได้) บนไฟอ่อนๆ ใส่กะทิ, น้ำตาลมะพร้าว, มะพร้าวขูดฝอย, น้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าวลงไปเคี่ยวจนกระทั่งส่วนผสมข้นเหนียว
- ใส่ผงข้าวคั่วลงไปในกระทะและกวนต่อจนเหนียวพอปั้นได้ ปิดไฟ ทิ้งไว้ให้หายร้อน
- อัดส่วนผสมใส่แบบที่เตรียมไว้ จากนั้นนำไปอบควันเทียนให้หอม เสริฟรับประทานได้ทันที หรือเก็บ ใส่ภาชนะมิดชิดเก็บไว้รับประทานภายหลังได้
| Create Date : 06 สิงหาคม 2557 | | |
|
| Last Update : 6 สิงหาคม 2557 11:39:54 น. |
| |
| Counter : 1395 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
|
|
