Group Blog
All Blog
|
กระบือบาล ตอนที่ 11 (ต่อ) ในเวลาต่อมาบรรดาเหล่ากระบือบาลต่างออกแรงช่วยกันทำป้าย เริ่มตั้งแต่เอาไม้อัดเท่าที่หาได้มาโยนกองรวมกัน อีกส่วนก็เอาสีมาทา เขียนข้อความบางอย่าง ทุกคนช่วยกันลงมือทำอย่างขันแข็ง ใจเด็ดยืนมองป้ายอย่างพอใจ และดีใจที่ทุกคนพร้อมสู้สุดตัว เวลาเดียวกันบนถนนเส้นทางมุ่งหน้าเข้าสู่หนองระบือ...รถของสรนุชแล่นมาตามทาง สรนุชเป็นคนขับ มีอรอนงค์นอหลับข้างๆ นอนได้นอนดีจริงๆ ยัยนี่... สรนุชส่ายหน้า ก่อนจะเห็นป้ายทางแยกบอกว่าทางไปหนองระบือ สรนุชเลี้ยวไปตามทาง แต่ทันทีที่รถของสรนุชเลี้ยวเข้าสู่ถนนที่มุ่งหน้าสู่หนองระบือ สรนุชก็เบรกรถดังเอี๊ยด! อรอนงค์ที่หลับอยู่ไม่ทันตั้งตัวก็ทำให้หัวไปกระแทกกับกระจก อูย...มีอะไร...ทำไมต้องเบรกซะขนาดนี้ด้วย ดูนั่นซิ อรอนงค์หันมองไปที่ถนนแล้วอรอนงค์ก็ถึงกับอึ้งไป สรนุชกับอรอนงค์ก้าวลงมาจากรถ ทั้งคู่มองไปสุดตา เห็นว่าตามรายทางที่มุ่งหน้าสู่หนองระบือมีป้ายประท้วงคาบาตี้อยู่เต็มสองข้างทาง เอ่อ...แกกลับตอนนี้ยังทันนะนุช อรอนงค์ว่า หน้าจ๋อย สรนุชมองป้ายเหล่านั้นด้วยแววตาที่แข็งกร้าวกว่าเดิม กลับทำไม...เรื่องสนุกกำลังจะเริ่ม...หึ...นายใจเด็ด...นายมาแรงเท่าไหร่...ฉันก็แรงกลับไปเท่านั้น สรนุชมีแววตามุ่งมั่นที่จะเอาชนะให้ได้ ส่วนที่บริษัทคาบาตี้ สาขาสุรินทร์ ชิดชัยดูนาฬิกาเหงื่อตก ชาวคณะที่เกณฑ์มาต้อนรับเองก็ยืนรอเหงือกแห้งกันเป็นแถว ลูกพี่...ทำไมให้ผู้พันแกกลับไปก่อนละครับ...ไม่กลัวเสียแนวร่วมเหรอพี่ จะบ้าเหรอไง...ขืนยัยนั่นรู้ว่าฉันไปตกลงให้ผู้พันเป็นดีลเลอร์ก็แย่ซิวะ... ชิดชัยมองนาฬิกาอย่างหงุดหงิด ฮึ่ยย์...คนกรุงนะคนกรุง...ตรงเวลาไม่เป็นหรือไง ทันทีที่ชิดชัยบ่นจบ..รถของสรนุชก็แล่นเข้ามาจอดที่หน้า มาแล้ว ชิดชัยรีบวิ่งเข้าไปเปิดประตูให้กับสรนุชทันที สรนุชก้าวลงจากรถ ชิดชัยให้สัญญาณ ชาวคณะต้อนรับกล่าวเสียงดังฟังชัดพร้อมๆ กัน ยินดีต้อนรับคุณสรนุชครับ / ยินดีต้อนรับคุณสรนุชค่ะ ชิดชัยวิ่งเข้ามาหาสรนุชกับอรอนงค์อย่างประจบประแจง เดินทางเหนื่อยมั้ยครับคุณนุช สรนุชไม่ตอบก่อนจะแบมือให้ชิดชัยดู ชิดชัยเห็นก็รีบตบมือ เอ้า...มาเร็ว แล้วลูกน้องก็วิ่งเอาแก้วน้ำผลไม้เย็นเจี๊ยบสองแก้วเข้ามา มาแล้วครับน้ำผลไม้เย็นชื่นใจ...แล้วพอหลังจากนั้นผมได้เตรียมอาหารอย่างดีที่สุดในตำบลนี้ ฉันต้องการรายชื่อของพนักงานที่นี่ทั้งหมด สรนุชบอก ชิดชัยงง เอ่อ...ผมยังไม่ได้เตรียมไว้ให้ครับ ถ้างั้นเรียกทุกคนให้มา...ฉันจะเริ่มงานเดี๋ยวนี้ สรนุชพูดพร้อมกับเดินเข้าบริษัทไปพร้อมกับอรอนงค์ ชิดชัยถึงกับยืนเหวอ ในขณะที่สรนุชกำลังเดินบอกนโยบายกับพนักงานคาบาตี้ที่ยืนเข้าแถว โดยมีอรอนงค์เดินตามคอยจดเหมือนเป็นเลขา คิดว่าฝ่ายดิฉันคงไม่ต้องแนะนำตัวกันแล้ว...เพราะคุณชิดชัยคงบอกเรื่องดิฉันกับอรอนงค์ให้ทุกคนฟังเรียบร้อยแล้ว เป็นเวลาเดียวกับที่ใจเด็ดก็กำลังพูดกับทุกคนภายในห้องประชุมเช่นกัน เพราะฉะนั้น...ผมอยากให้ทุกคนลืมว่าผู้หญิงคนนี้...เคยมาที่สถานีเรา...เคยรู้จักเรา...หรือแม้แต่หน้าเธอเราก็ไม่เคยเห็น แผนแรกที่ดิฉันวางเอาไว้ก็คือ...การแย่งมวลชน สรนุชกล่าว เราต้องทำให้ชาวบ้านทุกคนเห็นว่ารถไถไม่มีอะไรดีเลย...มันมีแต่ข้อเสีย ใจเด็ดบอกทุกคน ฉันอยากให้ทุกคนลงพื้นที่ให้มากที่สุด...หนึ่งคนรับผิดชอบสิบบ้าน...ขอให้ทุกคนลงไปสัมผัสกับชาวบ้านให้มากที่สุด สรนุชว่า ในเมื่อฝ่ายโน้นเคยปลอมตัวเข้ามาทำความสนิทสนมกับชาวบ้าน...เราเองก็ทำได้เหมือนกัน...ขอให้ทุกคนบอกกับชาวบ้านว่าถ้าพวกคาบาตี้มาเสนออะไรก็ให้รับไว้...ถ้าทุกคนจะบอกว่าเรากำลังเล่นละครเหมือนพวกนั้น...ผมก็ไม่เถียง ใจเด็ดแจงต่อ ฉันต้องการเห็นรถไถคาบาตี้ขายได้ห้าคันแรกภายในอาทิตย์นี้ สรนุชประกาศเสียงกร้าว พนักงานของคาบาตี้ต่างยกมือโห่ร้องอย่างฮึกเหิม ส่วนใจเด็ดเองก็ประกาศก้องออกมาเหมือนกัน เราต้องไล่พวกนั้นกลับไป...แม้แต่ล้ออะไหล่...พวกนั้นก็ต้องขายไม่ได้ กระบือบาลทุกคนต่างก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างฮึกเหิมเช่นกัน เกริกไกรมองใจเด็ดด้วยความหนักใจ สงครามระหว่างระหว่างใจเด็ด กับ สรนุช เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว เหล่ากระบือบาลต่างแยกตัวกันไปทำงาน ใจเด็ดเดินออกมา ระหว่างนั้นเกริกไกรเรียกขึ้น ไอ้เด็ด...ไอ้เด็ด ใจเด็ดหยุดก่อนจะหันไปเห็นเกริกไกรเดินเข้ามา มีอะไรหมอ เกริกไกรลำบากใจที่จะพูด ฉันไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่เราจะไปบอกชาวบ้านให้ต่อต้านพวกคาบาตี้ ไม่เห็นด้วย...หรือหมอจะรอเห็นด้วยตอนที่หนองระบือนี่มีแต่รถไถวิ่งเต็มไปหมด ก็ในเมื่อแกไม่ชอบวิธีที่คุณนุชเขาไปหลอกชาวบ้าน...แล้วเราจะใช้วิธีเดียวกันทำไม เกริกไกรว่า เราไม่ได้หลอกชาวบ้าน...เราไปบอกความจริงกับพวกเขาต่างหาก...ไม่มีอะไรแล้วนะหมอ...ฉันรีบ แกจะไปไหน ใจเด็ดหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด ไปในที่ที่พวกนั้นจะไปเป็นที่แรกไง ใจเด็ดสีหน้าเครียดหวังว่าเขาจะเดาถูก รถของสรนุชแล่นเข้ามาจอดที่หน้าที่ทำการอบต. สรนุชเปิดประตูลงมาจากรถก่อนจะมองเข้าไปข้างในอย่างไม่มีอาการกลัวใดๆ ระหว่างที่สรนุชกำลังจะเดินเข้าไป เสียงของใจเด็ดก็ดังขึ้น นึกแล้วว่าคุณต้องมาที่นี่ สรนุชหันไปก็เห็นใจเด็ดเดินเข้ามา รู้ได้ยังไงว่าฉันมาแล้ว คนดังอย่างคุณมันเป็นข่าวง่ายอยู่แล้วนี่ ก็ดี...ถือว่าเราจะได้ประกาศสงครามกันอย่างเต็มตัว สรนุชประจันหน้ากับใจเด็ดอย่างไม่เกรงกลัว แน่ใจเหรอว่าคุณจะชนะ ไม่มั่นใจ...ฉันก็คงไม่มา แต่ผมว่าคุณมันเป็นพวกปากกล้าขาสั่นมากกว่า...ไม่อย่างนั้นคุณคงไม่มาที่นี่เพื่อให้นายกเขาช่วยมั้ง ใครว่าฉันจะให้นายกช่วย ก็คุณมันถนัดในการใช้มารยาอยู่แล้วนี่...คราวนี้คุณเอามาเท่าไหร่ละ...เท่าที่ได้ยินมารยาร้อยแปดเล่มเกวียน...แต่ของคุณคงจะเยอะกว่านั้น..ถ้ายังไง...ให้ควายของผมไปช่วยลากมาได้นะ สรนุชกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ แต่ที่จริงแล้วคุณไม่ต้องเอามาเยอะก็ได้นะ...เพราะคนที่นี่เขารู้ทันคุณหมดแล้ว...คุณคงจะใช้เสน่ห์ของคุณกับนายกได้...แต่คงไม่ใช่ผม เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่าคะ...ที่ผ่านมา...ฉันยังไม่ได้ใช่เสน่ห์มารยากับคุณเลย แต่คุณก็ติดกับซะแล้ว สรนุชยิ้มเยาะ รอยยิ้มนั่นทำให้ใจเด็ดถึงกับสติแตกทันที ใจเด็ดปรี่เข้ามาหาสรนุช คุณยังบอกว่าไม่ได้ใช้อีกเหรอ...แล้วไอ้ที่ผ่านมาคุณใช้อะไร...ห๊า นายจะทำอะไร...ถอยไปนะ...ไม่อย่างนั้นฉันจะร้องให้คนช่วย...ช่วยด้วยค่ะ...ช่วยด้วย ระหว่างนั้นโชคชัยวิ่งเข้ามาพอดี คุณนุช โชคชัยปราดเข้ามาผลักใจเด็ดเพราะคิดว่าใจเด็ดจะทำร้ายสรนุช สรนุชได้ทีเลยเล่นละครต่อ ช่วยด้วยค่ะคุณโชค...เขาจะทำร้ายฉัน ใจเด็ดฉุนกึก เฮอะ...ทำร้าย..? ถ้าทำร้ายมันต้องอย่างนี้ต่างหาก ว่าพลางใจเด็ดจะเข้าไปหาสรนุช แต่แล้วโชคชัยก็เอาตัวเข้ามาบัง ใจเด็ดชะงักรู้ได้ทันทีว่าโชคชัยคิดยังไง ก็ได้...ผมขอเตือนนายกเอาไว้ตรงนี้แล้วกัน...ว่าระวังผู้หญิงคนนี้ไว้ให้ดี ใจเด็ดพูดจบก็เดินออกไป โชคชัยรีบหันมาถามสรนุชด้วยความเป็นห่วง เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณนุช ไม่เป็นไรค่ะ สรนุชตอบแต่สายตายังแอบมองใจเด็ดที่เดินจากไป สรนุชแปลกใจมากๆ ที่โชคชัยไม่โกรธเธอ ที่ปลอมตัวมาครั้งก่อน คุณโชคชัยไม่โกรธเหรอคะ โชคชัยยิ้มให้อย่างอบอุ่น ไม่เลยครับ...ถ้าผมมาเจอคนอย่างนายใจเด็ด..ผมเองก็คงต้องปลอมตัวเข้ามาทำงานในพื้นที่เหมือนกัน โชคชัยพยายามพูดให้สรนุชรู้สึกไม่ดีกับใจเด็ด สรนุชเป่าปากโล่งอก ได้ยินคุณโชคชัยพูดอย่างนี้...ค่อยสบายใจหน่อยค่ะ โชคชัยเห็นอย่างนั้นก็สำทับลงไปอีก สบายใจเถอะครับ...ผมพร้อมที่จะช่วยเหลือคุณนุชทุกเรื่อง อย่าพูดว่าช่วยฉันเลยคะ...ต้องพูดว่าช่วยชาวบ้านถึงจะถูก...ที่ฉันอยากให้ทุกคนใช้รถไถไม่ใช่ว่าฉันจะขายรถไถ...แต่ฉันอยากเห็นชาวบ้านที่นี่สามารถแข่งกับคนอื่นได้...ไม่ใช่บอกให้ชาวบ้านใช้ควายแล้วบอกว่ารักควายต้องใช้ควาย...คงจะทันกินคนอื่นเขาหรอก...หึ! สรนุชยิ่งพูดก็ยิ่งหงุดหงิดเหมือนเห็นหน้าใจเด็ดมาลอยอยู่ตรงหน้า โชคชัยแอบมองสรนุชที่พูดถึงใจเด็ดแล้วหงุดหงิดก็เห็นโอกาส โชคชัยนิ่งไปอย่างครุ่นคิด โชคชัยเดินออกมาส่งสรนุชที่รถ สรนุชหันมากล่าวลา ขอบคุณมากนะคะ ไม่เป็นไรครับ โชคชัยมองสบตาสรนุช ก่อนจะพูดขึ้น รู้มั้ยครับทำไมผมถึงช่วยคุณนุช สรนุชเห็นโชคชัยจ้องมาก็ไม่แน่ใจว่าโชคชัยจะคิดอะไรกับเธออีกหรือเปล่า เอ่อ... สรนุชพยายามไม่พูดเรื่องรัก เพราะคุณโชคอยากเห็นชาวบ้านมีชีวิตที่ดีขึ้นเหมือนกันใช่มั้ยคะ นั่นก็ถูกครับ...แต่ผมอยากให้คุณนุชเห็นถึงความจริงใจของผม สรนุชนิ่งไปเพราะรู้ว่าโชคชัยยังไม่ตัดใจจากเธอ แน่นอนคะ...เอ่อ...ฉันไปก่อนนะคะ โชคชัยยิ้มแล้วพยักหน้าให้ สรนุชหันมาจะเดินไปที่รถก่อนลอบถอนหายใจด้วยความหนักใจ ระหว่างนั้นสรนุชเหมือนนึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหันไปถามโชคชัย วันมะรืนคุณโชคว่างมั้ยคะ ทำไมเหรอครับ โชคชัยนิ่วหน้าด้วยความสงสัย เวลาเดียวกันที่สถานีฯ เจนจิรากำลังดูใบปลิวเชิญชาวบ้านให้ไปร่วมงานเปิดตัวของคาบาตี้ ไปเอามาจากไหน ที่ตลาดค่ะ...พวกคนของคาบาตี้มายืนแจกใบปลิวหัวถนนท้ายถนน...แถมตรงกลางถนนพวกนั้นยังเอาผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้มาเต้นด้วยนะคะ เต้น...? ยังไง เกริกไกรถาม ก็อย่างนี้ไงคะ ว่าแล้วสมหญิงก็จัดท่าเต้นของพวกโคโยตี้ให้ทุกคนดู ใจเด็ดกับเกริกไกรยิ่งเครียด เต้นอย่างนี้น่ะค่ะ...เขาเรียกว่าอะไรนะ โคโยตี้ ภิรมย์บอก เออ...นั่นแหละ เจนจิราเข้ามาหาใจเด็ดที่เครียดยิ่งกว่าเดิม ทำยังไงดีคะหัวหน้า...เจนว่าเราไปบอกนายกให้ช่วยห้ามพวกนั้นดีมั้ยคะ ไม่มีประโยชน์หรอก...ตอนนี้นายกคงจะเป็นพวกนั้นไปอีกคนแล้ว เฮ้อ...ร้ายจริงๆ...ไม่คิดเลยนะคะว่าคุณนุชจะใช้ความรักหลอกใช้นายก เจนจิราใส่ไฟสรนุช เกริกไกรได้ยินอย่างนั้นก็พยายามแย้งเพื่อไม่ให้ใจเด็ดมองสรนุชไม่ดี เจน...เรายังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร...รีบตัดสินคุณนุชอย่างนี้มันไม่ถูกนะ เกริกไกรตำหนิ แล้วยังไงถึงจะถูกคะ...ต้องรอให้คนในหมู่บ้านนี้เปลี่ยนใปใช้รถไถกันหมดแล้วเอาควายไปเข้าโรงเชือดเหรอคะ เจน เกริกไกรปราม เจนจิราพยายามพูดใส่ไฟสรนุช ใจเด็ดที่กำลังอยู่ในอาการหึงและโกรธก็ยิ่งหงุดหงิด อย่าทะเลาะกันได้มั้ย เกริกไกรกับเจนจิรายังต่างตีหน้ายักษ์ใส่กัน ในเมื่อเราเตือนพวกนั้นดีๆ แล้วไม่ฟัง...ก็จะได้เห็นดีกัน ใจเด็ดสีหน้าเครียดมากขึ้น ขณะที่เกริกไกรลอบมองใจเด็ดด้วยความกังวล ที่บ้านพักของสรนุช อรอนงค์เครียดหลังจากที่สรนุชเล่าให้ฟัง แต่ฉันว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะนุช...ทำไมแกไม่ลองคุยกับคุณใจเด็ดดีๆ ละ สรนุชกำลังรื้อของออกจากกระเป๋า คุยดีเหรอ..? หึ...เธอไม่เห็นท่าทางของนายนั่น...นี่ถ้าฉันเป็นผู้ชายคงโดนต่อยไปแล้ว กลัวอะไร...แกก็จูบคืนซิ ฮือ...ไม่ใช่ละคร...จะได้ตบจูบ แต่ฉันว่าถ้าแกบอกเหตุผลกับคุณใจเด็ด...เขาน่าจะเข้าใจนะ สรนุชเหลือทนกระแทกกระเป๋าก่อนจะหันมาคุยกับอรอนงค์อย่างจริงจัง อร...แกเลิกพูดเรื่องได้แล้ว...ฉันกับนายใจเด็ดมันเลยจุดนั่นมานานแล้ว ทำไมอ่ะ...แล้วตอนนี้แกสองคนอยู่จุดไหน จุดเดือดไง...จุดเดือดที่ฉันกับนายนั่นจะระเบิดใส่กันได้ตลอดเวลา สรนุชว่า แต่... สรนุชชี้หน้า ถ้าแกยังไม่เลิกพูด...ฉันให้แกกลับกรุงเทพฯจริงๆ ด้วย อรอนงค์ก้มหน้างุด จ๋อยไป ระหว่างนั้นเสียงของชาญณรงค์ดังขึ้นที่หน้าบ้าน ฮัลโหล...ยู้ฮู้ สรนุชกับอรอนงค์มองหน้ากันด้วยความแปลกใจ สรนุชกับอรอนงค์ออกมาจากบ้านก็แปลกใจเมื่อเห็นชาญณรงค์ยืนอยู่ ผู้พัน..?! สรนุชกับอรอนงค์เดินลงมาหาชาญณรงค์ด้วยความแปลกใจ ผู้พันมีอะไรเหรอคะ ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ...พอดีวันนี้ฉันไปรอต้อนรับพวกเธอแต่ไม่ได้เจอ...ก็เลยมาเซย์ฮัลโหลที่นี่แทน...เป็นยังไง...บ้านช่องห้องหับอยู่กันสบายมั้ย ก็ดีค่ะ...ลมเย็นดี สรนุชนึกได้ ทำไมเหรอคะ เอ้า...ฉันก็กลัวว่าจะไม่ถูกใจ...จะย้ายไปอยู่หลังอื่นก็ได้นะ...บ้านฉันมีหลายหลัง เอ่อ...นี่บ้านของผู้พันเหรอคะ ถูกต้อง... สรนุชกับอรอนงค์ยิ่งงงเข้าไปอีก เหรอคะ...ทำไมชิดชัยไม่เห็นบอกหนูเลย สรนุชว่า ฉันไม่ให้บอกเองแหละ...กลัวว่าพวกหนูจะเกรงใจ...แต่ไม่ต้องห่วงนะฉันไม่เก็บค่าเช่า จะดีเหรอคะ อรอนงค์กังวล ดีซิจ๊ะ...แหม...หนูอรกับพี่ก็ใช่ว่าจะเป็นคนอื่นคนไกล...หนูนุชก็เหมือนกัน...ไม่ต้องเกรงใจเลยนะ...ยังไงเรามันก็พวกเดียวกันอยู่แล้ว ชาญณรงค์พยายามเน้นเสียงเพื่อสื่อความหมายให้กับสรนุช ถ้ามีอะไรให้ช่วย..บอกเลยนะ...ฉันยินดีช่วยทุกอย่างเพื่อให้ควายมันหมดไปจากที่นี่ สรนุชได้ยินอย่างนั้นสมองก็เริ่มทำงานทันที เห็นว่าผู้พันมีบ้านหลายหลังเหรอคะ อืม...ทำไม...หลังนี้ไม่ถูกใจหรือไง เปล่าค่ะ...แล้วผู้พันมีไร่มีนาหรือที่ดินที่ไม่ใช้ประโยชน์หรือเปล่าคะ เพียบ..! ถามทำไมจ้ะ สรนุชยิ้มให้ชาญณรงค์อย่างมีเลศนัย เวลาต่อมา อรอนงค์ตกใจที่รู้เรื่องแผนการณ์จากสรนุช จะสาธิตรถไถเหรอ สรนุชเก็บข้าวของต่ออย่างสบายใจ ก็ใช่น่ะซิ...ถ้าจะให้ชาวบ้านรู้ว่ารถไถมันดียังไงก็ต้องให้เขาเห็นกับตา...แล้วฉันก็จะใช้ที่ของผู้พันนี่แหละ...เป็นแปลงนาสาธิต แต่ฉันไม่ค่อยชอบให้ผู้พันมายุ่งกับเราเลย...ฉันรู้สึกยังไงไม่รู้ ก็ไม่ต้องรู้สึกอะไร...ในเมื่อเขาเป็นฝ่ายเสนอมาเอง...เราไม่ได้เรียกร้องอะไรซักหน่อย อรอนงค์เห็นท่าทีของสรนุชก็พยายามจะเตือนสติ นุช...แกต้องการชนะคุณใจเด็ดมากเลยเหรอ แน่นอน...ฉันจะทำให้นายนั่นเห็นว่า...ฉันไม่ได้ใช้มารยาอย่างที่นายนั่นว่า สรนุชดูหงุดหงิดขึ้นมาทันทีที่พูดถึงใจเด็ด ขณะที่อรอนงค์ก็มองสรนุชอย่างหนักใจ เวลาต่อมาคืนเดียวกันนั้น อรอนงค์เดินเข้ามาบริเวณริมหนองน้ำแห่งหนึ่ง อรอนงค์มองไปรอบๆ ท่าทางกลัวนิดๆ เมี้ยว...เมี้ยว...เมี้ยว ทันใดนั้นก็มีเสียงหมาดังขานรับขึ้นมาทันที ฮ่ง...โฮ่ง..โฮ่ง พอสิ้นเสียงสุนัขเห่า อรอนงค์ก็รอแต่ไม่เห็นมีอะไรเคลื่อนไหวก็ทำหน้าเซ็ง ก่อนจะส่งสัญญาณอีก เมี้ยว...เมี้ยว มีเสียงรับ โฮ่ง...โฮ่ง อรอนงค์รอแต่ก็ไม่เห็นอะไรอีก จึงหยิบท่อนไม้โยนเข้าไปในพุ่มหญ้า แล้วได้ยินเสียงดังโป๊ก ! เอ้ง...เอ้ง พร้อมกับที่ เกริกไกรกำหัวตัวเองออกมาจากพงหญ้า โห...ผมเจ็บนะครับคุณอร ก็หมอไม่ยอมออกมาซักทีนี่คะ...เป็นไงบ้างคะ ไม่ถึงกับแตกหรอกครับ ไม่ใช่ค่ะ...อรหมายถึงคุณใจเด็ดใจอ่อนลงบ้างหรือเปล่าคะ เกริกไกรทำท่าน้อยใจ ไอ้เราก็นึกว่าห่วงเรา... หมอ...ฉันมีเวลาไม่มาก...ถ้าไม่รีบกลับยัยนุชต้องสงสัยแน่ๆ...ไงคะ...คุณใจเด็ดอ่อนลงบ้างหรือเปล่า ไม่เลยครับ...แล้วคุณนุชละครับ อรอนงค์เศร้าใจ ก็ไม่เหมือนกันค่ะ ว่าแล้วเกริกไกรกับอรอนงค์ก็ถอนหายใจออกมาพร้อมๆ กัน เอ่อ...แล้วคุณอรรู้มั้ยครับว่าคุณนุชมีแผนจะโปรโมตรถไถยังไงอีก รู้ค่ะ เกริกไกรหูผึ่งสนใจขึ้นมาทันที แต่ฉันบอกไม่ได้...ไม่อย่างนั้นยัยนุชเล่นฉันตายแน่ๆ ค่ะ แล้วเกริกไกรกับอรอนงค์ก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกันอีก แล้วหมอรู้มั้ยคะว่าคุณใจเด็ดจะสู้กับทางคาบาตี้ยังไง รู้ครับ อรอนงค์อยากรู้เหมือนกัน แต่ผมก็บอกไม่ได้เหมือนกัน แล้วเกริกไกรกับอรอนงค์ก็ถอนหายใจพร้อมกันอีก แล้วอย่างนี้เราจะนัดเจอกันทำไมคะ เรื่องนั้นผมรู้ครับ อรอนงค์มองเกริกไกรด้วยความสงสัย เพราะผมอยากเจอคุณอรไงครับ เกริกไกรเอื้อมมือไปจับมืออรอนงค์ อรอนงค์สะบัดมือออกอย่างขวยเขิน หมออ่ะ จริงๆ นะครับ...คุณอรไม่รู้เหรอครับว่าที่ผมอยากให้ไอ้เด็ดกับคุณนุชดีกันเพราะอะไร เพราะอะไรคะ เพราะผมไม่อยากปิดซ่อนความรู้สึกของผมไงครับ อรอนงค์ก้มหน้างุดอย่างเขินๆ ขณะที่เกริกไกรก็อมยิ้มอย่างมีความสุข เช้าวันใหม่ที่หนองระบือ สรนุชกับอรอนงค์ยืนรอด้วยความหงุดหงิดที่หน้าคาบาตี้ นัดกี่โมง...ป่านนี้แล้วทำไมยังไม่มาอีก ใจเย็นซินุช...เดี๋ยวก็มาน่า ระหว่างนั้นเสียงเพลงมาร์ชดังขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ สรนุชกับอรอนงค์หันไปมองก็ตกใจเมื่อเห็นชิดชัยเดินนำหน้าเป็นดรัมเมเยอร์ โดยมีวงโยธวาทิตตามมาด้านหลัง สรนุชถึงกับอึ้งพูดไม่ออก จนกระทั่งชิดชัยนำขบวนแห่มาหยุดต่อหน้าสรนุช หยุด..... นี่มันอะไร ก็วงดนตรีที่คุณนุชอยากได้ในการเปิดตัวไงครับ...วงนี้อันดับหนึ่งของจังหวัดเลยนะครับ ชิดชัยสอพลอ ฉันบอกเหรอว่าอยากได้วงดนตรี แล้วนี่ไม่ใช่เหรอครับ ไม่ใช่ สรนุชกุมขมับอย่างกลุ้มใจ ไม่ต้องห่วงครับ...ผมได้เผื่อทางเลือกเอาไว้ในกรณีที่คุณนุชไม่ชอบอยู่แล้วครับ คุณชิดชัยมีวงดนตรีอีกวงเหรอคะ เด็ดยิ่งกว่านั้นอีกครับ ชิดชัยพยักหน้าให้ลูกน้อง แล้วเสียงเพลงมาร์ชก็ดังขึ้นอีก ลูกน้องเข้าไปดึงผ้าที่คลุมอยู่หลังรถหกล้อออก แล้วสรนุชกับอรอนงค์ยิ่งอึ้งไปเมื่อเห็นบรรดาโคโยตี้กำลังเต้นอยู่บนรถหกล้อ นี่เลยครับ...โคโยตี้ที่พลิ้วที่สุดในจังหวัด สรนุชโกรธจนตัวสั่น ใครให้ทำแบบนี้ ชิดชัยยังไม่รู้ตัว คิดว่าจะได้คำชม นี่ครับ...มันสมองของผมเองครับ...ผมเห็นว่าบริษัทเราชื่อคาบาตี้...ผมก็เลยใช้โคโยตี้ให้มันคล้ายๆ กัน...เป็นไงครับ...ชอบมั้ยครับคุณนุช เอากลับไปให้หมด สรนุชตวาดแว้ด ห๊า ! อะไรนะครับ ฉันบอกให้เอากลับไปให้หมด ชิดชัยเอ๋อ อึกอัก เอ่อ... แล้วหันไปตะคอกลูกน้องต่อ ได้ยินแล้วนี่...บอกพวกนี้เอากลับไปให้หมด สรนุชหายใจแรงยังโมโหไม่หาย ระหว่างนั้นสรนุชหันไปเห็นรถหกล้อก็ได้ความคิดขึ้นมา เดี๋ยว ! ฉันอยากได้รถคันนั้นเอาไว้ก่อน ยัยนุช...อย่าบอกนะว่าแกจะขึ้นไปเต้นเอง สรนุชเหล่มองเอาเรื่อง อรอนงค์ จ๋อย อ้าว...ก็ฉันไม่รู้นี่ว่าแกจะเอาไปทำอะไร สรนุชมองรถหกล้อด้วยความคิดบางอย่าง ไม่นานต่อมาสรนุชก็มาอยู่บนรถหกล้อแล้ว มีอรอนงค์อยู่ข้างๆ รอบรถมีป้ายโฆษณารถไถอยู่รอบคัน ชาวบ้านชาวช่องต่างมองตามด้วยความสนใจ สวัสดีคะพ่อแม่พี่น้อง...วันนี้พวกเราชาวคาบาตี้...มาบอกข่าวดีให้กับทุกท่าน...ด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับรถไถรุ่นใหม่ที่พวกเราต้องการนำเสนอ ชิดชัยกับลูกน้องและพนักงานคนอื่นๆ เดินนำหน้ารถหกล้อคอยแจกใบปลิวให้กับชาวบ้านที่อยู่เรียงรายสองข้างทาง บ้าเอ๊ย...สบายจริงจริ๊ง...ให้คนอื่นเดิน...ตัวเองนั่งรถ ระหว่างนั้นเห็นเท้าของใครคนนึงก้าวเข้ามาหยุด ก่อนจะเห็นเท้าของคนอื่นๆก้าวเข้ามายืนเคียงข้าง ชิดชัยหันไปกำลังจะแจกใบปลิว แต่แล้วชิดชัยก็ต้องชะงักไป ส่วนบนรถ...สรนุชยังพูดออกไมค์ต่อเนื่อง ถ้าหากทุกท่านสนใจรถไถของเรา...เรามีเงื่อนไขพิเศษที่จะมอบให้ก็คือ... จังหวะนั้นอรอนงค์เหมือนเห็นบางอย่างข้างหน้าก็สะกิดสรนุช นุช...นุช อะไร...อย่าเพิ่งขัดซิ...ฉันกำลังได้ที่เลย อรอนงค์ บุ้ยใบ้ให้ดู โน่นน่ะ สรนุชหันมองไปตามที่อรอนงค์บอก แล้วสรนุชก็ชะงักไปเมื่อเห็นเข้ากับ ใจเด็ด เจนจิรา เกริกไกร ภิรมย์ สมหญิงที่พาควายฝูงใหญ่ยืนทะมึนขวางทางเข้าหมู่บ้านอยู่ พร้อมป้ายต่างๆ เช่น เราไม่ต้องการรถไถ อย่ามาเบียดเบียนแย่งงานควาย ฯลฯ จังหวะนั้นสรนุชกับใจเด็ดสบตากัน อย่างไม่มีใครยอมถอย ทางฝั่งเหล่ากระบือบาลต่างมองดูพวกคาบาตี้เขม็ง ใจเด็ดมองไปที่สรนุชอย่างไม่ยอมกัน ขณะที่เกริกไกรมองไปที่อรอนงค์และสรนุชด้วยความลำบากใจ ส่วนเจนจิราหรี่ตามองสรนุชด้วยสายตาชิงชัง ในขณะที่สรนุชมองนิ่งๆ ไปที่ใจเด็ดเหมือนจะหยั่งเชิง ชิดชัยกับลูกน้องต่างก็มองสรนุชแล้วยิ้มเยาะ ดูซิ...จะทำยังไง ชิดชัยหยัน ประเมินสถานการณ์แล้วอรอนงค์รีบเดินเข้ามาถามสรนุชทันที เอาไงดีนุช...ฉันว่าวันนี้เราถอยไปตั้งหลักก่อนมั้ยอ่ะ ไม่ สรนุชสวนขึ้นทันควัน ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อถอยให้ใคร...เอาโทรโข่งมา ฝั่งกระบือบาลต่างสงสัยเมื่อเห็นสรนุชหยิบโทรโข่งขึ้นมา ระหว่างนั้นสรนุชก็พูดขึ้น พวกเรามาอย่างสันติ...ไม่ต้องการมีเรื่องกับใคร...กรุณาถอยออกจากถนนด้วย ทีมกระบือบาล...ต่างมองใจเด็ดเป็นตาเดียวกันว่าจะเอายังไง เจนจิราได้โอกาสเลยเสี้ยมทันที พูดอย่างนี้หมายความว่าไง...หาว่าเรามาหาเรื่องหรือไง ตะโกนโต้สรนุชก่อนจะหันมาบิ้วท์ใจเด็ด ...หัวหน้า...คุณสรนุชคงต้องการทำให้เราเป็นคนไม่ดีในสายตาของชาวบ้าน คุณสรนุชร้ายถึงขนาดนี้เลยเหรอคะ สมหญิงหลงคำเสี้ยมของเจนจิราไปหนึ่งคน แต่ใจเด็ดกลับนิ่งครุ่นคิดว่าจะเอายังไง ระหว่างนั้นสรนุชเร่งเร้าผ่านโทรโข่งอีก พวกนายต้องการอะไร...ขอให้ส่งตัวแทนมาพูดจากัน...พวกเราพร้อมปรองดองเพื่อความสุขของคนที่นี่ จากนั้นสรนุชก็ส่งโทรโข่งคืนให้กับอรอนงค์ อรอนงค์พยายามห้ามปราม จะทำอะไรน่ะนุช ก็ไปคุยกับนายนั่นไง...ตอนนี้เรากำลังได้เปรียบ...ชาวบ้านก็เห็นอยู่ว่าเรามาของเราดีๆ...แต่พวกนั้นมาขวางทางเราเอง...แล้วอีกอย่างฉันก็เป็นผู้หญิง...นายนั่นคงไม่กล้าทำอะไรให้เสียคะแนนหรอกน่า สรนุชบอก ด้านฝั่งกระบือบาล...ใจเด็ดทำท่าจะเดินออกไปเมื่อเห็นสรนุชเดินมา เกริกไกรรีบห้าม ไอ้เด็ด...ให้ฉันไปดีกว่า เดี๋ยวแกก็ใจอ่อนอีก...ฉันไปน่ะแหละ...จะได้รู้ด้วยว่า...ทางนั้นจะมาไม้ไหนอีก เจนจิรามองใจเด็ดด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะเอ่ยห้ามพร้อมกับขออาสาขึ้น ให้เจนไปดีกว่าค่ะ... ทุกคนหันมองเจนจิราด้วยความแปลกใจ รวมถึงใจเด็ดด้วย หัวหน้าก็รู้ว่าคุณสรนุชเล่นละครหลอกเรามาแล้วครั้งนึง...ไม่มีใครดูออกนอกจากเจน...เจนคิดว่า...ผู้หญิงย่อมมองผู้หญิงด้วยกันออกค่ะ ใจเด็ดนิ่งคิดตัดสินใจ สรนุชยืนรออยู่กลางถนน ท่ามกลางความลุ้นระทึกของทุกคน แต่แล้วสรนุชก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นเจนจิราเดินออกมาจากกลุ่มกระบือบาล ทางฝั่งคาบาตี้เองก็แปลกใจ ขณะที่ฝั่งกระบือบาลเองก็ลุ้นแทบหยุดหายใจเหมือนกัน เจนจิราเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าสรนุช สรนุชมองไปที่ใจเด็ดก่อนจะหันมองมาที่เจนจิรา ทำไมนายใจเด็ดไม่ออกมาคุยเอง พี่เด็ดเขาไม่อยากเจอกับมารยาของเธอไง เจอคำพูดนี้เข้าสรนุชถึงกับชะงัก ไม่ใช่เพราะพี่เด็ดกลัวเธอนะ...แต่สะอิดสะเอียนมากกว่า สรนุชที่ตั้งรับทุกรูปแบบอยู่แล้ว แต่พอเจอเจนจิราเปิดประเด็นมาอย่างนี้ก็อึ้งไปเหมือนกัน เจน...ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบฉันเท่าไหร่...แต่ฉันขออธิบายหน่อยได้มั้ย มันไม่สายไปเหรอ...เธอหลอกทุกคนให้คิดว่าเธอเป็นเทพธิดานางฟ้ามาที่นี่...แล้วสุดท้าย..เธอก็ตบหัวพวกเรา อรอนงค์มองไปที่สรนุชด้วยความเป็นห่วง ขอให้ตกลงกันได้ด้วยเถอะ ฝั่งกระบือบาล...เกริกไกรเห็นเจนจิราคุยกับสรนุชก็พยายามพูดกับใจเด็ดให้ผ่อนคลาย คุยกันดีอย่างนั้น...ฉันว่าต้องตกลงกันได้แน่นอน อย่าเพิ่งมองโลกในแง่ดีเกินไปหมอ ใจเด็ดมองไปที่สรนุชกับเจนจิราไม่กระพริบตา สรนุชพ่นลมหายใจเพื่อตั้งสติใหม่ หลังจากเห็นท่าทีของเจนจิรา เอาละ...ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่คุยเรื่องที่ผ่านมากันแล้ว สรนุชยิงตรงประเด็น หัวหน้าเธอจะเอายังไง คุณไม่น่าจะถามคำตอบที่คุณรู้อยู่แล้ว แต่คำตอบของเธออาจจะช่วยพวกควายของเธอเอาไว้ก็ได้ หมายความว่าไง เจนจิราประหลาดใจ ไปบอกหัวหน้าเธอว่า...ถ้ายินยอมให้พวกเราขายรถไถที่หนองระบือนี่...ฉันจะดูแลควายของเธอเอง สรนุชบอกเงื่อนไข เจนจิราได้ยินอย่างนั้นก็นิ่งไป แล้วฉันจะเชื่อเธอได้ยังไง สรนุชยิ้มค่อยๆ ยื่นมือออกไปเพื่อแสดงความจริงใจ ฉันสัญญาด้วยเกรียติของฉันเอง ทุกคนเห็นสรนุชยื่นมือออกมาก็แทบไม่เชื่อสายตา เจนจิรามองมือสรนุช ก่อนจะยื่นมือออกมาจับด้วย เธอตกลงเหรอ สรนุชรีบเข้าไปจับมือเพราะคิดว่าเจนจิราตกลงตามเงื่อนไขของเธอ แต่แล้วรอยยิ้มของเจนจิราก็เปลี่ยนไป พร้อมกับที่สรนุชรับรู้ได้ถึงแรงบีบอย่างแรงที่มือของเธอ คิดว่าฉันโง่เหรอ...เธอมันไม่เหลือเกรียติอะไรให้น่าเชื่อถือแล้ว เจนจิราออกแรงบีบที่มือของสรนุชเต็มที่ จนสรนุชต้องสะบัดมือออกด้วยความเจ็บ โอ๊ย แต่ทันทีที่สรนุชสะบัดมือออก เจนจิราก็ทำทีเป็นล้มลงไปกับพื้นทันที ทั้งฝ่ายกระบือบาลและฝั่งคาบาตี้ต่างก็ตกใจ ท่ามกลางเสียงร้องตกใจของชาวบ้าน ใจเด็ดเห็นอย่างนั้นก็ตกใจ เจน ใจเด็ดกับฝ่ายกระบือบาลรีบวิ่งเข้ามาที่สรนุชและเจนจิรา ขณะที่อรอนงค์และฝ่ายคาบาตี้ก็วิ่งมาที่สรนุชเช่นกัน ใจเด็ดรีบเข้ามาดูเจนจิราด้วยความเป็นห่วง เป็นไรหรือเปล่าเจน ไม่เป็นไรค่ะ เจนจิราพูดเสียงอ่อยๆ ใจเด็ดหันขวับมองไปที่สรนุชทันที สรนุชพยายามจะอธิบาย ฉันไม่ได้ทำอะไรนะ ขนาดผมเห็นกับตาว่าคุณเป็นคนผลักเจนล้มลงอย่างนี้...คุณยังบอกอีกเหรอว่าคุณไม่ได้ทำ ก็ฉันไม่ได้ทำ สรนุชยืนกรานเสียงกร้าว พอได้แล้ว...เลิกเสแสร้งเป็นคนดีซะที ว่าไงนะ อรอนงค์กับเกริกไกรที่ยืนอยู่ต่างก็รีบเข้ามาแทรกกลางเพราะกลัวจะเกิดเรื่องใหญ่โต ไปเถอะนุช ไม่...ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด...ทำไมฉันต้องหนีด้วย เอ่อ...แต่ชาวบ้านมองพวกเราอยู่นะ อรอนงค์เตือนสติ สรนุชหันมองไปก็เห็นชาวบ้านต่างมองมาที่เธอแล้วจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ สรนุชเริ่มอ่อนลงเพราะได้สติ อรอนงค์รีบดึงสรนุชออกไป เจนจิราแอบยิ้มดีใจที่ใจเด็ดเป็นห่วงเธอ สรนุชหันมาเห็นรอยยิ้มของเจนจิราพอดี รู้ทันทีว่าเธอเสียรู้เจนจิราซะแล้ว สรนุชเดินดุ่ยๆ มาตามถนนด้วยความอัดอั้นใจ มีอรอนงค์คอยวิ่งตาม ชิดชัยกับลูกน้องเดินตามมาติดๆ ชิดชัยได้โอกาสก็สอพลอทันที มันต้องอย่างนี้ซิครับคุณนุช...ทำอย่างนี้มันจะได้รู้ว่าเราไม่ได้กลัวพวกมัน ใช่ครับ...ท่าที่คุณนุชบิดมือนังกระบือบาลสาวคนนั้นเนี่ย...ยังติดตาผมอยู่เลยนะครับเนี่ย สรนุชได้ยินอย่างนั้นก็หันขวับมาระเบิดอารมณ์ที่อัดอั้นใส่ทันที ถ้าพวกนายยังไม่เลิกพูดเรื่องนี้...ฉันจะไล่ออกทุกคน ชิดชัยกับลูกน้องได้ยินอย่างนั้นก็ถึงกับผงะไป อรอนงค์รีบเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง นุช...ฉันว่าแก... สรนุชรีบพูดสวนขึ้น เดี๋ยวอร...ก่อนที่แกจะพูดอะไร...ขอเวลาฉันแป๊บนึง ว่าแล้วสรนุชก็รีบเดินออกไปทันที อรอนงค์ ชิดชัยและลูกน้องต่างมองตามด้วยความแปลกใจ สรนุชเดินมาถึงที่โล่งแห่งหนึ่งก่อนจะหยุด แล้วทันใดนั้นสรนุชก็กรี๊ดออกมาดังลั่นทุ่ง อ๊ายยย เสียงร้องของสรนุช ทำให้นกบริเวณแตกรังด้วยความตกใจ สรนุชหายใจหอบโยนด้วยความเจ็บใจที่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างใจ เหล่ากระบือบาลกลับมาที่สถานีบำรุงพันธุ์สัตว์ ใจเด็ดกำลังเอาผ้ายืดพันที่ข้อมือของเจนจิรา ขณะที่ทุกคนยืนรายล้อมด้วยความเป็นห่วง ใจเด็ดแปลกใจเมื่อได้ยินเจนจิราเล่า จะให้เงินอุดหนุนสถานีแลกกับการให้เขาขายรถไถเหรอ เจนจิราตีหน้าเศร้า ค่ะ เกริกไกรมองเจนจิราด้วยความแปลกใจจึงทักขึ้น แต่ฉันเห็นเธอยื่นมือออกไปขอจับมือกับคุณนุช เจนจิราชะงัก เอ่อ... ระหว่างนั้นสมหญิงพูดขึ้นอย่างเห็นใจเจนจิรา แค่นี้หมอยังไม่รู้อีกเหรอคะ...มันก็แค่ลูกเล่นของคุณนุชไงคะ ใช่ๆ...หนอย...เห็นหน้าสวยๆ อย่างนั้น...ไม่คิดเลยว่าจะร้ายขนาดนี้ ภิรมย์ว่า เจนจิรานิ่งไปด้วยสีหน้าลำบากใจ ขอบใจทุกคนที่เข้าใจเจนนะคะ ว่าแล้วเจนจิราก็เอื้อมมือไปจับมือสมหญิง ก่อนที่เจนจิราจะสะดุ้งด้วยความเจ็บ โอ๊ย ใจเด็ดได้ยินอย่างนั้นก็รีบเข้ามาดูเจนจิราด้วยความเป็นห่วง พี่ว่าช่วงนี้เจนอย่าขยับมือดีกว่า เจนจิรามองใจเด็ดด้วยสีหน้าที่เปี่ยมสุข เกริกไกรเหล่มองเจนจิราด้วยความสงสัย คุณนุชไม่น่าใช่คนอย่างนั้นนะเจน เจนจิราชะงักไป สมหญิงรีบตอบแทนเจนจิรา หมอกำลังจะบอกว่าคุณเจนใส่ร้ายคุณนุชเหรอคะ ฉันไม่ได้บอกว่าเธอใส่ร้าย...แต่เท่าที่เรารู้จักเธอ...เธอไม่ได้เป็นคนอย่างนั้น ทั้งพวกเรา...ทั้งชาวบ้านโดนหลอกมาครั้งนึงแล้ว...หมอยังจะให้พวกนั้นหลอกได้อีกเหรอคะ สมหญิงบอก ใช่ครับ...ก็เห็นๆ อยู่ว่าคุณเจนโดนคุณนุชผลักล้มลง ภิรมย์ผสมโรง แต่ตรงนั้นมีเธอกับคุณนุชแค่สองคน...ฉันว่ามันต้องถามทั้งสองฝ่าย เจนจิราเหล่มองใจเด็ดก็กลัวว่าจะเอนเอียงไปทางเกริกไกรก็หน้าเจื่อนลง ไม่ต้องถามหรอกค่ะ ยังไงหมอก็ต้องเชื่อพวกคาบาตี้อยู่แล้ว เพราะคุณอรเธออยู่ฝ่ายนั่นนี่ สมหญิงประชด เรื่องนี้คุณอรไม่เกี่ยว ทันใดนั้นใจเด็ดก็โพล่งขึ้นเพื่อยุติศึกน้ำลาย พอได้แล้ว ทั้งหมดเงียบลง หมอ...ฉันเชื่อในสิ่งที่ฉันเห็น เกริกไกรจะพูดทักท้วง ไอ้เด็ด... ใจเด็ดสวนขึ้น พวกนั้นไม่ได้ดีอย่างที่เราคิด...ฉันพูดแค่นี้...คิดว่าหมอน่าจะเข้าใจนะ เกริกไกรถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นท่าทีของใจเด็ด เจนจิรามองใจเด็ดด้วยความปลาบปลื้มที่ใจเด็ดเข้าข้างตน ใจเด็ดคิดไปถึงสรนุชก็ยิ่งโกรธเธอมากขึ้น สรนุชทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตัวเองในห้องทำงานอย่างหัวเสีย ฉันบอกว่าฉันไม่ได้ทำ แล้วทำไมคุณเจนถึงได้ล้มลงไปอย่างนั้นละ สรนุชโชว์มือให้อรอนงค์ดู ฉันต่างหากที่โดนทำ...แกเห็นมั้ย...ยัยนั่นบีบมือฉันจนเป็นรอยอย่างนี้...ฉันเจ็บ...ฉันก็สะบัดออก...ก็เท่านั้น แกกำลังจะบอกว่าคุณเจนแกเล่นละครใส่ร้ายแกหรือไง ฉันคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้...อร...ท่าทางเกมคงจะยากกว่าที่คิด สรนุชหรี่ตาลงอย่างใช้สมอง อรอนงค์หนักใจ ระหว่างนั้นเสียงมือถือของสรนุชดังขึ้น สรนุชหยิบขึ้นมาดู แล้วก็ชะงักไป สมพละกำลังเดินไปมาในห้องทำงาน ขณะที่คุยมือถือกับสรนุช ไม่มีอะไร...พ่อแค่จะโทรมาถามว่าเป็นไงบ้าง...อยู่กันได้มั้ย สรนุชทำหน้าเซ็ง อรอนงค์รีบจับมุมปากของสรนุชให้ฉีกยิ้ม หนูอยู่มาได้ถึงสามเดือน...ทำไมหนูจะอยู่ไม่ได้ล่ะคะ...หนูว่าคุณสมพลคงต้องการถามเรื่องยอดขายมากกว่าค่ะ เปล่าๆ...พ่อไม่ได้จะถามเรื่องนั้น...เพราะพ่อมั่นใจในศักยภาพของหนูอยู่แล้ว...แล้วอีกอย่าง...หนูนุชก็คงไม่อยากให้คุณพ่อหนูเสียชื่อหรอก...จริงมั้ย สรนุชรู้ทันทีว่าสมพลกำลังกดดันเธอโดยเอาพ่อเธอมาอ้าง สมพลแอบยิ้มร้าย แต่แล้วระหว่างนั้นพิภพก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง สมพลเห็นก็แปลกใจ พิภพ...แกเข้ามาทำไม ก็เข้ามาเซ็นเอกสารไง...เห็นว่าแค่เรื่องเดียวฉันเดินมาเซ็นเองคงจะเร็วกว่า...คุยต่อไปเถอะ...ฉันจัดการเองได้ สรนุชได้ยินการสนทนาระหว่างสมพลกับพิภพ พิภพเดินมาลงนั่งที่โต๊ะของสมพลก่อนจะเปิดเอกสารขึ้นอ่าน ก่อนจะเจอเอกสารที่หา พิภพมองไปรอบๆ ก่อนจะเห็นปากกาที่หน้าอกของสมพล พิภพลุกขึ้นแล้วหยิบปากกาที่หน้าอกสมพลไปเลยเหมือนไม่ให้เกียรติสมพล ระหว่างเซ็นพิภพก็ชวนสมพลคุย ไง...ว่าที่ลูกสะใภ้ขายได้สักคันหรือยัง ความรู้สึกสมพลพุ่งปรี้ดทันที เป็นถึงผู้บริหาร...ไม่น่าถามอะไรโง่ๆ นะพิภพ...ผมกำลังคุยกับคุณสรนุช...เธอโทร.มารายงานว่าแค่วันแรกที่เธอไป...ก็มียอดจองเข้ามาแล้วสิบสองคัน สรนุชได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจ สิบสองคัน สมพลยิ้มแล้วเกทับพิภพ ถูกต้อง...ไง...คราวนี้อะไรๆ ที่หวังไว้...ก็อย่าหวังให้มันสูงแล้วกัน...ตกมาแล้วมันจะเจ็บ พิภพเซ็นเสร็จก็ลุกขึ้นก่อนจะเอาปากกามาเสียบไว้ที่หน้าอกของสมพลตามเดิม เกมมันเพิ่งเริ่ม พิภพตบที่หน้าอกของสมพลเบาๆ ก่อนจะเดินยิ้มเยาะออกไป สมพลมองตามด้วยความเจ็บใจก่อนจะค่อยๆ ยกมือถือขึ้นมาพูด หนูนุชคงได้ยินแล้วใช่มั้ย...พ่อฝากด้วยนะ ที่บริษัทคาบาตี้สาขาสุรินทร์ ในห้องทำงานสรนุช อรอนงค์ตกใจเช่นเดียวกับสรนุช สิบสองคันในหนึ่งเดือน สรนุชทำหน้าเซ็ง ก็ใช่น่ะซิ...ทำไมคนที่ซวยต้องเป็นฉันด้วยเนี่ย โห...แล้วแกจะทำไง...ที่นี่น่ะสองเดือนขายได้คันนึงก็เก่งแล้ว สรนุชนิ่งครุ่นคิด ก่อนจะกดโทรศัพท์ต่อสายภายใน เข้ามาพบฉันหน่อย สรนุชวางสาย อรอนงค์แปลกใจ แกมีแผนแล้วเหรอ ยังไม่ทันที่สรนุชจะตอบ มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เข้ามา ชิดชัยเปิดประตูเข้ามาในห้อง มีอะไรให้รับใช้ครับคุณนุช ฉันต้องการขายให้ได้สามคันภายในอาทิตย์นี้ ห๊า ! เอ่อ...แล้วคุณนุชจะให้เราขายยังไงเหรอครับ ยังไงก็ได้...ฉันไม่สนว่านายจะใช้วิธีอะไร...แต่ฉันต้องการเห็นยอดขายเพิ่มขึ้น สรนุชนิ่งไปอย่างมุ่งมั่น ด้านชาญณรงค์กำลังนอนให้สมคิดทาครีมกันแดด ผลจากเมื่อตอนกลางวัน เบาๆซิวะ...แสบนะเว้ย...ไม่เข้าใจจริงว่าไอ้พวกชาวนามันทำนากันได้ยังไงกลางแดดอย่างนั้น...อูย นายไม่คิดได้ยินเหรอครับว่าถ้าเราอยู่กับอะไรมากๆ มันก็เหมือนจะเหมือนอย่างนั้น...ไอ้ชาวนาพวกนั้นคงอยู่กับควายจนชินก็เลยหนังหนาเหมือนกัน ระหว่างนั้นช่อผกาเดินยิ้มอย่างมีความสุขเข้ามาก่อนจะแปลกใจเมื่อเห็นชาญณรงค์ เป็นไรน่ะพ่อ จะเป็นอะไร...ก็คุณสรนุชบอกว่าวันนี้จะมีการโชว์รถไถสาธิต...พ่อก็เลยไปรอตั้งแต่เช้า...จนป่านนี้ก็ยังไม่เห็น...หึ...เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอหรือไง ชาญณรงค์ยิ่งพูดก็ยิ่งเจ็บใจ แต่ช่อผกาได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มดีใจแทน นี่พ่อไม่รู้เหรอว่ายัยนั่นน่ะโดนพี่เด็ดเอาควายมาขวางถนนเอาไว้ อะไรนะ หุๆ...นี่ฉันได้ยินมานะพ่อ...ว่ายัยนั่นเนี่ยหน้าแตกละเอียดกลับคาบาตี้ของมันไปเลย แล้วนึกได้ที่พ่อพูด เมื่อกี้พ่อบอกว่าพวกมันจะเอารถไถมาไถโชว์ในที่ของเราเหรอ เออซิวะ ไม่ได้ละ...ต้องไปบอกพี่เด็ดก่อน ช่อผกาจะเดินออกไป ชาญณรงค์คว้าผมจิกหมับเอาไว้ แกจะไปบอกมันทำไม...ห๊ะ ! สมองแกน่ะมีมั้ย...แกรู้ไหม๊ถ้าชาวบ้านเกิดอยากได้รถไถขึ้นมา...มันก็ไม่มีปัญญาซื้อก็ต้องมากู้เงินฉันไปซื้อ...ฉันก็ได้ลูกหนี้เพิ่ม แล้วถ้าพวกมันสนใจมากๆ ฉันก็จะซื้อรถไถให้พวกมันเช่าไถน่าคิดค่าเช่าเป็นชั่วโมง...มีแต่เงินไหลมาเทมา แต่พี่เด็ดไม่ไหลมานี่พ่อ ก็ไอ้ใจเด็ดไม่ใช่น้ำนี่ครับ สมคิดสอดขึ้น ช่อผกาหันไปทำปากแต่ไม่ออกเสียง เสือก แล้วหันมาคุยกับชาญณรงค์ พ่อ...เงินเราก็มีเยอะแล้ว...แต่ที่เรายังไม่มี...ก็คือครอบครัวที่อบอุ่นนะพ่อ...พ่อคิดดูนะ...หนูกับพี่เด็ดพอแต่งงานกัน...ก็จะมีหลานตัวเล็กๆ มาให้พ่อเลี้ยงซักโหลนึงดีมั้ยพ่อ พอเลยนังนี่...แค่แกคนเดียวฉันก็กลุ้มใจไม่รู้จะยังไงแล้ว...เกิดลูกแกได้เชื้อโง่จากแกมาอีก...ฉันไม่แย่เหรอไง พ่ออ่ะ...ไม่คุยด้วยแล้ว ช่อผกาหันหลังแล้วเดินออกจากบ้านไปเลย เอ้า...จะไปไหนอีก...นี่มันจะค่ำแล้วนะเว้ยนังผกา ด้านสรนุชกำลังคิดหมกมุ่นหนักกับวิธีที่จะขายรถไถให้ได้ ระหว่างนั้นสรนุชวางปากกาลงอย่างหงุดหงิดก่อนจะนึกไปถึงเรื่องการเผชิญหน้ากันเมื่อตอนกลางวัน ใจเด็ดรีบเข้ามาดูเจนจิราด้วยความเป็นห่วงหลังจากที่เจนจิราล้มลง ใจเด็ดรีบเข้ามาดูเจนจิราด้วยความเป็นห่วง เป็นไรหรือเปล่าเจน ไม่เป็นไรค่ะ ใจเด็ดหันมองไปที่สรนุชทันที สรนุชพยายามจะอธิบาย ฉันไม่ได้ทำอะไรนะ ขนาดผมเห็นกับตาว่าคุณเป็นคนผลักเจนล้มลงอย่างนี้...คุณยังบอกอีกเหรอว่าคุณไม่ได้ทำ ก็ฉันไม่ได้ทำ พอได้แล้ว...เลิกเสแสร้งเป็นคนดีซะที นึกถึงตอนนี้ สรนุชทุบโต๊ะด้วยความโมโห ไม่ได้...ฉันจะปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้ไม่ได้ ว่าแล้วสรนุชก็ลุกเดินออกจากไป คืนนั้นใจเด็ดกำลังนั่งทำสถิติของควายอยู่ภายในบ้านพัก ระหว่างนั้นใจเด็ดวางปากกาลงก่อนจะนึกไปถึงเรื่องของสรนุชกับโชคชัย สรนุชเจอกับใจเด็ดที่หน้าที่ทำการอบต. แล้วมีโชคชัยเข้ามาแทรก ใจเด็ดปรี่เข้ามาหาสรนุช นายจะทำอะไร...ถอยไปนะ...ไม่อย่างนั้นฉันจะร้องให้คนช่วย...ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย ระหว่างนั้นโชคชัยวิ่งเข้ามาพอดี คุณนุช โชคชัยปราดเข้ามาผลักใจเด็ดเพราะคิดว่าใจเด็ดจะทำร้ายสรนุช สรนุชได้ทีเลยเล่นละครต่อ ช่วยด้วยค่ะคุณโชค...เขาจะทำร้ายฉัน เฮอะ...ทำร้าย..? ถ้าทำร้ายมันต้องอย่างนี้ต่างหาก ใจเด็ดจะเข้าไปหาสรนุช แต่แล้วโชคชัยก็เอาตัวเข้ามาบัง ใจเด็ดชะงักรู้ได้ทันทีว่าโชคชัยคิดยังไง ใจเด็ดพยายามสลัดความคิดออก แต่แล้วขณะที่ใจเด็ดกำลังจะทำงานต่อ อาการปวดหัวของเขาก็กำเริบ อ้าก ใจเด็ดดิ้นทุรนทุรายก่อนจะที่เขาจะพยายามเปิดลิ้นชักเพื่อหยิบยาแก้ปวดขึ้นมา ก่อนจะรีบกินมันทันที คืนนั้นระหว่างที่ช่อผกาขับมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดที่หน้าสถานี เห็นคนงานคนหนึ่งเลื่อนประตูเล็กกำลังจะปิด เดี๋ยวๆ... ช่อผกาบีบแตรเสียงดังลั่น ก่อนจะมาหยุดที่หน้าประตู นี่...จะรีบปิดไปไหน...พี่เด็ดอยู่ไหนรู้มั้ย สงสัยอยู่ที่บ้านพักแล้วครับ ช่อผกาผุดยิ้มร้าย ออกมาคิดแผนลึกล้ำขึ้นมาทันที ใจเด็ดนอนอยู่ที่โซฟาในบ้านพัก สายตาของใจเด็ด เห็นภาพทุกอย่างเบลอๆ ระหว่างนั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้น ใจเด็ดค่อยๆหันมองไปที่ประตู ใจเด็ดถามเสียงแหบแห้งแผ่วเบา ใคร แต่ยังไม่ทันที่ใจเด็ดจะลุกไปเปิด เขาก็เห็นประตูค่อยๆ เปิดออก ใจเด็ดพยายามเพ่งมองภาพแต่ที่เขาเห็นก็คือภาพของผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู พี่เด็ด...เป็นอะไรคะ ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาหาใจเด็ดด้วยความเป็นห่วง ใจเด็ดต้องตะลึงเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นคือสรนุช คุณ อะไรคะ...ทำเหมือนไม่เคยเห็น...พี่เด็ดเป็นไรคะเนี่ย ใจเด็ดที่กำลังสะลึมสะลือ พยายามปัดไม้ปัดมือสรนุชออก ไม่ต้องมายุ่งกับผม...ปล่อย จะไปไหนล่ะคะ ใจเด็ดที่พยายามหนีแต่เพราะฤทธิ์ยากำลังออกฤทธิ์เต็มที่ ทำให้ใจเด็ดเสียหลักล้มลงไปพร้อมกับสรนุชที่ประคองกันอยู่ ใจเด็ดถึงกับอึ้งไปเมื่อเห็นใบหน้าของสรนุชใกล้ไม่ถึงคืบ สรนุชค่อยๆ หลับตาลงพร้อมกับเลื่อนริมฝีปากเข้ามาใกล้ปากใจเด็ด ใจเด็ดค่อยๆ หลับตาลง แต่ยังไม่ทันที่สรนุชกำลังจะจูบใจเด็ด เสียงของเจนจิราก็ดังขึ้น ทำอะไรน่ะผกา ใจเด็ดได้ยินอย่างนั้นก็พยายามมองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า แล้วใจเด็ดก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นช่อผกา ไม่ใช่สรนุช ผกา ก็ผกาน่ะซิคะ...แล้วพี่เด็ดคิดว่าใคร เจนจิราปรี่เข้ามาจากประตูก่อนจะรีบกระชากร่างของช่อผกาออกจากตัวของใจเด็ด ใจเด็ดสะลึมสะลือเต็มที แล้วใจเด็ดก็สลบไปในที่สุด เกริกไกรรีบเข้ามาดูใจเด็ด ไอ้เด็ด...ไอ้เด็ด... บอกกับทุกคน หลับไปแล้ว ย่องเข้าหาผู้ชายอย่างนี้...ไม่รักศักดิ์ศรีตัวเองบ้างหรือไง เจนจิราเปิดฉากด่า ศักดิ์ศรีฉันก็รัก...แต่ฉันรักพี่เด็ดมากกว่า ช่อผกาไม่สน หน้าด้าน... หน้าด้านอะไร...ไม่เห็นหรือไงว่าฉันกับพี่เด็ดรักกัน...ไม่อย่างนั้นพี่เด็ดจะยอมนอนนิ่งๆ ให้ฉัน... ช่อผกาทำท่าจูบเย้ยเจนจิรา ผกา...ที่ไอ้เด็ดมันไม่ขัดขืนเธอเพราะยานอนหลับอย่างแรงนี่ต่างหาก ช่อผกาหน้าเจื่อนลง แต่ยังไม่ยอมแพ้ ไม่รู้แหละ...ยังไงพี่เด็ดก็ต้องรับผิดชอบผกา เธอยังจะกล้าพูดอีกเหรอ...ไปเลยนะ...ก่อนที่ฉันจะเอาควายมาลากเธอออกไป...ไป๊ เจนจิราคว้าไม้กวาดขึ้นทำท่าจะตีช่อผกา จนทำให้ช่อผกาต้องรีบโกยอ้าวทันที อ๊าย...นังบ้า เจนจิราโยนไม้กวาดทิ้งก่อนจะรีบเข้ามาหาใจเด็ด พี่เด็ด...พี่เด็ด อย่าไปเรียกมันเลยเจน...ไอ้เด็ดไม่เป็นไรหรอก...ไป...ช่วยฉันแบกมันขึ้นไปนอนที่ห้องหน่อย เกริกไกรกับเจนจิราเข้ามาช่วยพยุงใจเด็ด |
มิกัง
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |