Group Blog
All Blog
|
กระบือบาล ตอนที่ 6 เช้าวันนี้เกริกไกรอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ผิวปากจัดโต๊ะสำหรับอาหารเช้าอยู่ ระหว่างนั้นเกริกไกรหันไปเห็นเจนจิราใบหน้าบึ้งตึงเหมือนโกรธใครมา ก็ยิงมุกใส่ทันที เมื่อคืนนอนคว่ำละซิ เจนจิราไม่เก็ท ออกอาการงง นอนคว่ำอะไรของหมอ เอ้า...ก็ดูซิถ้าไม่นอนคว่ำแล้วจะทับหน้าย่นอย่างนี้หรือไง นี่หมอ...ฉันยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่นะ เจนจิราฉุน ก็รู้ไงว่าอารมณ์ไม่ดีก็เลยพูดให้อารมณ์ดีไง... เกริกไกรชักสงสัย เอ...ตั้งแต่พวกคุณอรมาท่าทางเธออารมณ์ขึ้นๆลงๆนะ... เจนจิราชะงักเมื่อเกริกไกรจับสังเกตได้ ไม่มีอะไรหรอกหมอ...ฉันก็แค่เครียดเรื่องงานน่ะ เจนจิราแก้ตัว เกริกไกรยังคิดอยู่ ในที่สุดก็คิดออก หรือว่า... เจนจิราร้อนตัวเพราะคิดว่าเกริกไกรจะรู้ว่าเธอแอบชอบใจเด็ด อะ อะไร เกริกไกรจ้องหน้าคาดคั้น นี่มันจะสิ้นเดือนแล้ว ทะลึ่ง ! ไม่เกี่ยวซักหน่อย... เจนจิราเปลี่ยนเรื่อง ทำไมป่านนี้ยังไม่ลงมาอีก...ไหนว่ามาถ่ายละคร..ตั้งแต่มายังไม่เห็นว่าจะถ่ายซักฉาก เขาอาจจะมีขั้นตอนของเขา...ที่ถามนี่อยากเข้ากล้องหรือไง หมอก็รู้นี่...ลำพังแค่หัวหน้าต้องหาเงินมาเลี้ยงควายในสถานีก็แย่แล้ว...แล้วนี่ยังต้องมาเลี้ยงคนอีก เกริกไกรเหล่มองเจนจิราเจ้าเล่ห์ ฉันก็หลงฟังตั้งนานนึกว่าอะไร...ที่แท้ก็เป็นห่วงไอ้เด็ดนี่เอง เจนจิราร้อนตัว เอ่อ...ไม่ใช่นะหมอ ระหว่างนั้นเสียงใจเด็ดดังขึ้น พวกนั้นยังไม่มาอีกเหรอ เกริกไกรกับเจนจิราหันไปก็เห็นใจเด็ดเข้ามา เกริกไกรรีบแถเข้าไปหาใจเด็ด ไอ้เด็ด เจนจิราคิดว่าเกริกไกรจะเข้าไปพูดเรื่องที่เธอแอบชอบใจเด็ด เลยยื่นขาตนออกไปไปขัดที่ขาของเกริกไกร เหวอ เกริกไกรล้มคว่ำคะมำไป ใจเด็ดมองงงๆ เจนจิรารีบเข้ามาคุยกับใจเด็ด ยังไม่เห็นใครลงมาเลยค่ะ ใจเด็ดนิ่งไปด้วยความสงสัย ก่อนจะเดินตรงไปยังเรือนรับรอง เจนจิราเห็นใจเด็ดเดินออกไปก็เลยเดินตามไปเช่นกัน เกริกไกรลุกขึ้นปัดเนื้อตัวก่อนจะรีบเดินตามทั้งสองคนไป สรนุช กำลังต้อนอรอนงค์กับสุบินลงมาจากเรือนรับรอง เร็วซิ...เดี๋ยวพวกนั้นก็มาหรอก สุบินเบรกเอี้ยดรั้งตัวอยู่ตรงบันได เดี๋ยวๆ...ทำไมแกต้องรีบขนาดนี้...อบต.โชคชัยเขาไม่หนีแกไปไหนหรอกน่า เรื่องนั้นฉันรู้...ฉันแค่ไม่อยากตอบคำถามพวกกระบือบาลต่างหาก อรอนงค์ สงสัย คำถามอะไร เออน่า...เดี๋ยวฉันเล่าให้ฟังระหว่างทาง สรนุชรีบดันสุบินกับอรอนงค์ให้ลงบันไดไป สุบินขืนตัวไว้ โน...ท่าทางมีพิรุธอย่างนี้แสดงว่าเมื่อวานแกกับคุณใจเด็ดมีอะไรหรือเปล่า มีอะไร..! นายคิดว่าฉันจะมีอะไรกับนายนั่น เอ้า...ก็เหมือนในละครไง...พระเอกนางเอกที่ไม่ชอบขี้หน้ากัน...พอได้หลงป่าติดเกาะเท่านั้นแหละ...ก็รักกันตราบชั่วฟ้าดินสลาย อรอนงค์ตั้งข้อสังเกต สรนุชได้ยินอย่างนั้นก็แรงผลักสุดแรง จนสุบินกับอรอนงค์แทบจะตกบันได สรนุชตามลงมา เกลียดกันจนวันตายซิไม่ว่า...เลิกเพ้อเจ้อแล้วก็ไปได้แล้ว ระหว่างนั้นเสียงใจเด็ดดังขึ้น นึกว่าพวกคุณจะไม่ทำงานกันซะอีก สรนุช อรอนงค์ และสุบินหันมาก็เห็นใจเด็ด เกริกไกรและเจนจิราเดินเข้ามา เอ่อ...นายว่าอะไรนะ ก็คุณบอกว่าจะมาถ่ายละคร...แต่ตั้งแต่พวกคุณมา...ผมยังไม่เห็นทีท่าว่าคุณจะเริ่มถ่ายเมื่อไหร่ ใจเด็ดมองอย่างจับสังเกต หรือว่าวันนี้คุณก็ยังไม่ถ่าย เอ่อ...ถ่าย...ถ่ายซิ...เนี่ยพวกฉันกำลังจะออกไปถ่ายกันอยู่พอดี สรนุชแถไปต่อ เหรอคะ...ถ้างั้นขอฉันกับหัวหน้าไปด้วยนะคะ...คือฉันอยากเห็นว่าเวลาเขาถ่ายละครเขาทำงานกันยังไง เจนจิราดักคอ ใช่ๆ ถ้างั้นวันนี้เราปิดสถานีไปดูถ่ายละครกันมั้ย เกริกไกรว่า ใจเด็ดปรายตามอง หมอ...วันนี้หมอต้องคัดน้ำเชื้อนี่ สรนุชได้ยินก็หูผึ่งทันที เกริกไกรอิดออด แต่... ใจเด็ดซักไซ้ แต่อะไร... ใจเด็ดส่งสายตาที่ดูเอาเรื่องให้เกริกไกร ทำให้เกริกไกรชะงักไปด้วยความเกรงใจ โดยไม่รู้เลยว่าสรนุชแอบสังเกตทุกอย่างเอาไว้ เกริกไกรชะงักไป เออๆ....ก็ได้วะ หันมาพูดกับอรอนงค์ ขอโทษจริงๆ นะครับคุณอรที่วันนี้ผมคงไปด้วยไม่ได้ สรนุชรู้สึกว่าใจเด็ดกับเกริกไกรมีความลับบางอย่างจึงรีบตอบรับแทนอรอนงค์ อ๋อ...ไม่เป็นไรคะ สรนุชคิดในใจ...ต้องปรับแผน ตายจริง...จะออกไปถ่ายแล้วลืมบทได้ไงเนี่ย...สงสัยจะอยู่ข้างบน...เดี๋ยวฉันมานะคะ สรนุชทำท่าจะวิ่งขึ้นเรือนรับรอง แล้วเห็นสุบินกับอรอนงค์ยืนเอ๋ออยู่ก็รีบส่งสัญญาณ สุบิน...บทเก็บไว้ตรงไหน แล้วสรนุชทำบุ้ยใบ้ปากส่งซิกให้สุบินกับอรอนงค์ เธอด้วย...ขึ้นมาช่วยกันหาเร็ว สรนุชรีบวิ่งลงมาแล้วดุนหลังสุบินกับอรอนงค์ขึ้นเรือนรับรองไป สรนุชดันสุบินกับอรอนงค์ขึ้นมาบนเรือนเฉ่งทันที ไงละ...เห็นมั้ย...ช้ากันดีนัก ไม่ต้องมาโทษเลยแก...ตอนนี้เอาเรื่องเฉพาะหน้า...จะทำยังไง สุบินว่า จะทำไง...อยากให้พวกนั้นสงสัยมากกว่านี้หรือ...สุบิน...เอาบทที่นายเขียนมา...ส่วนอร...เธออยู่ที่นี่ อ้าว..ทำไมฉันต้องอยู่ที่นี่อีกแล้วละ อรอนงค์งง เมื่อกี้ไม่ได้ฟังหรือไง...ที่นายใจเด็ดพูดเรื่องรางวัลอะไรนั่น...ฉันว่านายนั่นกำลังค้นคว้าเรื่องน้ำเชื้อที่กำลังจะพัฒนาพันธุ์ควายแน่นอน...เธออยู่ที่นี่แล้วสืบดูให้แน่ใจแล้วกัน สรนุชบอก ฉันว่าแทนแกจะห่วงยัยอร...ห่วงตัวเองดีกว่าเหอะ...ถ้าเกิดคุณใจเด็ดจับได้ว่าพวกเราเป็นกองถ่ายกำมะลอละก็ออกจากสุรินทร์ไม่ได้เลยนะเว้ย สุบินโวย ไอ้นี่...ยังไม่ลองก็ถอดใจแล้วหรือไง... สรนุชคิด งั้นเอางี้มั้ย...เราบอกว่าวันนี้เราอยากถ่ายพวกบรรยากาศ...พวกทุ่งนาทุ่งข้าวไปก่อน...เอาไว้เราเตรียมตัวดีกว่านี้แล้วค่อยถ่ายพวกชาวบ้าน เวลาต่อมา ในตลาดนัดบนถนนคนเดินแห่งนั้น ใจเด็ด สรนุช สุบินและเจนจิราพากันเดินหอบหิ้วอุปกรณ์การถ่ายทำเดินมาตามทาง ชาวบ้านต่างมองตามด้วยความสนใจ สุบินหันมากระซิบกับสรนุช ไงละ...ทุ่งข้าวของแก เงียบเถอะน่า... สรนุชหันมาพูดกับใจเด็ด นายพาฉันมาที่ไหนเนี่ย...ฉันบอกว่าอยากถ่ายพวกบรรยากาศไง ไอ้พวกทุ่งข้าวทุ่งนาผมว่ามันถ่ายเมื่อไหร่ก็ได้...แต่ที่ผมพาคุณมาที่นี่เพราะเขามีอาทิตย์ละครั้ง ตลาดเนี่ยน่ะเหรอ สรนุชประหลาดใจ ครับ...ที่นี่เขาเรียกว่าตลาดขวัญข้าว...ถ้าคุณอยากรู้จักกับชาวบ้าน...คุณก็ต้องมาที่นี่ ใจเด็ดว่า ชาวบ้านในตำบลนี่ต่างก็เอาของที่ตัวเองผลิตได้มาขายหรือบางทีก็แลกกัน เจนจิราอธิบาย สุบินฟังแล้งง แลกกัน...? แบบสมัยโบราณน่ะเหรอครับ ค่ะ เจนจิราบอก ไม่น่าเชื่อว่าจะมีแบบนี้เหลืออยู่อีก...โห...ถ้าผมมีนามีไร่ที่นี่...ผมก็ไม่ต้องใช้เงินเลยซิ ครับ...คนที่นี่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยใช้เงิน...จะใช้น้ำใจกันมากกว่า ใจเด็ดบอกอย่างภูมิใจ สรนุชบ่นอย่างหงุดหงิด พวกเต่าล้านปี...ชิ ใจเด็ดหูไว คุณว่าอะไรนะ สรนุชตกใจเพราะคิดว่าใจเด็ดได้ยินเลยทำขาไฟที่แบกอยู่หล่นดังโคล้งเคล้ง จนคนทั้งตลาดหันมามองเป็นตาเดียว ใจเด็ดรีบเข้ามาช่วย มาผมช่วย ไม่เป็นไร...ฉันแบกเองได้ สรนุชเอื้อมมือไปหยิบขาไฟแล้วก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ใจเด็ดเอื้อมมือไปหยิบเช่นกัน ทำให้มือของทั้งคู่โดนกัน สรนุชกับใจเด็ดต่างก็ชะงัก สรนุชรีบชักมือออกใจเด็ดหยิบขาไฟขึ้นแบก เจนจิรามองใจเด็ดและสรนุชแล้วเห็นช่วงเวลาที่ทั้งคู่สบตากันก็รู้ว่าต้องมีสัญญาณบางอย่างส่งถึงกัน ทำให้เจนจิราอยู่ๆก็หงุดหงิดขึ้นมา เพราะอารมณ์หึงนั่นเอง เจนจิราหันไปแย่งของจากสุบินที่กำลังถืออยู่ เอามานี่ เดี๋ยวๆ...อะไรน่ะคุณ สุบินงง เจนจิราไม่สนใจเข้าไปแย่งของจากสุบินแล้วเอามาถือไว้คนเดียวก่อนจะเดินลิ่วๆออกไป อะไรของเขาวะ...เดี๋ยวก่อนคุณ...ของพวกนั้นราคาเป็นล้านนะ สุบินรีบวิ่งตามเจนจิราออกไป ใจเด็ดมองตามรู้สึกแปลกใจ ก่อนจะหันมาเห็นสรนุชเองก็พยายามจะแบกของขึ้นเหมือนเดิม อย่าทำอย่างเจนเขาเลยคุณ...นั่นเขามีความสามารถเฉพาะตัว ใจเด็ดเย้ยอยู่ในที คุณเจนทำได้...ฉันก็ต้องทำได้ สรนุชเชิดหน้าก่อนจะก้มลงหยิบขาไฟ แต่แล้วสรนุชกลับยกไม่ขึ้น ฮึบ...! สรนุชฮึดสุดแรงเกิดเพื่อยกขาไฟขึ้น แต่พอยกขึ้นมาได้สรนุชก็เสียหลักเพราะออกแรงยกมากเกินไปจนทำท่าจะล้ม จังหวะนั้นใจเด็ดก็โผเข้ามาช้อนพยุงร่างของสรนุชไว้ได้ทัน สรนุชกับใจเด็ดสบตากันอีกครั้ง ก่อนที่ใจเด็ดจะหยิบขาไฟมาแบกเอง สรนุชรีบยกตัวเองออกจากวงแขนของใจเด็ดแล้วเดินหน้านิ่งออกไปเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่หัวใจเธอกลับเต้นแรงผิดปกติ ใจเด็ดส่ายหน้าในความรั้นของสรนุชก่อนจะแบกขาไฟเดินตามออกไป ทันทีที่ทั้งสองเดินออกไป ชาวบ้านที่มองเห็นต่างเริ่มรวมตัวจับกลุ่มกันเม้าท์มอยทันที ข่าวกระจายไปอย่างรวดเร็ว ป้าแม้ค้าขายหมากพลูถึงกับทำตาโตอย่างตกอกตกใจ กอดกันกลางตลาดเลยเหรอวะ ลุงคนที่นั่งอยู่ในร้านกาแฟเม้าท์กับพวกบรรดาสมาชิกสภากาแฟ แถมจูบกันด้วย ขณะที่ชายในวงไก่ชนก็รับรู้ข่าวทันท่วงที มันต้องอย่างนี้ซิวะ...แหมๆ ...หัวหน้าเรานึกว่าจะผสมเทียมเก่งอย่างเดียวซะอีก...ฮ่าๆๆ ในขณะที่สองสาวรุ่นป้าสองคนกำลังคุยกันเรื่องสรนุชกับใจเด็ดเช่นกัน พูดอย่างนี้หมายความว่าไง ก็หมายความว่า...หัวหน้ากับอีหนูจากกรุงเทพฯนั่น...ปะกันแหมกันแล้วซิวะ ภายในร้านซาลอนประจำหมู่บ้าน ช่อผกาผุดลุกขึ้น เห็นฟองยาสระผมยังเต็มหัวไปหมด อ๊าย !!! ไม่จริง ช่อผกากำลังเถียงป้าทั้งสองนางและกำลังคุยกันอยู่ที่เก้าอี้ทำผม พี่เด็ดไม่มีทางชอบยัยกุ้งแห้งนั่นแน่นอน ช่อผกามั่นใจ แต่หัวหน้าเขาก็คงไม่ชอบกุ้งบ้ากราม...เอ๊ย..กุ้งก้ามกามอย่างหล่อนเหมือนกันแหละ ยายเมี้ยนว่า พูดดีๆ นะยายเมี้ยน...ผมหงอกแกน่ะไม่ต้องย้อมแล้ว...เดี๋ยวฉันถอนให้เอง ก็เข้ามาซิวะ...! หนอย...ฟังความจริงหน่อยไม่ได้...ถ้าคนไม่ได้กันเขาไม่ยืนกอดกันกลางตลาดอย่างนั้นหรอกเว้ย..! ยายเมี้ยนบอกอีก ช่อผกายิ่งจี๊ดในใจ อ๊าย ช่อผกาสุดทนแล้ว ลุกพรวดจากเก้าอี้สระผมก่อนจะเอาฟองที่เต็มหัวปาใส่บรรดาป้าๆ จนทั้งหมดแตกฮือวุ่นวาย ก่อนที่ช่อผกาจะกรี๊ดให้อีกทีแล้วเดินออกไปด้วยความโกรธเต็มที่ อรอนงค์เดินเข้ามาที่สำนักงานของสถานี ก่อนจะหยุดแล้วเริ่มซักซ้อมคำพูดกับตัวเอง วันนี้หมอจะรีดน้ำเชื้อเจ้าเพชรฉายอีกหรือเปล่าคะ... อรอนงค์เบ้หน้า อี๋...พูดไปได้ยังไง...น่าอายจริงๆ เลยเรา...เอาใหม่...เอ่อ...หมอคะ...อรอยากเห็นอรอนงค์ชะงัก ไม่ๆๆ ฉันพูดไม่ได้...ฉันจะพูดยังไงไม่ให้มีพิรุธเนี่ย อรอนงค์สีหน้าเครียดหนัก แต่แล้วจู่ๆ อรอนงค์ก็นึกออก ใช่...เราต้องสั่งจิตใต้สำนึก อรอนงค์หลับตาลง ด้วยพลังแห่งจิตใต้สำนึก...เราสามารถทำได้ทุกอย่าง ระหว่างนั้นสมหญิงเปิดประตูออกมาพอดี และรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นอรอนงค์ยืนทำท่าราวกับรำไทเก็ก จิตใต้สำนึกแห่งเราจงมอบความกล้าและพลังให้กับเราด้วย เล่นอะไรอยู่เหรอคะคุณอร อรอนงค์ชะงักค่อยๆ ลืมตา ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นสมหญิงยืนอยู่ด้านหลัง อุ้ย...เอ่อ...เปล่าจ้ะ...หมอเกริกไกรอยู่มั้ยคะ อยู่ในห้องแล็บน่ะค่ะ สมหญิงบอก อรอนงค์ รีบตัดบทด้วยความอาย ขอบคุณค่ะ อรอนงค์รีบเดินเข้าไปในสำนักงานทันที สมหญิงมองตามด้วยความสงสัย โตขนาดนี้แล้วยังเล่นเป็นยอดมนุษย์อยู่อีก ทางด้านเกริกไกรกำลังยืนเช็คความหล่ออยู่ที่หน้ากระจกภายในห้องแล็บ โดยเกริกไกรยืนดึงเสื้อออกนอกกางเกงเพื่อดูว่าแบบไหนหล่อที่สุด อืม...แบบนี้ก็ดูไม่เรียบร้อย...คุณอรต้องไม่ชอบแน่ๆ ว่าแล้วเกริกไกรก็ยัดเสื้อเข้าไปในกางเกงอีก แล้วหันมามองพิจารณาตัวเอง โอเค...แบบนี้ดีกว่า เกริกไกรหันไปวางกระบอกรีดน้ำเชื้อที่ถืออยู่บนโต๊ะ ก่อนจะถอดเข็มขัดเพื่อยัดเสื้อใส่ในกางเกงให้เรียบร้อย แต่ระหว่างที่เกริกไกรถอดเข็มขัดรูดซิปลง ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่แท่งรีดน้ำเชื้อค่อยๆ กลิ้งไป และกำลังจะตกจากโต๊ะ เฮ้ย เกริกไกรอาศัยความเร็วรีบพุ่งไปรับไว้ได้ทัน แต่แล้วทันใดนั้นอรอนงค์ก็เปิดประตูเข้ามาในห้องแล็บสถานี ภาพที่อรอนงค์เห็นอยู่ตรงหน้าก็คือ เกริกไกรถอดกางเกงแล้วถือแท่งรีดน้ำเชื้อควายอยู่ อ๊าย อรอนงค์ร้องกรี๊ดก่อนจะวิ่งออกไปด้วยความตกใจ เกริกไกรทำหน้าสงสัยก่อนจะก้มลงมองสภาพตัวเองแล้วก็เข้าใจว่าทำไมอรอนงค์ถึงได้ตกใจขนาดนั้น เฮ้ย ! คุณอร ! เดี๋ยวครับ...มันไม่ใช่อย่างที่คุณอรคิดนะครับ เวลาผ่านไป...อรอนงค์กำลังเหล่มองเกริกไกรที่กำลังอธิบายเรื่องราวด้วยสีหน้าท่าทางไม่วางใจนัก เรื่องมันก็เป็นอย่างที่บอกแหละครับ เอ่อ...ค่ะ นี่คุณอรไม่เชื่อผมใช่มั้ยครับ...ดูซิครับ...ขนาดของควายกับคนมันก็คนละไซส์กันแล้ว เกริกไกรยื่นกระบอกรีดน้ำเชื้อให้อรอนงค์ดู อรอนงค์ตกใจรีบปัดคืนทันที ไม่เป็นไรค่ะไม่ต้องดูก็ได้...อรเชื่อหมอค่ะ อรอนงค์ยิ้มหวาน จริงนะครับเกริกไกรเนื้อเต้น ค่ะ แหม...ค่อยโล่งอกหน่อยที่คุณอรไม่คิดว่าผมโรคจิตขนาดนั้น เกริกไกรนึกขึ้นได้ แล้วคุณอรไม่ได้ไปถ่ายละครกับเขาด้วยเหรอครับ อรอนงค์เพิ่งนึกได้เลยลืมข้ออ้างที่กำลังจะพูดหมด เอ่อ...คะ...คือวันนี้รู้สึก...รู้สึกใจคอไม่ค่อยดี...ก็เลยขออยู่ที่นี่ดีกว่า ใจคอไม่ค่อยดีเหรอครับ... เกริกไกรนิ่งคิดด้วยความเป็นห่วง ถ้าอย่างนั้นผมว่าคุณไปกับผมดีกว่าครับ ลุกขึ้นจะเดินออกไป อรอนงค์ไม่คิดว่าเกริกไกรจะจริงจังขนาดนี้ เอ่อ...ไม่ต้องก็ได้ค่ะ...คือ เกริกไกรชิงพูดขึ้นก่อน ไม่ต้องไม่ได้ครับ...ถ้าเรารู้สึกว่าใจคอไม่ค่อยดี...นั่นแสดงว่ากำลังจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แล้ว...แล้วหมอจะให้ฉันไปไหนเหรอคะ เกริกไกรยิ้มให้อรอนงค์แทนคำตอบ เหตุการณ์ที่บ้านผู้พันชาญณรงค์ ใบหน้าของชาญณรงค์เวลานี้กำลังถูกบิดบี้ ขยี้ขยำโดยมือของสมคิด สบายมั้ยครับนาย ชาญณรงค์ตอบทั้งๆ ที่หน้าบูดเบี้ยว ยะยะ...หยุด ว่าไงนะครับ ชาญณรงค์ลุกพรวด หยุดเว้ย ! ไอ้นี่...ข้าบอกว่าเมื่อยตัวไม่ใช่เมื่อยหน้า...เดี๋ยะ...โดนอีกยี่สิบ แต่แล้วก็ยังเมื่อยเหมือนเดิม อูยยยยย ! คอ...คอ ครับผม ชาญณรงค์ลงนั่งก่อนจะเห็นสมคิดเริ่มนวดตัวตามไหล่ สะบักด้วยท่าพิสดาร จังหวะหนึ่งสมคิดก็จับคางชาญณรงค์พร้อมบิด อย่าเกร็งนะครับผู้พัน ว่าแล้วสมคิดก็จับคอชาญณรงค์บิดเต็มแรง ชาญณรงค์ร้องลั่น อ้ากก คอบิดค้างเพราะเส้นยึด ไอ้คิด...บิดคืนเดี๋ยวนี้ อุ้ย...ขอโทษครับนาย แล้วสมคิดก็จับคอชาญณรงค์บิดคืนกลับอีกข้าง แต่เพราะออกแรงมากไปจึงทำให้เลยจุดศูนย์กลางเป็นเอียงอีกข้าง ไอ้คิด...บิดเกิน สมคิดพยายามบิดกลับ เอ่อ...นายครับ...สงสัยเส้นจะยึดบิดคืนไม่ได้แล้วครับ ชาญณรงค์ลุกขึ้นด้วยความโมโห บ้าเอ๊ย มายืนอยู่ตรงหน้าสมคิด แต่เพราะคอเอียงไปอีกด้านทำให้ไม่เห็น ไอ้คิด...อยู่ไหน สมคิดต้องวิ่งเข้ามาตรงหน้า อยู่นี่ครับนาย แล้วไง...จะให้คอข้าอยู่อย่างนี้หรือไง...ห๊า สมคิดคิดออกมาได้ เอ่อ...ไม่ต้องห่วงครับนาย...ผมรู้ว่าใครจะช่วยนายได้ เวลาเดียวกันนั้นป้าคนหนึ่งยืนเลือกซื้อมะนาวอยู่ ระหว่างนั้นเห็นลุงคนหนึ่งเดินพ้นฝูงคนออกมาจากด้านหลังก่อนจะเดินเข้ามาหาป้า ลุงคนนั้นเดินเข้ามาหยุดที่ด้านหลังของป้าอย่างเนิ่นนานโดยไม่พูดไม่จาใดๆ ทันใดนั้นเสียงของสุบินก็ดังขึ้น คัท สุบิน สรนุช ใจเด็ด และเจนจิราพร้อมด้วยชาวบ้านยืนออกันอยู่ด้านหลัง สุบินรีบวิ่งเข้ามาหาลุงกับป้า ทำไมไม่พูดละลุง ก็ไอ้ที่เอ็งให้ข้าพูดมันยาวนี่...ใครจะไปจำได้ ลุงโวยกลับ สุบินเซ็งเป็ด งั้นเอางี้นะลุง...ลุงไม่ต้องพูดตามบทแล้ว...เอาเป็นว่า...ถ้าลุงจากบ้านเกิดไปอยู่กรุงเทพฯเป็นหลายสิบปี...แต่พอกลับมาที่นี่แล้วพบว่าผู้หญิง...ก็คือป้าคนนี้ที่เป็นรักแรกของลุงยังคงเฝ้ารอลุงอยู่...ลุงอยากบอกอะไรกับป้า...ลุงก็บอกไป โอ๊ย...ถ้าอย่างนี้ก็สบาย ลุงว่า ใจเด็ดถามสรนุชด้วยความอยากรู้ ละครคุณมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร สรนุชอึ้ง เพราะตนไม่รู้เหมือนกันเลยมั่วไป ก็...ก็...ผู้ชายคนหนึ่งจากบ้านเกิดไปเพื่อตามหารักแท้...แต่สุดท้ายเขาเพิ่งรู้ว่ารักแท้ที่เขาตามหาก็คือผู้หญิงคนที่รอเขาอยู่ที่นี่ ใจเด็ดได้ยินอย่างนั้นก็นิ่งไป สรนุชเหล่มองท่าทีของใจเด็ด ส่วนเจนจิราก็แอบมองใจเด็ดและสรนุชเช่นกัน เอ่อ...ไม่ชอบเหรอ สรนุชถาม เปล่าหรอก...ผมอยากให้คนที่นี่...หรือคนที่จังหวัดอื่นเขาได้ดูละครเรื่องนี้เร็วๆ...เขาจะได้ไม่ได้ต้องขวนขวายพาตัวเองเข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯน่ะ ใจเด็ดว่า สรนุชหันหน้าไปอีกทาง แล้วพูดกับตัวเองเบาๆ อินซะงั้น เสียงของสุบินสั่งเดินเทปดังขึ้น สาม...สอง...หนึ่ง ทุกคนจ้องมองลุงที่เดินมาที่ป้าเป็นตาเดียว ใจเด็ดเองก็ลุ้นเหมือนกับว่าเป็นตัวเอง ลุงเข้ามาหยุดที่หลังป้าก่อนจะถามขึ้นมา ยังไม่ตายอีกเหรอนังปลิก ทุกคนถึงกับเซแทบล้มกับคำพูดของลุง ชาวบ้านที่มุงดูหัวเราะกันลั่น สุบินถึงกับกุมขมับ ช่อผกาเดินหัวเปียกเนื่องจากยังไม่ล้างยาสระผมออก ด้วยสีหน้าหงุดหงิดมาตามทาง อยู่ไหนเนี่ย..! ระหว่างนั้นช่อผกาเห็นเด็กๆ กำลังวิ่งสวนเธอออกไปก็สงสัย ช่อผกาคว้าแขนเอาไว้คนหนึ่ง ไปไหนกัน ปล่อยนะป้า เด็กบอก ป้า..?! แกเรียกใครว่าป้า ช่อผกาโมโหสุดๆ ก็ป้านั่นแหละ...ปล่อยซิ...เดี๋ยวก็ไปดูเขาถ่ายละครไม่ทันหรอก ว่าแล้วเด็กก็สะบัดมือสุดแรงจนหลุดจากมือช่อผกา ก่อนจะวิ่งจู้ดออกไป ช่อผกามองตามรู้ด้วยแววตาเอาเรื่อง สุบินกับสรนุชกำลังปรึกษากัน ฉันว่าอย่างนี้ไม่รอด สุบินบอก แกก็ถ่ายๆไปเถอะน่า...ยังไงก็ไม่ได้ใช้อยู่ดี สรนุชว่าไปส่งๆ ระหว่างนั้นใจเด็ดเดินเข้ามาพร้อมกับเจนจิรา ผมว่าลองให้ลุงกับป้าแกลองเล่นดูอีกทีเถอะครับ...ตอนนี้แกอาจจะยังไม่ชิน ไม่ไหวหรอกครับ...เล่นไม่ได้ก็คือเล่นไม่ได้...ถึงเล่นได้มันก็จะออกมาไม่ธรรมชาติ สุบินว่า แล้วทำไมคุณไม่ลองเล่นให้ลุงแกดูก่อนละ...ถ้าลุงแกรู้ว่าต้องเล่นยังไง...แกอาจเล่นได้ก็ได้ สุบินได้ยินที่เจนจิราพูดก็นึกออก จริงด้วยครับ...เอ่อ...คุณใจเด็ดช่วยเล่นให้แกดูหน่อยได้มั้ยครับ ใจเด็ดตกใจ ห๊า ! เอ่อ...ผมว่าผมคงไม่ถนัดเรื่องการแสดงเท่าไหร่ สรนุชได้ทียุส่ง ไม่ยากหรอกน่า...นายก็แค่ทำเหมือนตอนที่นายอยู่กับคนอื่นแค่นั่นแหละ ใจเด็ด หมายความว่าไง สุบินรีบตัดบทเพราะกลัวทั้งคู่จะทะเลาะกัน นะครับคุณใจเด็ด...เดี๋ยวผมให้ยัยนุช...เล่นเป็นป้าคนนั้นด้วย สรนุชเคลิ้มตอบทันที ได้...ไม่มีปัญหา แต่แล้วก็นึกได้ ห๊า ! อะไรนะ ใจเด็ดสวนกลับ ไม่ยากหรอกน่า...คุณก็แค่ทำตัวเหมือนตอนที่คุณอยู่ต่อหน้าคนอื่นแค่นั่นแหละ ว่าแล้วใจเด็ดก็ยิ้มกวนให้สรนุช ในขณะที่สรนุชหันไปแยกเขี้ยวใส่สุบิน สุบินไม่ได้สนใจสรนุช หันไปบอกเจนจิรา ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องรบกวนคุณเจนเป็นตากล้องให้ด้วยนะครับ เจนจิราอึ้ง ห๊า ทุกคนพร้อมนะ สุบินไม่สนใจ หันไปสั่งแบบเผด็จการเสร็จสรรพ แล้วเดินออกไปเตรียมความพร้อม ขณะที่เจนจิราก็แอบมองภาพใจเด็ดกับสรนุชคู่กันด้วยความรู้สึกจี๊ดในใจขึ้นมา เวลาผ่านไป ในขณะที่สรนุชกำลังเดินเลือกซื้อของในตลาด ระหว่างนั้นใจเด็ดเดินฝ่าฝูงชนเข้ามาก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นสรนุชจากทางด้านหลัง ฉันกลับมาแล้ว สรนุชได้ยินเสียงของใจเด็ดก็ถึงกับทำมะนาวหล่น แล้วค่อยๆ หันมาแล้วเห็นใจเด็ด สุบินจ้องมองมอนิเตอร์อย่างมีอารมณ์ร่วม ส่วนเจนจิราตากล้องจำเป็นก็รู้สึกขมคอบาดตากับภาพตรงหน้า สรนุชแสดงต่อ...สรนุชกับใจเด็ดค่อยๆ เดินเข้ามาหากันเหมือนมีแม่เหล็กดูดดึง ก่อนที่สรนุชจะทิ้งทุกอย่างในมือแล้วโผเข้ากอดใจเด็ด ทันใดนั้นเสียงตบมือของชาวบ้านก็ดังขึ้นด้วยความดีใจ ขณะที่เจนจิราถึงกับทนดูไม่ได้เดินหนีออกไป สุบินพูดกับเจนจิราแต่ตามองมอนิเตอร์ ถ่ายไว้นิ่งๆ นะครับ จังหวะนั้นสุบินเห็นภาพในมอนิเตอร์สั่นก็หันขวับไปทางเจนจิรา จึงได้เห็นว่าเจนจิราทิ้งกล้องแล้วเดินออกไป อ้าว...คุณเจน...คุณเจน สุบินมองไปที่หน้าเซ็ทก่อนจะตัดสินใจวิ่งตามเจนจิราออกไป สรนุชตกอยู่ในอ้อมกอดของใจเด็ดเองก็รู้สึกหวิวๆ พิกล เช่นเดียวกันกับใจเด็ด ก่อนที่สรนุชจะรีบเปลี่ยนความรู้สึกนั่น พอได้แล้ว ได้ยังไง...ก็เขาบอกว่าให้เล่นจนกว่าจะได้ยินเสียงคัทนี่ แต่ทันใดนั้นเองเสียงกรี๊ดของช่อผกาก็ดังแผดสนั่นแทรกทุกอย่างขึ้นกลางวง อ๊ายยย ทุกคนถึงกับแหวกช่องไปตามเสียง เห็นช่อผกากรีดร้องราวกับผีเข้า แก...นังหน้าด้าน ช่อผกาปรี่เข้ามาหาสรนุชกับใจเด็ดทันที ใจเด็ดเข้าขวางไว้ ผกา...ฟังพี่ก่อน ช่อผกาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ผลักใจเด็ดจนเซออกไป แล้วตรงเข้าไปจะตบสรนุช แต่สรนุชระวังตัวอยู่แล้วจึงหลบทัน ทำให้ช่อผกาเสียหลักไปชนกับกลุ่มชาวบ้านไทยมุง กลุ่มชาวบ้านผลักช่อผกาเข้ามาในวงพร้อมกับส่งเสียงเชียร์ ช่อผกากับสรนุชต่างโรมรันพันตู กระชากจิกตบกันอย่างเอาเป็นเอาตาย พอช่อผกาตบสรนุช สรนุชก็ตบกลับ จังหวะหนึ่งช่อผกาเสียหลักเซไปโดนแผงไข่ ช่อผกาหันไปหยิบไข่มาระดมปาสรนุชโดนบ้างไม่โดนบ้าง หยุดเดี๋ยวนี้นะผกา สรนุชโกรธจัด ไม่...นังนี่มันแย่งพี่เด็ด...ผกาจะสั่งสอนให้มันรู้ว่าอย่ามายุ่งกับของของผกา สรนุชเองก็หันไปหยิบขนมเค้ก ที่ตัดแบ่งขายเป็นชิ้นเล็กๆ มาปาใส่ช่อผกาอย่างไม่ยอมแพ้ จนในที่สุดก็เห็นชัดสรนุชกับช่อผกาต่างเละด้วยกันทั้งคู่ ช่อผการะดมปาไข่ใส่สรนุชจนเห็นว่าไข่ใบหนึ่งโดนเข้าเต็มหน้าของสรนุช สรนุชมองไม่เห็นช่อผกาจึงได้โอกาสที่จะตามเข้าไปซ้ำ แต่แล้วทันใดนั้นช่อผกาก็เหยียบเข้ากับเค้กและไข่ที่เกลื่อนเต็มพื้น ทำให้ช่อผกาเสียหลัก ว้าย ช่อผกาเสียหลัก แทนที่จะวิ่งเข้าไปหาสรนุชที่กำลังมองไม่เห็น แต่เธอกลับพุ่งเข้าไปที่ร้านปลากริมไข่เต่า ช่อผกาจะเสียหลักเอาหัวจุ่มลงไปในหม้อปลากริม ชาวบ้านหัวเราะกันชอบใจที่ช่อผกาดึงหัวตัวเองออกจากหม้อปลากิมไม่ได้ ใจเด็ดรีบเข้ามาหาสรนุชทันที แต่สรนุชกลับสะบัดมือของใจเด็ดก่อนจะเดินออกไป ใจเด็ดรีบเดินตามสรนุชออกไป ปล่อยให้ช่อผกาเดินชนโน่นชนนี่พร้อมกับเสียงหัวเราะอย่างสะใจของชาวบ้าน ด้วยความโมโห สรนุชเดินอาดๆ ออกมาห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุ โดยมีใจเด็ดวิ่งตามเข้ามาด้านหลัง เดี๋ยวก่อนคุณ...คุณ สรนุชยังเดินหนีใจเด็ดไม่สนใจ จนใจเด็ดต้องดึงมือสรนุชเอาไว้ จะไปไหน ไปไหนก็ได้ให้ห่างจากแฟนโรคจิตของนาย ใจเด็ดถอนหายใจด้วยความเหนื่อยใจ ผมขอโทษ หึ...นายขอโทษให้แฟนนายเหรอ ใจเด็ดสบตา เหมือนรู้สึกผิด ผมขอโทษที่ดูแลคุณไม่ได้ สรนุชได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกวาบหวิวพิกล ระหว่างนั้นเสียงช่อผกาดังโหวกเหวกขึ้น พี่เด็ด...พี่เด็ดอยู่ไหน ใจเด็ดได้ยินเสียงช่อผกาก็รีบดึงสรนุชหลบเข้าไปในซอกแคบ จนทำให้ใจเด็ดกับสรนุชแทบจะหายใจรดต้นคอ สรนุชแอบมองใจเด็ด เธอไม่เคยเห็นเขาใกล้ขนาดนี้มาก่อน เมื่อช่อผกาวิ่งเลยผ่านซอกแคบที่ใจเด็ดกับสรนุชหลบอยู่ออกไป ใจเด็ดกับสรนุชจึงค่อยๆ ออกมา สรนุชเดินออกมา ใจเด็ดรีบเข้ามาถาม เดี๋ยวคุณ คนที่นายควรดูแลไม่ใช่ฉัน...แต่เป็นแฟนนาย...ทีหลังถ้านายจะพาแฟนนายออกจากบ้านช่วยเอาตะกร้อครอบปากไว้ก่อนก็ดี สรนุชเดินออกไปด้วยสภาพเละเทะสุดๆ ใจเด็ดมองตามด้วยความเหนื่อยใจ ด้านสุบินเดินตามหาเจนจิรามาตามทาง ไปไหนของเขาวะ สุบินเดินพ้นต้นไม้ออกมาก็เห็นเจนจิรายืนสงบสติอารมณ์อยู่ลำพังคนเดียว สุบินเดินเข้ามาหาเจนจิรา เจนจิราได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา ก็รีบหันขวับกลับไปเพราะคิดว่าเป็นใจเด็ดมาตาม หั... แล้วเสียงก็หายไปในลำคอ และชะงักไปเมื่อเห็นว่าเป็นสุบิน คุณสุบิน เป็นไรหรือเปล่าคุณ...เห็นอยู่ๆ ก็เดินออกมา เปล่า...ฉันแค่เห็นคนเยอะแล้วมันอึดอัด สุบินเหล่มองเจนจิราก็พอจะรู้ว่าเจนจิราต้องรู้สึกอะไรบางอย่างกับใจเด็ด แต่ยังไม่แน่ใจจึงลองถามหยั่งเชิงดู แน่ใจนะว่าเห็นคนเยอะ...ผมนึกว่าคุณเห็นแค่คุณใจเด็ดกับยัยนุชเท่านั้น อะไร เจนจิราหงุดหงิด เปล๊า...ก็คนที่เป็นตากล้องเขาไม่สนใจอย่างอื่นนอกจากที่อยู่ในเฟรมเท่านั้น...แล้วอีกอย่างไม่ว่าภาพที่อยู่ในเฟรมจะเกิดอะไรขึ้น...หน้าที่ของคนเป็นตากล้องก็คือต้องทนกับสิ่งที่ตัวเองเห็นให้ได้ คำพูดของสุบินยิ่งทำให้ความหงุดหงิดของเจนจิราเพิ่มขึ้น คุณบอกในสิ่งที่ฉันต้องรู้แล้ว...คราวนี้ฉันจะบอกในสิ่งที่คุณต้องรู้เหมือนกัน โอเค ฉันเป็นสัตวบาล...ไม่ใช่ตากล้อง เจนจิราพูดจบก็เดินผ่านสุบินออกไป สุบินหันมองตามอย่างอึ้งๆ โอเค ส่วนสมคิดพาชาญณรงค์ที่เดินคอเอียงมาตามทาง ระหว่างนั้นสมคิดหยุดแล้วหันมาบอกกับชาญณรงค์ ถึงแล้วนาย ชาญณรงค์มองไปที่บ้านหลังหนึ่ง มีป้ายติดหน้าบ้านหราว่าคลินิคสัตว์ ไอ้คิด..! พาข้ามาหาหมอหมาทำไม สมคิดหันมาเห็นชาญณรงค์ที่คอเอียงเลยมองผิดทาง อุ้ย สมคิดรีบวิ่งเข้ามาหาชาญณรงค์แล้วจับบิดตัว ไม่ใช่ครับนาย...ทางนี้ครับ สมคิดค่อยจับชาญณรงค์บิดตัวหันมองบ้านอีกหลังที่อยู่ตรงข้าม คราวนี้ชาญณรงค์เห็นว่าเป็นบ้านของมหาเหม็นนั่นเอง เอ็งพาข้ามาหาไอ้เหม็นทำไม เวลาต่อมามหาเหม็นหลับตาพนมมือทำปากขมุบขมิบไหว้ครู ก่อนจะเป่าใส่หน้าชาญณรงค์และสมคิดที่นั่งอยู่ เสียงดังฟู่ !!! ชาญณรงค์กับสมคิดทำหน้าเบ้ สมคิดกระซิบกับชาญณรงค์ ผมว่าผมพอจะรู้แล้วครับว่าทำไมถึงได้ชื่อมหาเหม็น มหาเหม็นลืมตาขึ้นหลังจากทำพิธีไหว้ครูเสร็จ ผู้พันอาจจะไม่รู้ว่า...เท้าคือศูนย์รวมเส้นประสาททั้งหมดในร่างกายของคนเรา ว่าแล้วมหาเหม็นก็จับชาญณรงค์นอนลงก่อนจะจับเท้าชาญณรงค์ยกขึ้น เฮ้ย...เบาหน่อยมหา ของอย่างนี้ถ้าเบามันก็จะไม่ถึง ทันใดนั้นมหาเหม็นก็กดลงไปที่ฝ่าเท้าของชาญณรงค์ ชาญณรงค์ถึงกับร้องจ๊ากดิ้นพล่าน เบาเว้ยมหา..! เป็นไงละ...รู้สึกจิ๊ดไปที่กระเบนเหน็บเจ็บไปที่เอวละซิ...ทนอีกนิดเว้ยผู้พัน...ตอนนี้ละถึงจุดสำคัญแล้ว ว่าแล้วมหาเหม็นก็เงื้อมือที่กำเป็นมะเหงกมาแต่ไกล กระแทกเข้าไปที่ฝ่าเท้าของชาญณรงค์ อ้าก ครู่ต่อมาชาญณรงค์นอนหายใจหอบเหนื่อย ก่อนจะรู้สึกว่าคอตัวเองกลับมาตั้งตรงได้เหมือนเดิมแล้ว เฮ้ย ! ตรงแล้ว...คอข้ากลับมาตรงแล้วเว้ย จริงด้วยนาย...โห...มหาเหม็นนี่สุดยอดจริงๆ สมคิดหันชื่นชมมหาเหม็น แต่กลับเห็นว่ามหาเหม็นกำลังจ้องที่เท้าของชาญณรงค์ตาเขม็ง ก่อนจะจับเท้าของชาญณรงค์ยกขึ้นอย่างพิจารณา พอเลยๆ...ข้าหายแล้ว ชาญณรงค์จะดึงเท้าออก มหาเหม็นดึงเท้ากลับ ช่วงนี้รู้สึกว่าดวงไม่ค่อยดีใช่มั้ยผู้พัน ทำไมเหรอมหา ก็ดูซิ...เส้นมฤตยูโคจรเข้ามาที่ตาปลา...โบราณท่านว่ามันคือเส้นวินาศ...พักนี้ผู้พัน...มักจะมีเรื่องมีราว..ทั้งศัตรูในที่ลับแล้วก็ที่แจ้งใช่มั้ย สมคิดได้ฟังแล้วก็คิดแทน ใช่เลยมหา หันไปบอกกับชาญณรงค์ ไอ้ใจเด็ดไงนาย เออว่ะ... ชาญณรงค์พูดกับมหาเหม็น ...พักนี้ไม่รู้เป็นไง...ไอ้ใจเด็ดมันถึงได้ขัดคอขัดลาภฉันไปซะทุกเรื่อง...มหาพอจะมีวิธีที่ทำให้มันไม่ต้องมายุ่งกับฉันได้มั้ย ไม่ต้องห่วง...ผู้พันก็แค่หาสัตว์สองเท้ามาอยู่ใกล้ๆ ก็พอ สัตว์สองเท้า..? สมคิดนึกได้ อ๋อ...นกกรงหัวจุกหรือมหา ผู้หญิงเว้ย มหาเหม็นว่า ชาญณรงค์ได้ยินอย่างนั้นก็หูผึ่งทันที เฮ้ย...นี่มหากำลังจะบอกให้ฉันมีเมียใหม่หรือไง ใช่...ถ้าผู้พันอยากให้หมดเรื่องทุกข์ใจ...ผู้พันต้องหาผู้หญิงคนนั้นให้เจอ... มหาเหม็นจ้องเท้าเขม็ง นั่นไง...ฉันเห็นแล้ว...ผู้หญิงคนนั้นงามมาก...งามราวกับนางฟ้า นางฟ้า ชาญณรงค์ครุ่นคิดตามที่มหาเหม็นบอก เวลาเดียวกันเกริกไกรอยู่ที่วัด และกำลังยื่นกระบอกเซียมซีให้กับอรอนงค์เขย่าเสี่ยงทาย ลองดูซิครับคุณอร...เซียมซีที่วัดนี้แม่นมากนะครับ...อย่างคราวที่แล้วเซียมซีบอกกับผมว่า...ผมจะได้สามตัวเน้นๆ...แล้วผมก็ได้จริงๆ ครับ อรอนงค์หูผึ่ง หวยเหรอคะ เกริกไกรส่ายหน้า ลูกควายน่ะครับ...ไอ้โหน่งท้ายตำบลเอามาฝากเลี้ยงเพราะเลี้ยงไม่ไหวน่ะครับ ยื่นเซียมซีให้ ลองดูซิครับ อรอนงค์รับกระบอกเซียมซีไป ก่อนจะพนมมือหลับตาอธิษฐานแล้วเริ่มเขย่าๆ เกริกไกรมองอรอนงค์เขย่าอยู่นานแต่ไม้ก็ไม่หล่นออกมาซะที โทษนะครับคุณอร...คุณอรลองเขย่าแบบผมดูมั้ยครับ เกริกไกรรับกระบอกเซียมซีมา แต่กลับเขย่าร่างตัวเอง ไม่ยอมเขย่ากระบอกเซียมซี อรอนงค์ งง หือ..? ผมล้อเล่นครับ...คุณอรจับอย่างนี้ซิครับ ว่าแล้วเกริกไกรก็ทำมือให้อรอนงค์ อรอนงค์ทำมือตาม อย่างนั้นแหละครับ...คุณอรลองซิครับ จังหวะที่เกริกไกรจัดแจงจัดท่าให้อรอนงค์ ทำให้มือของทั้งสองโดนกัน เกริกไกรถึงกับชะงักรีบชักมือกลับพลางขอโทษ อุ้ย...ขอโทษครับ ไม่เป็นไรค่ะ แล้วอรอนงค์ก็เริ่มเขย่าตามที่เกริกไกรบอก ไม่นานเซียมซีก็หล่นออกมาจากกระบอก อรอนงค์ ดีใจ หล่นแล้ว ด้วยความดีใจทำให้อรอนงค์ไม่ทันระวังจึงยกมือดีใจเต็มที่ ทำให้ไม้เซียมซีในกระบอกหล่นกระจายจนคละกันไปหมด อุ้ย...แล้วของอรอันไหนคะ เกริกไกรมองอรอนงค์แล้วยิ้มอย่างเอ็นดู เกริกไกรหยิบกระดาษหมายเลขเซียมซีออกจากช่อง คุณอรอ่านเซียมซีเป็นมั้ยครับ อรอนงค์ ส่ายหน้า ถ้างั้นผมขออนุญาตแปลให้ฟังนะครับ...แฮ่ม...ใบที่เก้าขอเล่าให้ฟังว่า...วาสนามาดีบังเกิดผล...ทำสิ่งใดจะสำเร็จคนนิยม...จะชื่นชมยินดีเปรมปรีย์ใจ...เอ่อ..เขาบอกว่าเรื่องการงานของคุณอรก็งั้นๆแหละครับ อรอนงค์ทำหน้างง..เพราะเท่าที่ฟังมันก็ดีนี่นา ดูนี่ดีกว่าครับ...น่าสนใจกว่าเยอะ เกริกไกรมองใบเซียมซีก่อนจะเหล่มองอรอนงค์แล้วเริ่มอ่าน ถามถึงคู่...ชู้ชื่นระรื่นจิต...อย่าได้คิดมีใครกับใครเขา... ตั้งใจพูดบอกกับอรอนงค์ เขาบอกว่าเนื้อคู่ของคุณอรจะทำงานเกี่ยวกับเขาน่ะครับ...อ๋อ...ผมรู้แล้วครับ...ควายไงครับ...ควายมีเขา...เนื้อคู่คุณอรต้องทำงานเกี่ยวกับควายแน่นอนครับ เอ่อ...ใช่เหรอคะ อรอนงค์ไม่อยากเชื่อ ใช่ซิครับ...มาครับ...เดี๋ยวผมแปลให้ฟังต่อ...ดวงชะตาชาตินี้มีแต่เรา...ต้องทนเหงาเปล่าเปลี่ยวอยู่เอกา... เกริกไกรแปลกใจ เอ...เอกานี่มันเป็นยังไงครับคุณอร...แล้วใครมันจะอยู่ที่เอกาได้...ผมว่าเซียมซีต้องพิมพ์ผิดแน่นอน... เกริกไกรเริ่มนึกออก ผมรู้แล้วครับ...เซียมซีเขาต้องบอกว่ากราวด์แน่ๆเลย...อยู่เอกราวด์...ก็ต้องแปลว่าต้องเป็นคนที่ใส่ชุดกราวด์...หมอไงครับ...หมอใส่ชุดกราวด์...แล้วเมื่อรวมกับประโยคแรก...ว่าต้องเป็นคนที่ทำงานกับควาย...ถ้างั้นเนื้อคู่ของคุณอร...ต้องเป็นหมอรักษาควายแน่นอนครับ...ฟันธง เกริกไกรยิ้มให้อรอนงค์เหมือนจะบอกอรอนงค์ว่าเขาคือคนที่ในเซียมซีบอกนั่นเอง ส่วนอรอนงค์ได้แต่ทำหน้าเซ็งที่เกริกไกรเล่นแปลทุกอย่างเข้าหาตัวเองหมด ส่วนทางด้านสรนุชกับใจเด็ดยืนรอสุบินกับเจนจิราอยู่ที่รถ ลูกน้องนายพาเพื่อนฉันไปไหนเนี่ย เจนเป็นรุ่นน้องผมไม่ใช่ลูกน้อง...แล้วทำไมไม่คิดว่าเพื่อนคุณพาเจนไปไหนละ สรนุชหมั่นไส้ ชิ... สรนุชหันไปหยิบกระเป๋าเล็กๆที่มีสบู่และเครื่องอาบน้ำขึ้นมาก่อนจะหยิบขวดน้ำขึ้นมาล้างหน้า ส่วนใจเด็ดก็หันมองไปรอบๆเพื่อมองหาเจนจิรา สรนุชล้างสบู่เสร็จก็จะหยิบขวดน้ำแต่ด้วยความที่เธอไม่ลืมตาทำให้มือของเธอควานไปโดนขวดน้ำจนล้มลง น้ำ...น้ำอยู่ไหน ใจเด็ดมองไปที่สรนุชกำลังควานหาขวดน้ำแล้วเห็นว่าขวดน้ำล้มจนหกหมดก็ส่ายหน้า โอ๊ย...นี่...หาน้ำมาให้หน่อยซิ...ฉันแสบตาแล้ว ใจเด็ดยิ้มมุมปากอย่างขำๆ เร็วซิ..! นี่คุณ...เวลาขอร้องคนอื่นน่ะหัดพูดให้มันเพราะๆ หน่อย ใจเด็ดเอ็ดเอา โอ๊ย...อย่าเพิ่งเล่นตอนนี้ได้มั้ย...น้ำ...น้ำอยู่ไหน สรนุชเริ่มวิ่งพล่าน ใจเด็ดส่ายหน้าก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถ แล้วหยิบขวดน้ำจากใต้เบาะที่นั่งมา มานี่ ใจเด็ดดึงสรนุชเข้ามาก่อนจะเอามือจับหน้าสรนุช แล้วราดน้ำลงไปที่หน้า สรนุชรีบล้างตาทันที ใจเด็ดมองใบหน้าของสรนุชที่พราวไปด้วยน้ำนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ระหว่างนั้นสรนุชลืมตาได้พอดี สรนุชโล่งอก เฮ้อ...ค่อยยังชั่ว แล้วอึ้งไป เมื่อหันมาเห็นใจเด็ดมองหน้าเธออยู่ มองไร... ใจเด็ดยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงของโชคชัยก็ดังขึ้น คุณนุช ใจเด็ดกับสรนุชหันไปก็เห็นโชคชัยกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามา เป็นยังไงบ้างครับ...ผมเพิ่งรู้เรื่องจากชาวบ้านว่าคุณนุชมีเรื่องกับช่อผกา คะ... สรนุชหันไปมองใจเด็ดแล้วพูดกระแทกเสียง เรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะค่ะ แล้วคุณนุชบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า...ให้ผมพาไปอนามัยตรวจดูหน่อยมั้ยครับ โชคชัยห่วงเว่อร์ ไม่เป็นไรหรอกคะ...ถ้าจะเป็น...ก็คงจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ใจเด็ดเหล่มองสรนุชรู้ว่าสรนุชว่ากระแทกเขา โชคชัยถามอย่างพาซื่อ คุณนุชโดนหมากัดด้วยเหรอครับ อ๋อ...เปล่าค่ะ โชคชัยพูดกับใจเด็ด นายต้องทำอะไรอีกหรือเปล่า ก็รอเจนกับคุณสุบิน...ไม่รู้ว่าสองคนนั้นไปไหนกัน ถ้าอย่างนั้นฉันอยากพาคุณนุชกลับไปที่สถานีก่อน...ฉันกลัวว่าถ้าช่อผกาอยู่แถวนี้เดี๋ยวจะเป็นเรื่องอีก โชคชัยหวังดี อุ้ย...ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไม่ได้หรอกครับ...ความปลอดภัยของทุกคนเป็นหน้าที่ของผม...ไปครับ...รถผมอยู่ทางโน้น สรนุชหันมองใจเด็ด เห็นใจเด็ดหน้านิ่งไม่แสดงความรู้สึกอะไร สรนุชเลยเชิดหน้าเดินผ่านใจเด็ดตามโชคชัยออกไป ครั้นเมื่อสรนุชกับโชคชัยออกไป ใจเด็ดจึงค่อยๆ หันมองตามสรนุชด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เขาเองก็บอกไม่ถูก ฟากชาญณรงค์กับสมคิดเดินเข้ามาในวัด ฉันไม่ได้มาวัดนานแค่ไหนแล้ว เท่าที่กระผมจำได้...ครั้งสุดท้ายตอนงานศพนายหญิงครับ นานขนาดนั้นเลยเหรอวะ...ถ้ามหาเหม็นไม่บอกให้สะเดาะเคราะห์...ฉันคงไม่ได้มาอีกนาน ชาญณรงค์เริ่มสงบเยือกเย็น ไอ้คิด...แกรู้สึกสงบเยือกเย็นเหมือนฉันมั้ย สมคิดก้มลงมองที่ขาของชาญณรงค์ พยายามจะบอก เอ่อ...นายครับ ชาญณรงค์หลับตา อย่าเพิ่งขัดได้มั้ย...ฉันกำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศ แต่ผมว่ามันไม่ใช่บรรยากาศนะครับนาย ชาญณรงค์เหล่มองสมคิด สมคิดเลยชี้ไปที่เท้าของชาญณรงค์ ก่อนที่ชาญณรงค์จะเห็นว่าตัวเองยืนอยู่บนแอ่งน้ำนั่นเอง ไอ้นี่ ! แล้วไม่บอกวะ ชาญณรงค์จะไล่เตะสมคิด จังหวะนั้นเองชาญณรงค์ก็เห็นเกริกไกรกับอรอนงค์เดินเข้ามา เกริกไกรกับอรอนงค์เองก็ชะงักไปเมื่อเห็นชาญณรงค์เช่นกัน มาผิดที่หรือเปล่าผู้พัน...ที่นี่ไม่มีบ่อนไก่ชนนะ เกริกไกรแซว ชาญณรงค์ยั๊ว ทำไม...คนอย่างข้าจะมาวัดไม่ได้หรือไงวะ ได้น่ะมันได้...แต่เอ...นี่ผู้พันรู้หรือเปล่าว่าเขาพนมมือไหว้พระกันยังไง ทำไมจะไม่รู้...อย่างนี้ไง ว่าแล้วชาญณรงค์ก็ยกมือขึ้นพนมก่อนจะยกมือไหว้โชว์เกริกไกร เกริกไกรเข้าไปตบบ่าชาญณรงค์ ดีมาก...รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ชาญณรงค์เพิ่งรู้ว่าเสียทีเกริกไกร ไอ้นี่...วอนตายซะแล้ว หันไปบอกสมคิด สั่งสอนมันซิ สมคิดปราดเข้าไปแยกระหว่างเกริกไกรกับอรอนงค์ สมคิดกับอรอนงค์เกือบจะล้มไปด้วยกัน คุณอร สมคิดได้ยินก็ชะงักมือ เกริกไกรรีบวิ่งเข้าไปเอาตัวบังอรอนงค์เอาไว้ คุณอรไม่เป็นไรน่ะครับ ชาญณรงค์โมโห ไอ้คิด...แกขัดคำสั่งฉันหรือไง ผู้พัน...ผมว่าเราปล่อยพวกมันไปก่อนเถอะครับ ขณะที่ชาญณรงค์กับสมคิดทะเลาะกันเอง อรอนงค์รีบสะกิดบอกเกริกไกร ไปเถอะค่ะ เกริกไกรพยักหน้า ก่อนจะอาศัยจังหวะที่ชาญณรงค์กับสมคิดทะเลาะกัน ค่อยๆ เดินออกไป ไอ้คิด...ขัดคำสั่งข้าเดี๋ยวก็สั่งขังลืมเลยไอ้นี่...เห็นมั้ยว่ามันหยามศักดิ์ศรีข้า ชาญณรงค์หันไปทางเกริกไกรแล้วก็พบว่าไม่อยู่แล้ว โธ่เว้ย... ยกขาจะเตะสมคิด มานี่เลย ฟังผมก่อนซิครับนาย...นายยังจำที่มหาเหม็นบอกว่านายจะมีนางฟ้ามาช่วยเรื่องไอ้ใจเด็ดได้มั้ยครับ ชาญณรงค์ชะงักไป ทำไม ก็ผู้หญิงคนที่มากับหมอเกริกไกรชื่ออะไรครับ เห็นว่าชื่ออรอนงค์อะไรนี่แหละ...มีอะไร ชาญณรงค์สงสัย นั่นไง...โห...มหาเหม็นช่างแม่นอะไรอย่างนี้...นายครับ...ผู้หญิงคนนั้นแหละครับคือนางฟ้าที่มหาเหม็นบอก สมคิดบอกอย่างมั่นใจ ไม่เข้าใจเว้ย...จะบอกอะไรก็บอกมาให้หมดซิวะ เอ้า...ก็ออน (ON) แปลว่าอะไรครับ บน ชาญณรงค์บอก ส่วนอนงค์ก็แปลว่าผู้หญิง...แล้วผู้หญิงอะไรที่อยู่ข้างบนละครับ สมคิดชี้ขึ้นฟ้า ก็นางฟ้าไง แล้วชาญณรงค์ก็นึกออก เออว่ะ...ถ้าอย่างนั้นยัยหนูนั่นก็... ชาญณรงค์มองไปทางที่อรอนงค์ แล้วอึ้งไป เวลาเดียวกันโชคชัยเดินมาส่งสรนุชที่หน้าเรือนรับรอง ขอบคุณที่มาส่งนะคะ ยินดีเสมอครับ...ส่วนเรื่องช่อผกา...เดี๋ยวผมจะไปบอกกับเธอเองว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ไม่ใช่ผิดธรรมดานะคะ...อย่างนี้เขาเรียกว่าหลงผิดคิดสั้น...เห็นกงจักรเป็นดอกบัว...ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าผู้ชายอย่างนายใจเด็ดมีดีอะไรทำไมถึงได้หลงรักหัวปักหัวปำขนาดนั้น โชคชัยฟังแล้วขำ เรื่องความรักมันไม่มีเหตุผลหรอกครับ จริงๆ นะคะ...ถ้าเป็นอย่างคุณโชคชัยก็ว่าไปอย่าง สรนุชพูดโดยไม่ตั้งใจ โชคชัยชะงักไป สรนุชบอกต่อ คุณโชคชัยทั้งใจดีทั้งเป็นสุภาพบุรุษ...ฉันว่าผู้ชายที่ผู้หญิงอยากแย่งกันน่าจะเป็นคุณโชคชัยมากกว่า พอยิ่งพูดยิ่งหงุดหงิดก่อนจะรู้ว่าตัวเองพูดมากไป อุ้ย...ฉันก็แค่ระบายให้มันหายหงุดหงิด...ไม่ว่าอะไรนะคะ ครับ...ถึงคุณนุชจะบ่นถึงพรุ่งนี้ผมก็อยู่ฟังได้ คุณโชคชัยนี่น่ารักจริงๆ เลย...ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่มาส่ง...ฉันไปก่อนนะคะ สรนุชโบกมือให้โชคชัยก่อนจะรีบวิ่งจู๊ดขึ้นเรือนรับรองไป โชคชัยมองตามรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรง ส่วนเหตุการณ์ที่กรุงเทพฯ เสียงหัวเราะต่อกระซิกดังเข้ามาที่ประตูห้อง ก่อนจะเห็นณวัตกับเชอรี่เลขาสาว เปิดประตูห้องเข้ามา คุณวัตอ่ะ...ไหนบอกว่าให้เชอรี่มาช่วยดูเรื่องเอกสารไงคะ เชอรี่แกล้งทำเป็นโกรธ แต่ผมว่าคุณคงอยากดูอย่างอื่นมากกว่ามั้ง บ้า..! คุณวัตอ่ะทะลึ่ง ณวัตยิ้มกริ่มก่อนจะเดินไปเปิดลิ้นชักก่อนจะหยิบขวดยาออกมาแล้วเทมันออกมาเม็ดหนึ่งให้กับเชอรี่ ยาอะไรคะคุณวัต เชอรี่ถาม ก็ยาที่ทำให้คุณสนุกกับเอกสารของผมมากกว่าเดิมไง ณวัตส่งสายตาเยิ้มสื่อความหมายให้ เชอรี่ทำยิ้มมีจริตแต่ก็บรรจงหยิบยาเข้าปากก่อนดื่มน้ำตาม งั้นเดี๋ยวผมมานะ ณวัตเชยคางเชอรี่ขึ้นจุ๊บปากก่อนจะปลีกตัวเดินออกไป เชอรี่มองตามก่อนจะเริ่มรู้สึกร้อนวูบวาบ เชอรี่เริ่มครั่นเนื้อครั่นตัว แต่แล้วเชอรี่ก็รู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมา ไม่นานหลังจากนั้นณวัตก็อยู่ในชุดคลุมลายเสือเดินออกมาจากห้อง พร้อมกับขวดไวน์และแก้วในมือ ณวัตตรงเข้ามาที่โซฟาแล้วก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นเชอรี่ฟุบหน้าลง ผมเผ้าปิดหน้า ณวัตยิ้มเจ้าเล่ห์ ยาแรงขนาดนั้นนอนได้ก็เก่งแล้ว...หึ ณวัตเดินเข้ามาแล้ววางขวดไวน์ลงก่อนจะเริ่มเล้าโลม ณวัตเอื้อมมือไปกอดแล้วณวัตก็ต้องชะงักเอามือขึ้นมาดู อะไรเปียกๆ วะ ณวัตมองไปก่อนจะไล้สายตาตามหยดน้ำขึ้นไป แล้วณวัตก็อึ้งถึงกับช็อกเมื่อเห็นเชอรี่น้ำลายฟูมปาก ณวัตดีดตัวกระเด้งผึงออกมาทันที เฮ้ย ! เป็นไรวะ รีบคว้ามือถือขึ้นมากดโทร.ออก เฮ้ย...ไอ้จิม...ยาอะไรของแกวะ...ไหนบอกว่าไม่มีอันตรายไง... นิ่งฟัง ก็เม็ดนึงไง ณวัตฟังทางปลายสายบอกแล้วต้องตกใจ อะไรนะ...ให้กินแค่ขาเดียวพอ...บ้าเอ๊ยแล้วทำไมเพิ่งมาบอกวะ กดวางสาย อยู่ในอาการลนลาน ทำไงดีวะกู สมพลอยู่ที่บริษัทกำลังคุยโทรศัพท์ด้วยท่าทางตกใจไม่แพ้ณวัต บ้าเอ๊ย...แกจะก่อเรื่องให้ฉันไปถึงไหน..ห๊า ณวัตเดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง โยมีเชอรี่ชักกระตุกอยู่ด้านหลัง โธ่พ่อ...เดี๋ยวค่อยด่าได้มั้ย...อยากให้ผมเป็นฆาตกรหรือไง สมพลคิดไปคิดมา ก่อนจะเอ่ยขึ้น งั้นเอาอย่างนี้...แกทำตามที่พ่อบอก...แต่ห้ามให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด...โดยเฉพาะนักข่าว..เข้าใจมั้ย ส่วนสรนุชอยู่ในชุดใหม่หลังจากอาบน้ำสระผมเรียบร้อย เดินออกมาบริเวณชานบ้าน สรนุชแปลกใจเมื่อมองไปรอบๆ ทำไมยังไม่กลับมากันอีก สรนุชกำลังจะเดินเข้าไปแล้วนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่า...ตอนนี้ทั้งสถานีไม่มีใครอยู่เลยละซิ สรนุชยิ้มกริ่มนึกถึงณวัตขึ้นมา เวลาเดียวกันณวัตกับบุรุษพยาบาลกำลังช่วยกันยกร่างของเชอรี่ขึ้นบนเตียงเข็นที่มาจอดอยู่หน้าห้อง ผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั่นต่างออกมาดูด้วยความสนใจ คนไข้เป็นอะไรเหรอครับ บุรุษพยาบาลถาม เอ่อ...คือ...เดี๋ยวผมค่อยบอกได้มั้ยครับ ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยยกตรงขาน่ะครับ บุรุษพยาบาลบอก ขณะที่ณวัตตรงเข้าไปช่วยบุรุษพยาบาลก็เผลอทำมือถือตกกับพื้น ป้าคนนึงท่าทางอยากรู้อยากเห็นก็รีบเข้ามาสะกิดณวัต นี่คุณ ณวัตตวาดกลับเพราะคิดว่าป้าแกจะถามเรื่องเชอรี่ อย่ายุ่ง ป้าจอมจุ้นชะงัก ก่อนจะเห็นณวัตรีบตามบุรุษพยาบาลที่เข็นร่างของเชอรี่ไปที่ลิฟต์ทันที ป้าคนนั้นก้มลงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา จะบอกว่ามือถือหรอกยะ จังหวะนั้นมือถือของณวัตดังขึ้น อุ้ย... ป้ากดรับซะงั้น สวัสดีค่ะ สรนุชกำลังแอบมาโทรศัพท์อยู่ในสำนักงานเหมือนเดิม สรนุชงงเมื่อได้ยินเสียงป้า เอ่อ...นั่นใช่เบอร์ณวัตหรือเปล่าคะ ใช่ค่ะ...แต่พอดีเขาทำมือถือตกเอาไว้ ระหว่างนั้นมียายอีกคนท่าทางจุ้นไม่แพ้กันตรงเข้ามาถามป้าที่กำลังคุยมือถืออยู่ มีอะไรเหรอคะคุณโฉม...ฉันเพิ่งกลับมา...รถพยาบาลมากันทำไม ยายขาเม้าท์ถามทันที คุณป้าคันปากอยากพูดมานานแล้ว ผู้หญิงในห้องคุณณวัตแกช็อกน่ะค่ะ เหรอคะ...คนที่เป็นลูกสาวนายทหารคนนั้นหรือเปล่าคะ ใช่ที่ไหนละคะ...สงสัยจะเป็นคู่ซ้อม...นี่ฉันว่านะต้องเล่นท่าพิสดารกันแน่นอน...ไม่งั้นไม่นอนน้ำลายฟูมปากหมอหามออกไปอย่างนั้นหรอกค่ะ คุณป้ากับคุณยายช่างเม้าท์สองคนคุยกันอย่างออกรส โดยลืมไปว่ากำลังติดสายสรนุชอยู่ สรนุชได้ยินที่ข้อมูลทุกอย่างที่ป้าขาเม้าท์พูดออกมาก็สีหน้าเครียดลงอย่างเห็นได้ชัด ค่ำวันนั้นเกริกไกรหัวเราะเอิ้กอ้ากชอบใจ หลังรู้เรื่องจากใจเด็ด ฮ่าๆๆๆ เออ...หัวเราะไป...แกไม่เจออย่างฉันไม่รู้หรอกว่า เมื่อตอนกลางวันมันวุ่นวายขนาดไหน เฮ้อ...ตอนนี้คงไม่มีใครมีความสุขเท่าฉันอีกแล้ว เกริกไกรเย้ย เหรอ...ฉันว่าแกแปลเซียมซีเข้าข้างตัวเองมากกว่าว่ะ เฮ้ยๆ ไม่มีอ่ะ...ฉันเนี่ยแปลคำต่อคำ...แล้วฉันก็คือเนื้อคู่ของคุณอร...นี่เสียดายนะที่ตาผู้พันกับไอ้คิดมันหนีไปซะก่อน...ไม่อย่างนั้นคุณอรคงจะกระโดดกอดฉันในฐานะฮีโร่ที่ช่วยปกป้องเธอ ใจเด็ดส่ายหน้าอมยิ้มกับอาการเพ้อของเกริกไกร ระหว่างนั้นโชคชัยเข้ามาเรียกที่หน้าบ้าน ว่างกันอยู่มั้ย อ้าว...นายก...เชิญๆ...มีอะไรครับถึงได้มาค่ำซะขนาดนี้ โชคชัยทำหน้าเขินๆ ใจเด็ดมองด้วยความสงสัย ก่อนจะเห็นโชคชัยยื่นห่อผ้าให้ เอ่อ...ฉันเอายาสมุนไพรมาฝากให้คุณนุชหน่อย ใจเด็ดกับเกริกไกรได้ยินอย่างนั้นก็ทำหน้างง โชคชัยรีบบอกทันที คือ...ฉันเห็นว่าคุณนุชแกโดนช่อผกาทำร้าย...ถ้าวันนี้ไม่กินยาพรุ่งนี้อาจจะบวม ใจเด็ดมองโชคชัยนิ่งคิด นายกเอาไปให้เองเถอะ มันดึกแล้ว...ฉันว่ามันน่าเกลียดไปหน่อย...ใชคชัยรีบยัดใส่มือให้ใจเด็ด ฉันฝากหน่อยแล้วกัน โชคชัยยัดห่อยาให้ใจเด็ดก่อนจะรีบเดินออกไป ใจเด็ดมองตามด้วยความสงสัย ใจเด็ดนั่งมองห่อยาของโชคชัยอยู่ที่ริมทุ่ง นายกคงไม่ได้ชอบยัยนั่นหรอกมั้ง แล้วใจเด็ดก็นึกได้ จะชอบหรือไม่ชอบก็ไม่เกี่ยวกับเรานี่ ใจเด็ดยิ้มแล้วส่ายหัวไล่ความรู้สึกบางอย่างออกไป ระหว่างนั้นเสียงเจนจิราดังขึ้น นึกแล้วว่าหัวหน้าต้องอยู่นี่ ใจเด็ดหันไปก็เห็นเจนจิราเดินเข้ามา อ้าว...เจนยังไม่นอนอีกหรือไง นอนไม่หลับน่ะค่ะ เจนจิราลงนั่งข้างใจเด็ดแล้วมองไปที่ดาวเต็มท้องฟ้า แล้วเจนจิราก็พูดทำลายความเงียบขึ้น ทำไมหัวหน้ายังไม่มีแฟนคะ วันนี้มายังไงถึงได้ถามแปลกๆ...แล้วเราละ...ทำไมยังไม่มีแฟน เจนน่ะมีแล้ว ใคร...ทำไมพี่ไม่เห็นรู้เลย ก็...ก็พี่ไง ใจเด็ดแปลกใจกับคำพูดและท่าทีเจนจิราตลอดทั้งวัน เจนจิราเห็นท่าทีของใจเด็ดเลยพูดกลบเกลื่อน อ้าว...พี่จำไม่ได้เหรอตอนที่พี่อยู่ปีสี่แล้วเจนอยู่ปีสาม...ตอนนั้นเราทำละครเพื่อช่วยไถ่ชีวิตควายไง...ตอนนั้นพี่เป็นพระเอก...ส่วนเจนก็เป็นนางเอก ใจเด็ดนิ่งไป รำลึกความหลัง พูดถึงตอนนั้นทีไรก็มีความสุขทุกที เจนจิรายิ้มอย่างดีใจ คิดว่าใจเด็ดมีใจให้แน่เลย ดีนะที่พี่ไม่คิดอะไรกับเรา ไม่อย่างนั้นพี่คงเล่นไม่ได้แน่ๆ เจนจิราที่อมยิ้มอยู่ถึงกับหุบยิ้มทันทีก่อนที่เจนจิราจะลุกพรวดขึ้น เจนจะบอกพี่ว่า...เจนไม่อยากให้เกิดเรื่องอย่างวันนี้อีก...พี่เป็นคนที่คนในตำบลนี่นับถือ...เจนอยากบอกพี่แค่นี้แหละค่ะ เจนจิราพูดเสร็จก็เดินพรวดพราดออกไป ใจเด็ดมองตาม สงสัยว่าเจนจิราเป็นอะไร อะไรของเขาวะ เวลาเดียวกันสุบินกำลังวิเคราะห์เจาะลึกอีกเช่นเคย จะอะไรซะอีก...ฉันว่าคุณเจนต้องแอบชอบคุณใจเด็ดแน่นอน ไม่จริงมั้ง..แกเป็นผู้หญิงหรือไงถึงได้รู้ อรอนงค์ไม่อยากเชื่อ ใช่...เพราะผู้หญิงดูไม่รู้...มันต้องให้ผู้ชายอย่างฉันดู...เชื่อฉันซิ...ถ้าคุณเจนไม่คิดอะไรแล้วทำไมถึงทนดูฉากเลิฟซีนของยัยนุชกับคุณใจเด็ดไม่ได้ ระหว่างนั้นสรนุชเปิดประตูพรวดพราดออกมาจากห้องพร้อมกระเป๋าเดินทาง อรอนงค์ เป็นห่วงเพื่อน นุช...แกจะไปไหน วัตนอกใจฉันขนาดนี้แล้วเธอคิดว่าฉันจะไปไหน สรนุชของขึ้นเต็มที่ เฮ้ย! สุบินเข้ามาขวาง นุช...ถ้าแกจะไปฉันจะไม่ห้ามแกเลย อรอนงค์เห็นอย่างนั้นก็คิดว่าสุบินต้องปากหมาอีกแน่นอน ไอ้บิน...แกไม่ต้องพูดเลย แต่แกฟังฉันก่อน...ฉันแค่อยากจะบอกแกว่า...คนเรารักกันมันต้องเชื่อใจกัน อรอนงค์ฟังแล้วรู้สึกโล่งอก ในขณะที่สรนุชมองสุบิน เริ่มรู้สึกดีขึ้น แต่บางครั้ง...คนชั่วๆ ก็ใช้ความเชื่อใจของเรา...เอาไปปูยี้ปูยำคนอื่น สุบินว่า อรอนงค์ตกใจ สุบิน นุช...ฉันว่าแกก็รู้ว่าแกรู้สึกยังไง...แทนที่แกจะถามเรื่องนอกใจไม่นอกใจ...ฉันว่าแกน่าจะถามตัวเองมากกว่าว่าถ้านายวัตนั่นนอกใจแก...แล้วแกจะทำยังไงต่อไป สุบินออกไอเดีย สรนุชนิ่งไป ฉันไม่รู้...ฉันคิดอะไรไม่ออกแล้ว สุบินกับอรอนงค์มองสรนุชด้วยความเห็นใจ ระหว่างนั้นสุบินนึกบางอย่างขึ้นมาได้ แต่ฉันคิดออกแล้ว สรนุชกับอรอนงค์หันมองสุบินด้วยความสนใจ ทำไมแกไม่ลองเป็นแฟนกับคุณใจเด็ดไปเลยละ เฮ้ย ! คิดอะไรบ้าๆ ของแกเนี่ย อรอนงค์เอ็ด เขาว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวต่างหาก...นัดแรก...นายวัตนั่นจะได้รู้ว่าการถูกนอกใจเป็นยังไง...นัดสอง...ถ้าแกทำให้คุณใจเด็ดรักแกได้...ถึงตอนนั้นถ้าแกบอกให้เขาเลิกเลี้ยงควาย...แกคิดเหรอว่าเขาจะไม่ทำเพื่อแก สรนุชได้ยินอย่างนั้นก็อึ้งไป |
มิกัง
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |