'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)
"มหัศจรรย์ วอลต์ ดิสนีย์" โดย ศุภาศิริ สุพรรณเภสัช





"มหัศจรรย์ วอลต์ ดิสนีย์"
ผู้เขียน ศุภาศิริ สุพรรณเภสัช
ผู้พิมพ์ สนพ.มติชน (ครั้งแรก ม.ค. ๒๕๔๖)

ตำนานราชาการ์ตูนโลก ผู้สร้าง "ความเป็นเด็ก" ในหัวใจทุกคน






โปรยปกหลัง:.

'When you wish upon a star
Makes no difference who you are,
Anything your heart desires
will come to you...'


ตราบเท่าที่โลกยังมีจินตนาการหลงเหลืออยู่
และตราบเท่าที่เราทุกคนยังมีเด็กน้อยในหัวใจ
การ์ตูนทุกตัวที่วอลต์ ดิสนีย์ สรรค์สร้างขึ้นมา
ก็จะคงอมตะอยู่ตลอดไป







"... ในระยะร้อยปีที่ผ่านมา มีนวัตกรรมมากมายที่เปลี่ยนชีวิตของคนเรา
งานของวอลต์ ดิสนีย์เป็นนวัตกรรมที่มีคุณค่ามากที่สุด
เพราะเป็นนวัตกรรมที่สร้างความสุข ความเพลิดเพลิน
ที่สอนใจด้วยประวัติของเขา ทำให้เห็นว่าการผสานความรู้ คุณธรรมกับความสนุก ตลก น่ารัก และความคิดสร้างสรรค์ด้านนี้
มาจากคนที่มีความเป็นมาอย่างไร
ความมหัศจรรย์ของวอลต์ ดิสนีย์ จึงเป็นความมหัศจรรย์ของมนุษย์ที่ประทับใจ
.........

ป้าต่ายเป็นแบบอย่างของครูในยุคแห่งการปฏิรูปการศึกษาที่สับสน ป้าต่ายเป็นครูที่ยังมีความเป็นเด็กในจิตใจ ความเป็นเด็กเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การเรียนรู้เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้...."





ไม่มีใครในชั่วอายุนี้ไม่รู้จักมิกกี้ เมาส์ กับโดนัลด์ ดั๊ก
เช่นเดียวกันกับเวลาเอ่ยชื่อ วอลต์ ดิสนีย์ หรือดิสนีย์แลนด์ไม่ว่าจะเป็นเด็กรุ่นนี้หรือรุ่นก่อนหน้านี้ ทุกคนต้องรู้จัก...
มหัศจรรย์ วอลต์ ดิสนีย์ เล่มนี้ เป็นชีวประวัติที่เรียบเรียงขึ้นด้วยความประทับใจส่วนตัวของหญิงหัวใจเด็ก และเข้าถึงความเป็นเด็ก ได้แท้จริงอย่างคุณศุภาศิริ สุพรรณเภสัช อาจารย์โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย
ด้วยวัตถุประสงค์ในเบื้องแรกคือต้องการใช้เรื่องราว ประวัติชีวิตของราขาการ์ตูนโลกคนนี้เป็นสื่อการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษและประวัติศาสตร์โลกในช่วงศตวรรษที่ ๒๐...

ด้วยวัตถุประสงค์และความตั้งใจดังกล่าว ผู้เขียนได้เรียงร้อย บอกเล่าถึงประวัติชีวิตของวอลต์ ดิสนีย ราชาการ์ตูนผู้มีความเป็นอมตะและมหัศจรรย์เช่นเดียวกับตัวการ์ตูนแต่ละตัวของเขา

นับตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาดูโลกเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ค.ศ.๑๙๐๑ ในครอบครัวของชายช่างไม้ผู้หนึ่ง ในตำบลเล็ก ๆ ของชิคาโก...
ซึ่งต่อมา ครอบครัวนั้นก็ได้ผันตัวเองไปเป็นชาวไร่ในชนบทไกลห่างแห่งหนึ่งของรัฐมิสซูรี่
เด็กชายวอลเท่อร์ หรือ "วอลต์" จึงเติบโตขึ้นมาท่ามกลางสัตว์เลี้ยงในไร่ เช่นหมู วัว เป็ด ไก่ ฯลฯ
(และนั่นกระมังที่เป็นที่มาของตัวละครสัตว์ต่าง ๆ ที่โลดแล่น มีชีวิตชีวา ให้ความบันเทิงกับผู้คนทุกเพศทุกวัยไปทั่วโลก ตราบจนทุกวันนี้)
เด็กชายวอลต์มีชีวิตวัยเด็กที่ไม่มีความสุขนัก เขามีพ่อผู้เข้มงวดและแม่ผู้อ่อนแอ เป็นช้างเท้าหลังของพ่ออย่างแท้จริง
จากผลการเรียนที่ร่อแร่...วอลต์จึงเดินออกจากโรงเรียนเสียเฉย ๆ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่จบชั้นมัธยมปลาย ในวัยเพียง ๑๖ ปี
เขาสมัครเข้าเป็นทหารแต่ไม่ได้รับเลือกด้วยอายุไม่ถึง
แต่พ่อแม่ก็ยินยอมลงชื่อรับรองให้เขาเข้าทำงานกับหน่วยกาชาดในฝรั่งเศส เพราะที่นั่นไม่ได้จำกัดการศึกษาและอายุของผู้สมัคร
ด้วยฝีมือการวาดเขียนของวอลต์ ทำให้เขาต้องรับหน้าที่เขียนป้ายต่าง ๆ ของหน่วยกาชาดและหน่วยทหาร นอกเหนือจากหน้าที่หลักคือขับรถ
วอลต์ค่อนข้างมีความสุขกับชีวิตวัยรุ่นช่วงนี้ เพราะได้ทำสิ่งต่าง ๆ ที่ตัวเองรักแถมมีรายได้พิเศษอีกต่างหาก

เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจกับหน่วยกาชาด วอลต์ต้องกลับมาบ้านที่มีพ่อผู้ยังคงความเข้มงวดต่อเขาอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
หนุ่มน้อยวอลต์ผู้ได้ลิ้มรสแห่งอิสรภาพมาแล้ว จึงทนต่อการสับโขกอย่างไร้เหตุผลของผู้เป็นพ่อไม่ได้...ต้องเก็บกระเป๋าออกจากบ้านอีกครั้ง....และนั่นคือจุดเริ่มต้นอาชีพเขียนการ์ตูนของเขา

เขาเดินทางไปหาพี่รอย...พี่ชายผู้เป็นเสมือนพ่อมากกว่าพี่
และรอยนี่เองที่เป็นคนสนับสนุนให้เขาได้เข้าทำงานในบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง
และได้พบกับคู่หูที่ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญยิ่งในชีวิตการ์ตูนนิสต์ของเขาอย่าง อั๊บ อายเวิร์กส์ (Ub Ewerks)
ทั้งคู่มีภูมิหลังที่คล้ายกัน คือมาจากครอบครัวที่ยากจน ได้รับการศึกษาน้อย ไม่มีโอกาสเรียนศิลปะอย่างจริงจังแต่มีใจรักในการวาดรูป และมีมานะในการฝึกฝนด้วยตัวเองมาตลอด
จะต่างกันก็ตรงอุปนิสัย...วอลต์เป็นเด็กหนุ่มที่ร่าเริง ช่างพูดแต่อั๊บค่อนข้างเคร่งขรึม พูดน้อยและขี้อาย
ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทที่เกื้อกูลซึ่งกันและกันอย่างรวดเร็ว





แล้ววันหนึ่ง ทั้งคู่ก็ก้าวสู่โลกเซลลูลอยด์...เริ่มจากการที่วอลต์ได้เข้าทำงานในบริษัทที่รับทำภาพยนต์โฆษณา
การทำภาพเคลื่อนไหวเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับเขา และเมื่อเขานำมาบอกเล่าแก่อั๊บ อั๊บก็รู้สึกตื่นเต้น สนใจมากเช่นกัน

ทั้งสองร่วมกันศึกษาและหาเทคนิคใหม่ ๆ ในการสร้างภาพเคลื่อนไหว และเมื่อวอลต์นำไปเสนอที่บริษัท ทางบริษัทจึงบอกให้เขาชวนอั๊บมาทำงานที่บริษัทด้วยกัน
วอลต์และอั๊บใช้เวลาช่วงกลางคืนทำการ์ตูนสั้นออกขายเอง เรียกว่า การ์ตูนลาฟโอแกรม (Laugh-O-Gram) ปรากฏว่าผู้คนชอบ สั่งซื้อไปฉายกันเป็นการใหญ่ ทั้งคู่จึงลาออกจากบริษัท มาตั้งบริษัทของตัวเองชื่อ บริษัทลาฟโอแกรม แล้วชวนหนุ่มสาววัยรุ่นที่สนใจการทำการ์ตูนมาทำงานด้วย
วอลต์ตัดสินใจนำนิทานคลาสสิคอย่าง "อลิซในแดนมหัศจรรย์ - Alice's Adventures in Wonderland) มาทำเป็นการ์ตูน โดยใช้เด็กจริงแสดงเป็นอลิซ นับเป็นก้าวใหม่ของการทำหนังการ์ตูนซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงาม มีคนสั่งซื้อหนังชุดนี้กันมากมายจนทุกคนต้องทำงานล้นมือกันทีเดียว

แต่ต่อมาไม่นาน เด็กหนุ่มจากเมืองเล็กที่อ่อนต่อโลกธุรกิจก็ตกเป็นเหยื่อผู้จัดจำหน่ายภาพยนต์จากนิวยอร์คอย่างง่ายดาย...ทั้งคู่จึงตกอยู่ในสภาพถังแตกอีกครั้ง ในวัยเพียง ๒๑ ปี...
ซ้ำร้าย...พ่อก็เกิดมีปัญหาล้มละลายเอาในช่วงนี้ พี่ชายที่วอล์ตอาศัยอยู่ด้วยต้องขายบ้าน เพื่อนำเงินไปช่วยพ่อ...
วอล์ตจึงอยู่ในสภาพไร้ที่อยู่อาศัยอีกครั้ง
พี่รอย ซึ่งกำลังป่วยอยู่ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยน้องชาย...

โชคดีที่มีสถาบันทันตกรรมแห่งหนึ่งเกิดติดใจการ์ตูนเรื่องอลิซในแดนมหัศจรรย์ จึงติดต่อมาให้วอล์ตทำหนังการ์ตูนที่เกี่ยวกับทันตกรรมให้
วอล์ตจึงสร้างการ์ตูนเรื่อง ฟันของหนูน้อยทอมมี ทักเกอร์ (Tommy Tucker's Tooth) ให้กับสถาบันนั้น และได้ค่าจ้างมาเป็นเงินก้อนใหญ่พอที่จะชำระหนี้สินทั้งหมด





วอล์ตดิ้นรนตั้งบริษัทผลิตหนังการ์ตูนขึ้นอีกครั้ง ให้ชื่อว่าบริษัทดิสนีย์
และชวนอั๊บ อายเวิร์กมาร่วมงานด้วย โดยมีรอยช่วยดูแลในเรื่องบัญชีและการเงิน
ช่วงนี้เองที่วอล์ตได้พบกับลิเลียน บาวด์ส เพื่อนสาวของพี่สะใภ้ของเขา
และคบหาดูใจกันได้ระยะหนึ่งจึงตัดสินใจแต่งงานกัน - -ขณะนั้น วอล์ตมีอายุได้ ๒๔ ปี
วอล์ตรู้สึกว่าชีวิตของเขาช่วงนี้ช่างสมบูรณ์และลงตัวเสียนี่กระไร...

แต่...ชีวิตจริงที่ไม่อิงนิยายของวอล์ตยังต้องผจญกับปัญหาที่เข้ามาใหม่อยู่เรื่อย ๆ
เริ่มจากเขากับเพื่อนถูกโกงผลงานเอาดื้อ ๆ...
เมื่อวันหนึ่งเขาพบว่าตัวการ์ตูนกระต่ายออสวอล์ด ฝีมือของอั๊บ อายส์เวิร์กได้ถูกจดลิขสิทธิ์โดยบริษัทตัวแทนจำหน่ายที่เคยเป็นมิตรสนิทกันมาก่อน...
แถมอดีตมิตรคนนั้นยังใช้เงินซื้อนักวาดดั้งเดิมของบริษัทดิสนีย์ของวอล์ตไปเกือบหมดแล้ว
คงเหลือแต่อั๊บกับตัววอล์ตเองเท่านั้น...


ด้วยการมองโลกในแง่ดีของวอล์ต ซึ่งมาคิดได้ว่าแทนที่จะจะเสียเวลานั่งโกรธเพื่อนทรยศกับเสียดายกระต่ายออสวอลด์เขากลับใช้เวลานั้นมานั่งคิดว่าการ์ตูนตัวใหม่ของเขาควรจะเป็นอะไร
นั่นจึงเป็นต้นกำเนิดของ "มิกกี้ เมาส์" เจ้าหนูหูใหญ่ขวัญใจเด็ก ๆ ทั่วโลก...
ตามติดมาด้วยตัวการ์ตูนอื่น ๆ อีกมากมาย...





จริง ๆ แล้ว เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ยังมีอีกยืดยาวที่ยังเล่าได้ไม่หมด...
แต่เกรงว่าคนอ่านจะเหนื่อยอ่านรีวิว เพราะมันยาวจัด ...
แต่ขอบอกว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือชีวประวัติบุคคลที่อ่านเพลิน ได้ทั้งสาระบันเทิงครบครันมาก ๆ
ในเล่มมีภาพขาวดำและสี่สีประกอบมากมาย
สำนวนภาษาผู้เขียนนั้นไม่ต้องพูดถึงความลื่นไหล น่าอ่านเลย
ข้อมูลก็แน่นปึ้ก
เรียกได้ว่าไฮลี่เรคคอมเมนด์ค่ะสำหรับเล่มนี้






**หนังสือเล่มนี้อ่านเพื่อใช้ตอบโจทย์"เหมันต์ชยันอ่าน" ข้อ 15-2.[Clear Ice + January Friend + นัทธ์] หนังสืออัตชีวประวัติ (autobiography คือ หนังสือที่บุคคลนั้นเขียนเล่าประวัติของตัวเอง) หรือเป็นหนังสือชีวประวัติ (biography) ที่ผู้อื่นเขียนก็ได้ ค่ะ






Create Date : 12 มกราคม 2553
Last Update : 12 มกราคม 2553 16:56:31 น. 11 comments
Counter : 34675 Pageviews.

 
สวัสดีตอนเย็นๆ คับ
จะวันพุธแว้วว อีกแป๊ปเดียวก็จะศุกร์
จะได้หยุดแล้วเนอะ ^^


โดย: ผมชอบกินข้าวมันไก่ วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:17:35:16 น.  

 
ว้าว ประวัฒิน่าสนใจมากๆเลยค่ะ ส่วนใหญ่คนที่เติบโตประสบความสำเร็จได้เนี่ยเค้าก็ผ่านอะไรต่ออะไรมามากมายกันทั้งนั้นเลยเน๊าะ แต่ความพยายามเป็นความสำเร็จเหมือนคำโบราณท่านว่าไว้จริงๆเลย


โดย: BeachBum วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:17:51:18 น.  

 
อยากอ่านมากๆเลยครับสำหรับเล่มนี้


โดย: ไอซ์คุง (ปีศาจความฝัน ) วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:0:30:19 น.  

 
ยาว..แต่แนจนจบเลยค่ะ
ตอนแรกก็กะว่าจะอ่านเป็นความรู้ทั่วไป
แต่อ่านเรื่องราวชีวิตของเขาไปเรื่อยๆแล้วชอบจัง
ยังไงหล่ะ ดูสู้ชีวิตดี อ่านแล้วมีหความหวังอ่ะค่ะ
ว่าบางครั้ง คนธรรมดาอย่างแรๆ ล้มลุกคลุกคลานบ้าง
แต่อาจจะมีซักวัน...ที่จะเป็นวันของเราบ้าง รอจังหวะ เวลา และโอกาส
ถ้ามีโอกาสได้พบเจอ จะลองหามาบ้างดูบ้างค่ะ..น่าสนใจดี..

ปล.แต่ปกมันเด็กเนอะ..


โดย: nikanda วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:6:08:45 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แม่ไก่

เป๋นการ์ตูนตัวโปรดของหมิงหมิงเลยครับ










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:6:21:04 น.  

 
น่ารัก น่าอ่าน ดีจังค่ะ


โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:11:25:31 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แม่ไก่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:7:50:49 น.  

 
ชอบมิคกี้มั่กๆค่า
อิอิ


โดย: เพียงพอ IP: 118.172.108.3 วันที่: 22 สิงหาคม 2553 เวลา:16:40:35 น.  

 
ชอบมั่กกกค่ะ


โดย: นู๋ เเบม IP: 113.53.13.169 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:48:07 น.  

 
บอกได้คำเดียวว่าน่าร๊ากอ่ะ


โดย: น้องนิ่มคะ IP: 182.93.183.151 วันที่: 5 มีนาคม 2555 เวลา:10:15:31 น.  

 
ตามหาอ่านเล่มนี้อยู่เลยค่ะ อยากอ่านมากๆ
ใครมี ยินดีซื้อต่อนะคะ


โดย: คนรักการอ่าน IP: 182.232.251.243 วันที่: 18 ตุลาคม 2565 เวลา:18:01:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.