Group Blog
 
All blogs
 

Wheat Beer...มีวิตามินบีเพียบ

วิตามินบีมีมากในเบียร์ หมักจากข้าวสาลีด้วยนะ

แม้ว่าแอลกอฮอล์จะเป็นอันตรายต่อตับ แต่ข้อดีของเบียร์ก็มีไม่น้อย ทั้งนี้นักวิจัยจากเมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐฯ ค้นพบว่า เบียร์มีวิตะมินมากล้น โดยเฉพาะ Wheat Beer (เบียร์หมัก จากข้าวสาลี) ซึ่งมียีสต์เป็นส่วนผสมและมีประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้ชาย คือผู้ชายที่สูบบุหรี่มักขาดวิตามินบีซึ่งมีผลทำให้เลือดจาง โรคโลหิตจาง เหนื่อยเพลีย เลือดลมอ่อนแอ ขาดสมาธิ ซึ่งวิตะมินบีมีมากในอาหาร เช่น กล้วย ผักกะหล่ำ อะโวคาโด สัตว์ปีก และผลิตภัณฑ์นม และมีมากในเบียร์โดยเฉพาะ Wheat Beer ซึ่งเป็นเบียร์ที่มีสาร Xanthohumol ซึ่งมีเพียงเล็กน้อยในเบียร์ทั่วๆ ไป แต่มีมากใน Wheat Beer สารที่ว่านี้มีผลช่วยยับยั้งการอักเสบในร่างกาย ป้องกันโรคปวดข้อ ข้ออักเสบและอาจป้องกันการเกิดมะเร็งบางชนิดได้ด้วย นอกจากนี้สารอื่นๆ ในเบียร์ เช่น กรดโฟลิกที่มีมากในเบียร์ ยังช่วยลดกรดอะมิโนตัวร้ายที่เป็นอันตรายต่อเส้นเลือดและหัวใจ ที่สำคัญก็คือ เบียร์ยังทำหน้าที่เป็นสารแอนตี้ออกซิเดนต์ในการช่วยดักจับอนุมูลอิสระ และช่วยชะลอเซลล์ไม่ให้แก่เร็ว แอลกอฮอล์ในเบียร์ยังช่วยให้เลือดสมบูรณ์อีกด้วย แต่เห็นข้อดีอย่างนี้ก็อย่านำมาเป็นข้ออ้างในการตั้งหน้าตั้งตาดื่มเบียร์นะคะ เดินสายกลางไว้ดีกว่าค่ะ





ข้อมูล ลิซ่า




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2553    
Last Update : 20 ตุลาคม 2553 7:55:33 น.
Counter : 397 Pageviews.  

ทายนิสัยจากใบหน้า

‘รู้หน้า ไม่รู้ใจ’ คำนี้ได้ยินบ่อย ๆ ส่วนใหญ่มักใช้ในเชิงลบ วันนี้มีวิธีอ่านใจคนจากใบหน้ามาเล่าสู่กันฟัง

ใบหน้ารูปกลม ลักษณะความกว้างและความยาวบนใบหน้าเกือบ จะเท่ากัน แต่หน้าผากและคางจะกลม มองได้ว่าคนรูปหน้ากลมเป็นคนมองโลกในแง่ดี ใจเย็น ใจดี แต่เป็นคนเรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ ไม่กระตือรือร้น ไม่ค่อยอดทน ไม่หนักแน่น และไม่ชอบชิงดีชิงเด่นกับใคร มักปล่อยให้ชีวิตลอยตามลมไม่มีจุดมุ่งหมาย ซึ่งบางครั้งนิยสัยแบบนี้ก็ทำให้ชีวิตจืดชืดน่าเบื่อ อาชีพที่เหมาะสมที่สุดคือ ‘แม่บ้าน’

ใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ลักษณะใบหน้าจะ ดูยาวกว่ากว้าง นับเป็นรูปหน้าที่ดีที่สุด เพราะแสดงถึงความน่าคบ น่าสนใจ รักเดียวใจเดียว เป็นคนทำอะไรด้วยใจเต็มร้อย เป็นคนเข้มแข็งแต่ไม่ก้าวร้าว ฉะนั้นคนรูปหน้าสี่เหลี่ยมผืนผ้าจะไม่มีวันร้องไห้กับเรื่องไร้สาระเด็ดขาด เพราะความฉลาดทำให้รู้จักวางตัว มีภาวะผู้นำสูง ชอบเป็นนักการทูต ชอบสันติภาพ ความชอบเหล่านี้คือความสุขของคุณ ‘ผู้มีน้ำใจ’

ใบหน้ารูป สามเหลี่ยม ลักษณะหน้าผากกว้างและสูง คางแหลมเห็นได้ชัด รูปหน้าบ่งบอกว่าเป็นคนคล่องแคล่วว่องไว ตัดสินใจเร็ว ใจร้อน ชอบคิดชอบฝัน ช่างจินตนาการไปไกล และเป็นคนอ่อนไหว บางครั้งรู้สึกเจ็บปวดกับฝันที่ไม่เป็นจริง นั่นเพราะได้แต่ฝัน ไม่ยอมลงมือทำ

ใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ลักษณะหน้าผากและรูปกรามกว้างจนเกือบเท่ากัน รวมทั้งความกว้างและความยาวบนใบหน้าก็ ยาวเท่ากัน แสดงว่าคุณเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง หลงตัวเอง มีความมั่นใจในตัวเองสูง ทำให้เป็นคนทำอะไรตรงไปตรงมา คิดอย่างไรก็พูดไปอย่างนั้น เรื่องนินทาชาวบ้านไม่ใช่นิสัย จุดเด่นของคนใบหน้ารูป สี่เหลี่ยมจัตุรัสคือ เข้มแข็ง มีความอดทนสูง สามารถรับมือกับปัญหาสารพัดรูปแบบได้อย่างสบาย กระตือรือร้น ขยันทำงาน ไม่หยิบโหย่ง มีความมุมานะเป็นที่สุด

ใบหน้ารูป ไข่ บริเวณแก้มจะกว้าง หน้าผากและคางจะกลมมนเป็นรูปไข่ นับเป็นรูปหน้าของคนสวย จุดเด่นคือสวยสะดุดตา เป็นคนรักสวยรักงาม ช่างแต่งตัว เป็นคนฉลาด ไม่อ่อนแอ รักความสบายเหนือสิ่งอื่นใด ความรักต้องมาคู่กับฐานะทางการเงินที่ดี เพราะความฉลาดทำให้ปรับตัวเข้ากับสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย ยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้ดี และมักโชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากคนรอบข้างอยู่เสมอ มีความสามารถทางศิลปะ รสนิยมดี ช่างฝันและมุ่งมั่นทำฝันให้เป็นจริง

ใบหน้ารูปข้าวหลามตัดหรือรูปเพชร ลักษณะโหนกแก้มเป็นกระดูกที่เห็นเด่นชัด หน้าผากและคางจะแคบ ใบหน้าบ่งบอกว่าเป็นคนหยิ่งถือตัวและชอบใช้อำนาจ แต่ความจริงแล้วคุณเป็นคนเข้มแข็งและเชื่อมั่นในตัวเองมากจนเกินไปทำให้ใบหน้าไม่ ยิ้มแย้ม คุณเป็นคนขี้ระแวง ใจแคบ ระมัดระวังตัวมาก จนบางครั้งทำให้ต้องโดดเดี่ยว เพราะใคร ๆ ก็ถอยห่าง คุณมักยึดถือตัวเองเป็นใหญ่ ไม่ยอมอ่อนข้อให้ใคร จุดเด่นคือใจกล้า มีความพรสวรรค์ด้านศิลปะ รสนิยมหรู ฉลาดและเจ้าเล่ห์

ใบหน้ารูป ชมพู่ ลักษณะหน้าผากแคบ คางและกรามเป็นสันดูแข็งแรง บ่งบอกว่าคุณเป็นคนแข็งแรง มีความอดทนสูง ไม่ชอบง้อใคร รักความอิสระ แต่ชอบเรียกร้องความสนใจ เป็นคนขยันในทุกด้าน ทั้งการเรียน การงาน ทำได้ดีทั้งหมด แม้ว่าเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่คนก้าวร้าว ตรงข้ามกับบุคลิกภาพที่สุภาพเรียบร้อย รู้กาลเทศะ แต่ดื้อไปหน่อยเท่านั้นเอง

ใบหน้ารูปหัวใจ ลักษณะโหนกแก้มกว้าง คางแหลม ที่เห็นชัดคือตีนผมตรงหน้าผากจะยื่นแหลมออกมาตรงกลาง ดูแล้วเป็นรูปหัวใจ ใบหน้ารูป นี้จะดึงดูดใจคนรอบข้าง เป็นคนมีเสน่ห์ เจ้าชู้ สนุกกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ชีวิตแพรวพราว ชอบเรื่องตื่นเต้นผจญภัย มีความสุขกับชีวิตนอกบ้าน เข้าสังคมเก่ง เป็นคนสนุก สดใส ไม่น่าเบื่อ และยังเป็นคนฉลาด คล่องแคล่วว่องไว อ่อนไหวและช่างฝัน ขณะเดียวกันก็เข้มแข็ง ทะเยอทะยาน มีความมั่นใจในตัวเองสูง





ข้อมูล เดลินิวส์




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2553    
Last Update : 20 ตุลาคม 2553 7:55:23 น.
Counter : 515 Pageviews.  

ประโยชน์ของน้ำฟักทอง

ฟักทองเป็นพืชตระกูลมะระ จัดเป็นไม้เถาขนาดใหญ่ เลื้อยตามดิน ยาว 5-12 เมตร เถา ก้านใบ แผ่นใบ ก้านดอก กลีบเลี้ยง และผลอ่อนมีขนยาว ใบเป็นใบเลี้ยงเดี่ยว เว้าเป็นหยัก ดอกเดี่ยว ดอกตัวผู้กับตัวเมีย แยกกันแต่อยู่ในเถาเดียวกัน ผิวผลเมื่อยังอ่อนออกสีเขียว เมื่อแก่จะเป็นสีเขียวสลับเหลือง ผิวขรุขระ เปลือกแข็ง เนื้อในสีเหลือง ไส้เส้นใยสีเหลืองนิ่ม มีเมล็ดสีขาวแบน ๆ ติดอยู่จำนวนมาก

เมล็ดฟักทองมีสารชื่อ คิวเคอร์บิติน (cucurbitine) มีฤทธิ์ฆ่าพยาธิตัวตืดได้ เตรียมได้จากเมล็ดฟักทองประมาณ 60 กรัม ทุบให้แตก ผสมกับน้ำตาล นม และน้ำเติมลงไปจนได้ประมาณ 500 มิลลิลิตร แบ่งรับประทาน 3 ครั้ง ห่างกันทุก 2 ชั่วโมง หลังจากให้ยาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมงให้รับประทานยาระบายน้ำมันละหุ่ง 2 ช้อนโต๊ะ ส่วนเนื้อฟักทองมีแป้งและน้ำตาลประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ เส้นใย 1 เปอร์เซ็นต์ และมีวิตามินซีในปริมาณสูง นอกจากนั้นยังมีเบต้าแคโรทีนในปริมาณที่สูงมากเช่นกัน

ส่วนผสมของน้ำฟักทอง
1.ฟักทองนึ่งสุก 1 ถ้วย
2.น้ำสะอาด 3 ถ้วย
3.น้ำตาลทราย 100 กรัม หรือน้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวง
4.เกลือป่น

วิธีทำน้ำฟักทอง
ปอกเปลือกฟักทอง นึ่งให้สุก ใส่เครื่องปั่นเติมน้ำ ปั่นให้ละเอียด เทใส่ภาชนะนำไปตั้งไฟ เติมน้ำตาลทราย เกลือป่น ชิมรสตามใจชอบ กรองด้วยผ้าขาวบางใส่หม้อตั้งไฟพอเดือด ยกลง จะได้น้ำฟักทองสีเหลือง มีรสหวานมัน เทใส่ขวด นำไปแช่เย็น หรือนำฟักทองไปนึ่งให้สุก แล้วนำมาใส่เครื่องปั่น เติมน้ำ แล้วปั่นให้ละเอียด นำไปตั้งไฟต้มจนเดือด เติมน้ำเชื่อม และเกลือลงไป ชิมรส เมื่อได้รสชาติตามชอบแล้วยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง เราก็จะได้น้ำฟักทองสีเหลืองน่ารับประทาน

คุณค่าทางโภชนาการ
1.เนื้อฟักทอง มีวิตามินเอสูงมาก มีฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง สารสีเหลืองและโปรตีน
2.ใบอ่อน มีวิตามินเอสูงเท่ากับเนื้อฟักทอง มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในเนื้อ
3.ดอก มีวิตามินเอ ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส มีวิตามินซีเล็กน้อย
4.เมล็ด มีน้ำมัน แป้ง ฟอสฟอรัส โปรตีนและวิตามิน





ข้อมูลจาก สมุนไพรดอทคอม




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2553    
Last Update : 20 ตุลาคม 2553 7:55:11 น.
Counter : 632 Pageviews.  

สิ่งที่ควรบอกเมื่อคิดจะคบกัน

ช่วง เริ่มคบหาเป็นช่วงที่ต้องเรียนรู้ทำความรู้จักกัน ถ้าอยากให้ความสัมพันธ์มีพื้นฐานแข็งแรงแน่นหนา ก็ต้องเริ่มปูพื้นด้วยความจริงใจต่อกัน ดังนั้นทั้งสองฝ่ายต้องเปิดเผยตัวเอง และบอกข้อมูลส่วนตัวให้อีกฝ่ายรับรู้ สิ่งไหนควรบอกหรือไม่ควรบอก เรามาดูกันเลยค่ะ

สิ่งที่ควรบอกทันที
มี บางเรื่องเกี่ยวกับตัวเราที่เรารู้ว่าจะมีผลกระทบในภายภาคหน้า ซึ่งควรบอกให้อีกฝ่ายรู้ตั้งแต่เดตกันสองสามครั้งแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเรารู้ว่าเป็นเรื่องที่อาจเป็นผลเสียกับความสัมพันธ์ การเก็บความลับที่ซีเรียสเอาไว้ทำให้เกิดความกดดันและความเครียด วิตกกังวลอยู่ตลอดเวลา และถ้าเรื่องนี้เราสามารถบอกเพื่อนซี้ที่เป็นเพศเดียวกันได้ ก็ควรบอกคู่เดตได้เช่นกัน ถ้าเขารับได้ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ก็ถือว่าเรายังไม่ได้ทุ่มเทอะไรมาก ต่อไปนี้คือเรื่องที่ควรบอกอีกฝ่ายในช่วงเดตกันครั้งที่สามหรือสี่ ไม่จำเป็นต้องบอกตั้งแต่ครั้งแรกให้เสียอารมณ์ รอให้คุยถูกคอกันสักนิดค่อยบอกค่ะ
#
การแต่งงานครั้งก่อน เคยแต่งงานมาแล้วกี่ครั้ง นานไหม และเลิกรากันมานานเท่าไรแล้ว แต่อย่าลงรายละเอียดมากเกินไป บอกคร่าว ๆ ก็พอค่ะ
#
เรื่องรุนแรงในอดีต เคยต้องโทษอะไรมาบ้างหรือเปล่า นานแค่ไหน
#
สถานะล้มละลายในอดีต เคยถูกฟ้องล้มละลายมานานหรือยัง และด้วยสาเหตุอันใด
#
ลูก มีลูกกี่คน อายุเท่าไร อยู่ด้วยกันหรือเปล่า ถ้าไม่อยู่ด้วยกันแล้วเจอกันบ่อยแค่ไหน
#
ผ่าตัดแปลงเพศ กรณีนี้คงไม่ต้องอธิบายให้มากความ

บางเรื่องก็ควรบอกก่อนที่จะจบเดตครั้งแรกหรือครั้งที่สอง ถามใจตัวเองดูว่าควรบอกตอนไหน

เรื่องที่ยังไงก็ต้องบอกอยู่ดี
เป็น เรื่องของความชอบหรือไม่ชอบส่วนตัวที่สามารถบ่งบอกความเป็นตัวตนของเราว่า เป็นคนแบบไหน ซึ่งเอาไว้บอกตอนเดตครั้งที่สามหรือสี่ไม่ควรเกินนี้ สิ่งสำคัญคือต้องจริงใจซื่อสัตย์กับข้อมูลพวกนี้ มิฉะนั้นอาจย้อนกลับมามัดตัวเราทีหลัง เพราะบางคนพูดไม่ตรงกับความจริงเนื่องจากอยากเอาอกเอาใจอีกฝ่าย อุ้ย คุณชอบเดินป่าเหรอ ฉันก็ชอบเหมือนกันค่ะ ทั้งที่ในใจยี้สุด ๆ ไป ๆ มา ๆ ก็เลยต้องทนไปเดินป่ากับเขาอย่างลำเค็ญ เรื่องรสนิยมหรือความชอบ-ไม่ชอบอะไรส่วนตัวนั้น บางคนมีความรู้สึกรุนแรงอาจถึงขั้นต่อต้าน เช่น ไม่ชอบกีฬาประเภทนั้นประเภทนี้ หรือไม่ชอบทีมฟุตบอลทีมนั้น กลิ่นน้ำหอม การดื่มเหล้า และบางเรื่องของเขาก็เป็นเรื่องที่เราควรระมัดระวังในการให้ความเห็น เช่น เพื่อนฝูง พ่อแม่ สัตว์เลี้ยง ทรงผม ส่วนสูง น้ำหนัก ศาสนา


สิ่งที่ควรบอกก่อนมีเซ็กส์
เรื่อง นี้ซีเรียสค่ะ และควรพูดกันตอนที่ยังสวมเสื้อผ้าครบโดยที่มีสติเต็มร้อย มิได้มึนเมาเละเทะ เพราะถ้ายังไม่พร้อมจะพูดเรื่องพวกนี้ก็ยังไม่ควรมีเซ็กส์
#
ถุงยางอนามัย ใครจะเป็นคนจัดหามา อย่าคิดว่าไม่ใช้ก็ได้ ถุงยางนี่ละปลอดภัยที่สุดแล้ว
#
อุปกรณ์คุมกำเนิด ใช้แบบไหน ใครเป็นคนจัดหา
#
ประวัติ ทางการแพทย์ที่เกี่ยวกับเซ็กส์ ผลตรวจเอดส์หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ที่เคยมีหรือเคยรักษามาก่อน ยกเว้นเรื่องที่เกี่ยวกับทางด้านจิตใจก็ยังไม่ต้องบอก เช่น มีปัญหาเจ้าหนูไม่สู้ เพราะเรื่องแบบนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเจอคนใหม่ที่ถูกใจ
#
ความ สัมพันธ์ในอดีต พูดถึงปัญหาในอดีตนิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ เพื่อให้เขารู้เป็นนัย ๆ ว่า ถ้าเซ็กส์ออกมาไม่ดีก็อาจเป็นเพราะเราที่มีปมในอดีตมาก่อน ไม่ใช่ความผิดของเขา
#
ความกลัว เช่น กลัวที่สูง กลัวงู กลัวสัตว์ปีก กลัวที่แคบ
#
ความตื่นเต้น อะไรที่ทำให้เราเกิดอารมณ์ฮ็อต
#
ยังไม่พร้อมมีเซ็กส์ในตอนนี้ ถึงเคยมีอะไรกันมาแล้ว แต่วันนี้ไม่อยาก เราก็สามารถปฏิเสธได้
#
อยากรอให้ถึงวันแต่งงานเสียก่อน เรื่องนี้ควรพูดคุยกันตรง ๆ อีกฝ่ายจะได้ไม่เข้าใจผิด

สิ่งที่บอกเมื่อถูกถามหรือถูกกดดัน
ยัง มีบางเรื่องที่เราไม่อยากบอกแล้วถ้าถูกถามละควรทำอย่างไร อย่างเช่น เคยมีแฟนมาแล้วกี่คน ควรหลีกเลี่ยงไม่ตอบดีไหม หรือเปลี่ยนเรื่องพูดไปเลย หรือจิกตามองหน้าอีกฝ่ายประมาณว่าเรื่องอะไรของคุณละ หรือบอกไปตรง ๆ เอาเป็นตอบไปพอประมาณและไม่ให้รายละเอียดมากนัก แต่ถ้าเราทำเฉยไม่ตอบเลย เขาจะคิดว่าเรามีอะไรปิดบังอยู่ คำตอบที่ดีที่สุดคือตอบแบบสั้นย่อ โดยไม่วิพากษ์วิจารณ์บรรดาอดีตรักทั้งหลาย ไม่บอกจำนวนที่แน่นอน และไม่พูดถึงท่วงท่าลีลาใด ๆ ทั้งสิ้น


นอก จากนั้นก็ยังมีคำถามซึ่งถ้าไม่ง้างปากละก็ ไม่มีใครอยากตอบแน่นอน เช่น ทำไมคุณไม่ถึงจุดสุดยอดซะที ฉันไม่ดีตรงไหน ทำไมคุณไม่ชอบเพื่อนของฉัน

เจอถามแบบนี้ ก่อนตอบคิดให้ดีทบทวนหลายตลบก่อนตอบนะคะ




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2553    
Last Update : 20 ตุลาคม 2553 7:54:13 น.
Counter : 444 Pageviews.  

แต่งหน้ายังไงไม่ให้ไหลเยิ้ม



เราคงหลีกเลี่ยงอากาศร้อนอบอ้าวได้ยาก แต่เราสามารถป้องกันเครื่องสำอางไม่ให้ไหลเยิ้มได้

*
หยุด ใช้ลิปสติกหรือบลัชออนชนิดฝุ่นตามปกติ แล้วหันมาใช้แบบที่เป็นน้ำแทน ซึ่งผลิตภัณฑ์แบบนี้มักจะใช้ได้ทั้งแก้มและปาก แถมยังช่วยป้องกันการไหลเยิ้มได้เป็นอย่างดี

*
ถ้า คุณเป็นคนที่ปัดมาสคาร่าแล้วดูไหลเยิ้มทุกที ถึงแม้จะใช้ชนิดกันน้ำแล้วก็ตาม ก็ควรหยุดใช้มาสคาร่าแบบนั้น แล้วหันมาใช้แบบที่เป็นเจลใสๆไร้สีแทน มาสคาร่าแบบนี้จะช่วยให้เส้นขนตาดูเป็นระเบียบแบบไม่มีวันไหลเยิ้ม

*
ถ้า คุณใช้ครีมรองพื้นชนิดน้ำหรือชนิดครีม ก็เปลี่ยนมาใช้แบบที่เป็นแป้งมิเนอรัลแทน เพราะความร้อนไม่ค่อยมีผลที่จะทำให้แป้งแบบนี้เกิดการไหลเยิ้ม



ข้อมูลจาก Lisa




 

Create Date : 17 ตุลาคม 2553    
Last Update : 17 ตุลาคม 2553 10:56:29 น.
Counter : 515 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  

Kanphicha
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ที่มาของคำว่า Kefir By รัญรักษ์
ไม่ใช่ชื่อยี่ห้อ ไม่ใช่เครื่องหมายการค้า
แต่เป็นชื่อพ่อและแม่ของกานต์เองค่ะ
เมื่อกานต์ทำบุญครั้งใด ก็จะยกกุศลทั้งหมดให้พ่อและแม่
การแจกจ่ายบัวหิมะให้คนอื่นๆ
ถือเป็นการทำบุญอีกคร้งหนึ่ง
กานต์ขอยกกุศลผลบุญทั้งหมดให้บุพการีที่เป็นที่รักของกานต์ทั้งสองท่าน โดยการตั้งชื่อท่านทั้งสองในการแจกจ่าย Kefir นะคะ
free counters
Friends' blogs
[Add Kanphicha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.