Group Blog
 
All blogs
 

เลือกผมหน้าม้าให้เข้ากับรูปหน้า






ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหน ผมหน้าม้า ก็ไม่ตกเทรนด์ แถมยังได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าสาวน้อยสาวใหญ่ก็ฮิตกันถ้วนหน้า อ๊ะ ๆ แต่อยากจะบอกว่าไม่ใช่แค่ตามแฟชั่นเท่านั้นนะ สาว ๆ ต้องคำนึงถึงรูปแบบของหน้าม้าด้วย เลือกผมหน้าม้าต้องให้เข้ากับรูปหน้าด้วยนะจ๊ะ



หน้าม้าตรง

เป็นหน้าม้าแบบมาตรฐานที่สุด เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีรูปหน้ายาวค่ะ จะช่วยทำให้หน้าดูสั้นได้สัดส่วนมากขึ้นค่ะ



หน้าม้าเต่อ

อินเทรนด์สุด ๆ กับหน้าม้าเต่อ ลุกส์แบบเกาหนีนิด ๆ โดนใจสาว ๆ สุด ๆ หน้าม้าแบบนี้เหมาะสำหรับสาว ๆ หน้ารูปไข่ หรือหน้าผากแคบ ซอยบาง ๆ น่ารักสุด ๆ แต่สาวหน้ากลมและหน้าเหลี่ยมอย่าน้อยใจไป ตัดหน้าม้าเต่อได้เหมือนกัน แต่หน้าม้าต้องอยู่เหนือคิ้ว ซอยบาง ๆ ส่วนด้านข้างก็ไล่มาระดับแก้ม จะช่วยทำให้หน้ากลมเหลี่ยม เรียวยาวเป็นรูปไข่



หน้าม้าปัด

มาถึงแบบสุดท้าย ผมม้าแบบนี้เหมาะกับสาวหน้ากลมหรือหน้าเหลี่ยมอีกเช่นกันค่ะ จะช่วยพรางหน้าให้ดูยาว และช่วยปิดหน้าผากที่กว้างให้แคบลงได้ค่ะ อ่อ! ควรซอยไล่เป็นแนวเฉียงด้วยนะคะ รับรองสวยไม่แพ้ใครเลย



Tips

วิธีจัดทรงสำหรับผมหน้าม้า สำหรับหน้าม้าตรงปล่อยพลิ้วตามธรรมชาติ หรืออาจจะใส่ลีฟอินเล็กน้อย หน้าม้าปัดใช้เจลจัดแต่งทรงผม จัดให้อยู่ทรง แค่นี้หน้าม้าของคุณก็สวยเริดแล้วค่ะ





ที่มา Women’s Story




 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2553 7:54:17 น.
Counter : 863 Pageviews.  

มื้อเช้า เราควรทานอาหารประเภทไหนดี

Q: มื้อเช้า เราควรทานอาหารประเภทไหนดี

A: อาหารเช้าที่ดีควรเป็นอาหารครบมื้อ มีทั้งข้าว เนื้อสัตว์ ผัก ไขมัน และกินผลไม้เป็นของหวาน อาหารเช้าควรให้พลังงานไม่ต่ำกว่า 500 กิโลแคลอรี ควรมีสารอาหารโปรตีนประมาณ 15 กรัมด้วย ซึ่งจะต้องมาจากเนื้อสัตว์ประมาณ 50 กรัม และจากข้าวอีก 100 กรัม อาหารเช้าที่น้อยกว่านี้ไม่พอจะให้สบายท้องจนถึงเวลากลางวัน

ถึงแม้ว่าจะมีอาหารหลายอย่างที่ให้โปรตีน เราต้องเลือกโปรตีนจากสัตว์และพืชผสมกัน อาหารที่มีโปรตีนมักจะมีไขมันอยู่ด้วย เนื้อสัตว์ที่ให้โปรตีนจะให้ไขมันด้วย เนื้อสัตว์ที่นุ่มมาก จะมีไขมันแทรกอยู่มาก ดูรายการสารคดีการเลี้ยงหมูขุน โคขุน ไก่เนื้อ จะเห็นว่าสัตว์พวกนี้ไม่ได้ออกกำลังกาย อยู่ในโรงเลี้ยงพื้นที่น้อยพอดีตัวสัตว์ เลี้ยงสัตว์ให้อ้วน เนื้อนุ่ม อาหารที่มีเนื้อนุ่มจึงมีไขมันที่มาจากสัตว์ เป็นไขมันที่เป็นอันตรายต่อหัวใจและหลอดเลือด เราจะได้โปรตีนจากข้าวและผัก พร้อมกันนั้นก็ได้น้ำมันถั่วซึ่งเป็นไขมันไม่อิ่มตัว มีประโยชน์ต่อหัวใจและหลอดเลือด

อาหารเช้าที่ดีต้องมีผักสีเขียว เช่น ผักบุ้ง คะน้า ตำลึง ใบกะเพรา ใบมะกรูด ใบชะพลู อาหารที่ดีต้องมีผักครึ่งหนึ่ง อย่างอื่นๆครึ่งหนึ่ง การกินผักหมายถึงกินผักที่มีสีสด ในจำนวนมากเป็นครึ่งหนึ่งของอาหารทั้งมื้อ ถ้าเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำก็ควรจะต้องใส่ถั่วงอกและตำลึงมากๆ อ่านแล้วนำไปปรับให้เข้ากับตัวเองนะคะ



ข้อมูลจาก share.psu.ac.th




 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2553 7:54:06 น.
Counter : 407 Pageviews.  

ขอเชิญร่วมงานเพื่อคนรักสุขภาพ "12 ปี ชีวจิต 12 เวิร์คช็อป"

ขอเชิญผู้ที่สนใจและรักสุขภาพทุกท่านร่วมงาน

“วันครอบครัวชีวจิต 12 ปีชีวจิต 12 เวิร์คช็อป เพื่อคนรักสุขภาพ”

ในวันเสาร์ที่ 13 มีนาคม 2553 ตั้งแต่เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป
ณ คอนเวนชั่นฮอลล์ อมรินทร์คอร์เปอเรทปาร์ค ตลิ่งชัน

ภายในงานท่านจะได้ร่วมเวิร์คช๊อปเพื่อสุขภาพ
กับ 4 คอลัมน์นิสต์ชื่อดังจากนิตยสารชีวจิต
พร้อมรับสิทธิ์ตรวจสุขภาพเบื้องต้น ฟรี !!
และร่วมลุ้นการประกวดแฟนพันธุ์แท้ชีวจิตกับ อ.สาทิส อินทรกำแหง

*******งานนี้ฟรี ตลอดงาน*******

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2422-9999 ต่อ 4510 ,4127 - 8 หรือ //www.cheewajit.com

ห้ามพลาด !!!!! กับกิจกรรมดีๆ ต้อนรับปีเสือ...............




 

Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2553 4:54:33 น.
Counter : 400 Pageviews.  

ลดน้ำหนักลดพลังงาน

หลายท่านอาจเคยประสบปัญหาอยากลดน้ำหนัก แต่พอเริ่มควบคุมอาหาร น้ำหนักกลับลดลงแค่เพียงนิดหน่อย เห็นตัวเลขบนตราชั่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากก็หาทางเปลี่ยนวิธีใหม่ โดยเลือกออกกำลังกายเพื่อใช้พลังงานให้เพิ่มขึ้น จะได้ไม่ต้องคุมการกินให้มากนัก
แต่ที่ไหนได้เมื่อออกกำลังกายมากขึ้น น้ำหนักก็กลับไม่ยอมลงให้ชื่นใจสักที แถมบางครั้งยังดูจะเพิ่มขึ้นมาอีกต่างหาก แล้วอย่างนี้จะลดน้ำหนักกันอย่างไรดี…


หลักในการลดน้ำหนัก คือต้องได้รับพลังงานน้อยกว่าพลังงานที่ใช้ไป โดยที่ความต้องการพลังงานของร่างกายจะต่างกันดังนี้
อายุ เมื่ออายุมากขึ้นความต้องการพลังงานของร่างกายจะค่อยๆ ลดลง ความเปลี่ยนแปลงของการใช้พลังงานอาจเห็นได้ชัดในช่วงอายุประมาณ 40 ปี โดยผู้ชายมักจะเริ่มลงพุง ผู้หญิงมักจะค่อยๆ เปลี่ยนจากเอวบางร่างน้อยเป็นเอวหนาร่างใหญ่ เพราะร่างกายมีการใช้พลังงานลดลง แต่พลังงานที่ได้จากการกินยังคงเท่าเดิม

เพศ โดยโครงสร้างของร่างกาย ผู้ชายจะมีขนาดของร่างกายใหญ่กว่าและมีกล้ามเนื้อมากกว่า ดังนั้นผู้ชายจึงต้องการพลังงานมากกว่า

กิจกรรมที่ทำ ผู้ที่ทำงานนั่งโต๊ะจะใช้พลังงานน้อยกว่าผู้ที่ทำงานที่ต้องมีการเดินหรือทำงานกลางแจ้ง และผู้ที่ไม่ออกกำลังกายต้องการพลังงานน้อยกว่าผู้ที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
แม้ความต้องการพลังงานจะต่างกัน แต่การทำให้ร่างกายได้รับพลังงานน้อยกว่าพลังงานที่ใช้ไปมีวิธีไม่ต่างกัน คืออาจลดพลังงานจากอาหารที่เรารับประทาน หรือเพิ่มการใช้พลังงานโดยการออกกำลังกาย หรือทำทั้งสองอย่างร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลเร็วและยังช่วยป้องกันไม่ให้กลับมาอ้วนซ้ำอีกครั้ง

แต่จะต้องลดพลังงานจากการกินเท่าไร และเพิ่มการใช้พลังงานอีกเท่าไรจึงจะลดน้ำหนักลงได้ มีวิธีคำนวณดังนี้
การลดน้ำหนัก 1 กิโลกรัม ต้องได้รับพลังงานน้อยกว่าที่ใช้ 7,000 กิโลแคลอรี
เป้าหมายในการลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพที่ดี คือลดน้ำหนัก 0.5 - 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ ซึ่งหมายถึงการได้รับพลังงานน้อยกว่าความต้องการสัปดาห์ละ 3,500 – 7,000 กิโลแคลอรี


ตัวอย่างการลดพลังงานเพื่อลดน้ำหนัก 0.5 - 1 กิโลกรัม/สัปดาห์

หากต้องการลดน้ำหนักสัปดาห์ละ 0.5 - 1 กิโลกรัม ด้วยการออกกำลังกายทุกวัน โดยใช้พลังงานวันละ 300 กิโลแคลอรี ยังต้องลดพลังงานที่ได้จากอาหารอีกวันละ 200 – 700 กิโลแคลอรี ซึ่งสามารถทำได้ไม่ยาก


การเลือกอาหารที่มีไขมันลดลงทำให้พลังงานที่ได้รับลดลงไปด้วย ซึ่งหลักในการเลือกรับประทานอาหารเพื่อลดพลังงานยังมีอีกหลายข้อที่น่าสนใจดังนี้
1. เลือกอาหารที่ปรุงโดยใช้น้ำมัน เนย หรือกะทิที่มีในปริมาณน้อย เพราะน้ำมันหรือเนย 1 ช้อนชา หรือกะทิ 1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงานถึง 45 กิโลแคลอรี

2. เลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดหนังหรือมัน หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ประเภทไส้กรอก หมูยอ หรือกุนเชียง เพราะในการทำจะมีการเติมไขมันเข้าไปเป็นปริมาณมาก ไส้กรอกค็อกเทล 4 ชิ้น ให้พลังงานถึง 100 กิโลแคลอรี ในขณะที่เนื้อปลา ไก่ และหมูที่ไม่ติดมัน 2 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงานเพียง 35 – 55 กิโลแคลอรี

3. หลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีการเติมน้ำตาลทุกชนิด เช่น น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลฟรุกโตส รวมถึงน้ำผึ้ง นมข้นหวาน เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้ 1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี
น้ำอัดลม ชาดำเย็น โอเลี้ยง 1 กระป๋อง หรือ 1 แก้ว ให้พลังงานประมาณ 150 – 200 กิโลแคลอรี
กาแฟเย็น ชาเย็น 1 แก้ว ให้พลังงาน 300 – 500 กิโลแคลอรี

4. หลีกเลี่ยงขนมหวานทุกชนิด ขนมหวานมักมีส่วนประกอบหลักเป็นแป้ง น้ำตาล และไขมัน ซึ่งให้พลังงานสูง
เค้ก คุกกี้ หรือพาย 1 ชิ้น ให้พลังงาน 100 – 400 กิโลแคลอรี
ขนมน้ำแข็งไส หรือแกงบวดต่างๆ 1 ถ้วย ให้พลังงาน 200 – 400 กิโลแคลอรี
ไอศกรีม 1 ลูก หรือ ? ถ้วยตวง ให้พลังงานประมาณ 200 กิโลแคลอรี

ในการลดน้ำหนักด้วยการควบคุมพลังงานจากอาหาร ไม่ใช่การอดอาหาร เพียงแต่ต้องรู้จักเลือกอาหารโดยหลีกเลี่ยงอาหารที่ให้พลังงานสูง และรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสม ร่วมกับการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มการใช้พลังงาน และต้องให้เวลากับการลดน้ำหนักด้วย

เพราะการลดน้ำหนักเร็วเกินไปอาจส่งผลเสียกับสุขภาพ และอาจไม่ให้ผลที่ถาวรเหมือนกับการค่อยๆ ปรับพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย ซึ่งหากสามารถปฏิบัติได้ต่อเนื่องก็จะช่วยให้ทุกคนสามารถลดน้ำหนักได้อย่างถาวร

ตั้งต้นลดน้ำหนักวันนี้เพื่อสุขภาพที่ดีตลอดไปกันเถอะค่ะ




 

Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2553 4:54:16 น.
Counter : 444 Pageviews.  

เคล็ดลับการเลือกซื้อกระเป๋าไม่ให้ตกเท

ใครชอบสะพายกระเป๋าใบเดียวซ้ำๆ กันทุกวันคงไม่ดีแน่ เพราะกระเป๋า จะยิ่งเก่าเร็วขึ้นอีก แต่บางคนถึงมีหลายใบก็ใช่ว่าจะใช้คุ้ม เพราะอารมณ์ ตอนซื้อหน้ามืดไปหน่อย เห็นแค่สวย ก็คว้าหมับแล้ว ก่อนจะพลาดเป็นครั้งที่ร้อย วันนี้จึงมีเคล็ดลับในการเลือกซื้อกระเป๋ามาฝาก พร้อมกับยั่วกิเลสนักช็อป ด้วย กระเป๋าอินเทรนด์จาก 5 แบรนด์ดัง ด้วยล่ะ



++ที่แน่ๆ ต้องสำรวจคุณภาพของกระเป๋าเป็นอันดับแรก เย็บดีมั้ย มีรอยปริรอยขาด ตรงไหน แล้วสายกระเป๋าเย็บหนาแน่น พอจะรับน้ำหนัก ไหวหรือเปล่า

++ว่าแล้วก็ลองถ่ายเทสัมภาระ จากกระเป๋าใบเก่า ลองมาใส่ใบใหม่ ว่าบรรจุของ ได้หมดครบเซ็ทหรือไม่

++เมื่อบรรจุของเต็มเอี๊ยดแล้วก็ลอง ถือ หิ้ว หรือสะพายดูสักหน่อย ว่าเมื่อน้ำหนักของ สัมภาระบวก น้ำหนักของกระเป๋า เราจะทนแบกไหว หรือไม่

++หากกระเป๋าที่เลือกเป็น ชนิดสะพาย ควรเช็คสายกระเป๋าให้ดีก่อนว่า สะพายแล้วนุ่ม ไม่เจ็บ หรือเสียดสีไหล่บ้างหรือเปล่า

++อย่าลืมเช็คดูด้วยว่า ตอนที่ใส่ของเต็มกระเป๋าแล้วเนี่ย ทรงของกระเป๋าว่า ยังคงรูปเดิม อยู่หรือเปล่า ไม่ใช่ว่าดีไซน์เดิมเป็นทรงสี่เหลี่ยม แต่พอใส่ ของครบเซ็ทกลายเป็น ทรงกลม เวลาสะพายคงแปลกๆ

++จากนั้นก็ลองล้วงลงไปในกระเป๋าว่าหยิบของได้สะดวกหรือเปล่า หรือจะหา อะไรทีต้องเทออกมาดูทั้งกระเป๋าถึงจะเจอ

++อย่าลืมเช็คดูให้ชัวร์ว่ากระเป๋ามีช่องลับ ที่เป็นช่องซิปหรือช่องเล็ก ช่องน้อย อีกหรือเปล่า กระเป๋าที่ดีควรจะมีเพราะซื้อทั้งทีต้องขอคุ้มหน่อย คืออย่างน้อยนอกจากจะใส ่สัมภาระชิ้นใหญ่ๆ แล้ว น่าจะมีเนื้อที่ไว้ใส่ของ กระจุกกระจิก เช่น กุญแจรถ หรือกระเป๋าสตางค์ด้วย

++กระเป๋ามีหลายแบบ แบบซิปรูดปิดหมดหรือแบบ เปิดด้านบนเน้นการ ความจุ ของได้เยอะหรือมีแค่กระดุมแม่เหล็กเม็ดเดียว อย่าคิดแต่ว่า สวยเก๋ไว้ก่อน เวลาเลือกชั่งใจสักนิดว่าต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย



++ตอนซื้ออย่าลืมส่องกระจกเพื่อเช็คดูว่ากระเป๋าแมทซ์กับบุคลิกการแต่งตัว ของเราไหม และต้องคิดล่วงหน้าด้วยว่า จะเข้ากับเสื้อผ้าที่เรามีอยู่ได้ มากน้อยแค่ไหน ขอเตือนว่าอย่าเข้าข้างตนเองเด็ดขาด มิฉะนั้นอาจ เสียเงินฟรี

++วัสดุก็สำคัญ ถึงแม้ลวดลายและดีไซน์สุดเก๋ แต่กระเป๋าทำจากหนังหยาบๆ หรือผ้าหนาๆ ก็ไม่น่าซื้อ อีกประเภทหนึ่งคือ พวกกระเป๋าเบาๆ ที่ทำจากผ้าร่ม หรือไนลอน ขอบอกว่า ผ้าพวกนี้หากเลอะแล้ว ยากเกินจะทำความสะอาด ให้ดูดีเหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆ ซึ่งถ้าหากเลือกชนิดที่เป็นหนัง ใช้ผ้านุ่มๆ ชุบโลชั่นเช็ดนิดเดียวก็ออกแล้ว

++สำหรับผู้ที่รักความโดดเด่น ประเภทเน้นอินเทรนด์ไว้ก่อน ซีซั่นนี้กระเป๋า ที่ทำจากผ้า ตาสก๊อตหรือลายงูนั้น เอ้าท์ไปแล้ว และหากท่านจะเลือกชนิดที่เน้นสีสันคัลเลอร ์ฟูลก็ควรจะมีเท็คเจอร์ที่เรียบๆ หากคุณเป็นคนรักกระเป๋าขน สีน้ำตาล สีดำ จะ




++ถ้าจะให้ดีควรเลือกระเป๋าแบบคลาสสิค รูปทรงเรียบๆ โทนสีกลางๆ ไม่ฉูดฉาด รับรองว่าไม่มีวันเชยแน่นอน เพราะ นอกจากจะเรียบ เนี๊ยบ เก๋ ดูเป็นคุณนายแล้ว ยังใช้ได้นานวันไม่มีตกยุค (แต่อย่าลืมดูบุคลิกตัวเองประกอบการ ตัดสินใจด้วยนะคะ)

++ใครเป็นประเภทบ้าหอบฟาง นิยมพกของไปเยอะๆ เหมือนย้ายบ้าน ควรเลือกกระเป๋าชนิดที่เปิดช่วงบน เพื่อให้ง่ายแก่การใส่ & หยิบ สะพายพาดลำตัว หรือเป็นเป้สะพายหลังไปเลย จะช่วยให้สบาย ไม่ควรเลือกแบบหิ้ว เพราะปวดแขนปวดไหล่เปล่าๆ และทางที่ดีควรเลือกชนิดที่มีช่องลับก็ จะช่วยให้เซฟขึ้นด้วย

++แต่ถ้าจะให้อินเทรนด์กันจริง ๆ ต้องเลือกแบบเบาๆ เล็กๆ เน้นแฟชั่นสีสดใส หอบหิ้วสบาย ไว้ก่อน จะมีข้อเสียก็ตรงที่ว่าใช้ได้แป๊บๆ เดี๋ยวก็เอ้าท์อีกแล้วนี่สิ

++สีก็สำคัญไม่น้อย สาวๆ หลายคนเมื่อย่างกรายเข้าร้านขายกระเป๋าแล้ว เป็นต้องเดินตรงรี่เข้าไปคว้าใบที่มีสีดำไว้ก่อนเป็นอันแรก ข้อนี้เหตุผล ง่ายดีสีนี้ไม่มีตกยุค แถมจับเข้าได้กับทุกชุดอีกต่างหาก





 

Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2553 4:54:05 น.
Counter : 731 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  

Kanphicha
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ที่มาของคำว่า Kefir By รัญรักษ์
ไม่ใช่ชื่อยี่ห้อ ไม่ใช่เครื่องหมายการค้า
แต่เป็นชื่อพ่อและแม่ของกานต์เองค่ะ
เมื่อกานต์ทำบุญครั้งใด ก็จะยกกุศลทั้งหมดให้พ่อและแม่
การแจกจ่ายบัวหิมะให้คนอื่นๆ
ถือเป็นการทำบุญอีกคร้งหนึ่ง
กานต์ขอยกกุศลผลบุญทั้งหมดให้บุพการีที่เป็นที่รักของกานต์ทั้งสองท่าน โดยการตั้งชื่อท่านทั้งสองในการแจกจ่าย Kefir นะคะ
free counters
Friends' blogs
[Add Kanphicha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.