Group Blog
 
All blogs
 
สุขภาพดีและมีความสุข แบบสาวสามวัย

สุขภาพดีและมีความสุขแบบสาวสามวัย (Lisa)





ผู้หญิงวัย 20+ ยังมีฮอร์โมนเพศเต็มเปี่ยม สุขภาพแข็งแรง ส่วนสาววัย 30+ สุขภาพเริ่มถดถอยเพราะความเครียด และสาววัย 40+ ต้องระวังสุขภาพให้ดี

ดาราสาว สการ์เล็ตต์ โจแฮนัน ใส่ใจดูแลสุขภาพและเตรียมวางแผนสำหรับอนาคตตัวเองเมื่อมีวัยมากขึ้น เพื่อจะได้มีสุขภาพที่ดี และมีความสุขกับทุกวัยที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี แล้วคุณล่ะคะ เตรียมสุขภาพร่างกายและจิตใจสำหรับอนาคตข้างหน้าหรือยัง ลองหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจกันตั้งแต่วันนี้ เพื่อคุณจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขไปนานๆ Lisa มีแบบทดสอบให้แก่สาววัย 20+ 30+ และ 40+ พร้อมข้อแนะนำในการดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย เพื่อพยุงความแข็งแรง และอ่อนเยาว์ไว้นานๆ

สาววัย 20+

สาวๆ วัยนี้มีร่างกายกระฉับกระเฉง มีกำลังวังชา และส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศ และเป็นวัยที่เริ่มสร้างอนาคตกับการทำงานหรือบางคนก็กำลังศึกษาเล่าเรียน เป็นวัยที่ยังไม่ค่อยมีเรื่องทุกข์กังวล หากต้องการคงความอ่อนเยาว์ไปนานๆ ก็ควรเตรียมตัวตั้งแต่วัยนี้ สิ่งสำคัญคือการสร้างมวลกล้ามเนื้อและมวลกระดูกให้หนาแน่น จึงควรออกกำลังกาย สม่ำเสมอ กีฬาที่เหมาะคือ Cross Training ออกกำลังหลากหลายชนิด เช่น จ็อกกิ้ง ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน สเต็ปแอโรบิกในฟิตเนสสตูดิโอ หรือเล่นเทนนิสกับเพื่อนๆ แต่ไม่ควรออกกำลังอย่างหักโหมเพราะจะทำให้เกิดความเครียดมากกว่า หรือฝึกเล่นโยคะเพื่อลดความเครียด

นอกจากนี้ก็ควรรับประทานผักและผลไม้ให้มากในแต่ละวัน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว และทาโลชั่นกันแดดทุกวันก่อนออกจากบ้าน หลีกเลี่ยงแสงแดดแรงๆ (อาจกางร่ม หรือสวมเสื้อแขนยาวเมื่อออกนอกบ้าน) แต่ควรได้รับแสงแดดอ่อนๆ ในตอนเช้าเพื่อเติมวิตามินดีให้ร่างกายแค่นี้คุณก็จะคงความสาวและสุขภาพดีไปนานๆ

สาววัย 30+

ผู้หญิงวัยนี้บางคนก็มีครอบครัว มีลูก ทำงานหาเลี้ยงชีพ ซึ่งทำให้เครียดอยู่บ่อยๆ แต่ผู้หญิงเป็นเพศ ที่แข็งแกร่ง จึงทำให้พวกเธอทนทานกับความกดดันได้ดีกว่าเพศชาย ไม่ว่าจะเป็นการดูแลลูกๆ การทำงานหาเลี้ยงชีพทั้งวัน ตกเย็นก็ต้องกลับมาดูแลครอบครัว และเมื่อเข้านอนก็ยังรู้สึกกังวลที่ยังจัดการธุระต่างๆ ไม่เสร็จสิ้นอย่างที่ตั้งใจ สิ่งเหล่านี้เป็นแรงกดดันให้ผู้หญิงเกิดความเครียดสะสม โดยผู้หญิงจะทนแรงกดดันได้ดีจนถึงวัย 35 แต่ถ้ายังมีความเครียดเรื้อรังก็จะส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ นั่นคือมีการหลั่งฮอร์โมนคอร์ดิซอล (ฮอร์โมนแห่งความเครียด) อย่างต่อเนื่อง ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และอาจทำให้เป็นโรคซึมเศร้า มีปัญหานอนไม่หลับ ปวดศีรษะ และโรคเกี่ยวกับลำไส้มักเกิดขึ้น ระหว่างอายุ 30-40 ปี

นอกจากนี้ ความเครียดเรื้อรังก็เป็นตัวการเร่งกระบวนการความชราให้เร็วขึ้น โดยวัดได้จากส่วนปลายของโครโมโซม ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับนาฬิกาของเซลล์ร่างกาย และหากมีความเครียดเพิ่มมากขึ้นก็จะทำให้กล้ามเนื้อตึงเครียดและทำให้ปวดหลัง คือ อย่างน้อยที่สุดหนึ่งในสามของคนไข้ที่ปวดหลัง ก็เนื่องมาจากจิตใจที่ส่งผลกระทบไปยังกระดูกสันหลัง โดยจะเห็นได้ชัดในผู้หญิงที่ขาดการดูแลและจัดการกับความเครียด รวมทั้งผู้ที่เป็นนักเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ หรือคนที่ทะเยอทะยานกับสิ่งที่ทำให้เป็นจริงได้ยาก ก็อาจทำให้เป็น Burnout Syndrome หรือป่วยเป็นโรคทางจิตเวชได้

ผู้หญิงวัย 40+

นาฬิกาชีวิตของสาววัย 40+ เริ่มเปลี่ยนไป เริ่มมีปัญหาข้อต่อ และการเผาผลาญพลังงานช้าลง หากรู้วิธีดูแลตัวเองก็จะช่วยยืดความชราออกไปได้ ผู้หญิงวัย 40 ในปัจจุบันที่ดูแลตัวเองดีก็จะมีความอ่อนเยาว์และกระฉับกระเฉงกว่าผู้หญิงวัย 40 ในสมัยก่อน ทั้งนี้ การเผาผลาญพลังงานของผู้หญิงในวัย 40+ เริ่มลดลงไปตามวัยที่มากขึ้น สาววัยนี้จึงยากที่จะรักษารูปร่างให้สะโอดสะองเหมือนเดิมได้

นอกจากนี้ก็เริ่มมีปัญหาข้อต่อและกระดูกสันหลัง และจะยิ่งมีอาการมากขึ้นเมื่อมีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นตามวัย หรือมีอาการบาดเจ็บของกระดูกอ่อน คือ ผู้หญิงส่วนใหญ่เมื่อเข้าสู่วัย 35 ร่างกายก็จะผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนน้อยลง และต่อมาฮอร์โมนเอสโตรเจนก็ลดลงตามมา กระบวนการเหล่านี้มีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายเมื่อเข้าสู่วัย 40+ คือ นอนไม่หลับ ร้อนวูบวาบ นี่เป็นอาการของวัยทอง ซึ่งผู้หญิงบางคนอาจไม่มีอาการก็ได้ เมื่อร่างกายเปลี่ยนแปลงไปก็จะส่งผลให้ผู้หญิงรู้สึกกลัวการสูญเสียความเป็นผู้หญิง สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือผิวมีริ้วรอยย่นนั่นเอง

Tips

กระเทียมและหัวหอมใหญ่ป้องกันมะเร็งรังไข่ จากการศึกษาของ European Prospective Investigation into Cancer and Nutrition ได้ทำการศึกษาวิจัยอาหารการกินของผู้หญิงจำนวน 325,640 คน จาก 10 ประเทศในยุโรป พบว่าผู้หญิงที่กินกระเทียมและหัวหอมใหญ่เป็นประจำ จะสามารถป้องกันโรคมะเร็งรังไข่ได้ดีกว่า ผู้หญิงที่ไม่กินกระเทียมและหัวหอมใหญ่

ผู้หญิงที่ออกกำลังกายจะช่วยป้องกันโรคหัวใจ เนื่องจากผู้หญิงมีฮอร์โมนเพศเอสโตรเจน ซึ่งช่วยป้องกันโรคหัวใจ แต่เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยทองและฮอร์โมนลดลง ก็จะทำให้การป้องกันโรคหัวใจจากธรรมชาติขาดหายไป ดังนั้น ผู้หญิงจึงควรหาเกราะป้องกันโรคหัวใจด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะจากการศึกษาของนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่ได้ทำการศึกษาวิจัยกับผู้หญิง 90,000 คน พบว่า ผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวปกติ ออกกำลังกายมากกว่า 3.5 ชม. ต่อสัปดาห์ มีความเสี่ยงน้อยกับการเกิดโรคหัวใจ

ความอุ้ยอ้ายเป็นผลร้ายต่อสุขภาพของคนเป็นมะเร็งเต้านม ทั้งนี้ จากข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติแคนาดา พบว่า คนที่เป็นมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้นนม มักจะมีภาวะอ้วน และมีกิจกรรมน้อย (ใช้พลังงานน้อย) ทำให้เสียสุขภาพ และนำมาซึ่งการเป็นมะเร็งซ้ำ และคุณภาพชีวิตที่ต่ำ ฉะนั้น คุณจึงควรขยับร่างกายก่อนจะไม่มีร่างกายให้ขยับ

ที่มา Lisa


Create Date : 14 มกราคม 2553
Last Update : 14 มกราคม 2553 4:53:11 น. 3 comments
Counter : 435 Pageviews.

 

สวัสดีวันพฤหัสฯ ที่แสนจะครื้นเครง ทำงานอีกวันเดียวเองก็จะเป็นวันศุกร์ จะไดัเอากระปุกไปใส่กะเป๋า ^___^



โดย: ผมชอบกินข้าวมันไก่ วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:10:46:12 น.  

 
รบกวนช่วยตอบแบบสอบออนไลน์เพื่อการศึกษาหน่อยค่ะ
ตาม link
//spreadsheets.google.com/viewform?formkey=dFBZSVJOeks5QUJxeHVGNy1ISlplMnc6MA
ขอบคุณค่ะ


โดย: kaewnumsai วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:16:24:20 น.  

 
Love is always bestowed as a gift -

freely, willingly and without expectation.

We don't love to be loved; we love to love.

Leo Buscaglia


โดย: Elbereth วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:16:01:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kanphicha
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ที่มาของคำว่า Kefir By รัญรักษ์
ไม่ใช่ชื่อยี่ห้อ ไม่ใช่เครื่องหมายการค้า
แต่เป็นชื่อพ่อและแม่ของกานต์เองค่ะ
เมื่อกานต์ทำบุญครั้งใด ก็จะยกกุศลทั้งหมดให้พ่อและแม่
การแจกจ่ายบัวหิมะให้คนอื่นๆ
ถือเป็นการทำบุญอีกคร้งหนึ่ง
กานต์ขอยกกุศลผลบุญทั้งหมดให้บุพการีที่เป็นที่รักของกานต์ทั้งสองท่าน โดยการตั้งชื่อท่านทั้งสองในการแจกจ่าย Kefir นะคะ
free counters
Friends' blogs
[Add Kanphicha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.