Group Blog
 
All blogs
 

วิธีดูแลรักษารองเท้าคู่สวยของคุณผู้หญิง

วิธีในการดูแลรักษารองเท้า คู่สวย คู่เก่ง ของคุณผู้หญิงถ้ารองเท้าเกิดเปียกฝน เหม็นอับขึ้นมา

วิธีดูแลรักษารองเท้าของคุณผู้หญิง

1. เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว สิ่งที่ควรทำโดยด่วยคือ ให้ใช้น้ำที่สะอาดล้างทำความสะอาดรองเท้าของคุณผู้หญิงให้ทั่วภายนอก จากนั้นค่อยเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด แล้วนำตากในที่ล่ม มีลมโปร่ง ไม่อับ ให้แห้ง

2. สำหรับชิ้นส่วนของพื้นรองเท้าที่อยู่ด้านใน ถ้าถอดมาทำความสะอาดได้ ให้นำไปล้างและทำความสะอาดซะนะคะ แล้วนำตากในที่ล่ม มีลมโปร่ง ไม่อับ ให้แห้งเช่นเดียวกัน

3. ไม่ควรใส่รองเท้าขณะที่ยังเปียก หรือชื้นอยู่ เพราะจะทำให้เกิดปัญหารองเท้ามีกลิ่นเหม็นอับได้ และ จะทำให้รองเท้าคู่สุดรักของคุณผู้หญิงเสียทรง หนังยืด ได้ด้วยค่ะ

4. การตากรองเท้าควรวางรองเท้าของคุณผู้หญิงให้ตั้งเอียงขึ้นประมาณสัก 45 องศาจากพื้น ให้น้ำที่ขังด้านในจากการล้างทำความสะอาดนั้นไหลออกมา

5. เมื่อรองเท้าแห้งให้นำไปเช็ดและถ้าหากเป็นรองเท้าหนังให้ขัดหนังรองเท้าคู่เก่งของคุณผู้หญิงให้เงาวับ แล้วนำไปวางไว้ที่แดดส่องถึงประมาณสัก 2 ชั่วโมงค่ะ เพื่อเป็นการรักษาหนังของรองเท้าคู่เก่งของคุณผู้หญิง

ลองนำวิธีที่บอกไปทำกันดูนะคะ คุณผู้หญิงจะได้มีรองเท้าคู่สวย คู่เก่ง ไว้ใส่นานๆ ไม่ต้องเสียเงินซื้อรองเท้าบ่อยๆ ด้วยค่ะ



ที่มา เลดี้วีซ่า




 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2553 7:54:35 น.
Counter : 396 Pageviews.  

เคล็ดลับความงามตามตำนาน

แม้ กาลเวลาจะเปลี่ยนไป แม้การดำรงชีวิตและวิถีแห่งความงามจะแตกต่างออกไปในแต่ละยุค ทั้งหมดทั้งมวลล้วนสะท้อนความคิดสร้างสรรค์และความอุตสาหะของหญิงสาวในแต่ละยุคสมัยที่รังสรรค์ความงามให้แก่ตัวเอง ดั่งตัวอย่างเคล็ดลับความงามที่บันทึกอยู่ในหนังสือชุดพิเศษ 100,000 Years of Beauty โดย มูลนิธิลอรีอัล

ยุคอียิปต์โบราณ น้ำหอมเป็นสิ่งสำคัญที่นอกจากจะใช้เพื่อความงามแล้ว ยังถูกนำมาใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาและรักษาโรคอีกด้วย Kyphi นับเป็นน้ำหอมที่ได้รับความนิยมและโด่งดังที่สุดแห่งยุค ทำจากดอกไม้นานาชนิด น้ำผึ้ง ไวน์ และพืชตระกูลเบอร์รี่ต่างๆ มีความเชื่อกันว่าเมื่อดื่มน้ำหอมนี้แล้วจะช่วยรักษาโรคปอด ลำไส้ และตับได้

ยุคกรีกโบราณ หญิงสาวชาวกรีกต่างชื่นชอบผมสีบลอนด์ว่าเป็นความงามที่ล้ำเลิศ แต่สีผมของสาวชาวกรีกส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น พวกเธอจึงสรรหาวิธีย้อมสีผมด้วยการใช้สารหนู และยังชำระล้างเส้นผมที่นิยมม้วนเป็นเกลียวด้วยขี้เทา น้ำมันมะกอก และน้ำเปล่า

ยุคกลาง หญิงสาวได้คิดค้นสูตรความงามจากก้นครัวโดยเสาะอาหารนานาชนิดมาบำรุงผิวพรรณ เช่น น้ำนมที่ทำให้เป็นเม็ดเพื่อใช้ทาใบหน้าช่วยรักษาสิว น้ำแตงกวาช่วยกำจัดกระ การกำจัดรอยเหี่ยวย่นด้วยครีมสูตรพิเศษซึ่งทำมาจากขี้ผึ้งและไขมันจระเข้

สมัยเรอเนซองส์ สาวอิตาลีมักชอบให้แก้มและปากแดงระเรื่อ พวกเธอจึงได้นำสีแดงซึ่งย้อมจากไม้จันทน์หรือชาดผสมเข้ากับขี้ผึ้งหรือไขมัน จากสัตว์ ผลลัพธ์ คือ สีปากและแก้มแดงสมใจนานหลายสัปดาห์แม้จะล้างหน้าทุกวันแล้วก็ตาม

ยุคทองของสเปน หญิงสาวนิยมให้ตัวเองมีผิวขาวเนียนเรียบดุจเครื่องปั้นดินเผา จึงรับประทานดินเหนียวแม้ว่าจะทำให้หญิงสาวหลายคนต้องเสียชีวิตด้วยโรคโลหิต จางก็ตาม

ปลายศตวรรษที่ 18 หญิงสาวแห่งวงสังคมชั้นสูงของฝรั่งเศสรวมถึงพระนางมารีอังตัวเน็ตต่างหลงใหล ผิวพรรณที่เกลี้ยงเกลาดุจหินอ่อน พวกเธอจึงนิยมผัดหน้าจนหนาเตอะด้วยผงแป้งที่ทำมาจากส่วนผสมต่างๆ ที่มีสีขาว เช่น ตะกั่ว แป้งโรยตัวบดละเอียด โดยนำมาผสมเข้ากับขี้ผึ้ง ชั้นไขมันของปลาวาฬหรือน้ำมันสกัดจากผักเพื่อให้เนื้อแป้งข้นเหนียวจนสามารถ ยึดติดกับผิวหน้าชนิดที่ว่าไม่หลุดร่อนเป็นแผ่น

ปลายศตวรรษที่ 19 นักทำน้ำหอม Eugene Rimmel เป็นผู้คิดค้นมาสคาร่าแบบเนื้อเค้กขึ้นเป็นครั้งแรกของโลกโดยทำมาจากเขม่า ถ่านหินผสมกับสบู่ก้อนเล็กเท่าลูกเต๋า เวลาจะใช้งานต้องทำให้ขนแปรงเปียกและถูกับเนื้อเค้กแล้วค่อยนำมาปัดขนตา หญิงสาวยุคนั้นจึงนิยมบ้วนน้ำลายเพื่อให้เนื้อเค้กเปียกชื้นก่อนใช้งาน

กระทั่งปี 1991 ผลการศึกษาพบว่านักการเมืองหญิงที่ใช้ช่างแต่งหน้าระดับฮอลลีวู้ดและช่างภาพ มืออาชีพถ่ายภาพให้ ร้อยละ 30 จะชนะการเลือกตั้ง นั่นเป็นเพราะพวกเธอมีคิ้วที่สวยงามเป็นระเบียบ สวมใส่ชุดที่มีสีสัน และรู้จักมอบรอยยิ้มที่น่าประทับใจ ความงามแต่ละยุคถ้านำมาประยุกต์ใช้ในปัจจุบัน ก็น่าจะทำให้คุณผู้หญิงทั้งหลายสวยงามไม่แพ้สาวยุคก่อนเลย....



ข้อมูล เดลินิวส์




 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2553 7:53:46 น.
Counter : 397 Pageviews.  

ทำอย่างไร เมื่อมีคนรักแล้ว แต่เห็นคนอื่นแล้วห้ามใจไม่ไหว





อันดับแรกเลย คือ มองแล้วอย่างพยายามสานความสัมพันธ์ต่อ เช่น แลกเบอร์ พูดคุย …

ถ้าคิดว่าใจเราไม่หนักแน่นพอ ที่เพียงแค่จะเป็นเพื่อน ก็อย่ารู้จักกันเลยดีกว่าค่ะ

ถ้าความสัมพันธ์ เริ่มได้พูดคุยกันบ้างแล้ว พยายามอย่าหลงคารม พยายามนึกไว้ในใจเสมอว่า เรามีคนดีๆอยู่กับตัวอยู่แล้ว

ถ้าใจมันหวั่นไหวไปแล้ว กลับคืนไม่ได้ วิธีง่ายๆเลยคือ แนะนำให้รู้จักคนอื่นต่อ อาจเป็นเพื่อนหรือคนรู้จัก

คิดไว้เสมอว่า เรามีแฟนอยู่แล้ว อย่าสนใจคนอื่นอีกเลย ไม่งั้น เราอาจจะสูญเสียคนที่อยู่ใกล้ๆไป

อย่าลืมนะคะ ความรัก มีแค่ 2 คนเท่านั้น เมื่อไหร่ที่มีคนที่ 3,4,5 … มันจะมีปัญหาตามมาเสมอ อย่าคิดเพียงแค่ว่า ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เอง …




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2553    
Last Update : 20 ตุลาคม 2553 16:56:48 น.
Counter : 553 Pageviews.  

สร้างภูมิคุ้มกันหวัด ด้วยอาหารต้านหวัด

ช่วงนี้ฟ้าฝนไม่เป็นใจเอาซะเลยว่าไหมค่ะ เลยทำให้อากาศเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ ทำให้คนข้างๆ เป็นหวัดกันมากขึ้นวันนี้เลยขอนำเคล็ดลับดีๆ เรื่องสุขภาพมาฝากคุณผู้หญิง เพื่อคุณผู้หญิงจะได้นำไปดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่ช่วยต้านหวัดกันค่ะ


1. บร็อกโคลี่

บร็อกโคลี่ เป็นผักที่ดีต่อสุขภาพมากๆ เลยทีเดียวค่ะ มีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มากมาย และเป็นแหล่งของวิตามินเอ ซี อี นอกจากนี้ ยังมีสารกลูโคไซโนเลต สังกะสี และซีลีเนียม ช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานจากเชื้อโรคต่าง ๆ ควรทานบร็อกโคลี่วันละหนึ่งถ้วย ซึ่งจะทำให้เราก็ได้วิตามินซี เท่าที่ต้องการในแต่ละวันและช่วยป้องกันเชื้อโรค แถมช่วยลลดอาการอักเสบภายต่างๆ ในร่างกายของคุณผู้หญิงได้ด้วย

2. ฟักทอง

ในฟักทองสีเหลืองๆ มีวิตามินเอ มากมายทีเดียวค่ะ การที่คุณผู้หญิงได้รับวิตามินเอนั้น จะช่วยให้ปกป้องร่างกายจากแบคทีเรียอันตรายและเชื้อโรคต่าง ๆ ที่จะเข้ามาทำร้ายร่างกายนับเป็นภูมิต้านทานที่สุดยอดเลย นอกจากนี้การกินวิตามินเอ ประจำจะทำให้ทางเดินหายใจมีสุขภาพดีอยู่เสมอ ฟักทองจึงนับเป็นอาหารที่เหมาะในหน้าฝน กับอากาศชื้นๆ น่าทำให้เป็นหวัดอย่างยิ่งค่ะ แต่วิตามินเอ ก็มีข้อเสียนะคะ เพราะถ้าทานเยอะไปก็ใช่ว่าจะดีนะคะ เพราะอาจไปสะสมอยู่ในเซลล์ไขมันและเมื่อมีมาก ๆ ก็อาจเป็นอันตราย ได้ด้วยค่ะ

3. พริกหวานแดง

คุณผู้หญิงเชื่อหรือไม่ค่ะ ว่าในพริกหวานสีแดงนั้น มีวิตามินซีมากกว่าผักและผลไม้อื่น ๆ ถึงสองเท่าทีเดียว วิตามินซีเป็นวิตามินที่ช่วยดูแลผิวพรรณ ดังนั้นได้ถ้ารับวิตามินซีสู่ร่างกายจะทำให้ผิวพรรณแข็งแรง ร่างกายก็จะคอยแข็งแรงไปด้วย นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาวและการสร้างแอนตี้บอดี้ให้ร่างกายของคุณผู้หญิงด้วยนะคะ

4. ขมิ้น

สำหรับคุณผู้หญิงคนไหนที่นึกไม่ออกว่า ขมิ้น นี่หนอ จะทานเข้าไปได้อย่างไร ถ้างั้นลองเปลี่ยนไปทานแกงกะหรี่สีเหลืองดูสิค่ะ เพราะในนั้นก็ใส่ขมิ้นไปด้วยเช่นกัน คุณผู้หญิงบางคนอาจสงสัยว่า ทำไมขมิ้นถึงมีสีเหลืองออกทอง เพราะในขมิ้นมีสารเคอร์คิวมินซึ่งเป็นโพลิฟีนอลตัวหนึ่งนี่เอง โดยการศึกษาในปี 2008 จาก Biochemical and Biophysical Research Communications ซึ่งชี้ว่าสารเคอร์คิวมินนี้ช่วยไม่ให้เกิดการอักเสบในร่างกายได้ สำหรับผงขมิ้นแล้ว ถ้าใช้ภายนอกจะมีคุณสมบัติ เป็นยาฆ่าเชื้ออีกด้วยนะคะ

5. หอยนางรม

บางคนอาจงงว่า หอยนางรมนี่นะ จะต้านหวัดได้ แต่รู้ไหมค่ะ ว่าหายนางรมนี่แหละ คือยาปลุกพลังชั้นดีที่สุดที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เพราะสังกะสีที่มีอยู่ในหอยจะช่วยปลุกฮอร์โมนเทสทอสเทอโรนให้แก่ทั้งชายและหญิงได้ด้วยค่ะ และสังกะสีในหอยนางรมนี้ยังช่วยปกป้องเราจากไข้หวัดได้ด้วย เพราะจะทำให้มันจะทำให้เม็ดเลือดขาวในร่างกายของคุณผู้หญิงทำงานได้ดีขึ้น ในการดักจับและทำลายเสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายของคุณผู้หญิงด้วยนั่นเองค่ะ แต่ถึง สังกะสีจะมีประโยชน์ แต่ไม่ควรกินสังกะสีเกินวันละ 11 มิลลิกรัม ไม่งั้นอาจจะเกิดพิษต่อร่างกายได้ด้วยเช่นกัน เพราะในหอยนางรมตัวขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่มาก 1 ตัวจะมีสังกะสีมากถึง 12.7 มิลลิกรัม ซึ่งมากกว่าปริมาณที่คุณผู้หญิงต้องการในแต่ละวันอยู่แล้ว ดังนั้นทานหอยนางรมวันละ 1 ตัวก็เพียงพอแล้วละคะ

6. โยเกิร์ต

โยเกิร์ตก็เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตนับล้าน ที่ปกป้องร่างกายจากแบคทีเรียอันตรายและเชื้อโรคต่าง ๆ ที่จะเข้ามาทำร้ายเราพวกมันเหมือนกองทหารที่อยู่ในลำไส้ คอยขับไล่สิ่งแปลกปลอมที่คิดร้าย โดยกองทหารพวกนี้ มีชื่อคุ้นๆ ว่า “โปรไบโอติกส์” ทั้งแล็กโตบาซิลลัสและไบไฟโดแบคทีเรียม ซึ่งจะไปเพิ่มเม็ดเลือดขาวในร่างกายและช่วยในการป้องกันเชื้อโรค เห็นไหมค่ะว่าโยเกิร์ตนี่ดีสุดๆ ทานง่ายไม่อ้วน เป็นของว่างชั้นเลิศสำหรับคุณผู้หญิงไว้ทานแก้หิวตอนบ่ายๆ ก็ได้ แนะนำให้คุณผู้หญิงลองหาโยเกิร์ตติดตู้เย้นที่ทำงานไว้ดูนะคะ

7. ชา

ชา นับเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ยอดนิยมรองลงมาจากน้ำเปล่าจริงๆ ค่ะ ในชาทั่วไปจะมีสารโพลีฟีนอลซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฆ่า แบคทีเรียไวรัส และยับยั้งอาการอักเสบ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังเชื่อว่าประโยชน์ส่วนหนึ่งของชาอยู่ที่ความอุ่น สำหรับคนที่ โดนฝนมาหรือเป็นหวัดอยู่แล้วเป็นหวัดแล้ว ควรหาเครื่องดื่มอุ่นๆ อย่างชา ไว้ดื่มค่ะ เพราะการดื่มชาอุ่นๆนั้นจะให้ความรู้สึกที่ไหลลื่น คุณผู้หญิงยังได้สูดเอาไออุ่นๆ
จากชาที่ดื่มเข้าไป ซึ่งจะช่วยทำให้จมูกของคุณผู้หญิงโล่งมากขึ้นด้วยนะคะ



ข้อมูล เลดี้วีซ่า




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2553    
Last Update : 20 ตุลาคม 2553 16:55:04 น.
Counter : 399 Pageviews.  

กิน !! ... เพื่อผิวสวยๆ ของคุณผู้หญิง

อย่าลืมให้ความสำคัญกับการรับประทานผักและผลไม้ ในปริมาณที่เพียงพอ อาหารที่มีประโยชน์จะช่วยบำรุงดูแลผิวของเราได้

ส้ม - เป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เลยมีประโยชน์ช่วยบำรุงให้ผิวของเราดูสดใสอ่อยวัย

มะนาว - อุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นวิตามินหลักของร่างกายที่มีผลต่อสภาพผิว หากร่างกายขาดวิตามินซี ผิวของเราก็จะดูเหนื่อยล้า แห้งกร้าน หมองคล้ำ ไม่เปล่งปลั่ง

แครอท - มีสารเบต้าแคโรทีนที่จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ซึ่งเป็นอาหารจำเป็นที่ช่วยบำรุงผิว

กีวี - ผลไม้นอกชนิดนี้ประกอบด้วยวิตามินซี ที่มีประโยชน์ต่อการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวของเราดูชุ่มชื้นหรือว่าแห้งกร้าน

อะโวคาโด - ผลไม้นอกอีกหนึ่งชนิดที่อุดมไปด้วยวิตามินซี การรับประทานอะโวคาโด 1 ผลต่อวัน จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินอีในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันเลยทีเดียว

โยเกิร์ต - การรับประทานนมเปรี้ยวหมักจะช่วยในเรื่องการขับถ่าย ซึ่งมีผลต่อผิวพรรณของเราเหมือนกัน

เมล็ดถั่วต่างๆ - ประกอบไปด้วยโปรตีน ซึ่งเป็นสารอาหารของผิวสวยค่ะ

งา - อุดมไปด้วยวิตามินบี สังกะสี และโปแตสเซียม ที่ช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้ผิวดูสดใสอ่อนวัย

ผักโขม - เหมือนที่ป๊อปอายกินไงคะ ผักชนิดนี้เต็มไปด้วยธาตุเหล็ก ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งอมชมพูดูมีสุขภาพดี

ปลาอุดมไขมัน - เช่น ปลาแซลมอน ปลาพกวนี้จะมีน้ำมันปลาที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงค่ะ





ที่มา women thaiza







 

Create Date : 20 ตุลาคม 2553    
Last Update : 20 ตุลาคม 2553 16:54:59 น.
Counter : 403 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  

Kanphicha
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ที่มาของคำว่า Kefir By รัญรักษ์
ไม่ใช่ชื่อยี่ห้อ ไม่ใช่เครื่องหมายการค้า
แต่เป็นชื่อพ่อและแม่ของกานต์เองค่ะ
เมื่อกานต์ทำบุญครั้งใด ก็จะยกกุศลทั้งหมดให้พ่อและแม่
การแจกจ่ายบัวหิมะให้คนอื่นๆ
ถือเป็นการทำบุญอีกคร้งหนึ่ง
กานต์ขอยกกุศลผลบุญทั้งหมดให้บุพการีที่เป็นที่รักของกานต์ทั้งสองท่าน โดยการตั้งชื่อท่านทั้งสองในการแจกจ่าย Kefir นะคะ
free counters
Friends' blogs
[Add Kanphicha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.