Group Blog
 
All blogs
 
แสงแดด ภัยร้ายทําลายความสวย

“แสงแดด” เป็นภัยร้ายทำลายความสวยของลูกผู้หญิง!! นอกจากจะทำให้ผิวหมองคล้ำเป็นน้องดำดอตคอมแล้ว ยังเป็นตัวการเร่งปฏิกิริยาให้ใบหน้าเหี่ยวย่น หยาบกร้าน และเต็มไปด้วยริ้วรอยไม่พึงประสงค์!!

“พลตรีนายแพทย์ กฤษฎา ดวงอุไร” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจาก รพ.พระมงกุฎ กองอายุรกรรม เล่าถึงพิษภัยของแสงแดดว่า ในแสงแดดนั้น มีพลังงานรูปแบบต่างๆแฝงตัวอยู่ โดยแบ่งได้ตามช่วงความยาวของคลื่น บางส่วนถูกดูดซับไว้ด้วยโอโซนในชั้นบรรยากาศ บางส่วนให้พลังงานความร้อน อย่างไรก็ดี ยังมีพลังงานในบางช่วงคลื่นที่เป็นอันตรายต่อผิวพรรณโดยตรงคือ “คลื่นแสงอัลตราไวโอเลต ไลท์ เอ” หรือที่รู้จักกันในวงการความงามว่ายูวีเอ เป็นพลังงานช่วงคลื่นตั้งแต่ 320-400 นาโนเมตร สามารถทะลวงลึกลงถึงผิวชั้นใน ทำให้ผิวถูกทำลายและเหี่ยวย่นก่อนวัย อีกทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีผิวคล้ำขึ้น ทำให้เป็นฝ้าด้วย

นอกจากยูวีเอแล้ว ในแสงแดดยังมีพลังงานตัวร้ายอีกตัวแฝงอยู่ ได้แก่ “อัลตราไวโอเลต ไลท์ บี” หรือยูวีบี คุณหมอบอกว่า เป็นพลังงานช่วงคลื่นตั้งแต่ 290-320 นาโนเมตร สามารถผ่านเข้าผิวหนังได้แค่ชั้นบน แต่มีพลังงานมากกว่ายูวีเอพันเท่า!! ทำให้เป็นอันตรายต่อผิวชั้นบนอย่างเฉียบพลัน ส่งผลให้ผิวไหม้เกรียม ผิวหนังอักเสบบวมแดง ถ้าได้รับมากๆในระยะยาว อาจทำให้กลายเป็นมะเร็งที่ผิวหนัง ทางที่ดีสาวๆเมืองร้อนอย่างพวกเรา ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วง 10 โมงเช้า ถึงบ่าย 3 โมง เพราะเป็นช่วงเวลาที่มียูวีบีแรงสุด!!

คุณหมอยังแนะนำเคล็ดลับป้องกันผิวจากแสงแดดเพิ่มเติมว่า เมื่อจะต้องออกแดดในช่วงที่มีแดดจัด ควรจะใส่หมวก กางร่ม และทาครีมกันแดดเสริม เพื่อให้การป้องกันมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี ต้องรู้จักเลือกครีมกันแดดให้เหมาะสมกับตัวเองที่สุด สังเกตจากค่า SPF ถ้าต้องการป้องกันผิวไหม้เกรียมแดด ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่เน้นป้องกันยูวีบี แต่ถ้าต้องการป้องกันริ้วรอยความแก่ ให้เน้นที่ครีมกันแดดป้องกันยูวีเอเป็นหลัก โดยครีมกันแดดจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ “ครีมกันแดดชนิดเคมี” ออกฤทธิ์โดยการดูดกลืนรังสี ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี และค่อยๆคลาย พลังงานออกมาเป็นความร้อน จะมีข้อดีตรงไม่มีสี แต่ข้อเสียคือมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดอาการแพ้แสง!! ส่วน “ครีมกันแดดชนิดฟิสิคัล” ทำหน้าที่กรองแสงโดยการสะท้อนรังสีออกทันทีที่ตกกระทบอนุภาคของฟิสิคัล ไม่ให้ผ่านทะลุไปถึงผิวหนังได้ คล้ายเป็นเกราะกำบังผิว จึงถือว่าปลอดภัยกว่าชนิดแรก และปัจจุบันมีเทคโนโลยีก้าวหน้ามาก ทำให้ฟิสิคัลมีอนุภาคเล็กลงเป็นไมโครไนซ์ หักเหเฉพาะแสงยูวี จึงลดปัญหาเรื่องความขาววอก สามารถปกป้องได้ทั้งยูวีเอและยูวีบี

แถมยังมีสภาวะคงตัวสูง ทนต่อแสงและความร้อนไม่เสื่อมสลายง่ายๆ ล่าสุดยังมี “ครีมกันแดดชนิดฟิสิคัล 100%” หรือเรียกว่านัน เคมิเคิล ซันสกีน พัฒนาให้มีอานุภาคเล็กสุดๆ ทำให้สามารถสะท้อนยูวีเอและยูวีบีได้อย่างมีประสิทธิภาพ...อยากสวยดูอ่อนกว่าวัย ต้องเริ่มต้นจากการโบ๊ะครีมกันแดดนะคะ!!



Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2553 1:55:00 น. 0 comments
Counter : 425 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kanphicha
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ที่มาของคำว่า Kefir By รัญรักษ์
ไม่ใช่ชื่อยี่ห้อ ไม่ใช่เครื่องหมายการค้า
แต่เป็นชื่อพ่อและแม่ของกานต์เองค่ะ
เมื่อกานต์ทำบุญครั้งใด ก็จะยกกุศลทั้งหมดให้พ่อและแม่
การแจกจ่ายบัวหิมะให้คนอื่นๆ
ถือเป็นการทำบุญอีกคร้งหนึ่ง
กานต์ขอยกกุศลผลบุญทั้งหมดให้บุพการีที่เป็นที่รักของกานต์ทั้งสองท่าน โดยการตั้งชื่อท่านทั้งสองในการแจกจ่าย Kefir นะคะ
free counters
Friends' blogs
[Add Kanphicha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.