Group Blog
 
All blogs
 
ยามเมื่อสายฝนโปรย 15

ประวิทย์หน้าเจื่อนเมื่อเห็นว่าหน้าร้านติดป้าย Closed  วิชุดามองเพื่อนชายยิ้มยิ้ม ทั้งสงสารปนสมเพชเธอรู้มาตลอดว่าวิทย์คิดกับมีนเกินเพื่อนที่น่าจะหลงความสวยของมีนตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันแล้วเหมือนกับผู้ชายหลายๆคนที่หลงในความสวยของมีน มีนเองก็รู้ว่าตัวเองสวยจึงสร้างเกาะปกป้องตัวเองด้วยการเป็นสาวน้ำแข็งที่เย็นชากับผู้ชายทุกคนที่เข้ามาขายขนมจีบแต่วิทย์แนบเนียนแฝงตัวเข้ามาสนิทสนมในฐานะเพื่อน แต่มีนแนบเนียนกว่าเพราะรู้ดีว่าวิทย์รู้สึกยังไงแต่ทำเป็นไม่รู้เพราะไม่อยากเสียเพื่อนดีดีไปเพราะเรื่องรักรักใคร่ใคร่ และวิทย์เองก็ไม่เคยล้ำเส้นเกินความเป็นเพื่อน

ลึกลึก เธอรู้ดีแก่ใจวิทย์ไม่มีทางสมหวัง มีนคงคุณค่าเฉกเช่นดอกฟ้าที่ร่วงหล่นลงมาอยู่บนกอหญ้าไม่ใช่ดอกหญ้าที่ใครอยากจะเด็ดไปเชยชมก็ทำได้ง่ายง่าย และวิทย์ไม่ใช่คนที่มีนฝันถึงแน่แน่ดีกว่าวิทย์มากมายมีนก็ยังมองเมินดั่งคนเหล่านั้นไร้ตัวตน เธอเชื่อมั่นว่ามีนมีคนในใจอยู่แล้วแค่ไม่รู้ว่าใครถามไปก็ไม่เคยได้คำตอบมีนซ่อนเร้นคนในหัวใจได้มิดชิดแนบเนียน

“ร้านปิด งั้นก็ไปหาไรกินก่อนกลับละกัน ตรงซอย10 ก๋วยเตี๋ยวเป็ดอร่อย” วิชุดาไม่รอฟังคำเออออเข้าไปจูงมือเพื่อนรักที่ตอนนี้กำลังเหมือนโดนหักอกจากอีกฝ่ายที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยให้เดินตามตนไป

มีนากึ่งวิ่งกึ่งเดินขึ้นไปข้างบน ตรงรี่ไปที่ห้องทำงานแต่ก็พบกับความว่างเปล่าจึงรีบเดินไปที่ห้องนอนเด็กสาวใจหายเล็กเล็ก เมื่อเปิดประตูห้องออกมาก็เห็นเจ้านายสาวยืนขวางอยู่

ไม่พูดพล่ามพัทรมาศดึงเด็กสาวเข้าไปหาตัว

“ว้าย!!”

“มัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบขึ้นมา” ในน้ำเสียงชัดเจนว่าขุ่นเคือง

“คือมีน” เด็กสาวอ้ำอึ้งครั้นจะพูดความจริงออกไปก็ไม่แคล้วขัดใจคนเอาแต่ใจแน่แน่

“ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นอีก”อารมณ์ที่ขุ่นมัวถูกระบายออกไปกับการกอดรักที่รุนแรง

“โอ๊ย!! คุณแวมคะปล่อยมีก่อนนะคะมีนเจ็บ” ร่างบางพยายามบิดกายเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดแต่ก็ยากเย็น

“เธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน”

“สิทธิ์ของความเป็นมนุษย์ที่เท่ากับคุณแวมไงคะ” เด็กสาวตอกกลับคนชอบใช้กำลัง โดยลืมไปว่าคุณแวมไม่ใช่แค่ชอบใช้กำลังแต่ยังเอาแต่ใจเป็นที่หนึ่งอีกด้วย

“เดี๋ยวนี้กล้าอวดดีกับฉันขนาดนี้แล้วเหรอ”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” มีนาใจหายกับความเข้าใจผิดและก็ต้องใจหายอีกครั้งที่ร่างของตนถูกยกลอยไปทิ้งลงบนเตียงโดยมีสาวร่างสูงตามลงไปทาบทับ

“ว้าย!! คุณแวมทำอะไรแบบนี้คะ”เด็กสาวดิ้นรนขัดขืนสุดกำลัง ทั้งหวั่นไหวใจเต้นแรงและขัดเคืองที่อีกฝ่ายกำลังเอาแต่ใจและไม่มีเหตุผลแต่ก็สู้เรี่ยวแรงไม่ไหว

พัทรมาศตรึงแขนขาของเด็กสาวไว้แน่น บีบรัดรุนแรงหวังให้หลาบจำ

“คุณแวมขา” เด็กสาวเสียงอ่อนทั้งอ่อนแรงและอ่อนใจ

“คุณแวมขา พี่หวาเป็นคนที่ดีกับมีนมากและเป็นพี่สาวที่มีนเคารพรักก็เท่านั้นเอง”มีนาพยายามอธิบาย แต่ก็ไม่เกิดประโยชน์แถมเกิดโทษเพราะคนฟังยิ่งขุ่นเคืองไร้เหตุผลมากขึ้น

“แล้วฉันเป็นใคร?” มีนาเลิกคิ้วสูงแปลกใจกับคำถาม ทำไมคุณแวมต้องถามอะไรแบบนี้ด้วยก็มันเป็นเรื่องที่รู้รู้กันอยู่แล้ว

“คุณแวมเป็นผู้มีพระคุณ เป็นเจ้านาย” เด็กสาวตอบกลับไป

“ใช่ ฉะนั้นเวลาฉันสั่งอะไรเธอก็ต้องเชื่อฟัง”

“แต่…” มีนาตั้งท่าจะแย้ง

“ไม่มีแต่ และถ้าเธอคิดขัดคำสั่งฉันหล่ะก็ฉันจะลงโทษเธอให้หนัก” มีนาทำได้มากที่สุดเพียงนิ่งเงียบรับสภาพก็เธอจะไม่สู้รบปรบมืออะไรกับคุณแวมได้หล่ะ ตัวก็ใหญ่กว่า เอาแต่ใจก็ที่หนึ่ง แถมยังชอบใช้กำลัง

“แล้วเธอไม่อยากรู้เหรอว่าฉันจะลงโทษเธอยังไง” มีนาไม่ได้สังเกตเลยว่าคนเอาแต่ใจที่ชอบใช้กำลังเสียงอ่อนลง

“คุณแวมจะลงโทษอะไรมีนหล่ะคะ”

“หันหน้ามาก่อนซิแล้วฉันจะบอก” ร่างบางหันหน้ามาตามคำสั่งมองเข้าไปนัยน์ตาของคนตรงหน้ารู้สึกได้ว่ามันดูวิบวับชอบกล

พัทรมาศค่อยค่อยโน้มหน้าลงไปหาริมฝีปากบางสวยของเด็กสาวที่กำลังตะลึงงันกับสิ่งที่กำลังจะเกิดไร้การขัดขืนและทัดทานเพราะไร้ซึ่งสติ

ริมฝีปากบางของสาวร่างสูงเตะลงไปเพียงแผ่วเบาที่ริมฝีปากของเด็กสาวเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ขัดขืนจึงตีความไปเองว่าเต็มใจจึงโน้มหน้ากลับลงไปอีกครั้งประกบริมฝีปากบดเบียดลงไปบนริมฝีปากบาง

“อื่อ” ร่างบางมีอาการขัดขืนเมื่อภายในปากของตนถูกรุกล้ำจากเรียวลิ้นของอีกฝ่ายที่กำลังสอดแทรกเสพซับความหวานอย่างถือสิทธิ์โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายกำลังดิ้นรนต่อต้านเพราะไม่เต็มใจ

จนพอใจร่างสูงจึงถอนริมฝีปากออกมามองเด็กสาวที่หลับตาพริ้มไม่ได้สติด้วยความเอ็นดู

“นี่เป็นแค่การลงโทษสถานเบานะ” เด็กสาวลืมตาขึ้นได้สบกับนัยน์ตาวิบวับของอีกฝ่ายพาให้ร้อนวูบวาบไปทั้งหน้าเกินจะสู้หน้ากันจึงเบี่ยงหน้าหนีหลบสายตาไปอย่างเคย

“แล้วเธออยากรู้โทษสถานหนักไหม”

“ไม่ค่ะ ไม่” มีนาส่ายหน้าพัลวัน ก็ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าสถานหนักที่คุณแวมว่าคืออะไรก็คงจะไม่พ้น…เรื่องแบบนั้น

“เธอรู้เหรอว่าฉันจะลงโทษเธอยังไง” ร่างสูงก้มหน้าลงมาจนปลายจมูกชนกลับแก้มใสที่ตอนนี้แดงระเรื่อเพราะหวั่นไหวมากพัทรมาศร่าเริงอยู่ในใจ มีนาไม่ได้รังเกียจที่เธอทำแบบนี้

เด็กสาวทำเพียงส่ายหน้าไม่กล้าพูดอะไรออกมาเพราะกลัวจะพลาดพลั้งของเข้าตัวเดือดร้อนเอาได้ง่ายๆ

“อุ่ยร่างบางตกใจเมื่ออีกฝ่ายฝังหน้าลงมาที่พวงแก้มและสูดลมหายใจเข้าไปฟอดใหญ่ก่อนจะปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระพลิกตัวเองลงไปนอนบนที่นอน

มีนารีบยันตัวเองขึ้นมาและจะเบี่ยงตัวลงไปจากเตียงแต่ก็ทำไม่ได้ดั่งใจเพราะถูกคนเอาแต่ใจรวบเอวไว้ได้ก่อนและใช้กำลังดึงเข้าไปหาตัว

“อุ่ย!! คุณแวม” เด็กสาวถลาไปอยู่บนตัวของอีกฝ่าย พยายามจะดันตัวออกมาก็ถูกเกาะกอดไว้แน่น

“คุณแวมขา…” น้ำเสียงอ่อนใจสุดกำลังกลัดกลุ้มกับเด็กตัวโตที่เอาแต่ใจไม่เลิก

“เรียกทำไม” พัทรมาศทำมึน

“ปล่อยมีนซิคะ กอดมีนไว้ทำไม”

“ก็ฉันหนาว” ? มีนาอึ้งไปกับเหตุผลนี้หนาวอะไร? ก็ตอนนี้เธอร้อนไปทั้งตัว

“คุณแวม…”

“อะไร” ยังมึนไม่เลิก

“ทานอะไรมาหรือยังคะ ถ้ายังเดี๋ยวมีนไปจัดการให้”เด็กสาวหาทางออก

“ไม่หิว”

“ไม่ทำงานเหรอคะ ใกล้จะถึงวันแสดงภาพแล้วนะคะ” เด็กสาวยังคงหาเหตุเพื่อการหลุดพ้นต่อไป

“ไม่มีอารมณ์”

“งั้นก็นอนพักนะคะ ตื่นขึ้นมาจะได้สดชื่นเดี๋ยวมีนจะทำของอร่อยอร่อยไว้ให้”

“ก็นอนอยู่นี่ไง”

“หลับด้วยซิคะ ร่างกายจะได้พักผ่อน”

“ก็ได้” มีนาหลุดยิ้มออกมาที่ตนทำสำเร็จแล้วแต่!! คนหน้ามึนปิดเปลือกตาลงไปแล้ว แต่ยังไม่ยอมคลายอ้อมกอด

“คุณแวม”

“อะไรของเธออีก” พัทรมาศพูดทั้งที่ยังหลับตาชักจะง่วงแล้วเหมือนกันก็เมื่อคืนไม่ได้นอนทั้งคืนสาเหตุก็มาจากเด็กสาวหน้าหวานคนนี้ พัทรมาศหาคนผิด

“ปล่อยมีนซิคะ”

“ให้ฉันหลับก่อนแล้วเธอค่อยไปได้ไหม”

เด็กสาวไม่เข้าใจแต่เห็นอีกฝ่ายเงียบไปแล้วจึงไม่ได้ว่าอะไรต่อนอนนิ่งอย่างสงบนานจนเมื่อยจึงทิ้งน้ำหนักตัวลงไปบนร่างของอีกฝ่ายเอาหน้าซุกซบไปบนอก

ลมหายใจที่สม่ำเสมอบอกได้ว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้ว มีนาจึงค่อยๆยันตัวเองขึ้นจับแขนที่เกาะกอดตัวเองไปวางไว้บนตัวเจ้าของ

‘เด็กตัวโตเอาแต่ใจ’ มีนาพึมพำกับตัวเองถึงคนที่หลับไปแล้วเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นมาหน้าก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาอีก บ้าจริง! อะไรก็ไม่รู้เด็กสาวสลัดภาพเหล่านั้นออกจากหัว หันไปจัดการคลี่ผ้าห่มคลุมตัวให้คนหลับก่อนจะไต่ลงมาจากเตียงเดินไปปิดม่าน ปิดไฟและเดินออกจากห้องไป

พีรดามองตามประตูที่ปิดลงไปในใจสับสนรุนแรงร่างบางเดินมาหยิบโทรศัพท์มือถือ หน้าจอที่มืดอยู่ก็สว่างขึ้นมา

“ค่ะแวม” พีรดากดรับสายพยายามปรับเสียงให้เป็นปกติ

“เป็นอะไรหรือเปล่าแวมโทรไปตั้งหลายรอบแต่พรีมไม่รับสาย”

“พรีมหลับหน่ะค่ะ ไม่สบายนิดหน่อย”

“พรีมอยู่ไหน เดี๋ยวแวมไปหา” ร่างบางตกใจลนลานหาคำตอบ

“พรีม…”

“อยู่บ้านหรืออยู่ที่มอคะ”

“เดี๋ยวพรีมไปหาแวมเองดีกว่าค่ะอุดอู้อยู่ที่บ้านทั้งวันเบื่อจะตายอยู่แล้ว”

“อ่อ ได้จ้ะ เดี๋ยวเจอกันที่บ้านแวมนะ”

พัทรมาศวางสายไปในใจเว้งว้างยากจะอธิบาย ก่อนจะขับรถออกไปจากบ้านของคนรัก

พรีมโกหกเธอ โกหกทำไม คำถามค้างคาวนเวียนที่สำคัญนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอจับได้ว่าพรีมโกหก




Create Date : 28 ตุลาคม 2556
Last Update : 28 ตุลาคม 2556 14:07:36 น. 0 comments
Counter : 592 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.