โอ่ววว!!
ตอน5 มาได้ยังไงเนี่ย
ยังจบไม่ได้อีกแล้ว
ขอใส่นิยายไปในนิทานสักหน่อยนะคะ
ตอนหน้าจะปล่อยพลังกับฉาก สวีท
เงาตะคุ่มๆที่ผลุบหายไปทางประตูดึงให้อิสราต้องสนใจคงจะเสียเชิงแย่หากมีใครคิดจะล้วงคองูเห่า เค้าค่อยๆสะกดรอยตามเงานั้นออกไปจนถึงคอกม้าเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่รู้ตัวจึงเข้าไปรวบจับเอาไว้
เสร็จข้าแล้วเจ้าหัวขโมย คนร่างบางที่อิสราคิดว่าเป็นหัวขโมยดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดท่ามกลางแสงจันทร์ในคืนเดือนหงายส่องสว่างไปทั่วบริเวณ อิสรากระชากผ้าคลุมหน้าออกหมายจะเห็นหน้าเจ้าหัวขโมย
เจ้า!! อิสราแปลกใจเมื่อเจ้าคนที่เค้าคิดว่าเป็นหัวขโมยกลับเป็นนางในร่างบางนัยน์ตาดุที่ชอบดุเค้ากับอัญญาณีเสมอหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระองค์หญิงของนาง
ปล่อยข้าได้แล้ว ร่างบางดิ้นขลุกขลักเรียกร้องอิสระ
ข้าจะปล่อยเจ้าได้อย่างไรเมื่อเจ้าทำตัวมีพิรุธเช่นนี้
ข้าไม่จำเป็นต้องบอกอะไรแก่ท่านและข้าก็ไม่ได้ทำสิ่งใดที่เป็นความผิดด้วย
ถ้าเจ้าไม่บอกข้าก็จะไม่ปล่อยจะปล้ำกอดเจ้าแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ท่าน!! ร่างบางแหงนคอส่งตาขวางขัดเคืองใจยิ่งนัก
ข้าจักไปริมผาคืนนี้พระจันทร์เต็มดวงข้าจะไปขอพรจากพระจันทร์ ให้พระองค์หญิงของข้าตื่นจากการหลับใหล
น้ำใจเจ้าช่างประเสริฐนักสกุณาข้าขอโทษที่ล่วงเกินเจ้า ชายหนุ่มยอมคลายอ้อมกอดแต่โดยดี
ข้าจะไปกับเจ้าเพื่ออารักขาและร่วมขอพรช่วยเจ้าอีกแรง สกุณามองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป อ่อนโยนและเป็นมิตรมากขึ้นอิสรายิ้มละไมรับในไมตรีอย่างไม่ถือตัว ในส่วนลึกสกุณามีหลายสิ่งที่ถูกใจ
ข้าขอบใจท่านมาก หญิงสาวเดินนำออกไปราตรีอันยาวนานนี้พาหัวใจของสองหนุ่มสาวสุขใจยิ่งนัก
ทะเลหมอกเบื้องหน้าบนผาสูงพาใจให้สงบเยือกเย็นยิ่งนักทิวารีทอดมองไปไกลคิดถึงใครคนหนึ่งสัมผัสจากสองแขนสอดเข้ามาโอบที่เอวบางเรียกรอยยิ้มละไม
ข้าคิดถึงเจ้าทิวารี
ปากพร่ำว่าคิดถึงข้าแต่ใยท่านห่างหายไม่มาพบข้า น่าน้อยใจนัก
ข้าอยากจะมาหาเจ้าใจจะขาดทิวารีแต่ข้าติดด้วยภารกิจที่พ่อข้ามอบหมาย หญิงสาวพร่ำพูดแจกแจง ส่วนจมูกก็ถูไถคลอเลียอยู่ที่ซอกคอขาว
รอยยิ้มละไมผุดขึ้นที่ใบหน้าของคนที่หลับสนิทความรู้สึกรื่นรมย์เกินบรรยาย ทิวารีค่อยๆขยับกายเปิดเปลือกตาขึ้นมาและกระพริบถี่ขึ้นมองไปโดยรอบเห็นถึงความไม่คุ้นเคยและเมื่อรู้สึกถึงว่ามีสิ่งใดสิ่งหนึ่งพาดอยู่บนลำตัว
ว้าย!! ทิวารีกรีดร้องตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นท่อนแขนอัญญาณีสะดุ้งตื่นตกใจในเสียงร้องระคนยินดีที่คนรักฟื้นขึ้นมาแล้ว
เป็นอะไรไปรึ
ท่านเป็นใคร ทิวารีมองคนตรงหน้าผ่านความมืด
ก็เป็นคนทำให้พระองค์เกิดรอยยิ้มอย่างไรเล่าพระองค์จำได้หรือไม่ อัญญาณีแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนลมหายใจกระทบพวงแก้มของอีกฝ่าย
นี่!!ทำไมต้องใกล้ชิดเราขนาดนี้ด้วย ทิวารีเบี่ยงหน้าหนีใจสั่นเพราะหวั่นไหวในคนตรงหน้า ทำไมเธอต้องรู้สึกแบบนี้ด้วยนะเพราะเป็นหญิงเหมือนกัน
นี่ก็ดึกมากแล้วทรงบรรทมก่อนเถิดเพคะพรุ่งนี้มีอะไรค่อยว่ากันนะ แขนเรียวรวบดันร่างบางให้นอนตามลงไปและกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นแต่ก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดทิวารีนอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของคนที่ไม่คุ้นเคย อยากจะผลักใสแต่ก็ไม่กล้าไม่รู้ทำไมและเหตุใดเธอถึงได้มานอนร่วมห้องกับหล่อนได้นะ
อัญญาณีสัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงของอีกฝ่ายทำให้รู้ว่านางยังไม่หลับ หล่อนจึงแกล้งซุกหน้าไปที่ซอกคอขาวทำทีว่าหลับไม่ได้สติ แต่แค่เท่านี้ก็พาเจ้าของซอกคอขนลุกสติกระเจิดกระเจิงไปไหนๆร่างบางพยายามขยับหนีลมหายใจอุ่นๆของอีกฝ่าย อย่างเกรงว่าหล่อนจะตื่น อัญญาณีอมยิ้มอยู่ในความมืดแต่ตอนนี้เธอก็ง่วงจนไม่เหลือแรงคิดแกล้งหล่อนแล้วและไม่นานสองสาวก็หลับใหลไปในอ้อมกอดของกันและกัน
อิสรานั่งลงเคียงคู่กับสกุณาเพื่อร่วมอธิฐานขอพรทั้งๆที่เค้ารู้อยู่แก่ใจว่าอย่างไรทิวารีก็ต้องฟื้น แต่ที่นั่งทนเมื่อยก็เพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับนางและในที่สุดสกุณาก็ยอมลุกขึ้น
เดี๋ยวก่อนสกุณา หญิงสาวหันมองชายหนุ่มที่ยังไม่ยอมลุกขึ้น
เจ้ารู้หรือไม่ว่าหากต้องการให้คำอธิฐานสัมฤทธิ์ผล ต้องมีการแลกเปลี่ยน
อย่างไร
ก็แลกเปลี่ยนกับอะไรที่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตเช่นการแต่งงานอย่างไรเล่า
ข้าไม่ใคร่แจ้งใจนัก
ก็เช่นเจ้าอธิฐานขอพรให้องค์หญิงฟื้นโดยแลกกับการแต่งงานกับข้าไง
ทำไมข้าต้องอธิฐานแบบนั้น
ก็เพื่อแลกกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่างไรเล่าหากคำอธิฐานทำให้พระองค์หญิงฟื้นขึ้นมาได้มันก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ หรือถ้าไม่ เจ้าก็มิได้เสียอะไรแต่ก็ตามใจเจ้านะข้าแค่แนะนำด้วยความหวังดี หญิงสาวชั่งใจ คิดตามที่ชายหนุ่มพูด ทางใดที่อาจจะทำให้พระองค์หญิงฟื้นเธอจะลองทำ
ได้ข้าจะทำอย่างที่ท่านแนะนำ ชายหนุ่มลอบยิ้มที่หญิงสาวหลงกลสกุณากลับลงนั่งที่เดิมและทำการขอพรอีกครั้ง
เจ้าต้องเปล่งเสียงออกมาดังๆเพื่อสิ่งศักดิ์จะได้รู้กันโดยทั่ว ชายหนุ่มหมายให้นางมัดตัวเองกับตนด้วยคำพูด
หญิงสาวลังเลเพียงนิดก่อนจะเปล่งเสียงอธิฐานออกมาดั่งลั่นป่าชายหนุ่มรื่นเริงในหัวใจเมื่อคิดถึงว่าจะได้ครอบครองนางผู้นี้ผู้ที่มีกลิ่นกายที่ทำให้เค้าใจสั่น สัมผัสเพียงนิดจากเมื่อครู่ตรึงใจเค้านัก
ร่างบางขยับกายน้อยๆเปลือกตาค่อยๆเปิดขึ้น เมื่อมีสติก็รีบหันมองคนที่นอนเคียงข้างทันที แต่ก็เห็นเพียงความว่างเปล่าทิวารียันกายลุกขึ้น เอื้อมมือไปลูบไล้หมอนที่หล่อนหนุนนอน ทำไมเธอถึงรู้สึกคุ้นชินกับการได้ชิดใกล้กับหล่อนแบบนี้นะ
ทิวารีก้าวลงจากเตียงพลันหางตาแลไปเห็นหญิงนางหนึ่งยืนอยู่ริมหน้าต่างทอดมองออกไปไกลลมที่พัดเข้ามาพาผมทียาวสลวยของนางพลิ้วไหวลู่ลม เมื่อรู้สึกถึงว่ามีการเคลื่อนไหวอัญญาณีจึงหันมามอง และเธอเห็นหญิงงาม
เมื่อหลายร้อยปีก่อนทิวารีจะได้รับพรจากประมุขแห่งสรวงสวรรค์ให้เป็นเทพธิดาผู้มีรูปกายงดงามที่สุดในสามโลกเพราะในขณะที่มีชีวิตอยู่นางงดงามจากในใจ กตัญญูต่อบิดามารดาและผู้มีพระคุณงามด้วยวาจา ความคิดและการกระทำ ทำบุญส่งเสริมพระพุทธศาสนามิได้ขาดประณีตในการจัดทำของที่จะนำไปถวายพระปลูกสวนดอกไม้ให้ความสวยงามและกลิ่นหอมภายในรั้ววัด
พระองค์ทรงหลับสบายดีหรือไม่เพคะ
เรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ทิวารีไม่ตอบคำถาม แต่ถามกลับในสิ่งที่ตนใคร่รู้
ที่พระองค์มาอยู่ที่นี่เพราะพระองค์เป็นสมบัติของหม่อมฉันแล้ว
หมายความว่าอย่างไร
ก็หมายความว่า หม่อมฉันทำให้พระองค์เกิดรอยยิ้มพระองค์ก็ต้องอภิเษกกับหม่อมฉัน อัญญาณีเดินเข้าไปใกล้ร่างบางที่ตอนนี้มีสีหน้าสับสน
เราจะอภิเษกกับเจ้าได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าเป็นหญิง อัญญาณียิ้มละไมเดินเข้าไปใกล้พระองค์หญิงมากขึ้นอีก
ได้ซิเพคะ ถ้าพระองค์ทรงรู้สึกหวั่นไหวหากอยู่ใกล้ชิดหม่อมฉันทิวารีแก้มแดงระเรื่อเมื่อ อีกฝ่ายโน้มหน้ามากระซิบที่ข้างหูแผ่วเบาอยากจะถอยหนี แต่ก็ทำไม่ได้อย่างใจ เพราะขามันไม่ยอมขยับเขยื้อนตามใจคิดอัญญาณียิ้มชอบใจเมื่อเห็นทิวารีมีอาการหวั่นไหวหล่อนจึงรุกต่อโดยพาปลายจมูกไปคลอเคลียที่แก้มใส ก่อนจะดึงหน้าออกมาและจงใจมองเข้าไปในตาของแม่กวางน้อยที่ม่านนัยน์ตาเบิกกว้างเพราะกำลังตื่นตระหนก
โดยคำสัตย์พระองค์บอกหม่อมซิเพคะว่ารังเกียจที่หม่อมฉันทำแบบนี้หรือเปล่า
เรา ทิวารีเบี่ยงหลบสายตายิ่งโดนรุกเร้าจิตก็ยิ่งสับสนหนักขึ้นอีก พึงใจหรืออย่างไร อยากผลักไสหรือดึงรั้งอัญญาณียิ้มน้อยๆพอใจในท่าทีของหญิงอันเป็นที่รัก หล่อนพาริมฝีปากเข้าไปใกล้ๆริมฝีปากบางสวยของพระองค์หญิงแต่เว้นระยะไว้ยังไม่รุกล้ำเข้าไป ส่งสายตาเป็นคำถามให้ร่างบางได้ถามใจว่าเต็มใจกับสัมผัสที่เธอกำลังจะมอบให้หรือไม่ และคล้ายดั่งต้องมนต์อีกแล้วทิวารีมองคนตรงหน้าที่ใบหน้าอยู่ห่างกันแค่กระดาษกั้นเท่านั้น ไม่รู้ตัวเลยว่าแววหวานไร้เดียงสาของตนจะทำให้คนตรงหน้าหมดความยับยั้งชั่งใจอัญญาณีโน้มแนบริมฝีปากบางของตนเข้ากับริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงอันเป็นที่รัก ถ่ายทอดความนุ่มนวลอ่อนหวานสองมือโอบกระชับเอวบางดึงร่างให้มาชิดใกล้ และก็ไร้ซึ่งการขัดขืนใด ทิวารีโอนอ่อนโดยง่ายถึงจะตื่นกับสัมผัสจากอีกฝ่ายแต่สมองก็เชื่องช้าเกินจะคิดดิ้นรนผลักไสปล่อยกายใจเคลิ้มไปกับสัมผัสอันแสนหวาน