Group Blog
 
All blogs
 

ปีกไก่ทอดกระเทียมพริกไทย

วันเสาร์ที่ผ่านมา พี่สาวกลับบ้านแบบกระทันหัน กับข้าวอะไรก็ไม่ได้เตรียมไว้สักอย่าง จะมีก็แต่เนื้อสัตว์แช่แข็งต่างๆ แล้วก็ ปีกไก่กลาง 1 กิโล...

อ่ะฮ่า... ทอดไก่กินซะก็แล้วกัน เพราะว่าดูเวลาแล้วยังไงๆก็ทำทัน แต่ก็เสียเวลาละลายน้ำแข็งอยู่ตั้งนาน ได้เริ่มทำก็ 4 โมงเย็นเข้าไปแล้ว

ระหว่างที่รอไก่คลายความเย็น เจเจก็คว้ากระเทียม 10 กลีบโตๆ (กระเทียมจีน) ปอกเปลือก ตำให้ละเอียด ใส่เกลือ 1 ช้อนชา พริกไทยอีก 1/2 ช้อนชา คลุกให้เข้ากัน... พอไก่หายเย็น เจเจก็หันปีกไก่ตามยาว หันแบบนี้กินง่ายดีค่ะ แถมไม่ต้องหมักไก่นานด้วย เครื่องปรุงมันเข้าเนื้อได้สะดวก หุหุหุ

แล้วเราก็คลุกเคล้าเครื่องปรุง กะ ไก่ให้ทั่ว ถ้าไม่มีเวลาหมักนานนัก ก็นวดๆไก่หน่อยแล้วกัน จะได้เข้าเนื้อเร็วๆ คราวนี้ เจเจมีเวลาหมักแค่ 1/2 ชั่วโมง เลยต้องเร่งสปีดนวดไก่เล็กน้อย (แถมต้องเพิ่มเกลือตอนหมักด้วย ถ้าหมักได้นานกว่าครึ่งชั่วโมง ก็ลดเกลือลงนิดหน่อย)


นี่หล่ะค่ะ หน้าตาไก่ที่หมักไว้ 1 กิโลนี่ ได้กะมังเบ้อเร่อเลย หุหุหุ


ลองดูกระเทียมที่เป็นเครื่องหมักนะคะ ตำละเอียดยิบเลย...

เจเจใช้เวลาหมัก 1/2 ชั่วโมงเป๊ะๆ แล้วรีบลงทอดเลย แค่กลิ่นกระเทียมที่ตำไว้ เจเจก็น้ำลายไหลจะแย่แล้ว



ทีนี้ เวลาทอด เจเจใช้ไฟกลางทอดจนเหลืองพอประมาณ (อย่างในรูปเลยค่ะ) แล้วค่อยเร่งไฟเพื่อให้หนังกรอบ แต่ข้างในยังไม่แข็งมาก juicy juicy โย่วๆๆ

พอทอดต่ออีกแป๊บเดียว เราก็ได้ไก่ทอดสีสวย หนังกรอบๆมานั่งแทะเล่นสบายใจ



อร่อยนะคะ... เป็นกับข้าวก็ดี กับแกล้มก็ได้ กินเล่นๆก็เพลินดี ถ้ามีข้าวเหนียวอีกหน่อยนะ แย่งกันน่าดูหล่ะค่ะ

+++++++++++++++++++++

อาหารทำไม่ยาก ลองทำทานกันดูนะคะ




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 29 กรกฎาคม 2550 12:38:35 น.
Counter : 1886 Pageviews.  

ต้มแซบกระดูกหมู

วันก่อนนั่งอ่านบ็อกทำอาหาร เห็นเมนูหน้าตาน่ากิน ทำไม่ยาก นั่นก็คือ "ต้มแซบ" บางบ็อกก็เรียกว่า "ซุปเปอร์" ซึ่งเครื่องปรุงก็ไม่ค่อยต่างจาก "ต้มยำ" สักเท่าไหร่ เจเจเลยทำกะเขามั่ง มันก็ไม่ยากอ่ะนะ แต่เสียเวลาต้มกระดูกหมูนานหน่อยเท่านั้นเอง

เจเจใช้กระดูกหมูทำ เพราะมันมีอยู่ในตู้เย็น ทีแรกตั้งใจจะทำกระดูกหมูทอดกระเทียม แต่ชักจะไม่ค่อยอยากกินของทอด กลัวคอเรสเตอรอลพุ่ง (ถึงจะกินกระเทียมคู่ก็เหอะ)

ไอ้เจ้าต้มแซบกระดูกหมูนี่ก็ไม่มีอะไรมาก เครื่องปรุงก็หาได้ทั่วไป

กระดูกหมู 1/2 กิโล
มะเขือเทศสีดา
ตะไคร้
ใบมะกรูด
ข่า
ผักชีฝรั่ง
พริกขี้หนู/พริกป่น
เห็ดฟาง
มะนาว
น้ำปลา

วิธีทำก็แสนจะง่าย เริ่มแรกก็ต้มกระดูกหมูให้เปื่อยก่อน พอได้ที่ ก็ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เห็ด แล้วก็ มะเขือเทศสีดา พอสุกก้ปรุงรสด้วยน้ำปลา มะนาว พริกขี้หนูบุ กะพริกป่น ปรุงรสได้อร่อยสมใจก็ยกเสริฟ โรยหน้าด้วยผักชีฝรั่งและผักชีไทย

แค่นี้ก็อร่อยรอดตายไปอีกมื้อ...







+++++++++++++++++

ขอให้อร่อยนะค่ะ...




 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2550 8:22:58 น.
Counter : 2037 Pageviews.  

ทอดมันปลากราย

ทอดมันปลากราย ทำง่ายๆ อร่อยรับประกัน



มือใหม่ทำกับข้าวขอลองโพสวิธีทำทอดมันปลากรายสักทีนะค่ะ จานนี้เจเจเพิ่งทำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เอง สดๆเลยค่ะ

ทอดมันปลากรายเป็นอาหารคู่บุญที่แม่จ๋าทำบ่อยๆ โดยมีลูกมือเป็นเจเจน้อยหอยสังข์ แม่เรียกให้มานั่งดูแม่ทำตั้งแต่เด็กๆ จนจำวิธีทำได้ขึ้นใจ ซึ่งอันที่จริงมันก็ไม่มีอะไรยากเลยสักนิด แต่ต้องใช้แรงและพลังยุทธ์คอยกระหน้ำฟาดปลาลงกาละมังด้วยสปีดสม่ำเสมอ เราถึงจะได้ทอดมันแสนอร่อย

สมัยก่อนแม่จ๋าสอนเจเจทำ โดยการให้เจเจเป็นคนฟาดทอดมัน สนุกสุด เพราะว่าได้ฟาดๆๆๆๆ กะกาละมัง แค้นใครโกรธใครนี่จะดีมาก เพราะทอดมันจะเหนียวๆๆๆ บางทีเหนียวจนพ่อจ๋าบ่นว่าเคี้ยวไม่ขาด T_T"

ส่วนประกอบก็ไม่ยุ่งยาก มีดังนี้ค่ะ

ปลากรายขูด 1/2 กิโล
พริกแกงแดง 1 ช้อนโต๊ะพูนๆ
ถั่วฝักยาว 5 เส้น หรือถั่วพู หั่นแล้วได้ประมาณ 1 ถ้วย
ใบมะกรูดซอยฝอย 4-5 ใบ
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำปลา
น้ำเกลือสำหรับไม่ให้ปลาติดมือ


เนื้อปลากรายขูดใหม่ๆ แช่เย็นหน่อยนะคะ มันจะได้ฟาดแล้วเหนียวๆ

เตรียมน้ำเกลือใส่ชามเล็กๆ โดยใช้เกลือสัก 1 ช้อนชา กับน้ำแค่ครึ่งชาม
นำปลากรายที่แช่ไว้เย็นจัดใส่กาละมัง เพื่อเตรียมนวด แล้วทีนี้เราก็เริ่มฟาดเนื้อปลา โดยการยกเนื้อปลาแล้วฟาดลงในกาละมังแรงๆ (แต่ถ้าแรงมาก ให้ระวังปลาบินไปติดเพดานครัวนะจ๊ะ) แล้วขณะฟาด ก็จุ่มมือในน้ำเกลือเป็นระยะๆ ถ้าเนื้อปลาติดมือ แล้วเวลาที่ฟาดปลา ก็คอยดึงเสษก้างปลาที่อาจจะติดมาออกด้วยนะคะ เพื่อการกินจะได้มีอรรถรส ไม่มีก้างมาขวางคอ หุหุหุ


อันนี้ฟาดได้ที่แล้วค่ะ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

เมื่อคิดว่าปลาเหนียวได้ที่ (สังเกตจากเนื้อปลาจะเริ่มเนียนเป็ฯเนื้อเดียวกัน) เราก็ตอกไข่ใส่ลงไป ใช้ทั้งไข่ขาวและไข่แดง ใส่น้ำพริกแกงแดงลงไปด้วย ถ้าซื้อเจ้าประจำก็ไม่ต้องห่วง ใส่มากน้อยได้ตามใจ แต่ถ้าเจ้าที่ไม่คุ้น น้ำพริกอาจจะเค็มจัด ต้องระวังด้วยนะคะ ตามสูตรนี้ เจเจใส่พริกแกงค่อนข้างน้อยถึงน้อยมาก เพราะว่าทำให้เด็กๆทานด้วย แต่ถ้าชอบเผ็ดก็เพิ่มได้ เติมน้ำปลาเล็กน้อย ทีนี้เราก็นวดอีกครั้งให้พริกแกง ไข่ และเครื่องปรุงเข้ากัน ตอนนี้จะแหยะๆหน่อย


ใส่ให้ดูกันจะๆ


แหยะๆๆ แบบนี้ค่ะ ค่อยๆขยำไปเรื่อยๆนะคะ

นวดไปสักพักมันก็จะเริ่มเหนียว เราก็ใส่ใบมะกรูดซอยลงไป แล้วก็นวดต่อจนเหนียวดี แค่นี้ก็เตรียมทอดได้แล้วค่ะ ลองทอดชิ้นเล็กๆ ชิมดูว่ารสชาติพอดีหรือยัง จะเพิ่มพริกแกง น้ำปลา แล้วฟาดต่อก็ตามใจชอบเลย



ปรกติเจเจจะไม่ใส่ผักลงไปในทอดมันที่นวดเสร็จนะคะ เพราะว่าบางที ทำแล้วทอดไม่หมด ถ้าใส่ผักไปเลยจะเก็บได้ไม่นาน น้ำจากผักจะออกมา ทำให้ปลาไม่เหนียวถ้าทิ้งไว้หลายวัน

เวลาจะทอด เจเจจะหยิบๆปั้นๆ กับถั่วฝักยาวหรือถั่วพูก็แล้วแต่ แล้วก็ลงทอด ฉ่าๆๆๆๆ


ใช้น้ำมันเดือดๆ แล้วหรี่ให้ร้อนปานกลางนะคะ


เมื่อทอดเสร็จแล้ว... หน้าตาสวยใช้ได้ เจเจชอบปั้นให้หนาหน่อย เพราะเนื้อทอดมันจะได้นุ่มเหนียว


แล้วก็ตามระเบียบ... กินกะน้ำจิ้มไก่กะแตงกวาสดหันแบบนี้

หวังว่าวิธีทำและภาพประกอบจะสวยถูกใจเพื่อนๆนะคะ (แบบว่าอยากยั่วคนหิว) เดี๋ยวคราวหน้า เจเจจะทำเมนูใหม่มาลงอีกค่ะ

+++++++++++++++++++

กินให้อร่อยนะคะ




 

Create Date : 23 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 23 กรกฎาคม 2550 21:23:37 น.
Counter : 3998 Pageviews.  

ปลากระพงต้มขิง (พร้อมสูตร)

เมนูนี้ เจเจจำมาจากร้านอาหารขึ้นชื่อของสุพรรณบุรี นั่นก็คือร้าน "แม่บ๊วย" ตรงบางปลาม้านั่นแหละ ไปร้านนี้ทีไรก็ต้องสั่งเมนู "ปลาม้าต้มขิง" มาซดให้ชื่นใจ เพราะว่าน้ำแกงจะใส่ๆ เผ็ดขิงและพริกไทย ทำให้โล่งคอ แถมได้ลิ้มปลาม้าสดๆทอดเหลืองสวยอีกด้วย

เท่าที่กินมาหลายหม้อ ก้พอจะนึกออกว่าเขาใส่อะไรบ้าง เลยอยากจะลองทำเองดูมั่ง... ก็เลยกลายมาเป็นเมนู "ปลากระพงต้มขิง" แทน ที่เลือกปลากระพงก็เพราะว่าเนื้อปลาเหมาะจะนำมาทอด ก้างน้อย หาง่าย และ เจเจชอบ ตอนนี้เราเตรียมเครื่องปรุงและส่วประกอบกันดีกว่าค่ะ

ส่วนประกอบ...มีดังนี้
ปลากระพง แล่แล้วหันเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอคำ
ขิงซอย 5 บาท (ใช้ขิงซอย จะได้กินเป็นสมุรไพรด้วย)
เห็ดหูหนู หรือเห็ดหอมแช่น้ำ 4-5 ดอก
ต้นหอม 3 ต้น หั่นเป็นท่อน
กระเทียมจีน 2 กลีบใหญ่
น้ำสต็อค
เครื่องปรุงก็มีเพียง เกลือ น้ำปลา และ พริกไทยค่ะ

++++++++++++++++

วิธีทำ
1. แล่ปลาให้เป็นชิ้นพอคำ แต่ใหญ่นิดนึง แล้วก็หมักไว้ด้วยเกลือและพริกไทยนิดหน่อย พักไว้ครึ่งชั่วโมง (จะทอดปลาให้น้ำมันไม่กระเด็นและไม่ติดกะทะก็ควรให้ปลาคลายความเย็นก่อนจ้า)


หันชิ้นพอดีๆ อย่างนี้นะ


เจเจชอบพริกไทย โรยทั่วๆแบบนี้เลย แล้วอย่าลืมเกลืออีกนิด แค่ปลายนิ้วหยิบอ่ะ เสร็จแล้วก็คลุกๆๆๆ

2. นำปลาที่หมักไว้ลงทอดให้เหลืองสวย แล้วพักไว้


หูยๆๆ หอมน่ากิน ให้กินจิ้มพริกน้ำปลายังไหวเล๊ย


ทอดให้เหลืองประมาณนี้ค่ะ เนื้อปลาจะได้ยัง juicy แล้วไม่แห้งจนเกินไป เสร็จแล้วเราก็พักไว้ก่อนนะค่ะ

3. จากนั้นเราก็นำหม้อตั้งไฟ ใส่กระเทียมฝานบางๆลงไปเจียวให้หอม แต่ไม่ต้องเหลืองนะคะ



4. จากนั้นก็เติมน้ำซุปลงไป ปริมาณตามชอบ แล้วก็ปรุงรสด้วยเกลือเป็นหลัก และน้ำปลาเล็กน้อยเพื่อดึงความหอมของน้ำซุป แล้วขาดไม่ได้ก็คือพริกไทยอีกเยอะๆ


เดือดแล้วค่ะ

อ้อ...พอน้ำเดือด เราก็ใส่เครื่องที่เหลือ ก็มี ต้นหอมหันเป็นท่อน ขิงซอยตามชอบ เจเจชอบเผ็ดๆ เลยใส่หมดเลย แล้วก็เห็ดหูหนูหรือเห็ดหอมด้วยนะ



พอเดือดอีกครั้ง ก็ใช้ได้ ชิมดู ถ้าขาดรสอะไรก็เติมได้ค่ะ แต่ว่าเมนูนี้จะออกเค็มนะคะ รสชาติจะโล่งคอดี ความหวานจะมาจากน้ำต้มกระดูกหมูมากกว่า

ตักเสริฟโดยนำเนื้อปลาเรียกใส่ภาชนะ แล้วตักน้ำแกงที่ปรุงไว้ราด แค่นี้ก็พร้อมเสริฟแล้วจ้า (แต่ที่ร้านที่เจเจไปชิมมา เขาจะเอาปลาที่ทอดแล้วไปต้มในน้ำแกงเลย แต่เจเจกลัวว่าปลาจะเละ เลยใช้ราดน้ำเอาแทนค่ะ)







ลองไปทำทานดูนะคะ วันฝนตกๆแบบนี้ ได้ซดน้ำแกงร้อนๆ คล่องๆคอ มีความสุขมิใช่น้อยๆๆๆ

ขอให้อร่อยนะคะ




 

Create Date : 21 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 21 กรกฎาคม 2550 21:07:34 น.
Counter : 15286 Pageviews.  

Dining in China

วันนี้ขอเอารูปอาหารต่างๆที่ได้ไปลิ้มชิมรสถึงแดนมังกรมาแปะระลึกความหลังหน่อยเถิดค่ะ
+++++++++++++++++

เมื่อเดือนเมษายน เจเจไปเที่ยวแม่น้ำแยงซีเกียงโดยเริ่มต้นการล่องแม่น้ำที่เมืองวูฮั่น แล้วมาสิ้นสุดการเดินทางที่เขื่อน (The Three Gorge Water Conservancy Pivatal Project) แล้วก็เดินทางต่อจนถึงเมืองกวางโจว แล้วก็กลับเมืองไทย แต่ว่าที่ไปเที่ยวนี่เจเจไม่ได้ออกไปชมสถานที่ท่องเที่ยวเลย เพราะว่าพ่อจ๋าเกิดไม่สบาย พวกเราสองคนเลยต้องติดแหง็กอยู่ในห้องพักตลอดการเดินทาง

แหะๆๆ ดังนั้นกิจกรรมแสนสนุกที่มาชดเชยก็คือ "การกิน" นั่นเอง อิอิอิ... เจเจเลยนั่งถ่ายรูปอาหารไปเรื่อยเปื่อย แบบว่าจานไหนประทับใจ (ไม่ได้แปลว่าอร่อยนะ แค่ประทับใจ) ก็จะถ่ายไว้เยอะหน่อย... แบบว่าไอ้หน้าตาแบบนี้ ทีหลังอย่าไปกิน 555

ทีแรกก็หลงคิดว่าอาหารจีนจะไม่อร่อย แต่ที่ไหนได้ ส่วนใหญ่ที่เจเจกินมานี่อ่ะ อร่อยหมดเลย จะมีที่กินไม่ไหวก็ไม่กี่อย่าง... อาจจะเป็นเพราะว่าบริษัททัวร์ที่ไปด้วย เขาเน้นเรื่องกินอยู่อย่างหรู เลยอิ่มกายสบายใจ

เอาหล่ะ เจเจเอารูปมาให้ดูพอขำๆแล้วกัน บางรูปตอนนี้เจเจจำไม่ได้แล้วด้วยว่ามันคืออะไรง่า


อันนี้ห้องอาหารในโรงแรมอ่ะจ้า...อาหารอร่อยมากๆๆๆๆ แต่ถ่ายไม่ได้ แสงไม่พอ งุงิงุงิ


อันนี้ติ่มซำแสนอร่อยที่สนามบิน


เจเจชอบกินอันนี้...อาหย่อยๆๆๆ


กินกะพริกผัดแบบนี้ อร่อยมากๆ


แต่สุดยอดในดวงใจของทริปนี้คือกระดูกหมูทอดนุ่มๆจานนี้ค่ะ หอมเครื่องเทศมากๆ แถมหมูก็นุ่มลิ้น ไม่เหนียวเลย


ปลาหมึกจานนี้ก็แจ๋ว... นุ่มและสดมาก น้ำซอสก็หวานๆหอมๆ


ไอ้ที่เห็นเป็นเส้นดำๆ ไม่ใช่เนื้อสัตว์นะคะ แต่ว่าเป็นเห็ดทอดแล้วเอามาผัดกับพริกหวาน แตงกวา... รสชาติเผ็ดซ่าๆ เป็นกับแกล้มได้สบายๆ


อันนี้หน้าตาคล้ายๆปลาดุกบ้านเราอ่ะ แต่มันดูลื่นๆ แล้วก็ขี้เหร่มากกว่า แถมเนื้อจะมีสีแดงแซม เหมือนไม่สุกเลยอ่ะ แต่พอกินเขาไปแล้วก็อร่อยดีเหมือนกัน


เมนูธรรมดาๆ เจเจว่ารสชาติมันเฉยๆนะ สำหรับ "สลัดผลไม้" ที่เมืองไทยอร่อยกว่าเยอะ


จานนี้ใช่ย่อย... ทีแรกตอนพนักงานมาเสิรฟ อิเจเจก็กรี๊ดกร๊าดเพราะอยากจะซดซุปร้อนๆ ให้คล่องคอซะหน่อย แต่พอได้ชิมก็ไม่ชอบอย่างแรง ซุปจืดสุดยอด แล้วรสชาติก็ออกเค็มปะแล่มๆ แหวะๆๆๆ


อันนี้น่าจะเป็นเต้าหู้ผักกะแฮม... หน้าตาบ้านๆ แต่อร่อยกว่าไอ้หมีซั่วแช่น้ำในรูปบนเยอะเลย


เคยชิมไข่เจียวเมืองจีนไหม? จานนี้เป็น request จากไกด์ของเราที่ให้ทางร้านเจียวไข่ให้หน่อย เพราะจะได้กินกะน้ำพริกมะขามที่หิ้วมาจากเมืองไทย ไข่เจียวหน้าตาดีมาก หนานุ่มใช้ได้... แต่เขาใส่เกลือแทนน้ำปลา มันเลยออกมารสชาติแปลกๆ


ทายซิ ว่าไอ้เขียวๆนี่คืออะไร??? ติ๊กตอกๆๆๆ เฉลยเลยแล้วกันว่าไอ้นี่คือ "ซุปแตงกว่า" อีหมวยโฆษณาเป็นดิบดี... ทำให้ตัวเย็นงี้ สร้างบาลานซ์งี้ แต่พออิฉันจิบไปเพียงปลาบช้อนก็ขอบาย... รสชาติมันเย็นๆลื่นๆ กินไม่ลงจริงๆ แหะๆๆๆ


อันนี้ค่อยกินได้ อร่อยกว่าเมนูเมื่อกี้เยอะเลย มันคือซุปมะเขือเทศกะกระดูกหมู เปรี้ยวนิดๆ คล่องคอดีค่ะ


จำไม่ได้ค่ะ ว่ามันคืออะไร แต่ว่ารูปสวยดี เลยเอามาลง


กระทงทองแบบจีน... รสชาติก็คล้ายๆบ้านเราค่ะ แต่กระทงไม่กรอบเลย แข็งโป๊กๆๆ แต่ว่ากินได้เรื่อยๆนะจานนี้


ซุปไก่ดำค่ะ... ไม่กล้ากินไก่ ซดแต่น้ำแกง คิดว่าใส่โสมด้วยนะ เพราะมันมีรสขมหน่อยๆอ่ะ

เอาหล่ะ รูปสวยๆก็มีเท่านี้เอง... จริงๆถ่ายมันทุกเมนู แต่บางทีก็ถ่ายไม่ทัน เพราะลูกทัวร์ท่านอื่นๆคงจะหิว อาหารลงปุ๊บก็จกปั๊บ... อาหารมันเลยแหว่งๆ

แต่ว่าไปไกลบ้านเกือบ 9 วันมันก็คิดถึงอาหารแบบเคยๆอ่ะนะ พอว่างๆ นั่งชมวิมที่ระเบียงของเรือ ก็อดไม่ได้ที่จะควักไอ้นี่มากินแก้เหงา... นั่นก็คือ



บะหมีสำเร็จรูป Nissin Cup Noodle ถ้วยนี้นี่เองๆๆๆๆๆ

อาหย่อยๆๆๆ




 

Create Date : 20 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 20 กรกฎาคม 2550 19:32:31 น.
Counter : 1265 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  

Jolly Joey
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 29 คน [?]




เจเจเป็นชื่อย่อจากล็อกอิน Jolly Joey ค่ะ มิใช่ชื่อเล่นจริงๆแต่อย่างใด เอาไว้ใช้เวลาแทนตัวเองในกระทู้ต่างๆ ไม่เสียเวลาพิมพ์เยอะด้วยแหละ

มีเวลาว่างเยอะแยะ เลยชอบหาของเล่นสนุกๆ ปีก่อนโน้น...น ชอบถักโครเชต์ เมื่อปีกลายชอบงานผ้า แต่ปีนี้จะหันมาทำอาหารแล้ว แล้วก็ยังไม่รู้ว่าปีหน้าต่อๆไปจะหัดทำอะไรอีก ใครจะไปรู้ว่าไม่แน่เจเจอาจจะไปหัดขับเครื่องบินกะเขามั่งก็ได้

นอกจากงานอดิเรก เจเจก็อยากไปเที่ยว อยากไปนอนตีพุงแถวๆยุโรป เพราะมันหนาวดี อยากไปกินของอร่อยๆเมืองนอก อยากมีรถลุยๆเอาไว้ไปต่างจังหวัด สรุปว่าอยากทำไปหมด แต่จนใจเพราะเงินไม่มี ฮ่าฮ่าฮ่า

เจเจมีเจ้านาย 19 ท่าน ดังมีรายนามดังนี้ ปู่ติ๊ก, ลุงนิน, ป้าส้ม, แม่กระป๋อง, น้องลูกแป้ง, เจ้าโทนี่, อินู๋เลนนี่, นังสิบสอง, น้องบู้บี้, รูปหล่อโกลด์ดี้, ไอ้ตาล, นู๋อิชิโกะโมโม่, ไอ้ขาว, น้องเจเจ (ชื่อเดียวกะ จขบ นั่นแหละ) อ้ายไก่เจี๊ยบ กับอ้าย ไก่แจ๊ค และอ้ายไก่จ๋อ แถมยังมีไอ้ด่ำดั๊มแมวจรจัด แถมด้วย 1แฮมสเตอร์ชื่อว่า คุณวิลลี่หล่ะจ้า

ตอนนี้กำลังหัดทำสบู่ค่ะ ยังไม่ถึงกับเก่ง จะหัดไปเรื่อยๆนะคร๊าบพี่น้องๆๆๆๆ
Friends' blogs
[Add Jolly Joey's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.