• คุยไปเรื่อยเปื่อย
• เรื่องของเหมียว ไม่เกี่ยวกะคน
• เอาของดีมาปล่อย
• ~made by me~
• เจเจโภชนา
• อร่อยตามสูตร
• ไดเอท-ไดอารี่
• เจเจเบเกอรี่
• เพลงเก่า
• Soap me Crazy
• Soap Making Tips
• บ้า(น) ตุ๊กตา
• Season's Greetings (illustration by JJ)
• คุณขา เรามารักกันมั๊ย (ห้ามเข้า...ถ้าไม่ใช่อ๊อด)
• no enter
• ห้องเก็บของ

ปีกไก่ผัดพริกไทดำ...แบบว่าจำเขามา หลายวันก่อน คุณ klakung เอาเมนู "กระดูกหมูผัดซอสพริกไทยดำ" มาลงในกระทู้ เจเจเห็นแล้วก็อยากหม่ำอย่างแรง เลยไปคุ้ยตู้เย็น มีของพอทำได้ เลยลุยทำไปเมื่อเย็นวาน (ขอบคุณเจ้าของไอเดียนะคะ) เจเจดัดแปลงเพิ่มเติมเล็กน้อย คือเพิ่มผักเข้าไปอีกสองชนิดค่ะ เครื่องปรุงปีกไก่ หอมใหญ่ พริกหวาน บล็อคโคลี่ แครอท ซอสพริกไทดำ น้ำมันหอย แม็กกี้ แป้งข้าวโพด น้ำตาล ผักสดๆ น่ากินจัง พริกหวานกรอบๆ บล็อคโคลี่ (เก็บไว้หลายวันแล้ว) หอมใหญ่ นี่ก็เก็บไว้จนเกือบจะงอกเป็นต้น แครอทก็ไปขอเอามาจากคุณอาข้างบ้าน วิธีทำ 1. ทอดไก่ให้เหลืองสวย (ตอนทอดนี่ไก่หนังกรอบอร่อยเลยค่ะ แต่พอไปเจอกับซอสราด แป๊บเดียวก็นิ่ม แหะๆๆ) 2. ใส่กระเทียมลงผัดในน้ำมันเล็กน้อย ตามด้วยหอมใหญ่ ผัดจนหอมใหญ่เกือบสุกจึงโยนพริกหวานลงไปด้วย ผัดให้มีกลิ่นไหม้นิดๆ (ผิวของผักดูเกรียมนิดๆนะคะ ไม่ใช้ให้ดำเป็นตอตะโกทั้งชิ้นอ่า) 3. เมื่อได้ที่ ก็เติมน้ำเปล่า หรือว่าน้ำซุปก็ได้ พอเดือดก็เติมเครื่องปรุงรส และซอสพริกไทยดำลงไปคลุกเคล้า ชิมรสให้พอดีถูกปาก 4. ลืมบอกไปว่า เจเจเอาบล็อคโคลี่ กับแครอทไปลวกไว้ก่อน เวลาเอามาผัดจะได้ไม่ต้องรอนาน ไม่งั้นกว่าแครอทจะสุก หอมใหญ่คงจะเละไปเสียก่อน ใส่ผักลงไปผัดๆๆๆ คลุกเสียสองสามที แล้วเราก็เติมแป้งข้าวโพดละลายน้ำนิดหน่อย ให้น้ำซอสข้นๆ 5. เสร็จแล้วก็โยนไก่ทอดลงไปคลุกๆๆๆ เสร็จแล้วค่ะ +++++++++++++++++++++++++ ง่ายไหมหล่ะคะ รสชาติดีเสียด้วย อันนี้มีคนยืนยันค่ะ เพราะว่าทำเสร็จแล้วต้องส่งส่วยไปให้คุณอาเจ้าของแครอทที่เจเจไปจกมาชิมดูสักหน่อย แกบอกว่าอร่อยดี แถมยังชมว่า "เจเจเก่งเหมือนแม่จ๋า" ฮิ้วๆๆๆ เอาหล่ะว้อย มายอกันอย่างนี้ เจเจทำตายเลย ฮ่าๆๆๆ น่าหม่ำอย่างนี้ จะรับข้าวสักถ้วยไหมค่ะ? +++++++++++++++++++++++ ขอบคุณที่แวะมาชมมือใหม่เข้าครัว ขอให้อร่อยนะคะ   Create Date : 23 สิงหาคม 2550     Last Update : 23 สิงหาคม 2550 8:16:21 น. Counter : 4020 Pageviews.   15 comment Share Tweet

โรตี-แกงกะหรี่ถั่ว มีใครชอบทานอาหารมุสลิมบ้างไหมคะ? บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ แต่ส่วนตัวแล้วเจเจจะชอบอาหารอินเดีย รวมถึงอาหารมุสลิมมากๆ โดยเฉพาะเมนูที่อบอวลไปด้วยเครื่องเทศ สมัยเรียนที่หมาวิทยาลัย เจเจมีเพื่อนชาวมุสลิม ชาวเนปาล รวมถึงชาวอินเดียกว่า 30 คน เราเคยจัดปาร์ตี้อาหารประจำชาติเพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม(การกิน) ซึ่งผลออกมาดีมากๆ เจเจประทับใจอาหารอินเดียมากๆ เพราะอาหารอินเดียมีครบทั้งรสชาติ กลิ่น และหน้าตาสีสัน เมนูแรกที่ประทับใจก็คือแกงกะหรี่ไข่จากฝีมือเพื่อนชาวเนปาล รสชาติหอมมัน กลิ่นเครื่องเทศหอมฟุ้ง แต่ไม่ได้เหม็นเลยสักนิด (อันนี้เจเจจะลองทำดูสักวัน) หลังจากนั้นเจเจก็ต้องแวะเวียนไปทานอาหารอินเดียอีกหลายที่ ที่เจ๋งสุดๆก็คงเป็นที่ Little Indian ในสิงคโปร์ แล้วก็แกงกะหรี่หัวปลาจากกัวลาลัมเปอร์ที่เพื่อนรักหอบหิ้วมาฝาก แต่เจเจว่าการทำอาหารอินเดียนั้นค่อนข้างยาก เพราะเจเจไม่ค่อยรู้เรื่องเครื่องเทศมากนักเลยไม่กล้าที่จะหัดทำเสียที แต่วันนึงเจเจก็ไปได้หนังสือทำอาหารมุสลิมมา 1 เล่มซึ่งได้มีการอธิบายได้ละเอียดดีและน่าจะทำตามได้ไม่ยากในนั้นมีสูตรอาหารมุสลิมจากหลายแห่ง ทั้งทางอินเดีย มาลายู ปากีสถาน ฯลฯ หนังสือ "อาหารมุสลิม" และ "แกงกะหรี่ถั่ว" ในนั้นมีเมนูนึงซึ่งคาดว่าจะง่ายที่สุด และเหมาะแกการหัดทำ นั่นก็คือ "แกงกะหรี่ถั่ว" เครื่องปรุงต่างๆก็หาได้ไม่ยากนัก เอาหล่ะว่ะ...ลุยเลยดีกว่า +++++++++++++++++++++++++++++++++++ เครื่องปรุง ถั่วเขียวเราะเปลือก 1ถ้วย ลูกผักชีป่น 2 ช้อนโต๊ะ ยี่หร่าป่น 1/2 ช้อนชา พริกป่นอินเดีย 1 ช้อนชา ผงขมิ้น 1/2 ช้อนชา เกลือสมุทร 1 ช้อนโต๊ะ เนื้ออกไก่สับ 1/2 ถ้วย น้ำ 1 ถ้วย น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ เนยอินเดีย 3 ช้อนโต๊ะ (เจเจหาซื้อไม่ได้ เลยใช้เนยจืดแทนค่ะ) อบเชยหักเป็นท่อนขนาด 1 นิ้ว 3 ชิ้น หอมเล็กซอย 1/2 ถ้วย ต้นหอมหั่น 1/2 ถ้วย ผักชีซอย 1/2 ถ้วย วิธีทำ 1. แช่ถั่วเขียวเราะเปลือก ในอ่างน้ำค้างคืนหรือแช่ในน้ำอุ่นนาน 3-4 ชั่วโมง จนเมล็ดถั่วพองน้ำ จากนั้นล้างให้สะอาดใส่ลงในหม้อ เติมน้ำจนท่วม ยกขึ้นตั้งไฟกลาง ต้มจนถั่วสุกนุมค่อนข้างเละ ตักเอาแต่เนื้อ ตวงให้ได้ 4 ถ้วยตวง 2. ตั้งหม้อบนเตา ใส่ถั่วต้ม ตามด้วยลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น พริกป่นอินเดีย ผงขมิ้น เปิดไฟกลาง คนด้วยไม้พายให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ พอเดือดใส่เนื้อไก่สับ คนให้เนื้อไก่ไม่รวมกันเป็นก้อน เติมน้ำ คนให้ทั่ว ใส่น้ำตาล ลดเป็นไฟอ่อน เคี่ยวต่ออีกประมาณ 5 นาที 3. ระหว่างที่เคี่ยวแกง ให้ตั้งกระทะน้ำมันและเนยอินเดียด้วยไฟกลางจนร้อน ใส่อบเชย ผัดจนมีกลิ่นหอม จึงใส่หอมเล็กลงเจียวจนเหลืองและมีกลิ่นหอม ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่หม้อแกงถั่วที่เคี่ยวขณะร้อนๆ ใส่ต้นหอมและผักชี คนพอทั่ว ปิดไฟ 4. ตักแกงใส่ถ้วย โรยต้นหอมและผักชี เสริ์ฟร้อนๆทานคู่กับโรตีทอด ::ข้อมูลคักลอกมาจากหนังสือ "อาหารมุสลิม" +++++++++++++++++++++++++++++ ทีนี้มาดูเจเจทำกันมั่งดีกว่า... บรรดาเครื่องปรุงต่างๆค่ะ หาได้ไม่ยากจริงๆ ยกเว้นแต่ "เนยอินเดีย" หรือ "เนยใส" หรือ "กี" ที่ต้องไปซื้อจากร้านเครื่องเทศ มีคนแนะนำให้ไปซื้อที่ร้าน "สุวรรณเครื่องเทศ" ตรงบางรัก... ว่างๆคงจะไปเดินหาดูสักวัน ถั่วที่ต้มจนสุกได้ที่... ทีแรกคิดว่ามันเละไปหน่อย แต่พอทำเสร็จแล้วก็กำลังดีนะ นี่ตวงจนได้ 4 ถ้วยแล้ว หอมซอย ช่วงนี้ใช้เยอะ ซื้อมาเป็นกิโล แป๊บเดียวหมด เนื้ออกไก่สับ เจเจสับหยาบๆ เพราะว่าเนื้ออกไก่นี่มันสับยากนะ เนื้อมันเหนียวๆ ติดมีดน่าดู เอาถั่วลงหม้อ เติมเครื่องเทศต่างๆตามตำรา ขอเติมน้ำหน่อย เพราะถั่วที่ตวงไว้มันแห้งมาก กลัวถั่วไหม้เสียก่อน ต้มให้เดือดแล้วใส่ไก่สับลงไป คนๆจนเข้ากันดี พอทำมาถึงตอนนี้ใจเริ่มไม่ดีแล้ว ประมาณว่าตูจะทำออกมากินได้ไหมเนี่ย หน้าตามันเละๆเขละๆ ไม่น่ากินเลย ตอนปรุงรสก็กล้าๆกลัวๆ กลิ่นเครื่องเทศต่างๆก็หอมดี แต่รสชาตินี่มันไม่เด่นเอาเสียเลย ไม่ว่าจะเผ็ด จะหวาน หรือเค็ม แล้วก็ตัดใจ เติมพริกไปอีกเท่าตัว แล้วเพิ่มเกลือกับน้ำตาลอีกด้วย เข้าท่าๆๆๆ เขาบอกให้เคี่ยวแกงไปสักห้านาที ระหว่างนั้นก็เตรียมน้ำมันพืชกะเนยอินเดีย (เจเจไม่ได้ใช้) เอาอบเชยลงผัดให้หอม แล้วก็เจียวหอมเล็ก ได้มาอย่างนี้ค่ะ เสร็จแล้วก็เทลงหม้อ... อืมๆๆ จะกินได้มั๊ยว๊า โปะผักชีต้นหอมลงไปอีก โอ๊ยๆๆๆ น่ากลัวต้องเททิ้งจริงๆ ถึงตอนนี้ก็ทำแกงเสร็จแล้ว เรามาเตรียมโรตีกันดีกว่า เจเจชอบโรตีของยี่ห้อนี้ ใช้สะดวก เนื้อแป้งเบาๆ ไม่หนักจนเกินไป แล้วก็นุ่มหอมมากๆ แกะจากห่อได้ก้โยนลงกระทะได้เลย ไม่ต้องใส่น้ำมัน เพราะว่ามัน "มัน" โคตรๆอยู่แล้ว ทอดไฟอ่อนๆ พลิกไปพลิกมาจนกรอบก็ใช้ได้ เจเจเห็นอาบังทอดแล้วมีตบข้างๆให้โรตีพองๆด้วย เลยเอามั่ง อิอิอิ นี่แหละค่ะ หน้าตาสำเร็จ... สวยงามน่ากินใช่ป่าว ไม่ใช่แค่สวยนะคะ ออกมาอร่อยด้วยหล่ะ เจเจขอยกความดีความชอบให้กับคนเขียนตำราเล่มนี้นะคะ ซึ่งเขาอธิบายไว้ละเอียดดี ดีจนเจเจทำตามได้นั่นแหละ โคลสอัพด้วยความภูมิใจ... ครั้งแรกที่ทำอาหารตามตำรา ไม่ใช่ไป "ครูพักลักจำ" มาจากไหนเหมือนทุกครั้ง ++++++++++++++++++++++++++++ เดี๋ยวงานหน้า เจเจจะลองทำแกงกะหรี่ไข่ดูบ้าง... ท่าทางไม่ยากเช่นกันค่ะ แล้วรอติดตามชมนะคะ กะมือใหม่เข้าครัว ขอให้อร่อยค่ะ   Create Date : 22 สิงหาคม 2550     Last Update : 22 สิงหาคม 2550 8:57:21 น. Counter : 10777 Pageviews.   25 comment Share Tweet

หมูทอดกระเทียมพริกไท - ข้าวผัดแม็กกี้ หมูทอดกระเทียมพริกไท - ข้าวผัดแม็กกี้ นี่เป็นของโปรดของเจเจสมัยเด็กๆเลยนะ พ่อจ๋าชอบทำให้กิน มันก็คือหมูทอดแบบง่ายๆ แล้วก็เอาน้ำมันทอดหมูมาคลุกกับข้าว กลิ่นแม็กกี้เข้ากันกับน้ำมันทอดหมูแล้วก็กระเทียมเจียวมากๆ จนแทนจะหม่ำแต่ข้าวเปล่าๆยังได้ เครื่องปรุงมีไม่เยอะ หาได้ในครัวเรือนเพราะอาหารจานนี้มีชื่อเล่นว่า "อาหารสิ้นคิด" ประมาณว่าคิดไรไม่ออกก็ทำไอ้นี่กิน แหะๆๆๆ สิ่งที่ต้องเตรียมก็คือ หมูหันเป็นชิ้นกะแบบกินง่ายๆ ข้าวสวยพอดีคน กระเทียมเยอะๆ เกลือ พริกไท และขาดไม่ได้คือซอสแม็กกี้ แล้วถ้าจะให้ดี ควรจะมี ผักสดแกล้มเพิ่ม Fibre ให้ร่างกายด้วยนะจ๊ะ การทำอาหารจานนี้ก็แสนง่าย เริ่มจากนำกระเทียมสับแบบไม่อั้น ไปเจียวให้เหลืองกรอบ แล้วตักขึ้นพักไว้ จากนั้นก็นำหมูมาผัดในน้ำมันกะเทียมเจียวที่เหลือในกระทะ ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไท แล้วเหยาะแม็กกี้นิดหน่อยเพื่อนเพิมสีสัน ฮิ้วๆๆๆ ทอดต่อจนเหลืองสวยแบบนี้ แล้วก็เอากระเทียมเจียวที่พักไว้เมื่อสักครู่ลงไปคลุก (แบ่งกระเทียมไว้อีกครึ่งนะคะ) แค่นี้ก็เสร็จแล้วกับหมูกระเทียม... ส่วนข้าวผัดแม็กกี้นี่ก็ไม่ยาก น้ำมันที่เหลือจากทอดหมู เราก็ตักทิ้งเสียบ้าง ให้เหลือแค่พอติดกระทะ เอาข้าวสวยลงคลุก เหยาะแม็กกี้เพื่อปรุงรส สุดท้ายก็กระเทียมเจียวที่แบ่งครึ่งเอาไว้ มาคลุกให้ทั่วๆ ตักเสริฟร้อนๆ ทานกับมะเขือเทศเปรี้ยวๆก็อร่อย แล้วก็แก้เลี่ยนด้วยค่ะ หมูหน้าตาดีมั๊ยหล่ะ... มันอร่อยก็อีตรงที่มีกระเทียมเจียวเยอะๆนี่หล่ะ แล้วกินกะข้าวผัดแม็กกี้แบบนี้นะ อร่อยๆๆๆๆ +++++++++++++++++++++++++ แต่ขอเตือนท่านที่มีปัญหาเรื่อง "คอเรสเตอรอล" ว่าควรหลีกเลี่ยงเมนูนี้ รวมถึงผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก แต่สำหรับเจเจแล้ว บอกได้คำเดียวว่า "ไม่สน" ก็คนมันชอบกินนี่จ๊ะ ขอให้อร่อยนะคะ   Create Date : 20 สิงหาคม 2550     Last Update : 20 สิงหาคม 2550 10:39:50 น. Counter : 4174 Pageviews.   15 comment Share Tweet

ซุปมิโซะเหลือ...เอาไปทำไรกินดีเอ่ย いらっしゃいませ ขออัพบ็อกต่อจากเมนูที่แล้วนะคะ จากที่เจเจทำ "แซลมอลย่างซอสเทอริยากิ" แล้วมีซุปมิโซะเหลืออีกตั้งหนึ่งหม้อ จะทิ้งก็เสียดาย มิโซะถุงนึงๆตั้งเป็นร้อย เลยงกเอามาทำเป็นเมนูใหม่ ทำง่าย แล้วก็อร่อยชื่นใจด้วยค่ะ เมนูที่ว่านี้ก็คือ... ข้าวต้มมิโซะซุป (มันชาติไหนกันฟร่ะเนี่ย??? ) ++++++++++++++++ เครื่องปรุง... ซุปมิโซะที่เหลือจากมื้อก่อน ข้าวสวยหุงนิ่มๆ หมูสับ แป้งข้าวโพด เห็ดหูหนูหันเป็นเส้น เกลือ พริกไทย ต้นหอมซอย ต้นหอมสดฉีกเป็นเส้น นำหมูสับผสมกับแป้งข้าวโพดเล็กน้อย ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย คลุกเคล้าให้เข้ากัน เติมเห็ดหูหนูหันเป็นเส้น คลุกให้เข้ากัน แล้วปั้นเป็นก้อนพอดีคำ แล้วนำไปลวกในน้ำเดือดให้สุก ตั้งพักไว้ ตักข้าวใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย นำหมูสับที่ลวกสุกจัดวางให้สวยงาม แล้วตกแต่งด้วยต้นหอมฉีกฝอยอีกที หมูสับจะดูนุ่มๆขาวๆ น่าร๊ากๆๆๆ ...เอ๊ย น่ากินๆๆๆ ตักน้ำแกงมิโซะร้อนๆราดบนข้าว... แล้วก็หม่ำได้เลยค่ะ เสร็จแล้ว แค่นี้เอง ง่ายไหมคะ? เอาของเหลือมาทำกินได้อีกมื้อสบายๆ เจเจทำ Teriyaki Salmon ทานเป็นมื้อเย็น ส่วนข้าวต้มมิโซะนี่ก็ทานเช้าวันรุ่งขึ้น อิ่มสบายท้อง หมูสับใส่แป้งข้าวโพดไปเล้กน้อยแล้วนุ่มดีค่ะ บุกค้างคืนอาจจะเหนียวไปหน่อย แต่ก็เคี้ยวเพลินดีนะ +++++++++++++++++++ เป็นไงคะ ได้ไอเดียเก็บของเก่ากินไม่ให้เสียของแบบนี้ หวังว่าคงจะถูกใจกันบ้างนะคะ ขอบคุณที่แวะชมมือใหม่ทำกับข้าวค่ะ   Create Date : 18 สิงหาคม 2550     Last Update : 18 สิงหาคม 2550 14:26:28 น. Counter : 3428 Pageviews.   12 comment Share Tweet

Teriyaki Salmon いらっしゃいませ โย่วๆๆ วันนี้เราไปกินอาหารญี่ปุ่นกันดีกว่าค่ะ เจเจไปได้ปลาแซลมอนสดๆ และแสนที่จะถูกมาจากตลาดสดหลังบ้าน ซึ่งเขาจะเอาส่วนที่ไม่ค่อยสวยมาจากตลาดใหญ่อีกที เอามาขายให้คุณแม่บ้านชานเมืองอย่างเจเจ อิอิอิ ชิ้นใหญ่กว่าฝ่ามือ หนาประมาณ 2 เซนติเมตร ราคาแค่ 70 บาทเอง พอเห็นปลาเจเจก็นึกออกอยู่เมนูเดียวนี่แหละ นั่นก้คือ Teriyaki Salmon ที่ไม่น่าจะยากเย็นอะไร (ขอบอกว่าเมนูนี้เจเจไม่เคยทำมาก่อนด้วยซิ) แต่คิดว่าไม่น่าจะยากเกิน ของสดต่างๆ เครื่องปรุงก็มีครบ...ทำเลยดีกว่าเนอะ ก่อนไปดูเจเจทำเจ้า Teriyaki Salmon มาดูหน้าสำเร็จกันหน่อยเป็นไรจ๊ะ ++++++++++++++++++++++++ เครื่องปรุง ปลาแซลมอน 1 ชิ้น ซอสเทอริยากิ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ ขิงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ นำเครื่องปรุงทุกอย่างผสมให้เข้ากัน ขิงใส่ไปเล็กน้อย ช่วยดับคาวได้ดีค่ะ ลองชิมดูให้มีรสออกเค็มๆหวานๆ เสร็จแล้วก็นำปลาแซลมอนที่ล้างสะอาดแล้วหมักให้ทั่ว ทิ้งไว้ในตู้เย็น พักไว้อย่างน้อย 1/2 ชั่วโมง หน้าตาจะออกมาเป็นอย่างนี้นะค๊ะ ฉ่ำเยิ้มๆๆๆ เสร็จแล้วค่ะ รอย่างได้เลย ใช้ไฟอ่อนๆนะคะ เพราะว่าเครื่องปรุงที่เราหมักมีส่วนผสมของน้ำตาล...จะไหมได้ง่ายๆ อันที่จริงเจเจทำไหม้นิดหน่อยด้วยหล่ะ แต่รียเอาขึ้นไปใส่ไมโครเวฟสัก 30 วินาทีให้ด้านในสุก แล้วจึงมาย่างซ้ำอีกหนให้ผิวด้านนอกกรอบเกรียมน่าทาน ง่ายไหมค่ะ... เสร็จแล้วอ่ะ อิอิ แต่ว่าถ้าทำแค่ปลาย่างอย่างเดียวเวลากินอาจจะฝืดคอ (หรือว่ามีคนแช่งว่ากินคนเดียวไม่แบ่ง???) เจเจเลยทำ มิโซะซุป อีกรายการ เครื่องปรุงมิโซะซุป มิโซะ ซุปปลาผง ต้นหอม บุกก้อน วิธีทำ เจเจตั้งน้ำสะอาด ใส่ฮอนดาชิลงไปละลาย ตามด้วยมิโซะ 2 ช้อนโต๊ะ คนให้ละลาย ระหว่างรอน้ำซุปเดือด เจเจก็ไปจัดการกะบุกก้อน โดยหันตามขวางเป็นแผ่น หนาประมาณ 1 cm ล้างด้วยน้ำให้สะอาดหลายๆรอบ กรีดเส้นตรงกลางชิ้น แต่อย่าให้ขาดตรงหัวกับท้าย แล้วเจเจก็พับปลายด้านหนึ่งเข้าไปตรงเส้นตรงกลางที่เจเจเจาะไว้ ก็จะอออกมาเป็นเส้นที่มีเกลียวสวยงามแบบนี้ค่ะ พอน้ำซุปเดือด เจเจก็ใส่บุกที่เตรียมไว้ลงไป รอให้เดือดอีกครั้ง หรี่ไฟ แล้วจึงใส่มิโซะเพิ่ม ชิมดูให้รสถูกใจ แล้วปิดไฟได้เลยค่ะ (ถ้าต้มให้เดือด สีน้ำซุปจะเข้มขึ้น ไม่สวยค่ะ) เวลาเสริฟก็โรยด้วยต้นหอมซอย...เรียบร้อย ++++++++++++++++++++++++ ได้เวลาหม่ำๆแล้วค่ะ จัดมาเป็นเซท... น้องๆร้านฟูจิเลยนะเนี่ย ปลาแซลมอนหอมๆ ย่างเสร็จใหม่ๆจากเตา เนื้อตรงท้องงี้ มั้นเยิ้มเลยค่ะ หม่ำกับข้าวสวยร้อนๆ อยากลองทานสักคำไหมค่ะ ถ้าฝืดคอ ก็ซดน้ำแกงสักหน่อย บุกหนึบๆ เคี้ยวเพลินดีค่ะ +++++++++++++++++++++++ เมนูนี้ทำเองได้ ง่ายจริงๆค่ะ ลองไปทำทานกันดูนะคะ อร่อยๆๆๆ   Create Date : 18 สิงหาคม 2550     Last Update : 18 สิงหาคม 2550 9:19:15 น. Counter : 1769 Pageviews.   14 comment Share Tweet

• แม่มดพันปี
• nang
• นางสาวแสนดี..sandy
• Meliot Baggins
• นราเกตต์
• ศรเมฆา ฟ้าแว๊บๆ
• mawmeaw14
• คีตภา
• ช่างไฟ
• fozzil
• earn_kool
• pocketbook
• มารุจัง
• ข้าวยำ@น้ำบูดู
• ฮิปโปวดี
• yadegari
• จะถูกจะแพงขอแดงไว้ก่อน
• lovely dog
• เดียวจัง
• ...ตะเกียงดวงน้อย...
• อยากใช้ชื่อนี้ แต่มันซ้ำ
• angelnoi
• None of it
• aplo
• monkey_bone
• กระพรวนน้อยเสียงใส
• หนูกิ่งเจ้า
• ตะวันทะเล
• I'm a gril
• bigwores
• คริสตอลสีชมพู
• ^_^ หมูน้อยเกเร ^_^
• noo_lekja
• ยอดสน
• วลีวิไล
• imuya
• Alexandrea
• ปูขาเก เซมารู
• Pattylala
• แม่หมูกะลูกลิง
• NuiErnik
• ดอกซากุระบานแค่เจ็ดวัน
• riskx_ray
• Guzzie
• ouiaa
• bonbini
• AugusT[CrusheR]VeronicA
• Forever In LoVE
• อ้วนดำปื๊ดปื๊อ
• เต่าญี่ปุ่น
• J-Nap
• rocky oreo
• หมูแดงจ้ะ
• Febie
• chompuus
• yaah
• มันอยู่ในปอด
• narellan
• กระต่ายขาเดียว
• jumjee
• Complicatedgirl
• Triny
• ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน
• นู๋โนริ
• Beebie
• งาขาว
• ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
• winnie in love
• puppadoowab
• - Dachsie -
• ริวคิ-mawin-maji-minic
• แม่สลิ่ม
• หมอหมู
• Cliff's Angel
• PaDoi
• Plin, :-p
• หนูปูน
• madam_ozzy
• ปะการังเรืองแสง
• มิสพิกกี้
• Cookie Nim
• Candydolls
• UltraToey2322
• Chocolate Junkie
• After Sunset_Before Sunrise
• swin
• its_gemmi
• วิหคลม
• maetonnum
• clico
• addsiripun
• supachtra
• Webmaster - BlogGang

• College of Management, Mahidol University
• University of Technology, Sydney
• Webster University
• RMIT University
• Trinity College, Melbourne University
• Suksa Nari School
• Khema Siri Memorial School
• OhhooGang
• Jolly Joey Land
• BlogGang.com