ที่ขอบประตูสู่นรก, ตั๊กแตนในวิวรณ์บทที่9, และพยานพระเจ้า edge of abyss, locusts of rev9, witnesses






ดิฉันได้รับนิมิตสั้นๆหลายอย่าง...

ขณะที่ดิฉันกำลังอธิษฐานอยู่นั้น พระเยซูได้เสด็จมา และพระองค์ได้เปิดประตูสีดำบานใหญ่ และข้างในประตูนั่นมืดมาก ทุกอย่างมืดดำไปหมด แต่ดิฉันรู้ว่าพระองค์เปิดประตูนี้ และพระองค์ก็พาดิฉันไปที่ขอบประตูและดิฉันมองลงไปในหลุม ซึ่งจิตวิญญาณบอกดิฉันว่า...นี่คือส่วนลึกของนรก

และสิ่งแรกที่ดิฉันมองเห็นคือ เห็นบรรดาสัตว์ร้าย เห็นไฟ และเห็นผู้คนกำลังถูกทรมานที่นั่น และพระเยซูตรัสว่า.. “ที่นี่จะถูกเปิดออกเมื่อมีการมอบกุญแจให้ไป”

และขณะที่พระองค์กำลังพูดนั้น พระองค์ก็ให้ดิฉันได้เห็นพระสันตะปาปาคนหนึ่ง ดิฉันไม่รู้ว่าเป็นคนไหน เขาสวมชุดสีขาว ดิฉันไม่รู้ว่านั่นหมายความว่ากุญแจจะมอบให้พระสันตะปาปาคนปัจจุบันหรือ..จะมอบให้กับคนต่อไป พระองค์ได้เพียงให้ดิฉันเห็นพระสันตะปาปาที่สวมชุดสีขาว และสามหมวกของประจำตำแหน่งของเขาเท่านั้น

พระเยซูตรัสว่า.. “แล้วพวกตั๊กแตนมันก็จะออกมา”

และพระองค์ได้ให้ดิฉันเห็นนิมิตเกี่ยวกับวิวรณ์บทที่ 9 อีกครั้ง และ

พระองค์ตรัสว่า .. “เจ้ามีอำนาจในการต่อต้านมัน”

ในนิมิตที่ดิฉันเห็นในวิวรณ์บทที่ 9 นั้น ดิฉันจะถามพระองค์ว่า.. พวกมันจะทำร้ายพวกเรามั๊ย?..แต่ก่อนที่คำถามจะหลุดออกจากปากดดิฉันไปนั้น พระองค์ตอบเสียงดังว่า ...ไม่!

พวกมันไม่สามารถทำร้ายลูกๆของพระองค์.... พวกเราได้รับการประทับตราของพระองค์แล้ว !!!!

...แล้วพระองค์บอกว่า พวกเรามีอำนาจในการห้ามปรามพวกมัน พวกมันรู้จักพวกเรา(ผู้ที่มีตราประทับแล้ว) พวกมันรู้ว่าเราเป็นลูกๆของพระเจ้า และพวกมันจะไม่มาใกล้เราถ้าเราห้ามปรามพวกมันไว้ ให้พวกมันอยู่ห่างๆจากเรา

แล้วพระองค์ตรัสว่า ... “พวกเจ้าเป็นพยานของเรา พวกเจ้าเป็นเจ้าสาวของเรา พวกเจ้าเป็นวิหารของเรา”

ต่อมาพระองค์ก็ให้ดิฉันดิฉันได้เห็นทุ่งกว้าง มีต้นไม้ที่อยู่ไกลออกไป และมีผู้คนออกมาจากต้นไม้...จิตวิญญาณของดิฉันรับรู้ได้ว่าดิฉันสามารถช่วยพวกเขาได้ ดิฉันคิดว่าคงเป็นประมาณว่า....วางมือเจิมพวกเขาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์

แล้วดิฉันก็เห็นว่าตนเองกำลังพยากรณ์ ซึ่งไม่เหมือนที่ดิฉันกำลังทำในยูทู้ปนี้ แต่เป็นแบบผู้พยากรณ์จริงๆ พูดพระวจนะของพระเจ้าออกไปพร้อมกับสิทธิอำนาจ แล้วพระองค์ก็ให้ดิฉันเห็นการรักษาให้หาย แต่ดิฉันไม่คิดว่านั่นจะเป็นของประทานของดิฉัน แต่พยานของพระองค์ เจ้าสาวของพระองค์และวิหารของพระองค์จะมีของประทานทั้งหลายเหล่านี้

ดิฉันจะขอจบตรงนี้...คือคำตรัสของพระองค์ที่ทรงพลังมาก ที่พระองค์ตรัสว่า...
... “พวกเจ้าเป็นพยานของเรา เป็นเจ้าสาวของเรา และเป็นวิหารของเรา” !!!

ขอบคุณที่ชมวิดีโอนี้ค่ะ





วิวรณ์ 9 / Revelation 9

แตรที่ห้า (ภัยพิบัติจากเหวที่ไม่มีก้นเหว)

9:1 เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่ห้าเป่าแตรขึ้น ข้าพเจ้าก็เห็นดาวดวงหนึ่งตกจากฟ้าลงมาที่แผ่นดินโลก และประทานลูกกุญแจสำหรับเหวที่ไม่มีก้นเหวให้แก่ดาวดวงนั้น

9:2 เมื่อเขาเปิดเหวที่ไม่มีก้นเหวนั้น ก็มีควันพลุ่งขึ้นมาจากเหวนั้นดุจควันที่เตาใหญ่ และดวงอาทิตย์และอากาศก็มืดไป เพราะเหตุควันที่ขึ้นมาจากเหวนั้น

9:3 มีฝูงตั๊กแตนบินออกจากควันนั้นมายังแผ่นดินโลก ได้ประทานอำนาจแก่ตั๊กแตนนั้น เหมือนกับอำนาจของแมงป่องแห่งแผ่นดินโลก

9:4 และมีคำสั่งแก่มันไม่ให้ทำร้ายหญ้าบนแผ่นดินโลก หรือพืชเขียว หรือต้นไม้ แต่ให้ทำร้ายคนเหล่านั้นที่ไม่มีตราของพระเจ้าบนหน้าผากของเขาเท่านั้น

9:5 และไม่ให้ฆ่าคนเหล่านั้น แต่ให้ทรมานเขาห้าเดือน การทรมานนั้นเป็นการทรมานที่เหมือนกับถูกแมงป่องต่อย

9:6 ตลอดเวลาเหล่านั้น คนทั้งหลายจะแสวงหาความตายแต่จะไม่พบ เขาอยากจะตาย แต่ความตายจะหนีไปจากเขา





9:7 ตั๊กแตนนั้นมีรูปร่างเหมือนม้าที่ผูกเครื่องพร้อมสำหรับออกศึก บนหัวมีสิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนมงกุฎทองคำ หน้ามันเหมือนหน้ามนุษย์

9:8 ผมมันเหมือนผมผู้หญิง ฟันมันเหมือนฟันสิงโต

9:9 มันมีทับทรวงเหมือนกับทับทรวงเหล็ก เสียงปีกมันเหมือนเสียงรถม้าเป็นอันมากกรูเข้ารบข้าศึก

9:10 มันมีหางเหมือนหางแมงป่อง และหางมันนั้นมีเหล็กใน มันมีอำนาจที่จะทำร้ายมนุษย์ตลอดห้าเดือน

9:11 มันมีทูตแห่งเหวที่ไม่มีก้นเหวนั้นเป็นกษัตริย์ปกครองมัน ที่มีชื่อเรียกในภาษาฮีบรูว่า อาบัดโดน แต่ในภาษากรีกเรียกว่า อปอลลิโยน

9:12 วิบัติอย่างที่หนึ่งผ่านไปแล้ว ดูเถิด ยังมีวิบัติอีกสองอย่างที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า



Fifth Trumpet: Satan Opens the Bottomless Pit
9:1 And the fifth angel sounded, and I saw a star fall from heaven unto the earth: and to him was given the key of the bottomless pit.
9:2 And he opened the bottomless pit; and there arose a smoke out of the pit, as the smoke of a great furnace; and the sun and the air were darkened by reason of the smoke of the pit.
9:3 And there came out of the smoke locusts upon the earth: and unto them was given power, as the scorpions of the earth have power.
9:4 And it was commanded them that they should not hurt the grass of the earth, neither any green thing, neither any tree; but only those men which have not the seal of God in their foreheads.
9:5 And to them it was given that they should not kill them, but that they should be tormented five months: and their torment was as the torment of a scorpion, when he striketh a man.
9:6 And in those days shall men seek death, and shall not find it; and shall desire to die, and death shall flee from them.
9:7 And the shapes of the locusts were like unto horses prepared unto battle; and on their heads were as it were crowns like gold, and their faces were as the faces of men.
9:8 And they had hair as the hair of women, and their teeth were as the teeth of lions.
9:9 And they had breastplates, as it were breastplates of iron; and the sound of their wings was as the sound of chariots of many horses running to battle.
9:10 And they had tails like unto scorpions, and there were stings in their tails: and their power was to hurt men five months.
9:11 And they had a king over them, which is the angel of the bottomless pit, whose name in the Hebrew tongue is Abaddon, but in the Greek tongue hath his name Apollyon.
9:12 One woe is past; and, behold, there come two woes more hereafter.






แตรที่หก (มนุษย์หนึ่งในสามถูกฆ่าตาย)

9:13 เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่หกเป่าแตรขึ้น ข้าพเจ้าได้ยินเสียงออกมาจากเชิงงอนมุมทั้งสี่ของแท่นทองคำที่อยู่เบื้องพระพักตร์พระเจ้า

9:14 เสียงนั้นสั่งทูตสวรรค์องค์ที่หกที่ถือแตรนั้นว่า "จงแก้มัดทูตสวรรค์ทั้งสี่ที่ถูกมัดไว้ที่แม่น้ำใหญ่นั้น คือแม่น้ำยูเฟรติส"

9:15 ทูตสวรรค์ทั้งสี่ก็ถูกแก้ปล่อยไป ซึ่งทรงเตรียมไว้สำหรับชั่วโมง วัน เดือน และปี ที่จะให้ฆ่ามนุษย์เสียหนึ่งในสามส่วน

9:16 และจำนวนพลทหารม้ามีสองร้อยล้าน นี่คือจำนวนที่ข้าพเจ้าได้ยิน

9:17 ในนิมิตนั้นข้าพเจ้าสังเกตเห็นม้าเป็นดังนี้คือ ผู้ที่นั่งบนหลังม้านั้น ก็มีทับทรวงสีไฟ สีพลอยสีแดง และสีกำมะถัน หัวม้าทั้งหลายนั้นเหมือนหัวสิงโต มีไฟและควันและกำมะถันพลุ่งออกมาจากปากของมัน

9:18 มนุษย์ถูกฆ่าเสียหนึ่งในสามส่วนด้วยภัยพิบัติสามอย่างนี้ คือ ไฟและควันและกำมะถันที่พลุ่งออกมาจากปากมันนั้น

9:19 เพราะว่าฤทธิ์ของม้านั้นอยู่ที่ปากและหาง หางของมันเหมือนงูและมีหัว สิ่งเหล่านี้ทำให้มันทำร้ายคนได้

9:20 มนุษย์ทั้งหลายที่เหลืออยู่ ที่มิได้ถูกฆ่าด้วยภัยพิบัติเหล่านี้ ยังไม่ได้กลับใจเสียใหม่จากงานที่มือเขาได้กระทำ ไม่ได้เลิกบูชาผี บูชา `รูปเคารพที่ทำด้วยทองคำ เงิน ทองเหลือง หินและไม้ รูปเคารพเหล่านั้นจะดูหรือฟังหรือเดินก็ไม่ได้'

9:21 และเขาก็มิได้กลับใจเสียใหม่จากการฆาตกรรม และการเวทมนตร์ การล่วงประเวณี และการลักขโมย



Sixth Trumpet: One Third of Earth's Population Dies
9:13 And the sixth angel sounded, and I heard a voice from the four horns of the golden altar which is before God,
9:14 Saying to the sixth angel which had the trumpet, Loose the four angels which are bound in the great river Euphrates.
9:15 And the four angels were loosed, which were prepared for an hour, and a day, and a month, and a year, for to slay the third part of men.
9:16 And the number of the army of the horsemen were two hundred thousand thousand: and I heard the number of them.
9:17 And thus I saw the horses in the vision, and them that sat on them, having breastplates of fire, and of jacinth, and brimstone: and the heads of the horses were as the heads of lions; and out of their mouths issued fire and smoke and brimstone.
9:18 By these three was the third part of men killed, by the fire, and by the smoke, and by the brimstone, which issued out of their mouths.
9:19 For their power is in their mouth, and in their tails: for their tails were like unto serpents, and had heads, and with them they do hurt.
9:20 And the rest of the men which were not killed by these plagues yet repented not of the works of their hands, that they should not worship devils, and idols of gold, and silver, and brass, and stone, and of wood: which neither can see, nor hear, nor walk:
9:21 Neither repented they of their murders, nor of their sorceries, nor of their fornication, nor of their thefts.






Create Date : 18 มีนาคม 2555
Last Update : 18 มีนาคม 2555 22:48:46 น.
Counter : 3722 Pageviews.

0 comment
มีฝูงตั๊กแตนบินออกจากควันนั้นมายังแผ่นดินโลก







วิวรณ์ 9 / Revelation 9

9:3 .....***มีฝูงตั๊กแตนบินออกจากควันนั้นมายังแผ่นดินโลก !!!
.... ****ได้ประทานอำนาจแก่ตั๊กแตนนั้น....
...***เหมือนกับอำนาจของแมงป่องแห่งแผ่นดินโลก

9:4 และ...***มีคำสั่งแก่มันไม่ให้ทำร้ายหญ้าบนแผ่นดินโลก หรือพืชเขียว หรือต้นไม้ .!!!.แ..
...***ต่ให้ทำร้ายคนเหล่านั้นที่ไ...***ม่มีตราของพระเจ้า...***
...บนหน้าผากของเขาเท่านั้น !!!


9:3 And there came out of the smoke locusts upon the earth: and unto them was given power, as the scorpions of the earth have power.
9:4 And it was commanded them that they should not hurt the grass of the earth, neither any green thing, neither any tree; but only those men which have not the seal of God in their foreheads.

*****มีคำสั่งแก่มันไม่ให้ทำร้ายหญ้าบนแผ่นดินโลก หรือพืชเขียว หรือต้นไม้ แต่ให้ทำร้ายคนเหล่านั้นที่ไม่มีตราของพระเจ้าบนหน้าผากของเขาเท่านั้น***= เฉพาะผู้ที่มีตราประทับของพระเจ้าเท่านั้นที่จะรอดจากการทำร้ายของฝูงตั๊กแตนนี้!!!!

ฝูงตั๊กแตน หมายถึง
=>...ภัยพิบัติต่างๆ
=>การกันดาร
=>การข่มเหง รังแก
=>การทรมานด้วยวิธีการต่างๆ การเจ็บป่วย ความทุกข์ทรมาน
=>การล่อลวงจากผู้เผยพระจนะเท็จ
=>ความอดอยากฝ่ายวิญญาณคืออดอยากต่อพระวจนะแห่งความจริงของพระเจ้า รวมทั้งความอดอยากฝ่ายร่างกายจริง
=> ฯลฯ

หญ้าบนแผ่นดินโลก หรือพืชเขียว หรือต้นไม้ หมายถึง=> ผู้ที่มีตราประทับของพระเจ้าแล้ว ผู้ที่ดำเนินชีวิตในความบริสุทธิ์ ในทางของพระเจ้า อย่างแนบสนิทในพระองค์ ผู้ที่ละทิ้งความบาปทั้งปวง ผู้ที่มีความรักของพระเจ้าอยู่ในชีวิต ผู้ที่รักพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจสุดกำลังสุดความคิด และรักพี่น้องเหมือนรักตนเอง (พี่น้อง= ผู้ที่ได้ฟังพระวจนะของในพระเจ้าแล้วกระทำตาม)...คือคนในกลุ่ม 144000 ---->
....

วิวรณ์.14:4....*** คนเหล่านี้เป็นคนที่มิได้มีมลทินกับผู้หญิง!!!
...*** เพราะว่าเขาเป็นพวกพรหมจารี !!!


Rev. 14:4 These are they which were not defiled with women; for they are virgins.

***ผู้หญิง ในพระคัมภีร์ข้อนี้ หมายถึง คริสตจักรแพศยาหรือบาบิโลน
***เขาเป็นพวกพรหมจารี --->เปรียบได้กับ หญิงพรหมจารี 5 คน (มธ.25)ที่เอาตะเกียงที่มีน้ำมันมาด้วย

วิวรณ์. 14:5 ...***ปากเขาไม่กล่าวคำอุบายเลย !!!
...***เพราะเขาไม่มีความผิดต่อหน้าพระที่นั่งของพระเจ้า !!!!


Rev. 14:5 And in their mouth was found no guile: for they are without fault before the throne of God.


*****วิวรณ์ 18 / Revelation 18 *****

18:4 และข้าพเจ้าได้ยินเสียงอีกเสียงหนึ่งประกาศมาจากสวรรค์ว่า....
...*** "ชนชาติของเรา จงออกมาจากนครนั้นเถิด !!!!
....*** เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่มีส่วนในการบาปของนครนั้น....
...**** และเพื่อท่านจะไม่ต้องรับภัยพิบัติที่จะเกิดแก่นครนั้น !!!!



18:4 And I heard another voice from heaven, saying, Come out of her, my people, that ye be not partakers of her sins, and that ye receive not of her plagues.


อาโมส 9 / Amos 9

9:8 ดูเถิด พระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าจับอยู่ที่ราชอาณาจักรอันบาปหนา และเราจะทำลายมันเสียจากพื้นโลก....
...**** เว้นแต่เราจะไม่ทำลายวงศ์วานยาโคบให้สิ้นเสียทีเดียว"
พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้แหละ
...
9:9..... "เพราะว่า ดูเถิด...
...**** เราจะบัญชาและจะสั่นวงศ์วานอิสราเอลท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย...
....***อย่างกับสั่นตะแกรง !!!!
....***แต่ไม่มีเม็ดใดสักเม็ดเดียวที่ตกลงถึงดิน !!!

9:10 ..***คนบาปทั้งปวง....ในประชาชนของเรา....จะตายด้วย...ดาบ!!!
... คือผู้ที่กล่าวว่า ...`ความชั่วจะตามไม่ทันและจะไม่พบเรา' !!!



9:8 Behold, the eyes of the Lord GOD are upon the sinful kingdom, and I will destroy it from off the face of the earth; saving that I will not utterly destroy the house of Jacob, saith the LORD.
9:9 For, lo, I will command, and I will sift the house of Israel among all nations, like as corn is sifted in a sieve, yet shall not the least grain fall upon the earth.

9:10.....****All the sinners of my people shall die by the sword!!!!
, which say, .....The evil shall not overtake nor prevent us.!!!




Create Date : 18 มีนาคม 2555
Last Update : 18 มีนาคม 2555 16:08:20 น.
Counter : 1968 Pageviews.

0 comment
ประตูซึ่งนำไปถึงชีวิตนั้นก็คับและทางก็แคบ.... ผู้ที่หาพบก็มีน้อย
เล่าความฝันของคืนวันที่ 15 มีค. 2012



เมื่อขณะที่หลับอยู่นั้น ฝันว่าได้ไปในสถานที่แห่งหนึ่ง ไปกันเป็นกลุ่มหลายคน สถานที่นั้นเป็นเหมือนสถานที่ท่องเที่ยว มีอาคารหลังใหญ่ตั้งอยู่ริมทะเล มีคนหลายชาติหลายภาษาที่นั่น มีสะพานทอดยาวออกไปไกลในทะเล ในนั้นมีสัตว์หลายชนิด มีทั้งสุนัขและแมว และปลาหลากหลายพันธุ์ว่ายอยู่ในน้ำ ทุกอย่างดูเป็นมิตรและมีความสุข หลังจากไปเที่ยวที่สะพาน แล้วก็จะพากันกลับบ้าน แต่หาทางออกจากสถานที่แห่งนั้นไม่พบซะที เพราะเป็นตึกที่กว้างมาก มีหลายห้องหลายซอกหลายมุม เราก็เดินหาทางออกกัน ไปเจอพวกคนงานกำลังทำงานอยู่ก็ถามเขาว่าทางออกไปทางไหน เขาก็ชี้บอกทางไปให้ เมื่อไปตามทางที่เขาบอกนั้นก็ไม่เจอทางที่เราเข้ามา แต่กลับกลายเป็นทางออกที่ไปในที่กันดาร เป็นป่ารกเหมือนเป็นที่ที่ยังไม่มีการพัฒนา เราจึงกลับเข้ามาคืน แล้วก็เดินหาอีก ซักพักจึงไปเจอทางที่มีเหมือนที่กั้นสีขาวและเป็นเหมือนประตูเล็กๆที่ผ่านไปได้ทีละคน เมื่อเดินผ่านไปประตูก็ปิดไว้เอง ซึ่งทางนี้ถ้าไม่สังเกตดีๆก็จะมองไม่เห็น และเราจึงผ่านไปทางนั้น แล้วก็มาเจอทางออก ซึ่งมีคนอื่นรออยู่แล้ว พวกเขานั่งรอเหมือนเป็นที่นั่งของเรือ เราก็ได้ที่นั่งของเรา พร้อมอาหารที่เขาจัดไว้ให้ทุกที่นั่ง เราเองก็มีขวดน้ำที่มีน้ำเกือบเต็มขวดที่เราเอามาด้วย และมีกระเป๋าสะพายที่ใส่สัมภาระ 1 ใบ จึงนั่งลงรับประทานอาหารที่เขาจัดไว้ให้นั้น ทุกคนที่รออยู่ที่นั่นมีประมาณ 8-10 คน แล้วเราก็ตื่นขึ้นมาจากหลับ



***หลังจากการใคร่ครวญและอธิษฐาน จึงแปลความหมายได้ว่า ....ทางไปสู่อาณาจักรสวรรค์นั้น ต้องผ่านไปทางประตูที่คับและเป็นทางที่แคบ ผ่านไปได้เพียงทีละคน คนที่หาพบก็มีน้อย ประตูนั้น ถ้าไม่สังกตดีๆก็จะมองไม่เห็น ผู้คนจำนวนมากยังหลงทางวนเวียนอยู่ในเขาวงกตของโลกใบนี้


มัทธิว 7 / Matthew 7

คนแสวงหาความรอดมีน้อย คนจำนวนมากจึงหลงไป


7:13 จงเข้าไปทางประตูแคบ.....
.... เพราะว่าประตูใหญ่และทางกว้างนั้นนำไปถึงความพินาศ....
.... และคนที่เข้าไปทางนั้นมีมาก...


7:14... เพราะว่าประตูซึ่งนำไปถึงชีวิตนั้นก็คับและทางก็แคบ....
.... ผู้ที่หาพบก็มีน้อย


Few Saved, Many Lost

7:13 Enter ye in at the strait gate: for wide is the gate, and broad is the way, that leadeth to destruction, and many there be which go in thereat:

7:14 Because strait is the gate, and narrow is the way, which leadeth unto life, and few there be that find it.



อิสยาห์ 44 / Isaiah 44


44:18... เขาทั้งหลายไม่รู้ หรือเขาทั้งหลายไม่เข้าใจ...
... เพราะตาของเขาถูกปิด เขาจึงเห็นอะไรไม่ได้....
.... และจิตใจของเขาเล่าก็ถูกปิด เขาจึงเข้าใจไม่ได้..


44:18 They have not known nor understood: for he hath shut their eyes, that they cannot see; and their hearts, that they cannot understand.





Create Date : 16 มีนาคม 2555
Last Update : 18 มีนาคม 2555 10:23:42 น.
Counter : 1991 Pageviews.

0 comment
ข้อบ่งชี้ว่าเราได้ผ่านจากความตายมาสู่ชีวิตแล้ว How To Know If You Passed From Death To Life





ผลของพระวิญญาณคือความเชื่อ ความรัก และความหวัง

ถ้าคุณติดตามพระเยซูคริสต์ และคุณได้หันหลังให้กับความบาปทุกอย่างแล้ว ชีวิตคุณก็จะบังเกิดผลของพระวิญญาณเหล่านี้ ถ้าคุณไม่มีความเชื่อ ความรัก และความหวัง มันเป็นสัญญาณบอกว่าต้นไม้ของคุณไม่เกิดผลดีและเป็นสัญญาณว่าคุณต้องสารภาพบาปและกลับใจใหม่ และต้องทำตัวคุณให้ถูกต้องต่อเบื้องพระพักตร์พระเยซู

ความเชื่อมาเป็นอันดับแรกครับ!!

เรารู้จากพระคัมภีร์ว่า ... พระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อเรา....เราก็สามารถเชื่อและวางใจในพระองค์ ทั้งความเชื่อและความหวังไปด้วยกัน และเรารู้ว่าพระเยซูคริสต์ได้ทรงชำระบาปให้เรา ดังนั้นเราจึงมีความหวังในชีวิตนิรันดร์ถ้าเรายังคงติดสนิทในพระองค์เสมอ

เมื่อชีวิตเราบังเกิดผลของความรัก....เราก็จะสามารถรักผู้อื่นที่เขาไม่รักเราได้ .... เมื่อนั้นเราก็รู้ว่าเราได้ผ่านจากความตายมาสู่ชีวิตแล้ว !!!!
ถ้ามีความรักของพระองค์อยู่ในเราจริงๆ ความรักนั้นมาจากพระเยซูคริสต์เพราะ ผลทั้งสามอย่างนี้มาจากพระเยซูคริสต์และมันเป็นผลลัพธ์บาปของเราได้รับการชำระ .....ถ้าคุณไม่มีผลเหล่านี้ก็ไม่มีชีวิตในคุณ คุณยังไม่ได้ผ่านจากความตายมาสู่ชีวิต!!!

เมื่อคุณรักผู้คน...ไม่ใช่พียงรักผู้ที่รักคุณเท่านั้น ....จะมีประโยชน์อะไรกับการที่คุณจะรักเฉพาะผู้ที่รักคุณเท่านั้น เพราะแม้แต่คนที่ไม่มีพระเยซูคริสต์ในชีวิตเขาก็ทำอย่างนั้นเหมือนกัน นั่นคือสิ่งที่พระเยซูได้ตรัส.... แต่คุณจะต้องรักศัตรูของคุณด้วย... และทำดีต่อผู้ที่ข่มเหงคุณ และคนที่คุณไม่ชอบ.... ก็จงรักเขาด้วย

พี่น้องที่เข้ากันไม่ค่อยได้...ก็ต้องรักเขาด้วย คนที่คุณไม่ชอบ... ก็ต้องรักเขาด้วยครับ ด้วยการทำเช่นนี้ คุณได้พิสูจน์แล้วว่าคุณเป็นลูกตัวจริงของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ด้วยว่าใครก็ตามที่มีความรักของพระเจ้า ความรักของพระบิดาก็อยู่ในเขาด้วย.... และเขาได้ผ่านจากความตายไปสู่ชีวิตแล้ว!!!!

ความหวังในชีวิตนิรัดร์นั้นเป็นผลมาจากความเชื่อในพระเยซูคริสต์ ซึ่งพระองค์ทรงนำเราผ่านไปในทางที่แคบเพื่อเข้าสู่อาณาจักรของพระองค์ และการบังเกิดผลเหล่านี้เป็นหลักฐานยืนยันในชีวิตของเรา และผู้คนก็จะมองเห็นได้ด้วย

ถ้าชีวิตคุณบังเกิดผลเหล่านี้;วิตกจริต กลัว กังวล สงสัย ยังกระทำความบาปอยู่ มีความโกรธ เกลียด---- ต้นไม้ของคุณแย่มากแล้วครับ และนั่นก็ไม่มีผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์เลย แต่คุณกลับมีผลของวิญญาณชั่วร้ายครับ และขวานก็วางอยู่ที่โคนต้นไม้แล้ว ต้นไม้ทุกต้นที่ไม่บังเกิดผลก็จะถูกตัดทิ้งเสีย และโยนลงในกองไฟ!!

ดังนั้น ผมจึงขอกระตุ้นเตือนคุณในวันนี้ครับ...จงทำตัวคุณให้ถูกต้องต่อเบื้องพระพักตร์พระเยซูตั้งแต่วันนี้ เพื่อว่าชีวิตคุณจะได้บังเกิดผลของพระวิญญาณที่มาจากเบื้องบน คุณไม่สามารถทำมันได้ด้วยตัวของคุณเอง พระเยซูจะให้สิ่งเหล่านั้นแก่คุณครับ

จงแสวงหาพระองค์ อธิษฐานขอพระองค์ชำระจิตใจของคุณให้สะอาดบริสุทธิ์และจงหันหลังให้กับความบาปทุกอย่างครับ ละทิ้งทางแห่งความชั่วทุกอย่าง เพื่อว่าพระองค์จะสามารถเติมความรัก ความเชื่อ และความหวังให้คุณได้

จงมีผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์.... ถ้าคุณมีผลของพระวิญญาณอยู่ในคุณ คุณก็จะรู้ได้แน่ชัดว่าคุณได้ผ่านจากความตายมาสู่ชีวิตแล้วตั้งแต่อยู่บนแผ่นดินโลก

จงมุ่งมั่นอดทนครับ ดำเนินชีวิตในพระองค์ต่อไปพร้อมๆกับการบังเกิดผลของพระวิญญาณในต้นไม้ของคุณ ดำเนินชีวิตเป็นความสว่างให้กับคนอื่นๆในโลกใบนี้ครับ
จงแสวงหาผลของพระวิญญาณเหล่านี้ครับ...ถ้าคุณยังไม่มี
จงสารภาพบาปและกลับใจใหม่...ถ้าต้นไม้ของคุณให้ผลของวิญญาณชั่ว เช่นนั้นแหละคุณจึงจะสามารถกลายมาเป็นต้นไม้ดีในอาณาจักรของพระเจ้าได้....







Create Date : 03 มีนาคม 2555
Last Update : 3 มีนาคม 2555 12:32:57 น.
Counter : 2606 Pageviews.

3 comment
พระเจ้าไม่ได้พอพระทัยในเครื่องถวายบูชาทุกอย่าง NOT All Worship God Respects!





ไม่ใช่ว่าเครื่องถวายบูชาทุกอย่างจะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าเสมอไป บางคนถวายเครื่องบูชาต่อพระองค์ และพระองค์ปฏิเสธมันไป พระองค์ไม่พอพระทัยพวกเขาหรือของถวายที่พวกเขานำมา คุณก็ทราบว่า....คนมากมายในปัจจุบันกำลังนำของมาถวายพระองค์ที่คริสตจักรของพวกเขาในวันอาทิตย์ พวกเขาพูดว่า.. “พวกเราจะสร้างตึกถวายพระเจ้า พวกเราจะสร้างพระนิเวศถวายพระองค์ พวกเราจะนมัสการพระองค์ที่นี่” เปโตรได้เคยทำเช่นเดียวกันนี้แล้ว (มธ.17:4)..และพระเจ้าได้ตรัสมาจากฟ้าสวรรค์ว่า... "ท่านผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา เราชอบใจท่านผู้นี้มาก จงฟังท่านเถิด" (มธ.17:5, ลก. 9:35, มก.9:7).....พระเจ้าได้ตรัสบอกให้เปโตรเงียบเสียงและจงฟัง

มีคนจำนวนมากที่คิดว่าพวกเขากำลังจะสร้างพระนิเวศถวายพระเจ้า พวกเขาคิดว่า... “พวกเราจะนมัสการพระเจ้าที่นี่แหละ พวกเราจะนมัสการพระองค์ในวันอาทิตย์ และพวกเราก็จะอ่านพระคัมภีร์ที่นี่และพวกเรากำลังทำให้พระองค์ทรงพอพระทัยมากๆ พวกเราจะสร้างสาวก พวกเราจะส่งมิชชันนารีออกไปเยอะๆ และพวกเราจะถวายผลแรกของเราให้พระองค์ 10 เปอร์เซนต์” พวกเขาคิดว่าพวกเขากำลังถวายเครื่องบูชาที่พระเจ้าจะทรงพอพระทัย แต่...พวกเขากำลังถวายเครื่องบูชาที่พระองค์จะปฏิเสธ พระองค์จะปฏิเสธเครื่องบูชาของพวกเขา และพระองค์จะไม่ทรงพอพระทัยพวกเขา


เรื่องจริงของคาอิน คาอินโกรธเมื่อเขารู้ว่าสิ่งที่เขานำมาถวายพระเจ้าไม่เป็นที่พอพระทัยของพระองค์ เขาเริ่มเกลียดพระเจ้า และแล้วเขาก็ไปฆ่าน้องชายของเขา เขาไม่หันหลังกลับจากความบาปของเขา พระเจ้าบอกเขาว่า ... “ถ้าเจ้าทำดี เจ้าจะไม่เป็นที่ยอมรับหรอกหรือ ถ้าเจ้าทำไม่ดี บาปก็ซุ่มอยู่ที่ประตู มันปรารถนาในตัวเจ้า และเจ้าจะครอบครองมัน" (ปฐมกาล 4:7) ....มันเป็นเพราะจิตใจของเขาที่ปฏิเสธพระเจ้า
.....ผู้คนมากมายยังคงนำเครื่องบูชาที่ผิดๆมาถวายพระองค์ พวกเขาคิดว่ามันจะทำให้พระองค์พอพระทัย
....แต่จะมีคนจำนวนมากที่ถูกพระองค์ปฏิเสธ

ถ้าเราต้องการที่จะรู้ว่าอะไรที่ทำให้พระเยซูพอพระทัย เราจำเป็นต้องเข้าไปที่เบื้องพระพักตร์ของพระองค์และถามพระองค์ว่า.. “พระองค์เจ้าข้า สิ่งใดที่จะทำให้พระองค์ทรงพอพระทัย?” เราต้องไปหาพระเยซูและถามพระองค์ ... “ข้าพระองค์เป็นที่พอพระทัยพระองค์หรือไม่...การนมัสการของข้าพระองค์เป็นที่พอพระทัยพระองค์หรือไม่?”


...ถามพระเยซูตรงๆเลยครับ !!!! มีคนมากมายที่กำลังนมัสการ และการนมัสการของพวกเขาเป็นที่น่ารังเกียจ พระเจ้าไม่รับการนมัสการจากพวกเขา พระองค์เบือนหน้าหนี พระองค์ปฏิเสธเครื่องถวายบูชาจากพวกเขา พระองค์ไม่ฟังเสียงนมัสการจากพวกเขา อย่าให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับคุณเลยครับ พวกเราต้องนมัสการพระเยซู พวกเราต้องอยู่ต่อเบื้องพระพักตร์ของพระองค์และนมัสการพระองค์ในจิตวิญญาณในความจริง เข้าไปหาพระองค์ด้วยความถ่อมใจ ถามเอาความจริงจากพระองค์ครับ



Create Date : 01 มีนาคม 2555
Last Update : 1 มีนาคม 2555 20:18:33 น.
Counter : 1525 Pageviews.

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  

Narno7
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



โยบ 38 / Job 38


38:4 เมื่อเราวางรากฐานของแผ่นดินโลกนั้น เจ้าอยู่ที่ไหน ถ้าเจ้ามีความเข้าใจก็บอกเรามา

38:4 Where wast thou when I laid the foundations of the earth? declare, if thou hast understanding.

38:7 ในเมื่อดาวรุ่งแซ่ซ้องสรรเสริญ และบรรดาบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าโห่ร้องด้วยความชื่นบาน

38:7 When the morning stars sang together, and all the sons of God shouted for joy


"I am a spirit that live in a body and communicate and perceive the exterior world through my soul."

"This world is not my home. I am here on a mission. Not all of children of God have or will come on this earth but I was chosen. Not all who come fulfill their mission and purpose for being here. Through the Cross of Jesus, I enter into the Kingdom of God. And as a daughter of God, my mission is to bring Heaven to earth."

New Comments
All Blog