พี่-น้อง จูงมือกันเดินไปในทางของพระเจ้า (3)


น้อง : พี่ค่ะเหนื่อยใจท้อแท้ใจกับแฟนเหลือเกิน.. วันนี้ก่อนนอน จอยก็บอกให้เค้ามาอธิษฐานก่อนนอน เค้าก็บอกว่าอยากอธิษฐานภาษาเค้าเองภาษาไทยเค้าก็ไม่เข้าใจ จอยเลยอ่านพระคัมภีร์ให้ลูกฟัง พอขึ้นต้นพระเยโฮวาห์เค้าก็เดี๋ยวๆทำไมเรียกพระเยโฮวาห์จอยก็บอกว่านี่คือพระเจ้านั่นล่ะ... เค้าบอกว่าเค้ามีเพื่อนคนหนึ่งนับถือพระเยโฮวาห์เหมือนกัน แล้วก็จะไม่ชอบวันคริสมาส วันอีสเตอร์ เค้าบอกว่าเข้าใจที่จอยบอกเค้าแล้วว่า อันที่จริงวันพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวกับพระเจ้าเลยเพราะจอยนับถือพระเยโฮวาห์นี่เอง คนที่นี่จะไม่นับถือพระเยโฮวาห์พวกที่นับถือก็เหมือนพวกที่ตั้งเป็นลัทธิ เหมือนโดนหลอกลวง จอยเลยบอกว่าแน่นอนเพราะที่นี่พวกคาทอลิกมันเยอะ ในไบเบิลที่ฉบับไหนก็มีชื่อพระเยโฮวาห์ทั้งนั้นล่ะ เราก็ไม่ได้เป็นลัทธินี่คือคริสเตียนที่นับถือพระเจ้าและปฏิบัติตามพระบัญญัติอย่างถูกไม่บิดเบือน.. เค้าบอกว่าเค้าจะถามเพื่อนคนสวิสก่อน แล้วห้ามจอยสอนอะไรลูกอีกจนกว่าจะเค้าจะแน่ใจ.. จอยเลยบอกว่าจอยไม่ได้โดนหลอก และถ้าอย่าดูว่าทำไมถึงไม่นมัสการพวกวันต่างๆก็จะเอาให้ดู.. จอยไม่สบายใจเลยค่ะ แล้วเค้าไปถามเพื่อนคนนี้ ซึ่งเค้าไม่ได้นับถืออะไรเลย.. เค้าตอบที่ได้มาคงเดาได้ไม่ยากเลย.. พี่ค่ะ แล้วทำไมเค้าถึงเรียกพระเจ้าว่าพระเยโฮวาห์ค่ะ.. เฮ้อ คิดว่าจะสบายใจแล้วเพราะเต็มใจรับเชื่อเอง ยังมีพวกวิญญาณชั่วดึงไว้อีก.. พี่ค่ะแล้วเพราะอะไรพี่โจ ถึงได้เชื่อในพระองค์ละค่ะ นานไหมค่ะกว่าจะเชื่ออย่างสนิทใจ.. แล้วถ้าแฟนจอยเค้าไม่นับถือพระองค์ชีวิตครอบครัวจอยจะเป็นอย่างไงบ้างจากประสบการณ์พี่ที่ผ่านมา จะไปกันรอดไหมค่ะ

พี่ : พี่โจใช้เวลาประมาณเกือบ 3 ปี เขาจึงเชื่อมากขึ้น แต่ยังไม่สนิทใจ พี่ต้องอธิษฐานคร่ำครวญกับพระเจ้าเยอะมากค่ะ พี่ถูกต่อต้านอย่างหนักจากญาติๆของเขาด้วยขณะอยู่ที่อเมริกา ทั้งๆที่อยู่กันคนละบ้าน ถูกเขาดูถูกสารพัด แต่พระเจ้าเมตตาพี่ตลอด และเมื่อกลับมาอยู่เมืองไทย พี่โจก็ไม่ยอมแยกตัวออกมาอยู่ต่างหาก เขาพาพี่ไปอยู่กับพ่อแม่ของเขา ซึ่งมีรูปเคารพเต็มบ้านยังกะศาลเจ้าแน่ะ เขาถูกวิญญาณชั่วครอบงำเป็นระยะๆ มีปัญหากับพี่ตลอด เกือบจะเลิกกันก็หลายครั้ง แต่พี่ก็อธิษฐานกับพระเจ้า พระองค์บอกพี่ไม่ให้เลิก พี่จึงอดทนต่อสู้ต่อไป อธิษฐานขอพระเจ้าเปิดตาเขาให้เขาเห็นความจริงต่างๆในพระองค์ ขอพระองค์ทำงานในใจเขา และที่เห็นผลมากที่สุดคือการอธิษฐานขับไล่วิญญาณให้เขาค่ะ...เพราะพี่ก็ไม่ยอมให้กับสิ่งชั่วร้ายอยู่แล้ว พี่อดอาหารอธิษฐานบ่อยมาก เพราะการอดอาหารอธิษฐานทำให้เราเข้าถึงพระองค์ได้ดียิ่งขึ้น และพระองค์เห็นความตั้งใจและการต่อสู้ที่เรามีในความเชื่อพระองค์ค่ะ

ส่วนเรื่องคุณสามีของจอย....เขามีพระคัมภีร์ของเขาหรือยังคะ? ถ้ายังไม่มี จอยก็หาซื้อใน online ให้เขาเลยค่ะ พระเจ้ามีชื่อที่ออกเสียงเป็นภาษาฮีบรู ว่า ยาเวย์ (Yahweh), ภาษาอังกฤษว่า เยโฮวาห์ (Jahovah)

บอกสามีของจอยว่าให้เขาจะอธิษฐานเป็นภาษาเขาเองก็ได้ บอกให้เขาอธิษฐานถึงพระบิดา (Father God) แล้วลงท้ายว่า อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์ เอเมน (In the name of Jesus Christ, amen)
(พี่ได้ส่ง link ข้อมูลพระคัมภีร์ภาษาเยอรมันให้น้อง)


---->("ถ้าแฟนจอยเค้าไม่นับถือพระองค์ชีวิตครอบครัวจอยจะเป็นอย่างไงบ้างจากประสบการณ์พี่ที่ผ่านมา จะไปกันรอดไหมค่ะ")

***จอยใจเย็นๆนะคะ ขอให้วางใจในพระเจ้า (พระเจ้าไม่มีนโยบายให้หย่ากัน นอกจากจะมีใครผิดประเวณีไปมีคนอื่น)...ไม่ต้องไปบังคับเขาใดๆทั้งสิ้นค่ะ เอาข้อมูลที่พี่ส่งมานี้ให้เขาค่ะ... แล้วจอยก็อธิษฐานขับไล่สิ่งชั่วร้ายที่มันมาคอยทำให้เขาเขวไป; วิญญาณสับสน วิญญาณไม่เชื่อ วิญญาณดื้อดึง วิญญาณต่อต้านพระคริสต์ วิญญาณโง่เขลา วิญญาณยโส วิญญาณหลงผิด วิญญาณมืดบอด วิญญาณขี้เกียจ วิญญาณศาสนาเทียมเท็จ วิญญาณล่อลวง วิญญาณทำลายล้าง วิญญาณทำลายความสัมพันธ์ในครอบครัว.....วิญญาณหงุดหงิด วิญญาณโมโห วิญญาณฉุนเฉียว ฯลฯ หรือแล้วแต่ที่จอยจะนึกออกค่ะ.... และอธิษฐานตัดสัมพันธ์ของวิญญาณชั่ว (บทนี้ค่ะ....ข้าสั่งผูกมัด สั่งรื้อถอน สั่งทำลายหลักฐาน...จำได้มั๊ยคะ?...แล้วใส่ชื่อเพื่อนของเขาคนนั้นที่เขาสนิทกันน่ะค่ะ.. อีกหน่อยเขาก็จะค่อยๆห่างกันไปเอง...) อธิษฐานบ่อยๆค่ะ


ส่วนการพาลูกอธิษฐาน จอยก็สามารถทำได้ เมื่อเขาไปทำงานใช่มั๊ยคะ?

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับจอย (หรือที่พี่เจอมา....หรือผู้เชื่อในพระองค์อย่างจริงจังทั่วๆไป ก็เจอสิ่งเหล่านี้ทุกคน)....เป็นภาพสะท้อนที่พระเยซูถูกด่า ถูกตบหน้า ถูกถ่มน้ำลายรด และถูกตรึงที่กางเขน... พระเยซูบอกว่า ศิษย์ไม่ใหญ่กว่าครู....

ลูกา 6 / Luke 6

6:40 ศิษย์ไม่ใหญ่กว่าครู แต่ศิษย์ทุกคนที่ได้รับการฝึกสอนครบแล้วก็จะเป็นเหมือนครูของตน

6:40 The disciple is not above his master: but every one that is perfect shall be as his master.


1 เปโตร 1 / 1 Peter 1

1:6 ในความรอดนั้นท่านทั้งหลายชื่นชมยินดีเป็นอย่างยิ่ง...
...*** ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้จำเป็นที่ท่านจะต้องเป็นทุกข์ใจชั่วขณะหนึ่ง ....
...**ด้วยการถูกทดลองต่างๆ


1:7 เพื่อการลองดูความเชื่อของท่าน... อันประเสริฐยิ่งกว่าทองคำซึ่งพินาศไปได้... ถึงแม้ว่าความเชื่อนั้นถูกลองด้วยไฟ....
...*** จะได้เป็นเหตุให้เกิดความสรรเสริญ เกิดเกียรติและสง่าราศี ในเวลาที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จมาปรากฏ

1:8 พระองค์ผู้ที่ท่านทั้งหลายยังไม่ได้เห็น แต่ท่านยังรักพระองค์อยู่ แม้ว่าขณะนี้ท่านไม่เห็นพระองค์ แต่ท่านยังเชื่อและชื่นชม ด้วยความปีติยินดีเป็นล้นพ้นเหลือที่จะกล่าวได้ และเต็มเปี่ยมด้วยสง่าราศี
1:9….. แล้วจิตวิญญาณของท่านทั้งหลายจึงได้รับความรอดเป็นผลสุดท้ายแห่งความเชื่อ !!!!

1:6 Wherein ye greatly rejoice, though now for a season, if need be, ye are in heaviness through manifold temptations:
1:7 That the trial of your faith, being much more precious than of gold that perisheth, though it be tried with fire, might be found unto praise and honour and glory at the appearing of Jesus Christ:
1:8 Whom having not seen, ye love; in whom, though now ye see him not, yet believing, ye rejoice with joy unspeakable and full of glory:
1:9 Receiving the end of your faith, even the salvation of your souls.

...*** ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้จำเป็นที่ท่านจะต้องเป็นทุกข์ใจชั่วขณะหนึ่ง .......**ด้วยการถูกทดลองต่างๆ

ขณะนี้จอยกำลังถูกซาตานทดสอบความเชื่อค่ะ มันจะพยายามทำทุกอย่างที่มันจะทำได้ เพื่อรบกวนจอยในเรื่องการติดตามพระเยซูคริสต์ จอยไม่ต้องกลัวมันค่ะ อธิษฐานต่อไป ต่อสู่กับมันด้วยความเชื่อในพระเจ้า ต่อสู้อย่างที่พี่เคยบอกไว้ทุกอย่าง เดี๋ยวมันเบื่อมันก็จะไปเอง (จงต่อสู้กับพญามาร และมันจะหนีไปจากท่าน
...ยากอบ 4 :7) ทุกคนที่ตั้งใจดำเนินในทางของพระเจ้าเจอสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้นค่ะ แต่เรารู้ว่าเราต่อสู้เพื่อรางวัลที่ยิ่งใหญ่อย่างหาที่เปรียบมิได้ คือชีวิตนิรันดร์ในสวรรค์

อย่าลืมค่ะจอย...สิ่งที่จะทำให้จอยและครอบครัวได้รับอิสระจากการรบกวนของสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้เร็วที่สุด คือการใช้สิทธิอำนาจที่พระเจ้าให้เรามาในการอธิษฐานขับไล่วิญญาณชั่ว ขอให้จอยอดทน และมั่นคงในความเชื่อ

1 เปโตร 4 / 1 Peter 4

ผู้เชื่อจงอย่าท้อใจ
4:12 ท่านที่รัก อย่าประหลาดใจที่ท่านต้องได้รับความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสเป็นการลองใจ เหมือนหนึ่งว่าเหตุการณ์อันประหลาดได้เกิดขึ้นกับท่าน

4:13 ...***แต่ว่าท่านทั้งหลายจงชื่นชมยินดีในการที่ท่านได้มีส่วนร่วมในความทุกข์ยากของพระคริสต์ !!!
…..*** เพื่อว่าเมื่อสง่าราศีของพระองค์ปรากฏขึ้น ท่านทั้งหลายก็จะได้ชื่นชมยินดีเป็นอันมากด้วย!!!


4:14 ถ้าท่านถูกด่าว่าเพราะพระนามของพระคริสต์ ท่านก็เป็นสุข ด้วยว่าพระวิญญาณแห่งสง่าราศีและของพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับท่าน ฝ่ายเขาก็กล่าวร้ายพระองค์ แต่ฝ่ายท่านก็ถวายเกียรติยศแด่พระองค์


Believers Not to Be Discouraged
4:12 Beloved, think it not strange concerning the fiery trial which is to try you, as though some strange thing happened unto you:

4:13 But rejoice, inasmuch as ye are partakers of Christ's sufferings; that, when his glory shall be revealed, ye may be glad also with exceeding joy.

4:14 If ye be reproached for the name of Christ, happy are ye; for the spirit of glory and of God resteth upon you: on their part he is evil spoken of, but on your part he is glorified.


น้อง : แล้วอดอาหารอธิฐานต้องทำยังไงบ้างเหรอค่ะพี่..
จอยจะอธิษฐานสู้กับพวกมันค่ะ.. แล้วก็จะบอกพวกมันตลอดว่ามันไม่มีทางชนะจอยและครอบครัว พระเจ้าประทานพรและพลังอำนาจมาให้กับจอยแล้ว จอยจะอธิษฐานไล่พวกมันทั้งวันทั้งคืนไปเลย ถ้ามันคิดจะชนะพระเจ้าก็ลองดู จอยสัญญาค่ะพี่ จอยจะไม่ห่างจากพระองค์ ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรก็ตาม จอยจะอดทนรอวันนั้นแล้วพวกเค้าจะได้เห็นว่าพวกเค้าคิดผิด


พี่ : ค่ะจอย ขอบคุณพระเจ้าในความเชื่อและอดทนที่พระองค์กระทำในจอยค่ะ

การอดอาหารอธิษฐาน จอยอาจจะเริ่มอดเฉพาะอาหาร 1 วัน (24 ชม.)ก่อน ดื่มน้ำได้...คือเริ่มจากหลังอาหารมื้อเย็น ซึ่งมื้อเย็นก่อนที่จะอดอาหารนั้น จอยอาจทานเยอะหน่อยค่ะ หลังจากนั้นก็คุกเข่าลงอธิษฐานขอการทรงนำจากพระเจ้าประมาณนี้ค่ะ....

"พระบิดาเจ้าข้า..ลูกขอการทรงนำจากพระองค์ให้ลูกได้อดอาหารอธิษฐานเพื่อแสวงหาพระองค์ ขอพระองค์โปรดสถิตอยู่ด้วยกับลูกตลอดเลา โปรดขับไล่ความหิวโหยให้ออกไปจากลูก...ขอพระองค์ประทานกำลังและสติปัญญาให้แก่ลูก ขอทรงให้ลูกได้พบพระองค์ ให้ลูกได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ ลูกปกคลุมสถานที่แห่งนี้ และปกคลุมตนเองและลูกๆ ทั้งสามีไว้ทั้งร่างกาย จิตใจ และวิญญาณ ความคิด ความปรารถนา ลูกปกคลุมไว้ด้วยพระโลหิตองพระเยซูคริสต์ และล้อมเราไว้ด้วยกำแพงเพลิงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ลูกอธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์จ้า เอเมน"

ในระหว่างเวลา 24 ชั่วโมง จอยก็พยายามใช้เวลาอ่านพระคัมภีร์ และอธิษฐานให้มากที่สุด พูดระบายความในใจทุกอย่างที่จอยอยากจะทูลพระองค์ สิ่งที่อยากให้พระองค์ช่วยเหลือ(โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อของสามีในช่วงนี้).....ถ้าในระหว่างที่อดอาหารนั้น มีอาการหิวขึ้นมาอย่างทรมาน(วิญญาณหิวมันจะมาแกล้ง) ก็อธิษฐานว่า...มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า... “ มนุษย์ไม่ได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียว..แต่ด้วยพระวจนะทุกคำที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า” ...ในพระนามพระเยซูคริสต์ เจ้าวิญญาณหิวโหยจงถูกผูกมัด และออกไปจากข้าเดี๋ยวนี้!!!

มัทธิว 4 / Matthew 4

4:4 ฝ่ายพระองค์ตรัสตอบว่า "มีเขียนไว้แล้วว่า `มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้ แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า'"

4:4 But he answered and said, It is written, Man shall not live by bread alone, but by every word that proceedeth out of the mouth of God.

ถ้ายังไม่หายหิวก็ท่องข้อนี้จนกว่าจะรู้สึกว่ามันไปแล้ว.... “มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้ แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า”

แล้วก็รับประทานอาหารมื้อเย็นในวันถัดมาค่ะ....(ช่วงอดอาหารอธิษฐาน ก็ควรงดนอนร่วมกับสามีด้วยค่ะ)

ช่วงแรกเราอาจอดอาหารสัปดาห์ละ 1 วัน เมื่อทำได้ดีแล้ว ก็ลอง อด 3 วัน....หากพระองค์จะทรงนำให้อดได้นาน ถึง 40 วันก็จะเป็นการดีมาก...เพราะจะได้รับผลดีมากทางวิญญาณ จะรู้สึกว่าพระองค์ตอบคำอธิษฐานเร็วขึ้น พระองค์เปิดเผยสิ่งต่างๆให้เรารู้มากขึ้น คือพระองค์ประทานสติปัญญามาให้มากขึ้นน่ะค่ะ และก็ให้เรามองเห็นและเข้าใจสถานการณ์และสิ่งต่างๆมากขึ้นด้วย แยกแยะวิญญาณ ช่างสังเกตมากขึ้นค่ะ และต่อสู้ฝ่ายวิญญาณได้ดีมากขึ้น พระองค์ใช้เรามากขึ้นด้วยค่ะ มีเรื่องขอบคุณพระเจ้าตลอดค่ะ

และการอดอาหารอธิษฐานก็ยังเป็นการช่วยปลดปล่อยเราจากวิญญาณชั่วร้ายมากมายค่ะ


มัทธิว 17 / Matthew 17

17:21 แต่ผีชนิดนี้จะไม่ยอมออก เว้นไว้โดยการอธิษฐานและการอดอาหาร"

17:21 Howbeit this kind goeth not out but by prayer and fasting.



น้อง : เดี๋ยวเจอสงครามครอบครัวให้ไปทำบุญให้ย่าแน่นอนเลยค่ะ.. พี่ค่ะในพระคำภีร์บอกไหมค่ะว่าตายแล้วไปไหนสำหรับคนที่ไม่นับถือพระเจ้า.. จะมีการกลับมาเกิดใหม่อีกไหมค่ะ

พี่ : คุณย่าไหว้รูปเคารพด้วยใช่มั๊ยคะ .....มีวีดีโอหนึ่งที่มีพระชาวพม่าตายไป(เมื่อปี 1983)แล้วไปที่นรก เห็นจอมพลอองซาน(พ่อของอองซานซูจี)อยู่ในบึงไฟนรก และเห็นศาสดาของศาสนาพุทธนุ่งห่มผ้าเหลืองอยู่บึงไฟนรกด้วย วีดีโอนี้ พี่ดึงภาษาอังกฤษออกมาเตรียมจะแปล แต่เสี่ยงต่อ blog ของพี่โดนปิด จึงยังไม่ได้แปล ใส่ไว้แต่วีดีโอ....และสคริปบางส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=20-02-2012&group=1&gblog=178

พระพม่ารูปนี้ได้มีโอกาสไปที่สวรรค์ด้วย มีอัครฑูตเปโตรพาไปดูโน่นดูนี่ในสวรรค์ แล้วส่งกลับมาบนโลกอีก เขาฟื้นขึ้นมาในวันที่เขากำลังจะถูกเผา ขณะนั้นพ่อแม่ของเขาขอให้เปิดโลงศพดูหน้าลูกก่อนเผา และเขาก็ฟื้นขึ้นมาตอนนั้น ขณะฟื้นขึ้นมาก็เหม็นมาก เพราะมีน้ำเมือกของศพนองอยู่ที่ผ้ารองศพ ผู้คนกลัววิ่งแตกตื่น พ่อดม่ก็ตกใจ แต่ดีใจที่ลูกไม่ตาย หลังจากนั้นเขาก็กลับใจมาเชื่อพระเจ้าแล้วประกาศข่าวประเสริฐไปทั่วพม่า บันทึกเทปเล่าเรื่องราวที่เขาไปพบมา เขาถูกตำรวจจับขังคุกหลายครั้ง และสั่งห้ามพูดเรื่องนี้อีก และริบเอาเทปไปทำลาย

(พี่ส่งข้อมูลที่แปลแล้วให้น้องอ่าน)

ฮีบรู 9:27... มีข้อกำหนดสำหรับมนุษย์ไว้แล้วว่าจะต้องตายหนหนึ่ง และหลังจากนั้นก็จะมีการพิพากษา

จากพระคัมภีร์ข้อนี้บอกเราว่า ไม่มีการกลับมาเกิดใหม่ค่ะ คนที่ไม่ได้บังเกิดใหม่ในพระเจ้าก็ตายจากพระเจ้าแล้ว การตายจากพระเจ้าก็คือไปที่นรก ไม่ได้ไปสวรรค์ค่ะ

พี่ขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัวของพี่ค่ะ แม่ของพี่เสียชีวิตไปเกือบ 20 ปีแล้ว ขณะนั้นพี่กำลังเรียนปี 3 พี่เสียใจมาก เพราะพี่รักแม่มากที่สุด นึกถึงแม่ที่ไรน้ำตาไหลทุกที มีอาการเช่นนี้มานาน 10 กว่าปี เศร้าใจทุกครั้งที่นึกถึงแม่ คิดว่าแม่ไม่น่าต้องเสียชีวิตเร็วเกินไป พี่ยังเรียนไม่จบ จึงยังไม่ได้มีโอกาสดูแลท่านเพื่อตอบแทนบุญคุณ(หลายปีที่เรียนทั้งมัธยมและป.ตรี ก็ไม่ได้อยู่กับท่าน).....และเมื่อพี่รับเชื่อในพระเจ้าแล้ว...ในปีแรกนั้น...คืนหนึ่งพี่กำลังนั่งอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่สอนเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตในพระเจ้า ในหนังสือนั้นก็มีรูปภาพของชาวอิสราเอลเป็นภาพประกอบด้วย(เป็นหนังสือที่ผู้เชื่อรุ่นพี่ให้มายืมอ่าน) แล้วพี่ก็อ่านไปแล้วเจอภาพๆหนึ่งเป็นของหญิงวัยกลางคนซึ่งมันทำให้พี่คิดถึงแม่ขึ้นมาจับจิตจับใจ พี่จึงคุกเข่าลง (อ้อ...พี่ลืมบอกไปว่า เท่าที่พี่รู้นั้น...แม่ไม่เคยได้รับรู้เรื่องการไถ่บาปของพระเยซูคริสต์มาก่อน เพราะเราอยู่ต่างจังหวัด สมัยที่พี่ยังเด็ก แม่จะพาพี่ไปวัดทำบุญตลอด) พี่คุกเข่าลงอธิษฐานขอพระเยซูช่วยกอบกู้จิตวิญญาณของแม่ ไม่ว่าวิญญาณแม่จะอยู่ที่ไหน พี่สารภาพบาปแทนแม่ทั้งหมด ขอพระองค์ทรงเมตตา อภัยความบาปให้แม่ด้วย...พี่ร้องไห้ไป อธิษฐานไป นานพอสมควร น้ำตานองพื้น....(เป็นความรู้สึกว่าพระองค์ทรงนำให้พี่อธิษฐานเผื่อแม่...ด้วยความเชื่อใสบริสุทธิ์ของผู้เชื่อใหม่ ที่เชื่อว่าพระองค์จะทรงตอบคำอธิษฐานทุกอย่าง)....หลังจากอธิษฐานก็มาเปิดพระคัมภีร์....จำไม่ได้ว่าเจอบทไหนข้อไหน...แต่จำได้ว่า พระองค์ตอบประมาณว่า . “เราให้เจ้าตามที่เจ้าขอแล้ว”....และหลังจากนั้น พี่ก็มีสันติสุขเหมือนยกภูเขาออกจากอก เมื่อนึกถึงแม่ก็ไม่เศร้าใจอีก หวังไว้เสมอว่าจะเจอแม่อีกในสวรรค์ค่ะ

1 เปโตร 4 / 1 Peter 4

4:6 ด้วยเหตุนี้เอง ข่าวประเสริฐจึงได้ประกาศแม้แก่คนที่ตายไปแล้ว เพื่อเขาจะได้ถูกพิพากษาตามอย่างมนุษย์ในเนื้อหนัง แต่มีชีวิตอยู่ตามอย่างพระเจ้าฝ่ายจิตวิญญาณ

4:6 For for this cause was the gospel preached also to them that are dead, that they might be judged according to men in the flesh, but live according to God in the spirit.

"เดี๋ยวเจอสงครามครอบครัวให้ไปทำบุญให้ย่าแน่นอนเลยค่ะ"....
....
ประเด็นนี้สำคัญมากค่ะ เพราะเมื่อไปที่วัด พวกเขาก็จะพากันพนมมือไหว้พระ แต่เราไม่ไหว้ เราก็จะถูกมองว่าเป็นตัวประหลาด ไม่มีสัมมาคารวะ (สิ่งเหล่านี้พี่ก็เจอมาแล้วเช่นกัน ในงานศพแม่ของสามี)...แต่พี่ยอมให้คนดูถูกดูหมิ่น เพื่อพระเจ้าจะพอพระทัยในการเชื่อฟังพระองค์ของเรามากกว่าค่ะ ในเมื่อเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่ต้องไปในงานสวดทุกวัน นาน 7 วัน พี่เลือกไปนั่งด้านหลัง..นั่งสงบอธิษฐานกับพระเจ้าในขณะที่เขาสวดทำพิธีต่างๆกัน....มีสายตามองเราแปลกๆ แต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไร....ในช่วงเวลานั้นต้องต่อสู้ทั้งสิ่งที่มองเห็น(มนุษย์)และสิ่งที่มองไม่เห็น(วิญญาณชั่ว)...

พี่แนะนำจอยก่อนว่า หากต้องไปในงานศพ หรือไปที่วัด ให้จอยอธิษฐานปกคลุมตนเอง สามี และลูกๆด้วยพระโลหิตพระเยซูคริสต์ และล้อมทุกคนไว้ด้วยกำแพงเพลิงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในพระนามพระเยซูคริสต์....และสั่งผูกมัดวิญญาณชั่วทั้งหมดในสถานที่แห่งนั้นด้วยพระนามพระเยซูคริสต์ และสั่งปกคุมสถานที่แห่งนั้นด้วยพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ ในพระนามพระเยซูคริสต์ ก่อนเข้าไปในนั้นทุกครั้งค่ะ

ส่วนการไหว้ศพ ก็ให้ยกมือไหว้ธรรมดา ไม่ต้องจุดธูป (จอยและลูกๆและสามีห้ามจุดธูปเทียนเด็ดขาดค่ะ!! เพราะการจุดธูปเทียนแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเราบูชาอย่างอื่นที่ไม่ใช่พระเจ้าของเรา)


น้อง : จอยก็อธิษฐานกับพระองค์ให้พระองค์รับย่าไปด้วย ตอนย่าไม่สบายมาก จอยเคยบอกให้ย่าอธิษฐานขอกับพระเจ้า จอยก็จะเน้นว่าพระเจ้าของคริสนะย่า.. แต่ไม่ได้บอกให้ย่าสารภาพบาปก่อน.. บอกแต่ว่าให้ย่าบอกพระองค์ว่าย่าเชื่อในพระองค์แล้วขอให้พระองค์อย่าให้ย่าต้องเจ็บปวดขอให้ย่าหาย.. จอยโทรไปถาม ย่าก็จะบอกว่าย่าอธิษฐานบอกแล้ว จอยบอกให้ย่าอธิษฐานไว้ตลอดเวลา..จอยคิดว่าพอย่าค่อยยังชั่วแล้วจะให้ย่าสารภาพบาป.. พอย่าไปรพ. จอยติตต่อย่าไม่ได้เลยจนย่าเสียค่ะ จอยต้องสารภาพบาปทั้งหมดให้ย่าด้วยใช่ไหมค่ะ พ่อจอยก็เสียเป็น10ปีแล้ว..จอยคิดว่าจอยไม่รู้ทุกบาปของพ่อกับย่าค่ะ เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน.. จอยไม่อยากให้ทุกคนต้องตกนรกเลย จริงๆแล้วพวกเค้าไม่มีทางเลือกเลยนะค่ะพี่ดา บรรพบุรุษสืบทอดกันมานานมาก และพวกเค้าไม่มีโอกาสได้รู้จักกับพระองค์เลยด้วยซ้ำเราเกิดมาก็เจอพระแล้ว.. ถ้าอย่างพวกยุโรปเค้ายังได้รู้จักพระองค์เพียงแต่เค้าจะเลือกเชื่อพระองค์หรือไม่.. อย่างจอยจะไปบอกกับยาย ยายไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ ยายไม่รู้จักเพราะอยู่ต่างจังหวัด.. พระองค์จะทรงช่วยพวกเค้าไหมค่ะ พวกเค้าที่ยังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อพระองค์ ไม่รู้จักว่าตัวเค้ามาจากไหน..เค้าไม่มีโอกาสที่จะเรียกร้องหาพระองค์ด้วยซ้ำ.. พวกเค้าต้องผิดพระบัญญัติโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าทำผิด ขนาดคนรุ่นใหม่เหมือนจอย เค้ารู้จักพระองค์ เชื่อว่าพระองค์สร้างโลก แต่เค้าศรัทธาในคำสอนของพุทธมากเพราะมีเหตุมีผล.. คนพวกนี้ถ้าจะตกนรกก็ดูสมควรอยู่ แต่คนที่ไม่รู้อะไรเลยนี่สิน่าสงสาร.. จอยคงทำได้แต่อธิษฐานเพื่อเค้าใช่ไหมค่ะ..

"จอยคงทำได้แต่อธิฐานเพื่อเค้าใช่ไหมค่ะ...."

พี่ : ใช่ค่ะ สำหรับผู้ที่จากเราไปแล้วโดยไม่มีโอกาสรับรู้เรื่องราวของพระผู้ไถ่ เราทำได้เพียงมายืนต่อเบื้องพระพักตร์พระเยซูคริสต์แทนพวกเขา แล้วสารภาพบาปแทนพวกเขา อ้อนวอนของพระองค์ทรงเมตตาอภัยในความบาป แล้วเรามอบทุกอย่างไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ ด้วยความเชื่อว่าพระองค์จะทรงตอบคำอธิษฐานด้วยความรักที่เรามีต่อพวกเขาและด้วยความเชื่อและศรัทธาที่เรามีในพระองค์ค่ะ

เลวีนิติ 26 / Leviticus 26

พระเจ้าจะทรงรักษาพันธสัญญาของพระองค์ต่ออับราฮัม

26:40 ...***แต่ถ้าเขาทั้งหลายสารภาพความชั่วช้าของเขา... และความชั่วช้าของบรรพบุรุษ !!!
….*** ซึ่งเขาทั้งหลายกระทำการละเมิดต่อเรา ด้วยการละเมิดของเขานั้น และที่ได้ดำเนินการขัดแย้งเราด้วย

26:41 และเราจึงดำเนินการขัดแย้งเขาทั้งหลายด้วย และได้นำเขาเข้าแผ่นดินแห่งศัตรูของเขา ถ้าเมื่อนั้นจิตใจอันนอกรีตของเขาถ่อมลงแล้ว และเขายอมรับโทษเพราะความชั่วช้าของเขาแล้ว

26:42….*** เราจึงจะระลึกถึงพันธสัญญาของเราซึ่งมีต่อยาโคบ… และพันธสัญญาของเราซึ่งมีต่ออิสอัค และพันธสัญญาของเราซึ่งมีต่ออับราฮัม และเราจะระลึกถึงแผ่นดินนั้น…

God Will not Forsake Abrahamic Covenant
26:40 If they shall confess their iniquity, and the iniquity of their fathers, with their trespass which they trespassed against me, and that also they have walked contrary unto me;
26:41 And that I also have walked contrary unto them, and have brought them into the land of their enemies; if then their uncircumcised hearts be humbled, and they then accept of the punishment of their iniquity:
26:42 Then will I remember my covenant with Jacob, and also my covenant with Isaac, and also my covenant with Abraham will I remember; and I will remember the land.

# พระคัมภีร์ข้อนี้บอกเราว่าถ้าเราสารภาพบาปของบรรพบุรุษของเราที่กระทำผิดต่อพระองค์ พระองค์ก็จะทรงฟัง และระลึกถึงพระพันธสัญญาที่พระองค์เคยกระทำไว้กับ อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ...

อพยพ 2 / Exodus 2

2:24 ....และพระเจ้าทรงสดับฟังเสียงคร่ำครวญของเขา...
... พระเจ้าจึงทรงระลึกถึงพันธสัญญาของพระองค์กับอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ

2:25.... พระเจ้าจึงทอดพระเนตรชนชาติอิสราเอล....*** แล้วพระเจ้าทรงเอาใจใส่พวกเขา !!!

2:24 And God heard their groaning, and God remembered his covenant with Abraham, with Isaac, and with Jacob.
2:25 And God looked upon the children of Israel, and God had respect unto them.

ความหมายหนึ่งของคำว่า Respect ในพระธรรมอพยพ บทที่ 2 ข้อ 25 คือ ตอบ( answer) หรือตอบคำอธิษฐานของเรานั่นเองค่ะ

Respect : H3045 yâda‛, yaw-dah' : A primitive root; to know (properly to ascertain by seeing); used in a great variety of senses, figuratively, literally, euphemistically and inferentially (including observation, care, recognition; and causatively instruction, designation, punishment, etc.): - acknowledge, acquaintance (-ted with), advise, answer, appoint, assuredly, be aware, [un-] awares, can [-not], certainly, for a certainty, comprehend, consider, X could they, cunning, declare, be diligent, (can, cause to) discern, discover, endued with, familiar friend, famous, feel, can have, be [ig-] norant, instruct, kinsfolk, kinsman, (cause to, let, make) know, (come to give, have, take) knowledge, have [knowledge], (be, make, make to be, make self) known, + be learned, + lie by man, mark, perceive, privy to, X prognosticator, regard, have respect, skilful, shew, can (man of) skill, be sure, of a surety, teach, (can) tell, understand, have [understanding], X will be, wist, wit, wot.


(1) : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=04-08-2012&group=1&gblog=208

(2) : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=04-08-2012&group=1&gblog=209



Create Date : 04 สิงหาคม 2555
Last Update : 4 สิงหาคม 2555 21:14:43 น.
Counter : 3193 Pageviews.

พี่-น้อง จูงมือกันก้าวไปในทางของพระเจ้า (2)



น้อง : พี่ค่ะ เมื่อคืนจอยอธิษฐานตามที่พี่บอกทุกอย่างร่วมถึงบล็อคอธิษฐานที่พี่เคยส่งให้นะค่ะ จอยก็อธิษฐานตั้งบรรทัดแรกจนสุดท้ายเลยค่ะ เมื่อเช้าก็เช่นเดียวกัน แต่ยังไม่ได้อธิษฐานด้วยกันเพราะเค้าออกไปทำงานก่อน..

แต่พระเจ้าทรงได้ยินคำอธิฐานของจอยค่ะพี่ดา พอจอยโทรหาเค้าเค้าก็บอกว่ากำลังนึกพอดีเลย คือเค้าผิดหวังนิดหน่อยในเรื่องที่ทำงาน จอยก็บอกว่าเค้าไม่ต้องเสียใจเดี๋ยวกลับมาสวดอธิฐานด้วยกันนะ เค้าก็พูดขึ้นมาเองว่าเค้าอยากรับเชื่อพระเจ้าค่ะ สรรเสริญพระเจ้า ฮาเลลูยา พระองค์ทรงสร้างปฏิหารย์ให้กับจอยอีกครั้งค่ะพี่ เหมือนที่พระเยซูทรงตรัสไว้จริงๆค่ะพี่

"ให้เป็นไปตามความเชื่อของเจ้าเถิด"

ขอบคุณพี่อย่างสุดหัวใจ จอยรู้สึกพี่เปรียบเสมือนแม่ที่คอยเลี้ยงดูและแนะนำการใช้ชีวิตให้แก่จอยค่ะ


พี่ : ขอบคุณพระเจ้า สรรเสริญพระเจ้า ด้วยสิ้นสุดใจ..ฮาเลลูยา..ฮาเลลูยา!!!!

*** เป็นข่าวดีมากๆค่ะจอย ....พระเจ้าของเรายิ่งใหญ่จริงๆ!!! พี่ดีใจมากๆเลยค่ะจอย...เมื่อเช้าและเมื่อคืนพี่ก็อธิษฐานเผื่อจอยและครอบครัวด้วย

แต่อย่าชะล่าใจนะคะ...ให้อธิษฐานต่อไปเรื่อยๆ ......

....แล้วก็ได้เวลาพาเขาอธิษฐานรับเชื่อแล้วซิ :) พาเขารับเชื่อเหมือนที่พี่บอกให้จอยทำครั้งแรกน่ะค่ะ

ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตอยู่ด้วยกับจอย และทรงนำทางค่ะ เอเมน

***ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ที่เรามีในพระคริสต์นัน เราทั้งหลายเป็นพี่น้องกันค่ะ เรารักกันและกันด้วยความรักของพระเจ้าที่มีในเราค่ะ


วิวรณ์ 19 / Revelation 19

19:10 แล้วข้าพเจ้าได้ทรุดตัวลงแทบเท้าของท่านเพื่อจะนมัสการท่าน แต่ท่านได้กล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า "อย่าเลย ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนผู้รับใช้เหมือนกับท่าน และพวกพี่น้องของท่านที่ยึดถือคำพยานของพระเยซู จงนมัสการพระเจ้าเถิด เพราะว่าคำพยานของพระเยซูนั้นเป็นหัวใจของการพยากรณ์"

19:10 And I fell at his feet to worship him. And he said unto me, See thou do it not: I am thy fellowservant, and of thy brethren that have the testimony of Jesus: worship God: for the testimony of Jesus is the spirit of prophecy.


น้อง : พี่ค่ะ2บล็อคที่พี่ส่งมาให้จอยเมื่อคืนได้ไหมค่ะ จอยยังไม่ได้อ่านเลยจนเมื่อสักครู่นี้มีโอกาสได้อ่าน... พออ่านแล้วจอยรู้สึกแล้วว่านี่คือคำตอบจากพระเจ้าค่ะ เพราะจอยกำลังคิดว่าจะร่วมกลุ่มดีไหม.. จอยกำลังจะให้พี่ดู แต่ขออ่านบล็อคก่อน และจอยก็ได้รับคำตอบทันทีค่ะพี่ จอยยังรู้สึกปราบปลื้มไม่หายกับเรื่องเมื่อเช้า และตอนนี้พระองค์ก็แสดงให้ถึงความรักที่พระองค์มีให้จอย.. พระองค์ทรงแสดงให้จอยเห็นว่า วางใจในพระองค์พระองค์จะทรงนำทางจอยเอง เพราะจอยกำลังคิดหลายเรื่องว่าจะทำยังไงดี

จอยไม่รู้ว่าจะสรรเสริญพระองค์ด้วยคำพูดไหน แต่จอยจะเชื่อในพระองค์ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และจะปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระองค์ในทุกอย่าง ฮาเลลูยา


น้อง : //www.holyz.......
นี่เป็นเวบไซดที่เพื่อนชาวคริสเตียนคนหนึ่งส่งมาให้จอยค่ะ พอเค้าทราบว่าจอยรับเชื่อแล้ว เค้าบอกว่าดีใจมาก พอดีเรารู้จักกันทางซื้อขายของในอินเตอร์เน็ตค่ะ แต่ก็ไม่ได้สนิทกับเค้ามาก

จากที่จอยเข้าไปดูมาก็ไม่ได้บิดเบือนอะไรนะค่ะ แต่พวกเค้าก็ยังคงไปโบถส์ในวันอาทิตย์กันอยู่ และจอยก็เชื่อในพระเจ้าค่ะ.. เราควรจะจ้องอยู่ที่พระเยซูพระองค์เดียว....

พี่ : เว็ปนั้น...พี่เข้าไปดูแล้วล่ะ การสอนผิดนั้น เขาไม่ทำให้เห็นอย่างชัดเจนหรอกค่ะ แต่จะมีการบิดเบือนไปจากความจริง ตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย นานๆไปก็ทำให้เราออกห่างจากพระเจ้าโดยไม่รู้ตัวค่ะ พี่อยากให้จอยศึกษาพระคัมภีร์โดยการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้แกร่งก่อนค่ะ เพราะหากไม่เช่นนั้น จะหันหลังกลับมาหาความจริงของพระเจ้าลำบาก และอาจต้องเป็นไปด้วยความเจ็บปวดค่ะ...และจากประสบการณ์ของพี่ที่เคยเข้าอยู่ในกลุ่มคริสเตียน(โบสถ์)ทั้งที่เมืองไทย และที่อเมริกา และจากที่ได้พบปะพูดคุยใน fb พี่รู้แต่เพียงว่าพวกเขาส่วนใหญ่(แต่ไม่ทุกคน) เป็นคริสเตียนแบบอุ่นๆ ตามที่พระเจ้ามีบันทึกไว้ในวิวรณ์ค่ะ หลายคนยังดำเนินชีวิตในความบาป ยังมีความเย่อหยิ่ง ขี้อิาฉา ชอบนินทาว่าร้าย รักเงินทองมากว่ารักพระเจ้า ล่วงประเวณี รักร่วมเพศ คดโกงซึ่งๆหน้าก็มี และหลายคนที่รับเชื่อมานานยังอยู่ในทุกข์สารพัด ฯลฯ ....ก่อนนั้นที่ยังเป็น Baby Christian ก็ไม่รู้ เขาสอน เขาทำอย่างนั้น ก็คิดว่าโอเค เพราะศิษยาภิบาลก็ไม่ว่าอะไร เห็นคริสตจักรใช้ของอย่างฟุ่มเฟือยหรูหรา ทิ้งของที่ยังดีอยู่เป็นว่าเล่น (ในขณะที่เราผู้ถวายสิบลด ต้องทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ ได้เงินมาเท่าไร ก็ถวายไปด้วยความสัตย์ซื่อ) จนกระทั่งพระองค์เรียกออกมา และให้สติปัญญา เปิดตาให้เรารู้เห็นความจริงในพระองค์ พี่จึงมีอิสรภาพในพระองค์อย่างแท้จริงค่ะ



วิวรณ์ 3 / Revelation 3


3:15 เรารู้จักแนวการกระทำของเจ้าว่า เจ้าไม่เย็นไม่ร้อน เราใคร่ให้เจ้าเย็นหรือร้อน

3:16 ดังนั้น เพราะเหตุที่เจ้าเป็นแต่อุ่นๆไม่เย็นและไม่ร้อน เราจะคายเจ้าออกจากปากของเรา

3:15 I know thy works, that thou art neither cold nor hot: I would thou wert cold or hot.
3:16 So then because thou art lukewarm, and neither cold nor hot, I will spue thee out of my mouth.

สิ่งนี้พี่รู้โดยพระวิญญาณค่ะ พี่ยังรักพวกเขาและอธิษฐานเผื่ออยู่ค่ะ แต่พวกเขาส่วนใหญ่ปฏิเสธความจริงค่ะ พวกเขาไม่กระตือรือร้นในการศึกษาพระวจนะและกระทำตามคำสอนของพระองค์ หรือไม่ยอมหลีกห่างจากความบาปที่พระเจ้าทรงสอนไว้ค่ะ พวกเขารู้สึกธรรมดา/คุ้นชินกับความบาปค่ะ ซึ่งอันตรายมาก เรื่องนี้สำคัญมากค่ะ และเมื่อเราบอกในสิ่งที่เขาไม่คุ้นเคย...ส่วนใหญ่พวกเขาไม่ยอมถ่อมใจลงแสวงหาความจริงจากพระองค์ เขาไม่ยอมตายจากตัวตนค่ะ

***พระเจ้าสอนเราให้เราตายจากตนเอง แล้วเดินตามพระองค์ค่ะ

มาระโก 8 (มธ 16:24-27; ลก 9:23-26)

8:34 และเมื่อพระองค์ทรงร้องเรียกประชาชนกับเหล่าสาวกของพระองค์ให้เข้ามาแล้ว จึงตรัสแก่เขาว่า....
...*** "ถ้าผู้ใดใคร่จะตามเรามา... ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง!!!
*** ....และรับกางเขนของตนแบกและตามเรามา

8:35 เพราะว่าผู้ใดใคร่จะเอาชีวิตรอด ผู้นั้นจะเสียชีวิต แต่ผู้ใดจะเสียชีวิตเพราะเห็นแก่เราและข่าวประเสริฐ ผู้นั้นจะได้ชีวิตรอด

8:36 เพราะถ้าผู้ใดจะได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ต้องสูญเสียจิตวิญญาณของตน ผู้นั้นจะได้ประโยชน์อะไร

8:37 เพราะว่าผู้นั้นจะนำอะไรไปแลกเอาจิตวิญญาณของตนกลับคืนมา

Mark 8 (Matt. 16:24-27; Luke 9:23-26)
8:34 And when he had called the people unto him with his disciples also, he said unto them, Whosoever will come after me, let him deny himself, and take up his cross, and follow me.
8:35 For whosoever will save his life shall lose it; but whosoever shall lose his life for my sake and the gospel's, the same shall save it.
8:36 For what shall it profit a man, if he shall gain the whole world, and lose his own soul?
8:37 Or what shall a man give in exchange for his soul?

****ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง..หมายถึงให้เอาชนะความต้องการทางโลกของตนเอง เช่น ความต้องการชื่อเสียง ความเย่อหยิ่ง จองหอง อวดดี หรือความชอบความพอใจต่างๆที่ขัดต่อคำสอนของพระเจ้า เช่นความบันเทิง เพลิดเพลินที่มากจนเกินไป ฯลฯ

และจากที่พี่ศึกษามา หรือดูวีดีโอของคริสเตียนจำนวนมาก บางคนตายไป แล้วพระเจ้าให้กลับฟื้นขึ้นมา ให้มาบอกคนที่ยังอยู่...พบว่า มีคนเพียง 2.5% เท่านั้นที่ได้เข้าแผ่นดินของพระเจ้า ส่วนใหญ่ก็ไปจบที่นรก เพราะเขาหลงไปตามคำสอนที่ผิดและการล่อลวงอันแยบยลของซาตานค่ะ.....เพราะฉะนั้นเราต้องติดสนิทในพระเจ้าจริงๆค่ะ แต่ไม่ใช่ให้หวาดระแวงคนอื่นนะคะ แต่เมื่อเราสนิทในพระเจ้าพระองค์จะเปิดตาเราให้รู้ความจริงเมื่อเราแสวงหาพระองค์ด้วยสิ้นสุดใจ...แต่อย่าลืมว่า เมื่อเราตั้งใจแสวงหาพระองค์ด้วยสิ้นสุดใจ ถ้าเรายังมีความบาปที่อาจซ่อนเร้นอยู่ และยังไม่ได้สารภาพกับพระองค์ ความบาปเหล่านั้นก็จะเป็นการเปิดประตูให้วิญญาณชั่วเข้ามาล่อลวงในสิ่งที่เรากำลังแสวงหาในพระเจ้าได้ด้วย สิ่งนี้เนียนสุดๆ !!!!

***ถ้าเรามั่นใจว่าเราได้สารภาพบาปจนหมดสิ้นแล้ว....ให้หัดสังเกตอารมณ์ตนเองค่ะ ถ้ายังไม่มีสันติสุขในใจจริงๆ แต่ยังรู้สึกหงุดหงิดง่าย รู้สึกมีความเกลียดชัง รู้สึกโกรธ หรืออาฆาตมาดร้ายใครก็ตาม....หรืออารมณ์ใดๆก็ตามที่ทำให้เราไม่มีสันติสุข นั่นเป็นสัญญาณบอกให้เรารู้ว่าเราจะต้องขับไล่วิญญาณชั่วที่ทำให้เรามีอารมณ์เหล่านั้นแล้วค่ะ....จำไว้เสมอว่าในการดำเนินชีวิตในพระเจ้านั้นเรากำลังดำเนินชีวิตในทางของวิญญาณไม่ใช่ทางเนื้อหนังค่ะ.... Walk in the Spirit, and ye shall not fulfil the lust of the flesh.


กาลาเทีย 5 / Galatians 5

การดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ สงครามระหว่างเนื้อหนังกับพระวิญญาณ
5:16 แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่า จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณและท่านจะไม่สนองความต้องการของเนื้อหนัง

5:17 เพราะว่าความต้องการของเนื้อหนังต่อสู้พระวิญญาณ และพระวิญญาณก็ต่อสู้เนื้อหนัง เพราะทั้งสองฝ่ายเป็นศัตรูกัน ดังนั้นสิ่งที่ท่านทั้งหลายปรารถนาทำจึงกระทำไม่ได้


Walk in the Spirit; Warfare between Flesh and Spirit
5:16 This I say then, Walk in the Spirit, and ye shall not fulfil the lust of the flesh.

5:17 For the flesh lusteth against the Spirit, and the Spirit against the flesh: and these are contrary the one to the other: so that ye cannot do the things that ye would.

น้อง : จอยจะนำบล็อคของพี่ให้เพื่อนคนนี้ได้อ่านดีไหมค่ะ..?เค้าจะได้ปฏิบัติได้ถูกต้อง.....

พี่ :ได้ค่ะ ก็แล้วแต่ว่าเขาจะรับความจริงหรือไม่ค่ะ อธิษฐานเผื่อเขาด้วยนะคะ ขอพระเจ้าทรงนำเขามาสู่ความจริงในพระองค์....

แต่ถ้าเขาโต้แย้ง ก็อย่าแปลกใจนะคะ เพราะเขาอาจถูกครอบงำด้วยคำสอนผิดมานาน โดยเฉพาะเรื่อง การนมัสการวันอาทิตย์ การฉลองวันคริสมาส วันอีสเตอร์ และวันวาเลนไทน์


น้อง : อีกเรื่องจอยเกือบลืมเลยค่ะแฟนจอยอ่านภาษาไทยไม่ออก ได้แต่ภาษาเยอรมัน.. พี่ดาว่าจอยควรจะให้เค้าหาอ่านทางอินเตอร์เน็ตหรือว่าให้เค้าไปขอจากที่โบถส์ดีค่ะ พอดีใกล้บ้านมีโบถส์ของคริสเตียนด้วยค่ะ คาทอลิกก็มีใกล้ๆกันเลย หมู่บ้านเดียวมีโบถส์4ที่ เยอะมากเลยค่ะ

พี่ : อ่านทางอินเตอร์เน็ตก็พอทำได้ค่ะ แต่คงไม่สะดวกเหมือนมีหนังสืออยู่ในมือของเรา เราจะได้จดอะไรๆลงไปได้ด้วย

พี่ขอแนะนำให้ซื้อพระคัมภีร์ภาษาเยอรมัน ฉบับ King James Version (KJV)มาอ่าน (น่าจะมีขายทาง online ค่ะ) แล้วจอยก็สอนเขาตามที่จอยเรียนรู้มาจาก blog ที่พี่เขียนไว้ค่ะ แล้วบอกเขาให้รู้การอธิษฐานทุกอย่างที่พี่สอนจอยแล้ว และให้เขาอธิษฐานตามนั้น และอ่าน/ท่องข้อพระคัมภีร์ต่างๆที่พี่ได้บอกแล้ว และข้ออื่นๆที่เมื่อเขาอ่านแล้วรู้สึกว่าพระเจ้าตรัสในใจกับเขาค่ะ

ท่องพระคำของพระเจ้าให้จำได้เยอะๆ + อธิษฐานอยู่เสมอ + ละทิ้งความบาปทุกอย่าง + วางใจในพระองค์ พึ่งพาพระองค์ในทุกๆเรื่อง ....แล้วจะไปได้ดีในทางของพระเจ้าค่ะ

********



น้อง : แฟนจอยเค้าต้องทำงานทุกวัน ต้องมีปัญหาเรื่องวันสะบาโตแน่ๆเลยค่ะพี่ ทำยังไงดีค่ะเรื่องนี้

พี่ : เรื่องนี้ให้อธิษฐานขอพระเจ้าช่วยให้มีชีวิตที่เป็นอิสระอย่างแท้จริงค่ะ ตามที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์......เหตุฉะนั้นถ้าพระบุตรจะทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไทย ท่านก็จะเป็นไทยจริงๆ (ยอห์น 8:36)

น้อง : ตัวจอยอารมณ์จะเย็นขึ้นมากแต่ก็ยังคงมีโมโหอยู่บ้าง

พี่ : ถ้ารู้สึกว่าโมโหให้อธิษฐานทันทีว่า....." ข้าเข้าสุหนัตความคิดของข้าทั้งหมดเดี๋ยวนี้ ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน…..วิญญาณโมโหจงถูกผูกมัด และจงออกไปจากข้า แล้วเข้าไปอยู่ในกรงขังเดี๋ยวนี้ ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน. "
แล้วหายใจเข้าลึกๆและไอแรงๆออกมา...
...และเมื่อเวลาอธิษฐานไล่วิญญาณชั่วให้ตนเองก็ให้ขับไล่วิญญาณโมโหด้วย ทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะรู้สึกว่าเรามีสันติสุขในใจค่ะ คือไม่รู้สึกโมโหหรือหงุดหงิดง่ายค่ะ

น้อง : จอยพยายามที่จะสารภาพบาปให้หมด แต่ถ้าเรานึกไม่ออกจริงๆพระองค์จะทรงช่วยเราให้เรานึกได้ใช่มั้ยค่ะ

พี่ : ใช่ค่ะ...และ ให้อธิษฐานอย่างนี้ด้วยค่ะ...."พระบิดาเจ้าข้า ขอทรงตรวจดูจิตใจของลูกให้ถ้วนทั่ว ขอทรงเปิดเผยบาปทุกอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ให้แก่ลูก...ลูกขอสารภาพบาปทั้งหมดที่ลูกได้เคยกระทำมา รวมทั้งที่ติดตัวมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ย้อนไปถึงอาดัมและเอวา และล่วงหน้าไปอีก 10 ชั่วอายุคน ลูกไม่ประสงค์ที่จะทำสิ่งใดที่ผิดต่อพระองค์อีกเลย ขอพระองค์โปรดเมตตาลูกด้วยเถิด ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน"

น้อง : จอยรู้สึกว่าตัวจอยยังไม่มีสันติสุขค่ะ

พี่ : ให้ขับไล่วิญญาณหงุดหงิด วิญญาณโกรธ วิญญาณกระสับกระส่าย วิญญาณวิตกกังวล วิญญาณหวาดกลัว วิญญาณเกลียดชัง วิญญาณโศกเศร้า วิญญาณขมขื่น วิญญาณอยู่ไม่เป็นสุข วิญญาณริษยา วิญญาณศาสนา วิญญาณล่อลวง วิญญาณโรภัยไข้เจ็บต่างๆ ...วิญญาณโรคภูมิแพ้...(หรือโรคต่างๆที่เราเป็น หรือมีโอกาส เป็น เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง ฯลฯ) ......(และ จำไว้ว่า วิญญาณแต่ละวิญญาณจะทำหน้าที่เดียวในการรบกวนเรา เพราะฉะนั้น เรามีความจำเป็นต้องขับวิญญาณชั่วบ่อยๆ ถ้าทำได้ทุกวันจะดีมาก...พี่เองก็ยังทำอยู่เกือบทุกวัน...ตามแต่ความรู้สึกว่าจะมีสิ่งชั่วร้ายใดเข้ามารบกวนเราบ้าง...บางทีมันติดตามเรามาจากข้างนอก บางทีเราอาจเผลอเปิดประตูให้มัน...เช่น เราโกรธ โมโห หรือ การไม่ให้อภัยค่ะ)


น้อง : ได้แต่อธิฐานขอให้เค้าเดินและเข้าใจในทางของพระเจ้าจริงๆอย่างที่เค้าบอก

พี่ : ทำถูกต้องแล้วค่ะ


น้อง : ตัวจอยอารมณ์จะเย็นขึ้นมากแต่ก็ยังคงมีโมโหอยู่บ้าง

พี่ : ถ้ารู้สึกว่าโมโหให้อธิษฐานทันทีว่า....." ข้าเข้าสุหนัตความคิดของข้าทั้งหมดเดี๋ยวนี้ ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน…..วิญญาณโมโหจงถูกผูกมัด และจงออกไปจากข้า แล้วเข้าไปอยู่ในกรงขังเดี๋ยวนี้ ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน. "
แล้วหายใจเข้าลึกๆและไอแรงๆออกมา...
...และเมื่อเวลาอธิษฐานไล่วิญญาณชั่วให้ตนเองก็ให้ขับไล่วิญญาณโมโหด้วย ทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะรู้สึกว่าเรามีสันติสุขในใจค่ะ คือไม่รู้สึกโมโหหรือหงุดหงิดง่ายค่ะ

น้อง : จอยพยายามที่จะสารภาพบาปให้หมด แต่ถ้าเรานึกไม่ออกจริงๆพระองค์จะทรงช่วยเราให้เรานึกได้ใช่มั้ยค่ะ

พี่ : ใช่ค่ะ...และ ให้อธิษฐานอย่างนี้ด้วยค่ะ...."พระบิดาเจ้าข้า ขอทรงตรวจดูจิตใจของลูกให้ถ้วนทั่ว ขอทรงเปิดเผยบาปทุกอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ให้แก่ลูก...ลูกขอสารภาพบาปทั้งหมดที่ลูกได้เคยกระทำมา รวมทั้งที่ติดตัวมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ย้อนไปถึงอาดัมและเอวา และล่วงหน้าไปอีก 10 ชั่วอายุคน ลูกไม่ประสงค์ที่จะทำสิ่งใดที่ผิดต่อพระองค์อีกเลย ขอพระองค์โปรดเมตตาลูกด้วยเถิด ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน"




น้อง : ได้แต่อธิฐานขอให้เค้าเดินและเข้าใจในทางของพระเจ้าจริงๆอย่างที่เค้าบอก

พี่ : จอยทำถูกต้องแล้วค่ะ

น้อง : การที่จอยได้อ่านบล็อกพี่หรืออ่านที่พี่นำมาโพสไว้เหมือนจอยได้ศึกษาพระคัมภีร์ด้วยไหมค่ะ

พี่ : ใช่ค่ะ แต่ถ้ามีเวลาอีกก็อ่านพระคัมภีร์ตามที่พี่เคยบอกไว้แล้วด้วยค่ะ ที่สำคัญมากๆ คือควรจำสดุดี 91 และ สดุดี 23 ให้ขึ้นใจ และควรอธิษฐาน/อ่าน สดุดี 119 ทุกวันไปซัก 1 ปีเป็นอย่างนัอย ....สิ่งนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวพี่เอง ที่พระองค์ทรงนำมาให้อยู่ในทางของพระองค์จริงๆ เมื่อก่อนพี่ไปโบสถ์ ไปนมัสการ ฟังเทศนาตามปกติ...กลับมาบ้านรู้สึกว่ายังขาดอะไรอยู่ ไม่รู้สึกอิ่มในวิญญาณ รู้สึกว่ายังหิวกระหายพระเจ้า พี่จึงแสวงหาพระองค์เองอย่างมาก แล้วพระองค์ก็ได้เปิดเผยสิ่งต่างๆให้พี่มาถึงความจริงในพระองค์ ที่โบสถ์ไม่เคยสอน เขาเพียงให้น้ำจิ้มค่ะ

น้อย : ลูกสาวจอยฝากถามมาค่ะว่า ทำไมพระเจ้าถึงต้องสร้างซาตานด้วย ทั้งที่พระองค์รู้ว่าซาตานชั่วร้าย

พี่ : เมื่อก่อนซาตานไม่ได้เป็นสิ่งชั่วร้าย พระเจ้าสร้างเขามาเป็นทูตสวรรค์ที่งดงามมากและมีอำนาจ มีความสามารถสูงมาก เป็นเสมือนมือขวาของพระเจ้า ให้ทำหน้าที่สำคัญหลายอย่างชื่อลูซีเฟอร์
พระคัมภีร์ข้อเหล่านี้บรรยายถึงลูซีเฟอร์/ซาตานค่ะ

เอเสเคียล 28 / Ezekiel 28

28:13 เจ้าเคยอยู่ในเอเดน พระอุทยานของพระเจ้า เพชรพลอยทุกอย่างเป็นเสื้อของเจ้า คือทับทิม บุษราคัม เพชร พลอยเขียว พลอยสีน้ำข้าว และหยก ไพทูรย์ มรกต พลอยสีแดงเข้มและทองคำ ความเชี่ยวชาญแห่งรำมะนาและปี่ของเจ้าได้จัดเตรียมไว้ในวันที่สร้างเจ้าขึ้นมา

28:14 เจ้าเป็นเครูบผู้พิทักษ์ที่ได้เจิมตั้งไว้ เราได้ตั้งเจ้าไว้ เจ้าเคยอยู่บนภูเขาบริสุทธิ์แห่งพระเจ้า และเจ้าเคยเดินอยู่ท่ามกลางศิลาเพลิง

28:15 เจ้าก็ปราศจากตำหนิในวิธีการทั้งหลายของเจ้า ตั้งแต่วันที่เจ้าได้ถูกสร้างขึ้นมาจนพบความชั่วช้าในตัวเจ้า

28:16 ในความอุดมสมบูรณ์แห่งการค้าของเจ้านั้น เจ้าก็เต็มด้วยการทารุณ เจ้ากระทำบาป ดังนั้น โอ เครูบผู้พิทักษ์เอ๋ย เราจะขับเจ้าออกไปจากภูเขาแห่งพระเจ้าดุจสิ่งมลทิน และเราจะกำจัดเจ้าเสียจากท่ามกลางศิลาเพลิง

28:17 จิตใจของเจ้าผยองขึ้นเพราะความงามของเจ้า เจ้ากระทำให้สติปัญญาของเจ้าเสื่อมทรามลง เพราะเห็นแก่ความงามของเจ้า เราจะเหวี่ยงเจ้าลงที่ดิน เราจะตีแผ่เจ้าต่อหน้ากษัตริย์ทั้งหลาย เพื่อตาของท่านทั้งหลายเหล่านั้นจะเพลินอยู่ที่เจ้า

28:18 เจ้ากระทำให้สถานบริสุทธิ์ของเจ้าเป็นมลทิน โดยความชั่วช้าเป็นอันมากของเจ้า ในการค้าอันชั่วช้าของเจ้า เหตุฉะนั้นเราจะนำไฟออกมาจากท่ามกลางเจ้า ไฟจะเผาผลาญเจ้า เราจะกระทำให้เจ้าเป็นเถ้าถ่านไปบนแผ่นดินโลกท่ามกลางสายตาของคนทั้งปวงที่มองดูเจ้าอยู่

28:19 บรรดาผู้ที่รู้จักเจ้าท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย เขาจะตกตะลึงเพราะเจ้า เจ้าจะสิ้นสูญลงอย่างน่าครั่นคร้าม และจะไม่ดำรงอยู่อีกต่อไปเป็นนิตย์"


28:13 Thou hast been in Eden the garden of God; every precious stone was thy covering, the sardius, topaz, and the diamond, the beryl, the onyx, and the jasper, the sapphire, the emerald, and the carbuncle, and gold: the workmanship of thy tabrets and of thy pipes was prepared in thee in the day that thou wast created.
28:14 Thou art the anointed cherub that covereth; and I have set thee so: thou wast upon the holy mountain of God; thou hast walked up and down in the midst of the stones of fire.
28:15 Thou wast perfect in thy ways from the day that thou wast created, till iniquity was found in thee.
28:16 By the multitude of thy merchandise they have filled the midst of thee with violence, and thou hast sinned: therefore I will cast thee as profane out of the mountain of God: and I will destroy thee, O covering cherub, from the midst of the stones of fire.
28:17 Thine heart was lifted up because of thy beauty, thou hast corrupted thy wisdom by reason of thy brightness: I will cast thee to the ground, I will lay thee before kings, that they may behold thee.
28:18 Thou hast defiled thy sanctuaries by the multitude of thine iniquities, by the iniquity of thy traffick; therefore will I bring forth a fire from the midst of thee, it shall devour thee, and I will bring thee to ashes upon the earth in the sight of all them that behold thee.
28:19 All they that know thee among the people shall be astonished at thee: thou shalt be a terror, and never shalt thou be any more.

แต่ต่อมาเขากบฏต่อพระเจ้า อยากเป็นพระเจ้าเสียเอง จึงถูกขับไล่ออกจากสวรรค์มาบนแผ่นดินโลกและกลายมาเป็นซาตาน และลงมานานมากก่อนที่พระเยซูจะมาเกิดเป็นมนุษย์ มันจึงมาวางรากฐานวัฒนธรรมความเชื่อเพื่อล่อลวงมนุษย์ไว้มากมาย เช่นศาสนาพุทธที่ชาวพุทธมักอ้างว่ามีมาก่อนคริสต์ คือเขาไม่รู้จักพระเจ้าองค์จริง เขาอาจไม่เคยนึกสงสัยว่ามนุษย์คนแรกมาจากไหน แท้จริงก่อนที่พระเยซูมานั้น ย้อนไปถึงอาดัมก็เป็นเวลาประมาณ 4000+ ปีแล้ว

และที่ซึ่งพระเจ้าสร้างมนุษย์มาเพื่อให้นมัสการพระองค์ ซาตานก็ต้องการให้มนุษย์ไปนมัสการมัน...คือพยายามทำทุกอย่างเลียนแบบพระเจ้า.... “ ซาตานเองก็ยังปลอมตัวเป็นทูตสวรรค์แห่งความสว่างได้” ( 2 โครินทร์11:14) และเนื่องจากที่มันมีความสามารถสูงมากและมีสภาพเป็นวิญญาณที่มีฤทธิ์เดช มันจึงสามารถแปลงร่างไปได้มากหมายโดยเฉพาะเป็นอะไรที่ล่อตาล่อใจมนุษย์ สิ่งสวยงาม เพื่อล่อลวงมนุษย์โลกให้นมัสการมัน และมันก็ทำได้ดีมากๆ ขณะนี้มนุษย์เกือบทั้งโลกอยู่ใต้มนต์สะกดของซาตาน ไม่ว่าจะมาในรูปศาสนาต่างๆที่ดูดี เขาว่า..ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี....แต่ก็ไม่ได้ดีจริงๆในสายพระเนตรพระเจ้า....และที่สำคัญคนดีก็ไม่ได้เข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้า ....มีแต่คนบริสุทธิ์ชอบธรรมในสายพระเนตรพระเจ้าเท่านั้นที่จะได้เข้าไป




ยอห์น 14 / John 14

14:6 พระเยซูตรัสกับเขาว่า "เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา

14:6 Jesus saith unto him, I am the way, the truth, and the life: no man cometh unto the Father, but by me.


เอเฟซัส 2 / Ephesians 2

2:8 ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้

2:9 ความรอดนั้นจะเนื่องด้วยการกระทำก็หามิได้เพื่อมิให้คนหนึ่งคนใดอวดได้

2:8 For by grace are ye saved through faith; and that not of yourselves: it is the gift of God:
2:9 Not of works, lest any man should boast.


(1) : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=04-08-2012&group=1&gblog=208

(3) ://www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=04-08-2012&group=1&gblog=210



Create Date : 04 สิงหาคม 2555
Last Update : 4 สิงหาคม 2555 21:13:02 น.
Counter : 2553 Pageviews.

พี่-น้อง จูงมือกันก้าวไปในทางของพระเจ้า


น้อง : พี่ค่ะจอยมีเรื่องอยากปรึกษาค่ะ คือแฟนจอย เค้าเชื่อในเรื่องพระเจ้านะค่ะ และเค้าก็ดีใจมากที่จอยรับเชื่อ แต่ตัวเค้ายังไม่ยอมรับเชื่อค่ะ เค้าบอกว่าเค้าอยากบวชให้แม่กับยายก่อนเค้าอยากให้แม่กับยายดีใจ.. แต่มาตอนพักหลังๆนี่จอยรู้สึกเค้าแปลกๆไปอยากเวลาจอยพูดกับลูกเรื่องพระเจ้าหรือสอนลูกเรื่องพระเจ้า หรือเวลาจอยเล่าเรื่องพระเจ้าให้เค้าฟัง เค้าจะมีสายตาแปลกๆเหมือนรำคาญแต่เค้าไม่ได้พูดออกมา จอยก็จะหยุดพูดทันที สายตาดีใจและชื่นชมไม่มีแล้ว หรือจอยจะพูดเรื่องพระเจ้ามากไปค่ะ.. คือในทุกเรื่องของชีวิตจะมีพระเจ้ามาเกี่ยวทุกเรื่อง จอยจะอธิฐานถามพระเจ้าในทุกเรื่อง ขอในทุกเรื่อง ไม่ร้อนใจ เพราะเชื่อว่าพระเจ้าจะมีคำตอบให้เรา และนำชีวิตของเราเอง จอยดำเนินชีวิตถูกมั้ยค่ะ.. แฟนออกแนวเชื่อต่างดาวจะมาช่วยเรานะค่ะ จอยอธิฐานขอพระเจ้าตลอดว่าทรงช่วยให้แฟนให้รอดและรับเชื่อในพระองค์.. ตอนนี้บรรยากาศในบ้านไม่ค่อยดีเลยค่ะ แบบเค้าเหมือนว่าจอยบ้าพระเจ้าเกินไป และไม่ค่อยเชื่ออะไรเค้า เค้าไม่ได้พูดนะค่ะ จอยดูตาเค้าแล้วรู้สึกแบบนั้นค่ะ จอย ควรทำยังไงดีค่ะ พี่ช่วยแนะนำจอยด้วยค่ะ
ขอพระเจ้าอวยพระพร เอเมน

แล้วตอนนี้เค้าสนใจเรื่อง exorzismus จอยไม่รู้ภาษาอังกฤษเรียกอะไร คือพวกที่โดนผีเข้าสิงนะค่ะ แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งโดนสิงและได้ตายไปคลิปนี้ค่ะเป็นข่าวดังมากในเยอรมัน
https://www.youtube.com/watch?v=pDXdmGby5x8&feature=youtube_gdata_player


...แล้วเค้าก็กลัวๆค่ะเพราะเค้าเชื่อ จอยเลยบอกเค้าว่าไม่ต้องกลัว ไม่ต้องคิดมาก วิญญาณพวกนี้เข้าเราไม่ได้ เพราะเมื่อเรารับเชื่อในพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์จะอยู่ในวิญญาณของเรา แต่เค้าก็ไม่ค่อยเชื่อและฟังที่จอยบอกหรอกค่ะ กลางคืนก็ดูหนังเรื่อง constantine. จอยก็ดูด้วยเพราะเป็นเรื่องลูกซาตานจะกลับมาเกิดอะไรประมาณนี้... พอเริ่มเรื่องมันไม่ใช่แล้วหนังเรื่องนี้ทำให้คนเข้าใจผิดๆ เริ่มที่มีนักบวชห้อยสร้อย ที่เป็น วงกลมทับกัน 3 วง คล้ายๆภาพที่จอยส่งให้พี่ดูน่ะค่ะ แต่ไม่มีดวงตา ห้อยไว้กันวิญญาณ พอจอยเห็นจอยก็บอกเค้าเลยว่านี้เครื่องหมายซาตานนะ แล้วอีกฉากคือพระเอกจะเอาวิญญาณออก เค้าใช้คล้ายๆเหรียญแต่เป็นรูปพระอาทิตย์ จอยก็บอกว่านี่ก็ใช่เพราะจอยเข้าไปอ่านในบล็อคของพี่...เลยรู้ค่ะ.. เค้าเลยถามว่ารู้ได้ไง จอยก็บอกว่าไปอ่านเจอ พระอาทิตย์หมายถึงพระบาอัลที่พระเจ้าบอก และในไบเบิลพระเจ้าไม่ให้เคารพนับถือพระบาอัล เค้าก็ไม่ค่อยเชื่อและบอกว่าเค้าต้องไปหาดูเอง จอยเลยบอกว่าในพระคีมภีร์บอกไว้


แล้วเมื่อเช้านี้เค้าก็หาดูคลิปผู้หญิงข้างบนอีก จอยเลยถามเข้าว่าผู้หญิงคนนี้นับถืออะไร เค้าบอกว่าคาทอลิก จอยก็บอกว่า...เห็นไหมเพราะเค้าไปนับถือพวกลัทธิซาตานที่มันหลอกไว้ เค้าเลยบอกว่ารู้ได้ว่าคาทอลิกเป็นพวก อิลูฯพวกซาตาน จอยก็บอกว่าเพราะเค้าเปลี่ยนแปลงคำสอนพระเจ้า เค้าถามอีกว่ารู้ได้ไงว่าเปลี่ยน คือเค้าพยายามจะไม่เชื่อนะค่ะ จอยก็เลยบอกว่าทั้งพระคัมภีร์ดั้งเดิมของยิวหรือพระคัมภีร์ใหม่ พระเจ้าบอกว่าห้ามเคารพ กราบไหว้รูปปั้น หรือ คน.. แต่คาทอลิกเค้ากราบไหว้นับถือโป๊ป แต่เค้าก็เถียงประมาณว่าตั้งโป๊ปให้เป็นเหมือน King ของศาสนาดูแลศาสนา.. จอยก็บอกว่าใช่ไง พระเจ้าห้ามเคารพนับถืออย่างอื่นนอกจากพระเจ้า แล้วพวกคาทอลิก ไปกราบไหว้ สวดอธิฐานกับโป๊ปไหม เคารพโป๊ปไหม.. เค้าเถียงไม่ออกแล้วก็เหมือนเดิม บอกว่าเดี๋ยวไปหาอ่านเอง จอยเลยถามเค้ากลับไปอีกคำว่าเมื่อก่อนเค้าเป็นคนบอกจอยเองไม่ใช่เหรอว่าโป๊ปและพวกวาติกันอยู่ลำดับต้นๆของพวกอิลูฯเลย เค้าทำเป็นเออๆเดี๋ยวค่อยพูด...จะดูหนังก่อน..


จอยเขียนเล่ามาทั้งหมดยาวหน่อยนะค่ะคือจอยอยากเล่าพฤติกรรมทั้งหมดให้ฟังนะค่ะคือจอยรู้สึกเหมือนเค้าจะต่อต้านจอยและพระเจ้าค่ะ อีกตัวอย่างคือ จอยทำกับข้าวแล้วเข้าบอกให้จอยใส่ซุปก้อนด้วย. จอยก็บอกว่าอย่าใส่เลยชูรสทั้งนั้น เค้าก็ทันทีเลยรู้ได้ไง อันนี้มันเป็นผักนะ.. จอยก็บอกว่าคิดว่าเค้าใส่ผักร้อยเปอร์เซ็นเหรอ ทำไมมันเค็มถ้าใส่แต่ผัก.. เค้าก็อารมณ์เสียใส่จอยเลย
ทั้งๆที่เมื่อก่อนเค้าเป็นคนรู้เรื่องและสนใจเรื่องพวกอิลูฯก่อนจอยซะอีก ทั้งเลิกกินเนื้อ เรื่องวัคซีน นมวัว ฟลูออไรด์ เค้าเป็นคนบอกให้ระวังและเปลี่ยนเอง แต่นี้จอยรู้สึกเหมือนไม่ใช่เค้าเลย จอยมีความรู้สึกไม่อยากอยู่ใกล้เค้าเลยถ้าเค้ายังสนใจเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับซาตานหรือเชื่อใจในความรู้สึกตัวเองและเชื่อว่าต่างดาวจะมาช่วยโลก จอยคงอยู่กับเค้าไม่ได้แน่ๆค่ะ จอยอธิฐานขอพระเจ้าตลอดเวลาว่าช่วยให้เค้าหันกลับมาหาพระองค์และรับเชื่อ.. จอยจะพูดขอร้องเค้าตรงๆเลยดีไหมค่ะว่าให้รับเชื่อพระเจ้าและบอกว่าตัวเค้าเปลี่ยนไป หรือจะรอให้เค้าได้เห็นและเชื่อเองค่ะ จอยบอกตรงๆว่าจอยทนอยู่กับเค้าไม่ได้นานแน่ค่ะ


เค้าว่าจอยมองโลกในแง่ร้ายเกินไป คิดติดลบเกินไป ต้องคิดอะไรที่เป็นบวกๆเข้าไว้จะดีเอง..เค้ามีเพื่อนเป็นคนสวิสค่ะ แต่ก็ออกแนว รู้เรื่องอิลูฯรู้ว่ามันวางแผนอะไรรู้หมดแต่แปลกที่ เค้าเชื่อพระเจ้าว่ามีจริงแต่ไม่ได้นับถือพระองค์ จอยคิดเอานะค่ะ เพราะเค้าจะนั่งสมาธิทุกวัน ไม่กินเนื้อสัตว์เลย แล้วเดือนหน้าจะไปนั่งสมาธิที่อินเดีย เหมือนประมาณว่าไปช่วยกันอธิฐานให้โลกดีขึ้นค่ะ และเค้าก็คงเชื่อเหมือนกันว่าต่างดาวจะช่วยโลกต่อไปโลกจะดีขึ้น จิตใจมนุษย์จะสูงส่งขึ้น. จะฉลาดมากขึ้น แต่เค้าก็ไม่ได้ปฏิบัติเหมือนพุทธนะค่ะ เหมือนไม่นับถืออะไรเลย.. แล้วแฟนจอยเชื่อเพื่อนคนนี้มากจะทำอะไรจะต้องโทรไปปรึกษาเค้าตลอดเลย เพราะเค้านับถือที่เพื่อนคนนี้เปลี่ยนไปมาก เมื่อก่อนทั้งเที่ยว เมา เล่นยา คือเสเพลน่ะค่ะ.. หรือจอยจะมองอะไรลบไปหมดอย่างที่เค้าบอกค่ะ เค้าชอบบอกว่าให้จอยคิดอะไรที่ดีๆบวกเข้าไว้ เช่น อยากได้บ้านหลังนี้เราก็ต้องคิดเข้าไว้ว่าเราต้องได้ อย่าไปคิดว่าไม่ได้.. เดี๋ยวมันก็จะไม่ได้ แต่จอยเชื่อในพระเจ้าเพราะพระองค์ทรงนำชีวิตจอย ถ้าไม่ได้แสดงว่าพระเจ้าไม่อยากให้จอยอยู่ที่นี่ จอยเลยจะไม่หวังอะไรมากถ้าเราได้ที่ไหนแสดงว่าพระองค์อยากให้อยู่ที่นั่น จอยคิดถูกไหมค่ะ


พี่ : จอยคะ พี่เข้าใจในสิ่งที่จอยกำลังเผชิญ พี่ก็เคยเจอมาแล้วเช่นกัน...พี่โจก็ไม่ได้เชื่อพระเจ้ามาก่อนที่เราจะเจอกัน เขาต่อต้านมากเช่นเดียวกัน ทีแรกที่เขารับเชื่อ เขารับเชื่อเพราะเกรงใจพี่เท่านั้น...และแล้วเราก็ทะเลาะกันบ่อยมาก เขาเชื่อมั่นในตนเอง แต่พี่จะเอาพระเจ้ามาก่อน....แต่ต่อๆมา พี่เริ่มเรียนรู้เรื่องการอธิษฐานขับไล่วิญญาณชั่ว แล้วพี่อธิษฐานให้ตัวเอง และอธิษฐานให้เขาด้วย แล้วสถานการณ์ก็ค่อยๆดีขึ้นค่ะ

***จอยเข้าใจถูกแล้วค่ะ จอยไม่ได้มองโลกในแง่ร้าย

** เพื่อนของสามีน่าจะอยู่ในความเชื่อของนิวเอจ(New Age Movement)ค่ะ เป็นการล่อลวงขอซาตานอีกเช่นกัน ซึ่งขณะนี้กำลังแพร่ไปทั่ว และยังมีแทรกซึมเข้าไปในคริสตจักรต่างๆด้วย ซึ่งเป็นการล่อลวงที่อันตรายมาก

** ส่วนสามีที่เขามีพฤติกรรมต่อต้านออกมาค่อนข้างชัดเจน เพราะเขาไม่ยอมรับเชื่อพระเจ้า....จอยไม่ต้องบังคับให้เขารับเชื่อค่ะ เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ ....พระเยซูเองก็ไม่เคยบังคับใครค่ะ....จอยค่อยๆพูดกับเขาดีแล้วค่ะ
.....จะเป็นไปได้มั๊ย?...ที่จอยจะนั่งลงข้างๆเขาแล้ว กุมมือเขาทั้งสองข้าง แล้วจอยอธิษฐาน แบบอธิษฐานเพื่อครอบครัวและอธิษฐานเพื่อเขาด้วยน่ะค่ะ ....คือถ้าทำได้ก็จะดีมากๆ...จะเป็นการค่อยๆซึมซับความเชื่อให้แก่เขาค่ะ แต่ก่อนที่จะอธิษฐานกับเขา จอยก็ควรอธิษฐานขอการทรงนำจากพระเจ้าก่อนค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=pDXdmGby5x8&feature=youtube_gdata_player

**วีดีโอนี้ หัวเรื่องชื่อ Exorcism เป็นเรื่องการขับผีของคาทอลิก ที่เขาสอนกันเป็นเรื่องเป็นราวเลยล่ะ ซึ่งเป็นการล่อลวงอีกอย่างหนึ่ง เพราะเขาไม่ได้ทำในพระนามพระเยซูคริสต์ค่ะ

ส่วนคนที่มีผีเข้าสิง(Demons possession) ก็มีจริง มีตัวอย่างมากมายในพระธรรม มัทธิว มาระโก ลูกา ยอห์น ซึ่งพระเยซูขับผีออกเยอะมาก และพระองค์ให้สิทธิอำนาจผู้ที่เชื่อในพระองค์ซึ่งก็คือพวกเราขับผีออกได้ด้วย

***ความเชื่อของคาทอลิกนั้น พวกเขายังกราบไหว้รูปปั้นพระแม่มารีย์อีกด้วยที่ ซึ่งเป็นรูปเคารพ และพวกเขาอธิษฐานกับพระแม่มารีย์ อธิษฐานกับฑูตสวรรค์ ซึ่งไม่ใช่ทางของพระเจ้าค่ะ

***อีกอย่างที่สำคัญมาก!! จอยต้องสั่งผูกมัดวิญญาณชั่วให้เขาค่ะ ...เป็นการอธิษฐานแบบ Intercessory Prayer ค่ะ....เนื่องจากวิญญาณชั่วนั้นจะมีหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น วิญญาณโกรธ จะทำให้คนโกรธง่าย อารมณ์ฉุนเฉียว.... อธิษฐานอย่างนี้ค่ะ.....

“ พระบิดาเจ้าข้า ลูกขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ทรงให้ลูกมีอำนาจเหยียบงูร้ายและแมงป่อง และมีอำนาจใหญ่ยิ่งกว่ากำลังศัตรู ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดจะทำอันตรายแก่ลูกได้เลยลูก พระบิดาเจ้าข้า ลูกยกโทษให้กับสามีที่เขาต่อต้านลูกและต่อต้านพระองค์ ขอพระองค์โปรดทรงยกโทษให้เขาด้วยเถิดเจ้าข้า ....และลูกขอยกสามีของลูกขึ้นต่อเบื้องพระพักตร์ของพระองค์ในเวลานี้.....
...ในพระนามพระเยซูคริสต์ ข้าผูกมัดวิญญาณศาสนาเทียมเท็จ และจงเข้าไปในกรงขังเดี๋ยวนี้ ....
..ข้าผูกมัดวิญญาณล่อลวง วิญญาณหวาดกลัว วิญญาณโกรธ วิญญาณต่อต้านพระเจ้า วิญญาณดื้อดึง (พูดทุกวิญญาณตามแต่พฤติกรรมของเขาที่แสดงออกมาค่ะ) และจงเข้าไปในกรงขังเดี๋ยวนี้...
...ข้าผูกมัด ผีมารซาตาน ลูซีเฟอร์ อาหับ เยเซเบล วิญญาณงูร้าย วิญญาณคันดาลินี วิญญาณควบคุมความคิด และจงเข้าไปในกรงขังเดี๋ยวนี้..
...ข้าผูกมัดวิญญาณออสโมเดียส แอสโมเดียส และจงเข้าไปในกรงขังเดี๋ยวนี้...
...ข้าผูกมัดวิญญาณความตาย วิญญาณอุบัติเหตุ วิญญาณโรคภัยไข้เจ็บ... และจงเข้าไปในกรงขังเดี๋ยวนี้
...ข้าสั่ง ตัดสายสัมพันธ์ทางวิญญาณที่ติดมาจากบรรพบุรุษ ทั้งฝ่ายบิดาและมารดา ย้อนไปจนถึงอาดัม และ เอวา และล่วงหน้าไปอีก 10 ชั่วอายุคน ในพระนามพระเยซูคริสต์ เอเมน
ข้าปกคลุมสามีของข้าไว้ด้วยพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ และล้อมเขาไว้ด้วยกำแพงเพลิงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน”

****อธิษฐานให้เขาทุกวันได้จะดีมากค่ะ และการอธิษฐานแบบนี้ จอยก็สามารถที่จะอธิษฐานขับวิญญาณชั่วให้ตนเองได้ด้วยค่ะ....แต่ถ้าอธิษฐานให้ตนเอง เมื่ออธิษฐานเสร็จในแต่ละวรรค...ให้หายใจลึกๆ แล้วไอแรงๆ วิญญาณชั่วจะออกมากับลม หรืออาจอาเจียน หรือ ออกมากับเสมหะ หรืออาการหาวค่ะ

***และในฐานะที่เราดำเนินชีวิตในพระเจ้าแล้ว ก่อนอธิษฐานขับไล่วิญญาณชั่วให้ตนเอง...ให้คุกเข่าสารภาพบาปทุกอย่างกับพระเจ้าและอธิษฐานยกโทษให้แก่ทุกคนที่เคยทำร้ายเราหรือกระทำผิดต่อเรา....และขอพระเจ้าปกคลุมเรา และทุกคนในบ้าน และปกคลุมสถานที่ที่เราอยู่นั้นด้วยพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ก่อนทุกครั้งค่ะ

และ เมื่อจบการขับไล่วิญญาณชั่ว ให้อธิษฐานว่า .....

“พระบิดาเจ้าข้า ขอองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์เข้าไปเติมลูกให้เต็มตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ขอไฟของพระองค์เข้ามาเผาไหม้วิญญาณชั่วให้หมดสิ้น ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน (และยกมือขึ้น...) สรรเสริญพระเจ้า สรรเสริญพระเยซูคริสต์ พระองค์ทรงปลดปล่อยลูกจากวิญญาณชั่ว พระองค์เท่านั้นที่เป็นผู้ปลดปล่อย ลูกขอบพระคุณพระองค์”

และอธิษฐาน.... “พระบิดาเจ้าข้า ขอทูตสวรรค์ของพระองค์มานำกรงขังวิญญาณชั่วเหล่านี้ไปที่แทบพระบาทของพระเยซูคริสต์ เพื่อพระองค์จะได้พิพากษาพวกมันก่อนเวลา ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน”

***การอธิษฐานขับไล่วิญญาณชั่วนั้นเป็นการปลดปล่อยตัวเราเอง (หรือคนที่เราอธิษฐานให้) จากการครอบงำของวิญญาณชั่วหรือเรียกว่า Deliverance Ministry ตามที่ในพระคัมภีร์บอกว่า...ปลดปล่อยออกจากคุก หรือ การให้อิสรภาพแก่บรรดาเชลยนั่นล่ะค่ะ

ลูกา 4 / Luke 4

4:18 `พระวิญญาณแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตอยู่บนข้าพเจ้า เพราะว่าพระองค์ได้ทรงเจิมตั้งข้าพเจ้าไว้ให้ประกาศข่าวประเสริฐแก่คนยากจน พระองค์ได้ทรงใช้ข้าพเจ้าให้รักษาคนที่ชอกช้ำระกำใจ ให้ร้องประกาศอิสรภาพแก่บรรดาเชลย ให้ประกาศแก่คนตาบอดว่าจะได้เห็นอีก ให้ปล่อยผู้ฟกช้ำเป็นอิสระ

4:18 The Spirit of the Lord is upon me, because he hath anointed me to preach the gospel to the poor; he hath sent me to heal the brokenhearted, to preach deliverance to the captives, and recovering of sight to the blind, to set at liberty them that are bruised,

ลูกา 10 / Luke 10

10:19 ดูเถิด เราได้ให้พวกท่านมีอำนาจเหยียบงูร้ายและแมงป่อง และมีอำนาจใหญ่ยิ่งกว่ากำลังศัตรู ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดจะทำอันตรายแก่ท่านได้เลย

10:19 Behold, I give unto you power to tread on serpents and scorpions, and over all the power of the enemy: and nothing shall by any means hurt you.

มัทธิว 18 / Matthew 18

18:18 เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า สิ่งใดซึ่งท่านจะผูกมัดในโลก ก็จะถูกผูกมัดในสวรรค์ และสิ่งซึ่งท่านจะปล่อยในโลกก็จะถูกปล่อยในสวรรค์

18:18 Verily I say unto you, Whatsoever ye shall bind on earth shall be bound in heaven: and whatsoever ye shall loose on earth shall be loosed in heaven.

ขอพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิตอยู่ด้วยกับจอยเสมอ ขอพระองค์หนุนใจและเล้าโลมจิตใจให้จอยมีแต่สันติสุข และความชื่นชมยินดีในพระองค์ และขอพระองค์ทรงอวยพระพร และประทานตามใจปรารถนาของจอย ในทางของพระองค์ ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน


น้อง : ขอบคุณค่ะพี่ จอยลองเข้าไปหาดูในกูเกิล เพื่อนเค้าอยู่ลัทธินี้แน่นอนเลยค่ะ และจอยก็คิดว่าแฟนเชื่อตามเพื่อนด้วยเหมือนกันแต่ยังไม่ถึงขั้นนั่งสมาธิ แต่ชอบพูดอะไรแปลกๆ เช่น จริงคนเราฉลาดมากแต่ตอนนี้เราใช้สมองกันแค่ 3% เพราะพวกอิลูฯปิดกั้นอะไรประมาณนี้ และมีตอนบอกให้รับเชื่อกันทั้งครอบครัวเถอะ เค้าก็บอกว่าจอยมีทางเดินของจอยเค้าก็มีทางของเค้า จริงๆทุกอย่างถ้าเราทำแต่สิ่งดีๆก็จะดีเอง จอยเลยถามว่าเค้าจะนับถือพุทธต่อเหรอ เค้าก็บอกไม่ใช่อธิบายไปก็ไม่เข้าใจ เค้าถึงได้อยากกลับไปบวชเพราะจะได้นั่งสมาธินี่เอง จากที่อ่านแล้วพฤติกรรมของเค้าใช่มากๆ ไม่เชื่อในพระเจ้ายังไม่เท่าไรแต่นี่ดันไปเชื่อพวกซาตานอีกและก็คงเชื่อมาจะเป็นปีแล้วล่ะค่ะ จอยขอขอบคุณพระเจ้าที่รับจอยไว้.. ไม่งั้นจอยจะไม่มีวันรู้เลยและก็คงงมงายไปกับเค้า

พี่ค่ะ ถ้าจับมือกันอธิษฐานต้องอธิษฐานบทไหนค่ะ ต้องออกเสียงให้เค้าได้ยินด้วยไหมค่ะ
จอยจะอธิฐานทุกวันจอยจะไม่ยอมแพ้ พระเจ้าทรงประทานพลังอำนาจให้จอยแล้ว จอยเชื่อว่าต้องชนะค่ะ

น้อง : "ถ้าจับมือกันอธิฐานต้องอธิฐานบทไหนค่ะ ต้องออกเสียงให้เค้าได้ยินด้วยไหมค่ะ"....

พี่ : อธิษฐานตามที่จอยอยากจะอธิษฐานค่ะ พูดออกมาให้เขาได้ยินด้วย ....เช่น...

"พระบิดาเจ้าข้า เราทั้งสองเข้ามาอธิษฐานต่อเบื้องพระพักตร์ของพระองค์ ในพระนามพระเยซูคริสต์ ขอพระองค์โปรดทรงปกป้องครอบครัวของเรา ลูกๆของเรา จากสิ่งชั่วร้ายทั้งหมดทั้งสิ้น ขอปกป้องเราทุกคนจากการล่อลวงทุกรูปแบบ ...เราไม่มีที่พึ่งอื่นใดนอกจากพระองค์ ลูกมอบวางภาระทั้งสิ้นของลูกและทุกคนในครอบครัวของเราไว้ในพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระองค์ ขอพระองค์โปรดทรงนำทางของเราไปในทางอันบริสุทธิ์และชอบธรรมของพระองค์เถิดเจ้าข้า...ขอทรงนำเราทุกคนให้ไปถึงความจริงของพระองค์... ความจริงที่จะทำให้เราได้รับอิสรภาพอย่างแท้จริง ความจริงที่ทำให้เรามีชีวิตที่ครบถ้วนบริบูรณ์และมีชีวิตนิรันดร์ในพระองค์ เราทั้งสองอธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน"

พี่ : ที่จอยบอกว่า "จอยจะอธิษฐานทุกวันจอยจะไม่ยอมแพ้ พระเจ้าทรงประทานพลังอำนาจให้จอยแล้ว จอยเชื่อว่าต้องชนะค่ะ"

***จอยมัทัศนคติที่ถูกต้องแล้วค่ะ

ถ้าจอยยังไม่ได้อ่าน 2 blogs นี้ ก็ลองอ่านดูค่ะ...

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=16-01-2012&group=1&gblog=164


//www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=28-01-2012&group=1&gblog=174


พี่ : อย่าลืมอธิษฐานผูกมัดวิญาณชั่วในเขาด้วยนะคะ

พี่ขอเพิ่มเติมอีก...ในกรณีที่ขับวิญญาณชั่วออกจากเรา....ก่อนที่จะหายใจลึกๆและไอออกมานั้น...ให้สั่งให้มัน(สั่งวิญญาณชั่วนั้นๆ)ออกมาจากเราด้วยค่ะ...เช่น.."ข้าผูกมัดวิญญาณสับสน จงออกมาและเข้าไปในกรงขังเดี๋ยวนี้"....แล้ว หายใจลึกๆและไออกมาค่ะ

พี่แนะนำให้ download 2 เพลงนี้ แล้วcopyใส่ในแผ่นซีดี แล้วเปิดในบ้าน เปิดซ้ำไปซ้ำมาค่ะ วิญญาณชั่วจะออกไปจากเราและจากบ้านของเราด้วยค่ะ









(2) ://www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=04-08-2012&group=1&gblog=209

(3) ://www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=04-08-2012&group=1&gblog=210



Create Date : 04 สิงหาคม 2555
Last Update : 4 สิงหาคม 2555 21:20:41 น.
Counter : 2540 Pageviews.

มหันตภัยนิวเคลียร์ต่อสุขภาพ A Debate on the Future of Nuclear Energy






George Monbiot vs. Dr. Helen Caldicott : ถกเรื่องอนาคตของพลังงานนิวเคลียร์

(***ยกมาเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับสุขภาพ)


นาทีที่ 0.37 Dr. Helen Caldicott : ….ผู้คนจำนวนนับล้านได้เสียชีวิตไปแล้วจากเหตุการณ์ที่เชอโนบิล และผู้คนก็จะตายเพิ่มมากขึ้นอีกจากโรคมะเร็งอย่างแน่นอนในกาลข้างหน้า สิ่งที่เราควรจะต้องรู้คือพลูโตเนี่ยมแค่เพียงน้อยนิด (0.000001 กรัม) ก็สามารถทำให้เกิดมะเร็งได้(ทันที) หรือจะทำให้เกิดมะเร็งในเวลาต่อมาได้ ในเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แต่ละเตานั้นมีพลูโตเนี่ยมมากถึง 250 กิโลกรัม หรือ 500 ปอนด์ คุณรู้มั๊ยว่า นั่นมันมากพอที่จะฆ่าทุกๆคนบนโลกนี้แล้ว......

เอาล่ะ สิ่งที่ จอร์จไม่เข้าใจ....คุณไม่เข้าใจเรื่องการปล่อยสารกัมมันตรังสีออกมาขณะที่มันอยู่ภายในร่างกาย ดิฉันเป็นผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการเขียนบทความในวารสาร New England Journal of Medicine (เป็นวารสารทางการแพทย์สำคัญเล่มหนึ่ง -ผู้แปล) เกี่ยวกับอันตรายของพลังงานนิวเคลียร์ ดิฉันใช้เวลานานเป็นปีในการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวเรื่องนี้ ส่วนคุณ...ได้ซื้อการโฆษณาชวนเชื่อจากอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ พวกเขาบอกว่า มันปล่อยรังสีออกมาในปริมาณที่ต่ำมาก นั่นเป็นสิ่งไร้สาระ!!! ถ้าคุณหายใจเอาเพียงน้อยนิดของสารกัมมันตรังสีพลูโตเนี่ยม...รอบๆเซลล์นั้นจะได้รับรังสีในประมาณที่สูงมากๆ เซลล์เหล่านั้นส่วนใหญ่จะตายไปเพราะมันเป็นรังสีแอลฟ่าที่ถูกปล่อยออกมา ส่วนเซลล์ที่อยู่ห่างออกไปยังไม่ตาย แต่พวกมันจะกลายพันธ์(mutate) และการสื่อสารทางพันธุกรรมจะล้มเหลว หลายๆปีผ่านไป คนๆนั้นก็จะป่วยเป็นมะเร็ง

รังสีไอโอไดน์ ก็จะไปที่ต่อมไทรอยด์

รังสี ซีเซี่ยม 137 ไปที่สมองและกล้ามเนื้อ

รังสี สตรอนเที่ยมไปที่กระดูก ทำให้เกิดมะเร็งกระดูกและมะเร็งเม็ดเลือดขาว

มันจำเป็นมากเลยนะจอร์จ ...เพราะว่าคุณเป็นนักวิจารณ์ตัวยง ...จำเป็นที่คุณจะต้องเข้าใจเกี่ยวกับการปล่อยรังสีออกมาภายในร่างกาย มันไม่ใช่อยู่ในปริมาณต่ำที่เซลล์ได้รับรังสีเหล่านี้ เรื่องเกี่ยวกับรังสีวิทยาเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องเข้าใจในทุกวันนี้

นาทีที่ 03.24 Dr. Helen Caldicott: พลังงานนิวเคลียร์นี่นะจอร์จ...ทำให้เกิดขยะที่ยังมีการแผ่รังสีในปริมาณมหาศาล มันไม่มีทางใดเลยที่จะเก็บไว้บนโลก..ที่จะทำให้โลกนี้ปลอดภัยได้ เพราะว่ามันจะยังคงรั่วออกสู่ทะเลและแม่น้ำตลอดเวลา และมันก็จะไปสะสมในห่วงโซ่อาหาร ในนมแม่ ในตัวอ่อนที่อยู่ในครรภ์มารดาซึ่งไวต่อรังสีมากกว่าผู้ใหญ่เป็นพันๆเท่า... และการฉายรังสีเอ็กซเรย์ในหญิงตั้งครรภ์เพียงครั้งเดียวก็จะทำให้เด็กที่เกิดมามีโอกาสเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวสูงขึ้นเป็น 2 เท่า

และเมื่อเวลาผ่านไป ขยะนิวเคลียร์ก็จะทำให้มีอุบัติการณ์เกิดมะเร็งต่างๆ มะเร็งเม็ดเลือดขาว และโรคทางพันธุกรรม อันเกิดจากยีนผิดปกติ และไม่ใช่มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่เป็นสายพันธุ์ที่มียีน....ยังมีพืช และสัตว์ด้วย (ที่จะต้องมีการกลายพันธ์ตามมา)....ดังนั้น... นี่คือความหายนะอย่างแท้จริง อย่างที่โลกใบนี้ไม่เคยเผชิญมาก่อน...

นาทีที่ 08.05 Dr. Helen Caldicott: ดิฉัน เป็นหมอจบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ดิฉันชำนาญทางด้าน Cystic Fibrosis ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบมากที่สุดในเด็ก

นาทีที่ 09.10 Dr. Helen Caldicott: มันเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่ผู้คนทั่วไปจะต้องเข้าใจเกี่ยวกับการปล่อยรังสีภายในร่างกายที่ทำให้เกิดมะเร็ง แต่เวลาที่จะเกิดมะเร็งนั้น ใช้เวลา 2 -60 ปี

*****



คุณหมอเฮเลน – เป็นหมอนักต่อต้านนิวเคลียร์ชาวออสเตรเลีย ท่านเป็นนักเขียน และเป็นแพทย์เฉพาะทางโรคในเด็ก (pediatrician) ท่านได้เตือนเรื่องอันตรายของนิวเคลียร์ที่มีผลต่อสุขภาพมาหลายทศวรรษ ท่านเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง สมาคมแพทย์ผู้รับผิดชอบต่อสังคม (Physicians for Social Responsibility – PSR)


จอร์จ – เป็นนักเขียน ชาวอังกฤษ เป็นคอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์ The Guardian ของอังกฤษ เมื่อเร็วๆนี้ได้เขียนบทความเรื่อง “ทำไมฟูกุชิมะจึงทำให้ผมหมดห่วงและรักนิวเคลียร์”













Please see more...ดูเพิ่มเติม:

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=30-07-2012&group=1&gblog=202

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=03-08-2012&group=1&gblog=206



Create Date : 03 สิงหาคม 2555
Last Update : 5 สิงหาคม 2555 14:43:05 น.
Counter : 3022 Pageviews.

คุณหมอเฮเลน คาลดิคอท : รังสีจากญี่ปุ่นจะฆ่าคนนับล้าน Radiation will Kill Millions of People





หมอเฮเลนบอกว่าสารกัมมันตรังสีมาถึงอเมริกา ในการประชุมเรื่อง “อันตรายของสงครามนิวเคลียร์”

รังสีจากญี่ปุ่นนั้นจะทำให้เกิดผลที่เลวร้ายยิ่งกว่าที่เชอโนบิล

ในชีวิตที่เกิดมา ดิฉันไม่เคยเจอ เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์มากถึง 6 เตาที่กำลังอยู่ในอันตรายพร้อมๆกัน !

ดิฉันรู้จักวิศวกรของจีอี 3 คน ที่เขาช่วยในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เหล่านี้ด้วย พวกเขาได้ลาออกไปก่อนแล้ว เพราะพวกเขารู้ว่ามันอยู่ในอันตราย เพราะว่าญี่ปุ่นสร้างโรงไฟฟ้าเหล่านี้ในแนวของรอยเลื่อนของเปลือกโลก (...แนวของแผ่นดินไหว)

บางส่วนของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เหล่านี้ ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ไฟฟ้าที่ใช้ในนั้นจึงถูกตัดขาด คือไฟฟ้าที่จะช่วยในการส่งน้ำเข้าไปนาทีละเป็นล้านๆแกลลอนในแต่ละเตาเพื่อการหล่อเย็น เมื่อไม่มีน้ำในการหล่อเย็น แท่งปฏิกรณ์นั้นที่ร้อนมากๆ จึงละลาย เหมือนกับที่เกิดขึ้นที่ ทรีไมล์ไอแลนด์ และที่เชอโนบิล

เครื่องปั่นไฟดีเซลฉุกเฉินก็ได้ถูกทำลายไปจากคลื่นยักษ์ซึนามิ
ดังนั้นจึงไม่มีทางเลย...ที่จะสามารถนำน้ำเข้าไปให้ไหลเวียนอยู่ในเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์

และที่หลังคาของแต่ละอาคารของเตาปฏิกรณ์นั้น ใช้ทำเป็นบ่อเพื่อการหล่อเย็น ในทุกๆปี เขาจะเอาแท่งปฏิกรณ์นิวเคลียร์ออกมาประมาณ 30 ตัน ซึ่งแท่งปฏิกรณ์เหล่านี้ยังคงแผ่รังสีออกมาอยู่มาก

แท่งปฏิกรณ์นิวเคลียร์แต่ละแท่งยาว 12 ฟุต หนา 1 นิ้ว ซึ่งแผ่รังสีเอ็กซ์ (หรือที่เราเรียกว่า เอ็กซเรย์) ออกมาตลอดเวลา

ถ้าคุณไปยืนอยู่ใกล้ๆเพียง 2 นาที คุณตาย!! ไม่ใช่ล้มลงตายทันที.คุณจำ อเล็กซานเดอร์ ลิทวิเนนโค่ได้มั๊ย คุณจะตายแบบนั้น..คือผมจะร่วง เลือดออกทั่วร่างกาย และติดเชื้ออย่างรุนแรง ตายเหมือนคนไข้โรคเอดส์

แท่งปฏิกรณ์นิวเคลียร์เหล่านี้ร้อนมาก พวกเขาก็เอาไปใส่ไว้ที่บ่อหล่อเย็นที่อยู่บนหลังคาของแต่ละอาคารของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อให้มันค่อยๆเย็นลง และที่บ่อนั้นไม่มีหลังคา ได้มีการระเบิดของไฮโดรเจนถึงสามครั้ง ไปทำให้หลังคาของตึกเปิดออก ไม่ใช่ที่แกนของเตาระเบิด แต่เป็นหลังคาที่ระเบิด

และทำให้บ่อหล่อเย็นถูกเปิดออก มี 2 บ่อที่ไม่มีน้ำเหลืออยู่เลย น้ำแห้งผาก

นั่นหมายความว่า แท่งปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ถูกคลุมไว้ด้วยวัตถุชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า เซอโคเนี่ยม (Zirconium) เมื่อเซอโคเนี่ยมกำลังจะไหม้ มันจะทำให้เกิดประกายไฟ

และขณะนี้ บ่อหล่อเย็น 2 บ่อได้ไหม้ไปแล้ว ในบ่อหล่อเย็นนั้น มีการแผ่รังสีมากกว่าในแกนของเตาปฏิกรณ์ มากถึง 10-20 เท่า

ส่วนในแต่ละเตาปฏิกรณ์นั้นมีสารกัมมันตรังสีที่ถูกปล่อยออกมาในปริมาณที่มากพอๆกับปริมาณรังสีที่พบเมื่อระเบิดนิวเคลียร์ถูกทิ้งลงที่เมืองฮิโรชิมา 1000 ครั้ง

พวกเรากับลังสู้อยู่กับพลังงานปีศาจ....คุณเห็นใช่มั๊ยว่า...โรงไฟฟ้านั้นระเบิดออกมาเป็นระเบิดนิวเคลียร์!!!

ไอน์สไตน์ บอกไว้ว่า พลังงานนิวเคลียร์นั้นเป็นเหมือนการต้มน้ำที่อยู่ใกล้นรกแค่เอื้อม!!!

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้นใช้เพียงเพื่อต้มน้ำให้เดือดด้วยความร้อนสูงเท่านั้น แล้วนำไอน้ำที่ได้ไปผลิตกระแสไฟฟ้า

ยูเรเนี่ยมที่หลอมละลายจะทำให้เกิดธาตุที่อันตรายมาก ถึง 200 ชนิด ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย

ยูเรเนี่ยมได้เคยถูกใช้ในสงครามอิรัคแล้ว ใช้ที่เมืองฟอลลูจา และที่แบกแดด

จากผลของยูเรเนี่ยม ที่ใช้ไปในสงครามครั้งนั้นได้ทำให้เด็กที่เกิดมาภายหลังในบริเวณนั้นประมาณ 80% มีภาวะพิการแต่กำเนิด ....เกิดมาไม่มีสมองบ้าง..เกิดมามีตาข้างเดียวบ้าง...บางคนไม่มีแขน...หมอก็บอกพวกผู้หญิงที่นั่นว่าให้หยุดมีลูก

อุบัติการณ์เกิดโรคมะเร็งในเด็กสูงขึ้น 12 เท่า มันเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ สงครามนิวเคลียร์ได้ถูกใช้แล้วในประเทศอิรัค

ยูเรเนี่ยมที่ถูกใช้แล้วนั้งจะยังคงอยู่นานมากกว่าสี่พันห้าร้อยล้านปี ซึ่งสิ่งนี้กำลังเปรอะเปื้อนที่ต้นกำเนิดของมวลมนุษยชาติ ....มันมาจากการร่วมกันทำให้เป็นเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม ภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มีสารกัมมันตรังสีในปริมาณที่สูงมาก

อนุภาคของสารกัมมันตรังสีที่ใช้ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้นอยู่นานตั้งแต่...นานเป็นวินาที จนถึง ...นานเป็นล้านๆปี!!!!

รังสีไอโอไดน์ อยู่นาน 6 สัปดาห์(1 เดือนครึ่ง) ซึ่งสามารถทำให้เกิดมะเร็งของต่อมไทรอยด์ นี่คือเหตุผลที่ผู้คนบอกว่า ....เราควรจะได้รับโปแตสเซี่ยม ไอโอไดน์ เพราะมันจะไปช่วยป้องกันไม่ให้รังสีไอโอไดน์ เข้าสู่ต่อมไทรอยด์ ซึ่งต่อมามันจะทำให้เป็นมะเร็งไทรอยด์ได้

ที่เชอโนบิล พบว่ามากกว่า 20000 คนได้ป่วยด้วยโรคมะเร็งไทรอยด์ พวกเขาต้องตัดต่อมไทรอยด์ออกแล้ว และต้องกินฮอร์โมนไทรอยด์ทุกวัน เหมือนคนไข้เบาหวานชนิดที่ต้องฉีดอินซูลินทุกวัน

สตรอนเที่ยม 90 อยู่นาน 600 ปี...มันจะเข้าไปในกระดูก แล้วทำให้เกิดมะเร็งกระดูก และมะเร็งเม็ดเลือดขาวตามมา

ซีเซี่ยมก็อยู่นาน 600 ปี ขณะนี้ยังมีสารกัมมันตรังสีอยู่ทั่วในยุโรป(แม้เวลาจะผ่านไป 25 ปีแล้ว) อาหารจากตุรกี ยังคงมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากเชอโนบิล

40% ของยุโรปยังคงเต็มไปด้วยสารกัมมันตรังสี

ที่ฟาร์มในประเทศอังกฤษ ลูกแกะของพวกเขาเต็มไปด้วยรังสีซีเซี่ยม พวกเขาขายไม่ได้แล้ว

....อย่ารับประทานอาหารจากยุโรป!!!

แต่นั่น ยังแทบจะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย...เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้!!!

สิ่งที่อันตรายมากที่สุดคือพลูโตเนี่ยม...ซึ่งเขาตั้งชื่อตามอย่างของ “พลูโต...เจ้าผู้ครองใต้ภิภพ”....(ซึ่งมันคือซาตาน)

แค่พลูโตเนี่ยมในปริมาณ 0.000001 กรัม ที่คุณหายใจเข้าไป มันก็ทำให้คุณเป็นมะเร็งได้แล้ว

พลูโตเนี่ยมแค่เพียง 1 ปอนด์ หรือ 454 กรัม ก็สามารถทำให้คนทั้งโลกเป็นมะเร็งได้

ในเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แต่ละเตามีพลูโตเนี่ยมมากถึง 250 กิโลกรัม(250,000 กรัม)...ที่เขาใช้ทำระเบิดนิวเคลียร์ 1 ลูก เขาใช้เพียง 2 กิโลครึ่ง เท่านั้นเอง!!!

ประเทศที่ส่งออกยูเรเนี่ยมมากที่สุดในโลก คือ คามีโค

ส่วนประเทศคานาดาขาย 2 สิ่ง เขาขายข้าสาลีเพื่อชีวิต ขณะเดียวกันก็ขายยูเรเนี่ยม เพื่อความตาย

พลูโตเนี่ยมจะกระจายออกไปทั่ว ครอบคลุมซีกโลกเหนือทั้งหมด และมันก็มุ่งหน้ามาที่อเมริกาเหนือ มาพร้อมกับ สารกัมมันตรังสีไอโอไดน์ 129 ที่มีค่าครึ่งชีวิต 17 ล้านปี รวมทั้งมี สตรอนเที่ยม ซี่เซี่ยม ทริเที่ยม และอื่นๆอีกมากมาย...

เมื่อฝนตกลงมา สารกัมมันตรังสีที่กระจายอยู่ในอากาศก็ตกลงมาพร้อมกับน้ำฝน และมันก็มาสะสมอยู่ในอาหารที่เราจะรับประทาน..เพราะเมื่อมันไปอยู่ในทะเล มันก็ไปสะสมอยู่ในสาหร่ายทะเล เมื่อปลาเล็กกินสาหร่าย ก็ไปสะสมในปลาเล็ก เมื่อปลาตัวใหญ่กินปลาเล็ก มันก็ไปสะสมในปลาตัวใหญ่....แล้วในที่สุดก็มาสู่ร่างกายมนุษย์

….คุณไม่สามารถมองเห็นสารกัมมันตรังสี...!!

.... คุณไม่สามารถลิ้มรสมันได้ !!!

….คุณไม่สามารถดมกลิ่นของมันได้....!!!

….มันคือ มหันตภัยเงียบ!!!

เมื่อคุณได้รับมันเข้าไปในร่างกายของคุณ กว่าที่คุณจะป่วยตายนั้นใช้เวลา 5 – 60 ปี และเมื่อมะเร็งก่อตัวขึ้นที่เต้านมของคุณ...คุณไม่อาจพูดได้ว่า..โอ้!...มันอาจจะเกิดจากสารกัมมันตรังสีสตรอนเที่ยม-90 ที่ฉันเคยกินปลาไปชิ้นหนึ่งเมื่อ 20 ปีที่แล้ว..

(***เราต่างก็รู้แล้วว่าญี่ปุ่นได้ทิ้งน้ำเสียที่เปรอะเปื้นสารกัมมันตรังสีลงไปในทะเลแล้ว)

สารกัมมันตรังสีทุกชนิดมีการสะสมในร่างกายจนกระทั่งทำให้เกิดมะเร็ง
With AMERICIUM it’s more dangerous than plutonium!!....และ อเมริเซี่ยม...มันก็ร้ายแรงกว่าพลูเนี่ยมซะอีก(น่าจะเป็นศัพท์ใหม่ที่คุณหมอเฮเลนตั้งขึ้นเพื่อเปรียบเทียบความร้ายกาจของประเทศอเมริกา)

คุณจะได้รับมันมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าฝนตกหรือไม่

ถ้ามีฝนตกและมีสารกัมมันตรังสีลงมา อย่าเพาะปลูกอาหาร...และดิฉันหมายถึง อย่ากินมันไปจนครบ 600 ปี!!!

ขยะจากพลังงานนิวเคลียร์จะถูกฝังในดิน และมันก็จะรั่วออกมา นานเป็นล้านๆปี มันก็จะต้องลงสู่ทะเลหรือแม่น้ำ เข้าไปในห่วงโซ่อาหาร ขยะที่มีสารกัมมันตรังสีจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดมะเร็งต่างๆ มะเร็งเม็ดเลือดขาว และโรคต่างๆที่เกิดขึ้นตั้งแต่กำเนิด มันเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายมากต่อสุขภาพของมนุษย์โลกเท่าที่เคยมีมา

เราก็กำลังหลงเข้าไปในความหายนะร้ายแรงอย่างหาที่เปรียบมิได้ และเราก็ทำอะไรไม่ได้เลย!!!! มนุษย์เย่อหยิ่ง...และยุคนี้ก็มีพวกพันธุ์ผสมอยู่เยอะ และดิฉันคิดว่ามีสมองของมนุษย์ต่างดาวอยู่สมองของผู้ชายจำนวนมากแล้ว

ขณะนี้พวกเราอยู่ในสถานการณ์ที่เหมือนกำลังพยายามไปควบคุมพลังงานของดวงอาทิตย์ ที่มันไม่มีทางที่จะควบคุมได้เลย มันทำอะไรไม่ได้เลยค่ะ

*******


คุณหมอเฮเลน – เป็นหมอนักต่อต้านนิวเคลียร์ชาวออสเตรเลีย ท่านเป็นนักเขียน และเป็นแพทย์เฉพาะทางโรคในเด็ก (pediatrician) ท่านได้เตือนเรื่องอันตรายของนิวเคลียร์ที่มีผลต่อสุขภาพมาหลายทศวรรษ ท่านเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง สมาคมแพทย์ผู้รับผิดชอบต่อสังคม (Physicians for Social Responsibility – PSR)






Please see more...ดูเพิ่มเติม :

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=03-08-2012&group=1&gblog=207

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=30-07-2012&group=1&gblog=202



Create Date : 03 สิงหาคม 2555
Last Update : 3 สิงหาคม 2555 23:03:29 น.
Counter : 2985 Pageviews.

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  

Narno7
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



โยบ 38 / Job 38


38:4 เมื่อเราวางรากฐานของแผ่นดินโลกนั้น เจ้าอยู่ที่ไหน ถ้าเจ้ามีความเข้าใจก็บอกเรามา

38:4 Where wast thou when I laid the foundations of the earth? declare, if thou hast understanding.

38:7 ในเมื่อดาวรุ่งแซ่ซ้องสรรเสริญ และบรรดาบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าโห่ร้องด้วยความชื่นบาน

38:7 When the morning stars sang together, and all the sons of God shouted for joy


"I am a spirit that live in a body and communicate and perceive the exterior world through my soul."

"This world is not my home. I am here on a mission. Not all of children of God have or will come on this earth but I was chosen. Not all who come fulfill their mission and purpose for being here. Through the Cross of Jesus, I enter into the Kingdom of God. And as a daughter of God, my mission is to bring Heaven to earth."

New Comments
All Blog