เปิดโปงที่มาของเทศกาลนอกรีต อีสเตอร์และคริสมาส PAGAN ORIGINS OF EASTER AND CHRISTMAS EXPOSED 4 of 8




Get Rid of Easter! (Pagan origins of Easter and Christmas Exposed) Part 4 of 8




Part 4 of 8

ซึ่งตามตำนานนั้นก็ถูกปลากิน นั่นเป็นเพียงอวัยวะส่วนเดียวที่เธอไม่สามารถหาเจอ เธอได้ตามหาส่วนอื่นๆและพบจนหมดยกเว้นส่วนอวัยวะเพศ

เอาล่ะ...ทำไมส่วนนี้จึงสำคัญนัก? ก็เพราะว่าในโบราณนั้น การมีเพศสัมพันธ์และการสืบพันธ์นั้นสำคัญมาก ความสำส่อนทางเพศนั้นมีอยู่ดาษดื่น ทั้งโสเภณี และรักร่วมเพศ

จึงจำเป็นมากที่นางจะต้องหาอวัยวะเพศของสามีซึ่งเป็นตัวแทนของความแข็งแกร่ง ความอุดมสมบูรณ์ซึ่งจะส่งผ่านไปสู่ลูกหลานแห่งราชบัลลังก์สืบต่อไป

เนื่องจากนางหาอวัยวะส่วนนี้ของสามีไม่พบ นางจึงตัดสินใจสร้างเสาศักดิ์สิทธิ์ที่ระลึกขึ้นในอียิปต์ ซึ่งจะเป็นการระลึกถึงพลังอำนาจของเขา

จากหลักฐานที่เราพบ ชาวโบราณเชื่อว่าพระของพวกเขาสถิตอยู่ในเสาศักดิ์สิทธิ์ และจากที่คุณเห็นบนจอนี้คือ – พวกเขาเชื่อว่าเสาศักดิ์สิทธิ์แห่งอียิปต์นั้นถูกใช้เป็นที่บูชาและเป็นที่สถิตอยู่ของพระอาทิตย์ และพวกเขาก็เริ่มที่ตั้งเสาศักดิ์สิทธิ์ไปทั่วแผ่นดินโลก (แม้แต่ในประเทศไทย – เช่น อนุเสารีย์ชัยฯ)


นาทีที่ 1.53 – ในภาษาฮีบรู คำที่หมายถึง เสา หรือ รูปเคารพ คือ “kham-mawn” (02553).

“Kham-mawn” แปลว่า รูปดวงอาทิตย์ หรือเสาแห่งพระอาทิตย์ คุณจะพบในพระธรรมอิสยาห์ 27: 9

พระธรรมอิสยาห์ 27: 9 - เพราะฉะนั้นจะลบความชั่วช้าของยาโคบอย่างนี้แหละ และนี่เป็นผลเต็มขนาดในการปลดบาปของเขา คือเมื่อเขาทำศิลาทั้งสิ้นของแท่นบูชาให้เป็นเหมือนหินดินสอพองที่ถูกบดเป็นชิ้นๆ จะไม่มีเสารูปเคารพ หรือรูปเคารพตั้งอยู่ได้



นาทีที่ 2.38 – นี่เป็นอีกคำหนึ่งในภาษาฮีบรู “matstsebah” (04676). .... “Matstsebah” แปลว่า เสาหิน หรือ อนุสาวรีย์ หรือ รูปเคารพ ซึ่งมันคือเสาหินโอเบลิสก์ยอดแหลมมีหน้าตัดเรียบ 4 ด้าน (the erected obelisk)


Exo 34:13 – But ye shall destroy their altars, break their images, and cut down their groves:

อพยพ 34:13 แต่เจ้าทั้งหลายจงทำลายแท่นบูชาและทุบเสาอันศักดิ์สิทธิ์ของเขาให้แหลกละเอียด และโค่นเสารูปเคารพของเขาเสีย

Lev 26:1 – Ye shall make you no idols nor graven image, neither rear you up a standing image, neither shall ye set up any image of stone in your land (talking about the obelisk), to bow down unto it: for I am the Lord your God.

เลวีนิติ 26:1 "เจ้าทั้งหลายอย่ากระทำรูปเคารพหรือรูปแกะสลักสำหรับตัว หรือตั้งเสาศักดิ์สิทธิ์ และเจ้าทั้งหลายอย่าตั้งสิ่งใดๆที่เป็นรูปสัณฐานสิ่งหนึ่งสิ่งใดด้วยศิลาไว้ในแผ่นดินของเจ้า เพื่อแก่การกราบไหว้ เพราะเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า


Deu 7:5 – But thus shall ye deal with them; ye shall destroy their altars, break down their images, and cut down their groves, and burn their graven images with fire.

พระราชบัญญัติ 7:5 แต่จงกระทำแก่เขาทั้งหลายอย่างนี้ ท่านทั้งหลายจงทำลายแท่นบูชาของเขาเสีย และหักทำลายเสาศักดิ์สิทธิ์ของเขาเสีย จงโค่นเสารูปเคารพของเขาลงเสีย และเผารูปเคารพแกะสลักของเขาเสียด้วยไฟ


ท่านจะเห็นว่ามีพระคัมภีร์หลายตอนที่กล่าวถึงเสาสูงเหล่านี้และสิ่งนี้ก็มีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง

Deu 12:3, 1 Ki 14:23, 2 Ki 3:2, 2 Ki 10:26, 2 Ki 10:27, 2 Chr 14:3, 2 Chr 31:1, Jer 43:13, Micah 5:13


พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ พระยาเวห์ พระองค์นั้นยังคงต่อสู้กับพระนอกรีตตัวสำคัญคือพระบาอัลหรือพระอาทิตย์ ซึ่งได้กล่าวถึงในพระคัมภีร์พระบาอัลคือพระอาทิตย์ของทิศตะวันออกและพระอัชทาโรทคือพระอาทิตย์ของทิศตะวันตก


นาทีที่ 3.54 – เหล่านี้เป็นรูปที่เราจะเห็นทั่วไปในโลก
- และนี่เป็นเสาสูงโอเบลิสก์ในตุรกี ท่านจะเห็นว่ามีภาพและการสื่อภาษาที่สลักไว้บนเสาด้วย
- และนี่คือ Cleopatra’s needle เพื่อระลึกถึงพระอาทิตย์
- และนี่เป็นเสาโอเบลิสก์ที่เก่าแก่ที่สุดในสก็อตแลนด์
- และนี่คือเสาโอเบลิสก์ที่เก่าแก่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์
- ในเยอรมัน
- ในปารีส ฝรั่งเศส
- ในนครเมกกะ ครับ...มันทำให้ผมขนลุกเลยเมื่อเจอสิ่งนี้ในชาวมุสลิม ซึ่งมันตั้งอยู่กลางนครเมกกะ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกันกับที่เราพบอยู่ทั่วไปในอเมริกา
- นี่อยู่ในกรุงลักเซอร์ อียิปต์ ใกล้กับแม่น้ำไนล์ มันเป็นโอเบลิสก์ของชาวอียิปต์
- นี่เป็นโอเบลิสก์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่อยู่ในกรุงบัวโนไอเรส อาร์เจนติน่า ซึ่งอุทิศให้พระอาทิตย์ รา(Ra)..ซึ่งเขาว่าอาศัยอยู่ในเสานั้น
- นี่อยู่ในอัมสเตอดัม
- และนี่อยู่ในเอธิโอเปีย
- ในมองโกเลีย


นาทีที่ 5.39 – พี่น้องครับ ผมจะมาดูให้ชัดๆตรงนี้ซักครู่นะครับ ผมสามารถมองเห็นสิ่งนี้ได้จากกูเกิ้ลเอิร์ตเท่านั้นนะครับ และมันทำให้ผมอึ้งไปเลย และผมอยากที่จะแบ่งปันกับคุณด้วยครับ

ผมเชื่อว่านี่เป็นเสาโอเบลิสก์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และสิ่งที่ซ่อนอยู่มันอยู่ตรงนี้ครับ ถ้าคุณค่อยๆมองดูอย่างชัดๆ สิ่งที่คุณเห็นอยู่นี่คืออวัยวะเพศชายของรา(Ra)หรือพระอาทิตย์ หรืออีกชื่อก็คือพระบาอัล ซึ่งสิ่งนี้ถูกสร้างให้ตั้งอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของจัตุรัส เซนต์ปีเตอร์ มหานครวาติกัน ตรงส่วนฐานนั้นคุณจะสามารถมองเห็นรูปร่างของลูกอัณฑะและเห็นเป็นรูปร่างของอวัยวะเพศชายชี้ขึ้น(โปรดดูวีดีโอประกอบ) สิ่งที่น่าสนใจคือว่าถ้าเราหันให้เห็นเป็นด้านข้าง เราจะเห็นเสาโอเบลิสก์นั้นชี้ตรงไปทางทิศตะวันตกที่ ศูนย์องศา

คำถามของผมคือว่า ทำไมต้องหันไปทางทิศตะวันตก ..ก็เพราะว่านี่คือ พระอาทิตย์ เขาคือพระของทิศตะวันตก และคุณจะเห็นแล้วว่าทุกๆสังคมที่มีการบูชาพระอาทิตย์นั้น แท่นบูชาของพวกเขามักจะหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเพราะนั่นคือที่ที่พวกเขาปฏิบัติกันครับ ผมเชื่อว่าศัตรูนั้นเข้ามามีส่วนอย่างมากในทางสถาปัตยกรรมในโครงสร้างโดยเฉพาะของโรมันคาทอลิก ซึ่งจริงๆแล้วมันคือการแสดงให้เห็นภาพของอวัยวะเพศของพระอาทิตย์

มันไม่ใช่หรอกครับ....ที่เสาโอเบลิสก์อียิปต์ซึ่งใช้แทนอวัยวะเพศของพระอาทิตย์ รวมทั้งอวัยวะสืบพันธุ์รูปวงล้อแผ่ลำแสงของดวงอาทิตย์...ไม่มีอะไรประมาณนี้ที่จะมาเชื่อมโยงเข้ากับเรื่องของพระเยซูคริสต์ได้เลยครับ

แต่ช่างโชคร้ายครับ...ที่ในยุคปัจจุบันนี้ สิ่งเหล่านี้ได้ค่อยๆคืบคลานเข้ามาผสมผสานในสังคมคริสเตียนเรียบร้อยแล้วอย่างชนิดคนส่วนใหญ่ก็ไม่รู้เพราะว่า เราไม่รู้ประวัติศาสตร์นั่นเองครับ



นาทีที่ 7.34 – เอาล่ะครับ ...นี่ก็เป็นอีกรูปหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะว่ารูปนี้เป็นรูปของเสาโอเบลิสก์ที่โบสถ์เซนต์จอห์น (คริสตจักรแม่)ในกรุงโรม นี่เป็นโบสถ์ของพระสันตะปาปา เป็นบัลลังก์ของพระสันตะปาปา ผมจะอ่านที่มาที่ไปของเสานี้นะครับว่ามันมาจากไหน เพราะว่ามันจะทำให้คุณตกใจแน่นอน เพราะมันไม่ได้เพิ่งถูกสร้างขึ้นในยุคนี้

เสาโอเบลิสก์ของอียิปต์ที่ตั้งอยู่ที่จัตุรัสเซนต์จอห์น แลตเทอแรน นั้นเป็นเสาโอเบลิสก์ที่ใหญ่ที่สุดที่มีอยู่ ซึ่งได้ถูกสร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ฟาโรห์ทัสโมซิสที่3 (Pharoah Tuthmosis III) เดิมตั้งอยู่ที่ temple of Amun in Thebes, sun god แต่ถูกย้ายมาไว้ที่โรมโดยจักรพรรดิคอนสแตนเทเนียส ในปีคศ. 317 – 361 และตั้งอยู่ที่ เซอคัส แมกซิมัส (Circus Maximus) ในปี 1587 พระสันตะปาปาซิกตัสที่5 (Pope Sixtus V) ได้ให้ขุดขึ้นมาแล้วบูรณะขึ้นมาใหม่แล้วไปตั้งไว้ที่ the Piazza di San Giovanni in Laterano, Rome Italy.

น่าสนใจมาก..มันมีความเป็นไปได้ว่าโมเสสเองก็เคยเห็นเสาโอเบลิสก์นี้เมื่อเขาอยู่ในอียิปต์ และเสาโอเบลิสก์ต้นนี้ซึ่งแสดงถึงการบูชาพระอาทิตย์..ขณะนี้ได้มาตั้งตระหง่านอยู่ข้างๆคริสตจักรของพระสันตะปาปา ในโบสถ์โรมันคาทอลิก ในกรุงโรมที่เรียกกันทั่วไปว่า “คริสตจักรแม่ของคริสตจักรทั้งหลาย”

ดังนั้นเรามีเสาโอเบลิสก์อายุ 3000-4000 ปีที่เคยสร้างเพื่อเป็นการระลึกถึงพระอาทิตย์ บัดนี้เสานั้นได้มาตั้งอยู่มหาวิหารเซนต์แมรี่ซึ่งเป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุดในคริสตจักรโรมันคาทอลิก

แล้วอนุสาวรีย์ที่วอชิงตันล่ะครับ? มันคืออนุสาวรีย์หรือ? ...แน่นอนล่ะ..มันคืออนุสาวรีย์แต่มันไม่ใช่อนุสาวรีย์ของพระเจ้า..แต่มันคืออนุสาวรีย์ของพระอาทิตย์(หรือพระบาอัล) มันไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้ครับ มันไม่ใช่เป้นเพียงชิ้นงานทางด้านสถาปัตยกรรมชิ้นหนึ่งเท่านั้นครับพี่น้อง....สิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาในรูปแบบโครงสร้างเดียวกันกับแบบของอียิปต์โบราณที่เขาทำเพื่อบูชาพระอาทิตย์ อย่างที่ผมได้แสดงให้ท่านเห็นมาแล้วครับ


นาทีที่ 9.37 – ให้ผมถามคุณนะครับว่า ในปัจจุบันนี้เราจะพบสัญลักษณ์สำคัญของพระอาทิตย์(บาอัล)ได้ที่ไหน? เราพบสัญลักษณ์ของเสาโอเบลิสก์ที่ไหน? มันจะทำให้คุณช็อคมั๊ยครับเพราะเราพบสิ่งนี้ทั่วไปในคริสตจักร? ใช่ครับ...เสาโอเบลิสก์สัญลักษณ์การบูชาพระบาอัลมันมาจบลงตรงนี้...ในคริสตจักรทั่วโลกครับ เราทั้งหลายเรียกมันว่า “หอคอย(Steeple)” แต่อียิปต์โบราณเรียกว่า “เสาโอบลิสก์” ถ้ากษัตริย์ฟาโรห์หรือชาวอียิปต์โบราณมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน พวกเขาคงเดินไปตามถนนและคงรู้สึกคุ้นเคยและรู้สึกดีเมื่อพวกเขาไปตามคริสตจักรต่างๆที่พวกเรามีอยู่ในทุกวันนี้นะครับ พวกเขาคงอุทานว่า ...

“ว้าว! นั่นมันศาสนาของฉันนี่!!! ฉันสามารถเชื่อมถึงได้ ..นี่คือการบูชาพระอาทิตย์”

และพวกเราก็เห็นสิ่งนี้มีอยู่ทั่วโลก

นี่เป็นเสาคู่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับคริสตจักรแห่งนี้ครับ

พี่น้องครับ...เสาโอเบลิสก์ สัญลักษณ์ในการบูชาพระอาทิตย์(บาอัล) ปัจจุบันพบอยู่ในสังคมของศาสนาคริสต์ ไม่ว่าจะนิกายใด ไม่ว่าจะเป็น ลูเทอแรน หรือแบบติสท์ หรืออะไรก็แล้วแต่ คุณพบเสาโอเบลิสก์ในสถานที่ของคริสเตียนทั่วโลก


นาทีที่ 10.57 – แล้วเราก็มาถึง สไลด์เดิมครับ...ที่ว่า... “นั่นมันไม่มีความหมายอะไรสำหรับผมเลยนะจิม” ผมรู้ครับว่า คุณหลายคนคิดอย่างนั้น ในความเป็นจริง มันไม่สำคัญว่ามันจะมีความหมายอะไรกับเรา มันเป็นการยากที่เราจะหยั่งรู้เข้าไปถึงส่วนลึกของจิตใจของเรา นั่นแหละที่เป็นความหมายสำหรับเขา ....แน่นอนว่าพวกเราคงไม่มีใครใส่สร้อยคอที่มีสัญลักษณ์ของซาตาน แต่พวกเราก็สร้างคริสตจักรพร้อมกับสัญลักษณ์ของซาตานเพราะว่าเราไม่รู้ว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของซาตาน พวกเรามีวันหยุดเทศกาลต่างๆที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ของศาสนานอกรีตและเราก็ไม่รู้จักมันเลย และเราก็คิดว่ามันโอเค

แต่ในความเป็นจริง....พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ พระองค์ทรงรู้ความหมายของสัญลักษณ์เหล่านั้น....ในมุมมองของพระองค์ เมื่อพระองค์มองเห็นสัญลักษณ์เหล่านั้นมันทำให้พระองค์มองเห็นเมื่อพวกนั้นเผาบูชาเด็กๆในไฟของพระโมเลค มันย้ำเตือนพระองค์ถึงบรรดาเด็กๆจำนวนมากที่ถูกฆ่าเพื่อบูชาที่แท่นบูชาของอีสทาร์(อีสเตอร์)


มันย้ำเตือนพระองค์ถึงการบูชาพระอาทิตย์ของบรรดาคนของพระองค์ที่กบฏต่อพระองค์โดยการนมัสการพระอื่น

มันเป็นสัญลักษณ์ที่ย้ำเตือนพระองค์และเพียงเหตุผลนี้เท่านั้น..พวกเราจึงควรที่จะละทิ้งสิ่งเหล่านั้นไว้ข้างหลัง และกำจัดมันออกไปและเผาทิ้งเสีย เหมือนอย่างที่เนหะมีย์และเยเรมีย์และบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายในครั้งโบราณได้ทำลายแท่นบูชาของพระนอกรีตและเสาศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมาแล้ว ซึ่งในครั้งนั้นพวกเขาต้องหลั่งเลือดเนื้อ กำลัง และผู้คนจำนวนมากเพื่อที่จะทำลายแท่นบูชานอกรีตเหล่านั้น

แต่..พวกเรากำลังสร้างสิ่งเหล่านั้นขึ้นมาอีก มันไม่สำคัญว่ามันมีความหมายอะไรกับเรา..มันสำคัญที่มันมีความหมายต่อพระองค์ครับ!!!


ในส่วนท้ายของโปรแกรมนี้ เราจะไปดูในข้อพระคัมภีร์ต่างๆ คุณหลายคนอาจไม่เคยอ่านพระคัมภีร์ก่อนที่คุณจะถูกชี้นำไปในเรื่องเทศกาลต่างๆที่พวกเราเฉลิมฉลองกัน เราจะค้นไปดูว่า เราควรที่จะยังคงฉลองเทศกาลต่างๆเหล่านี้ต่อไปหรือไม่ จริงๆแล้ว เราจะนำเสนอเพื่อเปิดตาและเปิดใจท่านให้รู้เห็นความจริง


นาทีที่ 12.55 – คุณว่าวันเกิดของนิมโรดและทัมมุส คือวันไหนครับ? ในวันแรกของปี เมื่อดวงอาทิตย์ “เกิดใหม่” คุณว่าอะไรคือดวงอาทิตย์เกิดใหม่? ในกลางฤดูหนาว ในช่วงวินเทอร์โซลทิส วันที่ 25 ธันวาคม...ใช่ครับ วันนี้เลย...ที่เรามีเทศกาลคริสมาส วันที่พวกเขาบอกว่าพระเยซูได้บังเกิดใหม่ ทำไม่เราเลือกวันเกิดพระเยซูเป็นวันที่ 25 ธันวาคม? ต้นตอของวันที่นี้มาจากไหน? ….ง่ายนิดเดียวครับ..พระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้า(God)....ทัมมุสเป็นลูกของพระเจ้า(gods) เขาเป็นลูกของพ่อเขาคือพระบาอัล


นาทีที่ 13.35 – และศาสนานอกรีต และศาสนาคริสต์สมัยแรกนั้นมาจากศาสนานอกรีตในกรุงโรม ซึ่งพวกเขาก็บูชาพระอาทิตย์ในวันอาทิตย์อยู่ก่อนแล้ว และนั่นคือที่มาว่าทำไมพวกเราถึงได้นมัสการในวันอาทิตย์

เมื่อก่อนนั้นคริสเตียนทั้งหลายนมัสการในวันเสาร์แต่ต่อมาก็ถูกเปลี่ยนเป็นวันอาทิตย์เพราะว่าพวกนอกรีตเขานมัสการพระอาทิตย์ของเขาในวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันของเขา และพวกเขาก็ฉลองวันเกิดของพระอาทิตย์ของเขาในวันที่ 25 ธันวาคม

(เป็นที่เข้าใจกันว่า)จักรพรรดิคอนสแตนตินได้รับความรอดเมื่อประมาณ คศ.300 แล้วเขาก็รวบเข้าด้วยกันโดยคิดว่าเพื่อให้ผู้คนเปลี่ยนศาสนามาเป็นคริสเตียนง่ายขึ้น จึงคิดเหมาเอาว่าพระเยซูคริสต์เกิดวันเดียวกันกับพระอาทิตย์ซึ่งพวกเขาก็ทำกันอยู่ก่อนแล้ว และนั่นคือที่มาของวันที่ 25 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสำคัญที่สุดที่พวกนอกรีตใช้ในการฉลองในช่วงวินเทอร์โซลทิส …ทำไมเหรอครับ?....ก็เพราะว่าวันที่ดวงอาทิตย์เกิดใหม่ เป็นวันที่ช่วงเวลากลางวันยาวนานขึ้นอีกครับ นั่นก็บังเอิญที่พระอาทิตย์เกิดในวันที่ 25 ธันวาคม เดิมทีนั้นเป็นวันที่ 21 ธันวาคม แต่มีการแก้ไขปฏิทินจูเลี่ยน จึงเลื่อนมาเป็นวันที่ 25 แทน








Create Date : 08 เมษายน 2555
Last Update : 8 เมษายน 2555 18:52:31 น.
Counter : 2947 Pageviews.

0 comments

Narno7
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



โยบ 38 / Job 38


38:4 เมื่อเราวางรากฐานของแผ่นดินโลกนั้น เจ้าอยู่ที่ไหน ถ้าเจ้ามีความเข้าใจก็บอกเรามา

38:4 Where wast thou when I laid the foundations of the earth? declare, if thou hast understanding.

38:7 ในเมื่อดาวรุ่งแซ่ซ้องสรรเสริญ และบรรดาบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าโห่ร้องด้วยความชื่นบาน

38:7 When the morning stars sang together, and all the sons of God shouted for joy


"I am a spirit that live in a body and communicate and perceive the exterior world through my soul."

"This world is not my home. I am here on a mission. Not all of children of God have or will come on this earth but I was chosen. Not all who come fulfill their mission and purpose for being here. Through the Cross of Jesus, I enter into the Kingdom of God. And as a daughter of God, my mission is to bring Heaven to earth."

New Comments
All Blog