| |
| เรื่อง : นาธัส แสงสุริยะ ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ และโตโยต้า ประเทศไทย | Thursday, 6 February, 2014 1:59 AM | |
 |
| |
| TOYOTA COROLLA ALTIS 1.8V NAVI |
| |
 ทิ้งช่วงจาก การเปิดตัว ประมาณครึ่งเดือน โตโยต้า ก็จัดทริปทดสอบ อัลติส ใหม่ ในแบบ One Day Trip เส้นทางจาก โตโยต้าสำโรง ไปยัง ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ระยะทางรวมไป-กลับ ประมาณ 330 กิโลเมตร มีรถรุ่นสูงสุด 1.8V Navi ให้ทดลองขับทั้งหมด 8 คัน เติมแก๊สโซฮอล์ E10 ขับคันละ 2 คน พร้อมวิทยุสื่อสาร มีรถนำและรถเซอร์วิสปิดท้าย ก่อนออกเดินทางได้รับเกียรติจาก คุณประพันธ์ จันทร์วัฒนพงษ์ ผู้อำนวยการพร้อมด้วยฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวต้อนรับ และ คุณธนัญชัย ทองบำเพ็ญ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริการด้านเทคนิค บรรยายรายละเอียดตัวรถ
โคโรลล่า อัลติส 1.8V Navi มาพร้อมไฟหน้า LED Projector ปรับระดับสูง-ต่ำ และเปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมไฟ Daytime Running Lights และไฟท้าย LED ซึ่งอายุการใช้งานมากว่า 15 ปี หรือ 3,500 ชั่วโมง ส่วนไฟซีนอนหรือ HID มีอายุการใช้งาน 10 ปี หรือ 2,500 ชั่วโมง และฮาโลเจน 4 ปี หรือ 1,000 ชั่วโมง พัดลมไฟฟ้ามีการควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ โดยรับสัญญาณจากอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น, ความเร็วรถสัญญาณความเร็วรอบเครื่องยนต์ และสภาวะการทำงานของแอร์ เพื่อให้พัดลมไฟฟ้ามีทำงานแม่นยำตามความเหมาะสม |
| |
 |
| |
| คุณประพันธ์ จันทร์วัฒนพงษ์ ผู้อำนวยการพร้อมด้วยฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด |
| |
 |
| |
| คุณธนัญชัย ทองบำเพ็ญ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริการด้านเทคนิค บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด |
|
| |
ในด้านสมรรถนะการทรงตัว มีการเพิ่มจุดยึดโครงสร้างและจุดเชื่อมตัวถังเพิ่มความแข็งแรง ให้การทรงตัวที่ดีขึ้น ลดเสียงรบกวนด้วยแผ่นลดเสียงใต้ฝากระโปรงหน้า ที่ซุ้มล้อหน้า ในห้องโดยสารบริเวณผนังห้องเครื่อง พรมปูพื้น และใช้กระจกหน้าแบบลดเสียง รูปลักษณ์ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ 0.296
เครื่องยนต์ 2ZR-FBE Dual-VVT-i ความจุ 1,798 ซีซี ได้รับการปรับปรุงให้มีกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 141 แรงม้า และแรงบิด 18.05 กก.-ม. พร้อมรองรับเชื้อเพลิง E85 ใช้หัวฉีด 12 รู เพื่อให้ฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ละเอียด อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 11.13 วินาที รุ่นเดิม 11.72 วินาที ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากการขับในเมืองที่ความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และนอกเมือง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้แก๊สโซฮอล์ E10 ตัวเลขโรงงานระบุ 15.57 กิโลเมตรต่อลิตร |
| |
| |
| |
เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อมโหมด +/- 7 จังหวะ ได้รับการปรับอัตราทดเกียร์กว้างขึ้นเป็น 2.480-0.396 ส่วนรุ่นเดิมมีอัตราทด 2.386-0.411 ระบบความปลอดภัยมี VSC ทำงานร่วมกับ Yaw rate & Deceleration Sensor ตรวจสอบความเอียงของตัวรถ, Steering Angle Sensor วัดองศาการหมุนของพวงมาลัย และ Vehicle Speed Sensor ตรวจสอบความเร็วของรถ จากนั้นจะส่งข้อมูลไปยัง Skid control ECU และ Engine ECU เมื่อพบว่ารถกำลังจะเสียการทรงตัวก็จะสั่งลดกำลังจากเครื่องยนต์ เพื่อให้รถกลับมาอยู่ในการควบคุม
หลังฟังการบรรยายแล้วจึงเริ่มออกเดินทางในช่วงสายๆ เนื่องจากมีสื่อมวลชนบางท่านไม่มา ผมจึงรับเหมาขับคนเดียวทั้งไปและกลับ โดยมีทีมงาน โตโยต้า นั่งมาเป็นเพื่อน 1 ท่าน ช่วงแรกขับแบบ Free-Run โดยนัดหมายกันที่จุดพักรถซึ่งห่างออกไปประมาณ 120 กิโลเมตร หลุดออกจากการจราจรในเมืองได้ก็ขับกันค่อนข้างสบายบนเส้นทางมอเตอร์เวย์ ผมเซต 0 ข้อมูลการขับก่อนออกเดินทาง เพื่อวัดอัตราสิ้นเปลืองคร่าวๆ |
| |
 |
| |
ช่วงแรกใช้ความเร็วสบายๆ 110-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยที่ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะใช้รอบเพียงประมาณ 1,600 รอบต่อนาที, 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 2,000 รอบต่อนาที และ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 2,500 รอบต่อนาที ลองเข้าโหมด M แล้วไล่ขึ้นไปที่เกียร์ 7 รอบก็ยังสูงกว่าเกียร์ D ที่ความเร็วเท่ากัน และในโหมด M ไฟ ECO จะไม่สว่าง
ขับไปคุยไปไม่นานก็ถึงจุดหมายแรกที่ระยะทาง 117.1 กิโลเมตร ความเร็วเฉลี่ย 68 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทาง 1.42 ชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14.3 กิโลเมตรต่อลิตร นับว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจแล้ว น่าเสียดายที่ไม่ได้เติม E85 จะได้รู้ว่าอัตราสิ้นเปลืองเท่าไร พักไม่นานก็ออกเดินทางต่อไปยัง ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค เพื่อพักทานอาหารกลางวัน
อิ่มแล้วเข้าสู่ช่วง Q&A จากนั้นเดินทางกลับแบบ Free-Run รวดเดียวไม่มีพัก ผมเซต 0 อีกครั้งก่อนออกเดินทาง เพื่อนสื่อมวลชนส่วนใหญ่เร่งหายไปหมดแล้ว ผมขับด้วยความเร็วตามสภาพการจราจรที่บางช่วงไปได้ช้าๆ 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองดีจนน่าใจหาย 17.8 กิโลเมตรต่อลิตร จากนั้นพอเริ่มทำความเร็วได้ 110-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัวเลขก็ป้วนเปี้ยนแถว 17 กิโลเมตรต่อลิตร จาก ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค กลับมาถึงสำนักงานใหญ่ โตโยต้าสำโรง ระยะทาง 162.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.01 ชั่วโมง ความเร็วเฉลี่ย 81 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อัตราสิ้นเปลือง 17.0 กิโลเมตรต่อลิตร กับระยะทางรวมไป-กลับ 329.5 กิโลเมตร
ในด้านการเพิ่มความเร็ว ถ้าไม่รีบร้อนแค่ค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักในการกดคันเร่งลงไปก็สามารถไล่ไปถึงความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้แบบไม่ยากเย็น ส่วนการคิ๊กดาวน์เปลี่ยนเกียร์ลงต่ำ อัตราเร่งก็มาแบบทันใจเพราะรอบตวัดขึ้นไปรอแถวๆ 5,000 รอบต่อนาที อัตราเร่งจะมาแบบต่อเนื่องแต่ไม่ถึงกับพรวดพราด |
| |
 |
| |
ภายนอกโฉบเฉี่ยวภายในเรียบหรู
รูปลักษณ์ของ อัลติส ใหม่มาแบบจัดเต็ม เล่นกับเส้นสายและเหลี่ยมมุมเพื่อเน้นความโฉบเฉี่ยวทันสมัย และด้วยการออกแบบโคมไฟให้เป็นทรงแคบยาว ทำให้มุมมองของรถดูแบนเตี้ยมั่นคง มิติตัวถังมีความยาว 4,620 มิลลิเมตร กว้าง 1,775 มิลลิเมตร สูง 1,460 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,515/1,520 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 130 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,275 กิโลกรัม
ขณะที่ภายนอกเต็มไปด้วยความโฉบเฉี่ยว ห้องโดยสารภายในกลับดูเรียบง่าย ด้วยแผงคอนโซลที่เป็นแนวตรง บุด้วยวัสดุอ่อนนุ่มทั้งด้านบนและด้านหน้า อุปกรณ์ต่างๆ จัดวางไว้อย่างเรียบง่ายใช้งานสะดวก รุ่นที่ขับเป็นรุ่นท๊อปมีจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้วที่คอนโซลกลาง มาตรวัดทรงกลมมีจอ MID แสดงข้อมูลการขับอยู่ตรงกลาง ควบคุมด้วยปุ่มบนพวงมาลัยฝั่งขวา แสดงข้อมูลได้ทั้งอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยและ Real-Time, ระยะทางที่ขับได้ด้วยเชื้อเพลิงที่มีอยู่, ความเร็วเฉลี่ย, ระยะเวลาที่เครื่องยนต์ทำงาน ระยะทางมีแยกทริป A และ B
เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้าพร้อมที่ดันหลังไฟฟ้า เน้นนั่งสบายจึงไม่โอบกระชับมากนัก ปรับสูง-ต่ำได้มากพอสมควร แต่พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทางสามารถปรับสูง-ต่ำได้ไม่มากนัก จึงปรับเบาะลงต่ำได้ไม่มากเช่นกัน ตัวเบาะนั่งยังสั้นไปนิด ส่วนเบาะหลังมีที่วางขาและเท้าแบบเหลือเฟือ เพราะพื้นห้องโดยสารด้านหลังเป็นแบบเรียบ พนักพิงตั้งชันไปหน่อย ถ้าเอนกว่านี้อีกนิดจะนั่งสบายขึ้น พื้นที่เหนือศีรษะด้านบนและด้านข้างเหลือประมาณ 2 นิ้ว ส่วนความกว้างด้านหลังถือว่าเหลือๆ สำหรับผู้โดยสาร 2 คน การเก็บเสียงจากภายนอกทำได้ดีตามที่ตั้งใจไว้ |
| |
 |
| |
ระบบกันสะเทือนเน้นความนุ่มนวล
อัลติส ใหม่ใช้ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัตพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง ยางขนาด 205/55 R16 การดูดซับแรงสะเทือนทำได้ดี รู้สึกหนักแน่นเมื่อขับผ่านผิวถนนที่ขรุขระ การทรงตัวบนทางเรียบตรงอยู่ในเกณฑ์ดี
มีบางจังหวะที่ใช้ความเร็วประมาณ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วรู้สึกวูบวาบบ้าง แต่บางครั้งก็ไม่เป็น จึงไม่แน่ใจว่าเป็นที่รถ ลม หรือสภาพถนน
พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าแปรผันน้ำหนักมีการทำงานที่ราบเรียบต่อเนื่อง เวลาหมุนที่ความเร็วต่ำเบาแรงและไม่มีอาการสะดุดหรือเต้น ที่ความเร็วสูงก็หน่วงเพิ่มน้ำหนักได้ดี แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลองกับทางโค้งแคบๆ มากนัก ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ ด้านหน้ามีครีบระบายความร้อน มีการจับตัวที่สัมพันธ์กับแรงที่ใช้ในการเหยียบเบรก ทำให้เบรกได้นุ่มนวลตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่ขับ และมีกำลังในการเบรกที่ดี มาพร้อมตัวช่วยอย่าง ABS, EBD และ BA น่าจะสร้างแรงดึงได้ดีเมื่อเบรกหนักๆ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ทดลอง
โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส 1.8V Navi ใส่อุปกรณ์มาตรฐานมาแบบครบๆ ในตัวรถไซส์คอมแพกต์ ขับคล่องตัว ภายในกว้างขวาง เครื่องยนต์ 141 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ซีวีทีให้อัตราเร่งที่ดีและประหยัดเชื้อเพลิงด้วยรอบที่ต่ำเมื่อเดินทางไกล ตั้งราคาวัดใจ 1.069 ล้านบาท แพงกว่าคู่แข่งพอสมควร แต่ถ้าเป็นแฟนโตโยต้าแล้วคงไม่ยากที่จะตัดสินใจ
ขอบคุณ: บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [
ทิ้งช่วงจาก 
