ซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน
อินโดนีเซียเริ่มระงับปฏิบัติการความร่วมมือกับออสเตรเลียแล้วในวันพุธ หลังจากสื่อหลายสำนักแฉว่า ออสเตรเลียแบบดักฟังโทรศัพท์ของประธานาธิบดี และเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลอินโดนีเซีย...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ว่า อินโดนีเซียสั่งระงับความร่วมมือกับออสเตรเลียในหลายเรื่องเช่น ปฏิบัติการหยุดยั้งการลักลอบขนย้ายผู้ย้ายถิ่น (people-smuggling), การร่วมซ้อมรบทางทหาร และการแรกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรอง เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อออสเตรเลีย ซึ่งถูกสื่อในอังกฤษและในแดนจิงโจ้เอง แฉข้อมูลลับว่า แอบดักฟังโทรศัพท์ของนายยูโดโยโน รวมถึงเเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลหลายคน ซึ่งทำให้รัฐบาลอินโดนีเซียเรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำกรุงแคนเบอร์รา เมืองหลวงของออสเตรเลียกลับประเทศเมื่อวันอังคาร
ข้อมูลลับดังกล่าวเป็นรายงานนำเสนอของ กรมข่าวกรองสัญญาณสื่อสารออสเตรเลีย (Australian Signals Directorate) ซึ่งรั่วไหลออกมาด้วยฝีมือของ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่เทคนิคที่เคยทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ และได้รับการเผยแพร่โดยสถานีวิทยุโทรทัศน์ 'เอบีซี' ของออสเตรเลีย และสำนักหนังสือพิมพ์ 'เดอะ การ์เดียน' ของอังกฤษ
รายงานของเอเอสดีแสดงให้เห็นว่า หน่วยงานนี้ดักฟังการสื่อสารทางโทรศัพท์ของนายประธานาธิบดี ซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน อย่างน้อย 1 ครั้ง และแกะรอยการโทรเข้าหรือโทรออกจากโทรศัพท์ของเขาเป็นเวลา 15 วันเมื่อส.ค. 2009 รายงานฉบับนี้ยังมีสไลด์แสดงลิสต์รายชื่อเป้าหมายซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับ สูงของอินโดนีเซีย เช่น นางคริสเตียนา เฮราวาตี ภริยาของนายยูโดโยโน และรองประธานาธิบดีบูดิโยโน รวมถึงรุ่นของอุปกรณ์มือถือที่เป้าหมายแต่ละคนใช้ด้วย
ทั้งนี้ ประธานาธิบดียูโดโยโน กล่าวเมื่อวันพุธว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะสามารถสานต่อความร่วมมือกับออสเตรเลีย ในเมื่อเรายังไม่มั่นใจว่าจะไม่มีการสอดแนมพวกเราอีก และเขาจะเขียนจดหมายถึง โทนี แอ็บบ็อต นายกรัฐมนตรีแห่งออสเตรเลีย เพื่อร้องขอคำอธิบายอย่างเป้นทางการเกี่ยวกับข้อกล่าวหานี้ อย่างไรก็ตาม นายแอ็บบ็อตระบุก่อนหน้านี้ว่า ออสเตรเลียไม่ควรต้องขอโทษสำหรับ การรวบรวมข้อมูลข่าวกรองที่สมเหตุสมผล
อีกด้านหนึ่ง นายมาร์ตี นาตาเลกาวา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอินโดนีเซีย กล่าวในวันเดียวกันว่า อินโดนีเซียไม่เพียงทบทวนความร่วมมือกับออสเตรเลียเท่านั้น แต่พวกเขาได้เริ่มการลดระดับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีกับแดนจิงโจ้แล้ว นาตาเลกาวากล่าวเสริมว่า ออสเตรเลียต้องใช้มาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อแก้ไขความเสียหายที่มากจนแทบไม่อาจแก้ไขได้นี้