สื่อต่างประเทศรายงานว่า กองกำลังฝ่ายรัฐบาลของซีเรีย ใช้อาวุธเคมีเข้าโจมตีแหล่งกบดานของกลุ่มกบฏฝ่ายต่อต้าน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 200 คนและฝ่ายต่อต้านออกมาอ้างว่ายอดคนตายสูงกว่า 1,300 คน ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลออกมาปฏิเสธการใช้อาวุธดังกล่าว...
เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2556 กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวซีเรีย ออกมากล่าวหากองกำลังของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ว่า ได้มีการใช้อาวุธเคมี โดยมีการรมควันก๊าซพิษคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 200 ศพ การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อเวลา 03:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 08:00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังอยู่ในบ้าน และ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่พยายามจะเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่บาดเจ็บ โดยคนส่วนมากไม่คิดว่ากองกำลังฝ่ายรัฐบาล จะใช้อาวุธเคมีในการโจมตีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่ออยู่ในสายตาขององค์การสหประชาชาติ เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากทีมตรวจสอบอาวุธเคมีขององค์การสหประชาชาติ เข้ามาสังเกตการณ์ในซีเรียได้เพียง 3 วันเท่านั้น ซึ่งหากเป็นเรื่องจริงก็จะเป็นการตัดสินใจที่ประหลาดมาก โดยหากคำกล่าวหานี้เป็นความจริง นี่จะเป็นการโจมตีทางทหารโดยใช้สารเคมีที่เลวร้ายที่สุดตลอดระยะเวลา 2 ปีของสงครามเย็นที่เกิดขึ้น
นายอาห์เหม็ด จาร์บา แกนนำของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียออกมากล่าวหาว่ากองกำลังของ ประธานาธิบดี อัสซาด กำลังกระทำการสังหารหมู่ประชาชน และเป็นการพิสูจน์ให้องค์การสหประชาชาติเห็นด้วยตาตัวเองว่ารัฐบาลกำลังก่ออาชญากรรมด้วยการสังหารหมู่ประชาชน
ภาพจากช่างภาพของรอยเตอร์ รวมถึงช่างภาพสมัครเล่น แสดงให้เห็นร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งรวมถึงเด็กตัวเล็ก ๆ เรียงรายกันอยู่บนพื้นคลินิกแห่งหนึ่ง โดยไม่มีร่องรอยการบาดเจ็บภายนอก แต่รอยเตอร์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้อย่างแน่ชัดจากภาพเหล่านี้ ขณะที่ สื่อโทรทัศน์ของซีเรียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ และยังบอกว่าเพื่อดึงความสนใจจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเคมีขององค์การสหประชาชาติที่เดินทางมาถึงเมื่อ 3 วันก่อน
ด้าน กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ออกแถลงการณ์ว่า มีการใช้จรวดที่บรรจุสารเคมีโจมตี บริเวณเขตชนบทของกรุงดามัสกัส 3 แห่ง คือเขตเอน ทาร์มา เขตซามาลคา และเขตโจบาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่กองกำลังรัฐบาลเริ่มโจมตีโดยใช้ระเบิดและปืนที่มีอานุภาพร้ายแรง
บายัน เบเกอร์ บุรุษพยาบาลคนหนึ่งในแผนกฉุกเฉินของ รพ.เขตดูมา รายงานถึงจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณเขตชนบททางตะวัน ออกของกรุงดามัสกัสมีอย่างน้อย 213 คน โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก สภาพศพนั้น ม่านตาเบิกกว้าง มือและเท้าเย็น และน้ำลายฟูมปาก ซึ่งเป็นอาการทั่วไปของระบบประสาทโดนทำลายจากก๊าซพิษ
ทีมเจ้าหน้าที่ขององค์การสหประชาชาติได้รุดเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ แล้วเนื่องจากมีการตั้งข้อกล่าวหาว่าทั้งฝ่ายกลุ่มต่อต้านและกองกำลังได้ใช้ อาวุธเคมีในการโจมตี ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมากที่สุด ส่วน ประเทศอังกฤษมีความ เห็นว่าเรื่องนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วงมาก เพราะหากได้รับการยืนยันข้อเท็จจริงก็จะเป็นการยกระดับปัญหาที่ค่อนข้างร้าย แรงและอาจต้องยื่นเรื่องเข้าสู่สภาความมั่นคงขององค์การสหประชาชาติ
นายอาเค เซลสตรอม นักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดนออกมากล่าวถึงประเด็นในรายงานที่ควรให้ความสนใจแต่ การจะทำอย่างนั้นได้ก็จำเป็นที่จะต้องขออนุญาตจากสมาชิกขององค์การสหประชาชาติเสียก่อน
เช่นเดียวกับในโลกออนไลน์ก็ได้มีการปล่อยภาพและวิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงศพกว่า 90 ศพ วางเรียงรายอยู่ในห้อง ๆ หนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นเด็กและผู้หญิง โดยทุกศพมีสภาพขาวซีดและไม่มีร่องรอยของบาดแผลบนร่างกาย และมีศพอีกบางส่วนถูกห่อไว้ด้วยผ้า และยังมีวิดีโอภาพในคลินิกที่มีกลุ่มแพทย์และพยาบาลวิ่งวุ่น โดยมีศพวางนอนอยู่บนพื้นคลินิก 12 ศพ และด้านนอกอีก 5 ศพ
ทั้งนี้ ซีเรีย เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ประเทศที่ไม่ได้ต่อต้านการใช้อาวุธเคมี และยังต้องสงสัยว่ามีสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น แก๊ส มัสตาร์ด ซาริน และแก๊สทำลายระบบประสาท อย่าง วีเอ็กซ์ อยู่ในครอบครอง
ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐบาล ก็ออกมาปฏิเสธว่าจะไม่มีการใช้ก๊าซพิษกับประชาชนแน่นอน แต่สหรัฐฯ และพันธมิตรแถบยุโรปคาดว่าซีเรียน่าจะใช้ก๊าซ Sarin ในปริมาณไม่มากเหมือนที่เคยใช้ในอดีต ที่รัฐบาลซีเรียในตอนนั้นคือการกล่าวหาว่าฝ่ายต่อต้านเป็นกลุ่มที่ใช้อาวุธเคมี แต่กลุ่มต่อต้านก็ออกมาปฏิเสธ ในเรื่องนี้ประเทศแถบตะวันตกต่างลงความเห็นว่ากลุ่มต่อต้านไม่น่าจะเข้าถึงอาวุธเคมีได้ ฝ่ายรัสเซียก็ออกมาเสนอว่า ต้องตรวจสอบข้อกล่าวหาของทั้งสองฝั่งให้แน่ชัด โดยสหรัฐฯ ได้ออกมาประกาศเตือนขั้นร้ายแรง และส่งกองกำลังทหารเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทันที
ล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลและนักเคลื่อนไหวออกมาอ้างว่า การใช้อาวุธเคมีเพื่อเข้าปราบปรามของทางกองทัพในบริเวณใกล้เมืองดามัสกัส ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิตมากกว่า 1,300 คน ขณะที่บางสื่อยังรายงานยอดผู้เสียชีวิตที่ 650 คน.