นายกรัฐมนตรีอิรักสั่งปลดผู้บัญชาการกองทัพ 4 นาย เนื่องจากไม่สามารถหยุดยั้งการรุกคืบของกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่ ที่กำลังไล่ยึดเมืองทางภาคเหนือและมุ่งหน้าสู่กรุงแบกแดดได้...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ว่า นายกรัฐมนตรี นูริ มาลิคี แห่งประเทศอิรัก สั่งปลดผู้บัญชาการกองทัพ 4 นาย โดยให้เหตุผลว่าพวกเขาล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่ของชาติ ไม่สามารถหยุดยั้งการรุกคืบของกบฏนำโดยกลุ่ม 'รัฐอิสลามในอิรักและลีแวนต์' (ISIS) กลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่ ซึ่งยึดเมืองสำคัญของอิรักหลายเมืองในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ถูกปลดรวมไปถึงผู้บัญชาการกองทัพของจังหวัดนินเวห์ ซึ่งถูกกลุ่ม ISIS ยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ และเจ้าหน้าที่อีกนายจะต้องขึ้นศาลทหารจากการละทิ้งที่มั่น และหลบหนีการต่อสู้
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน กลุ่ม ISIS บุกยึดเมืองโมซูล เมืองใหญ่ที่สุดลำดับ 2 ของอิรักและเมืองทิกริต บ้านเกิดของอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ก่อนจะยึดเมืองทัล อาฟาร์ ทางตอนเหนือเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา กลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ยังเข้ายึดครองพื้นที่บางส่วนของเมืองบาคูบา ซึ่งห่างจากกรุงแบกแดดเพียง 60 กม. แต่กองทัพรัฐบาลและพันธมิตรกลุ่มติดอาวุธนิกายชีอะห์ สามารถยึดเมืองคืนได้สำเร็จในวันอังคาร
ขณะเดียวกัน ทหารกองหนุนของรัฐบาลอิรักเดินทางไปถึงเมืองทัล อาฟาร์แล้ว เพื่อยึดคืนเมืองนี้จากกลุ่มติดอาวุธ โดยกองทัพอากาศอิรักระบุว่า พวกเขาเตรียมเริ่มการโจมตีทางอากาศในพื้นที่นี้แล้ว
ด้านความเคลื่อนไหวอื่นๆ รัฐบาลอิรักออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร กล่าวหาประเทศซาอุดีอาระเบีย ว่ากำลังให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่ทาด้านการเงิน แต่รัฐบาลซาอุฯออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ ขณะที่รัฐบาลตุรกีสั่งย้ายเจ้าหน้าที่สถานกงสุลจากเมืองบาสรา ทางใต้ของอิรัก ไปยังประเทศคูเวต โดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย