กลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่ยึดเมืองอีกแห่งในจังหวัดอันบาร์ทางตะวันตกของอิรักได้แล้ว ทำให้ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา พวกเขาสามารถยึดเมืองในอิรักได้แล้วถึง 4 แห่ง...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ว่า กลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่ 'รัฐอิสลามในอิรักและลีแวนต์' (ไอซิส: ISIS) บุกเข้ายึดเมืองรุตบา ในจังหวัดอันบาร์ ทางตะวันตกของอิรักเอาไว้ได้แล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยนี่ถือเป็นเมืองที่ 4 ที่กลุ่มไอซิสสามารถยึดได้ในช่วงเวลาเพียงแค่ 2 วัน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กลุ่มไอซิสสามารถยึดเมืองราวาและเมืองอานาห์ซึ่งอยู่ติดแม่น้ำ 'ยูเฟรทีส' เอาไว้ได้ และในวันเดียวกัน รัฐบาลอิรักออกมายอมรับว่าพวกเขาเสียเมืองกาอิม เมืองหน้าด่านสำคัญติดชายแดนประเทศซีเรียแก่กลุ่มไอซิส หลังจากต่อสู้ตลอดวันในวันศุกร์ และมีทหารเสียชีวิต 30 นาย ขณะที่โฆษกกองทัพอิรักแถลงว่า การถอนทัพจากทั้ง 3 เมืองเป็นการถอยทางเทคนิค เพื่อจะส่งทหารเข้าไปอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม การเสียเมืองหน้าด่านอย่างเมืองกาอิม รวมถึงเมืองรุตบา ซึ่งห่างจากชายแดนประเทศจอร์แดนราว 150 กม. จะช่วยให้กลุ่มไอซิสสามารถขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ไปยังสมรภูมิในที่ต่างๆได้ง่ายดายยิ่งขึ้น พวกเขายังเชื่อด้วยว่า จะสามารถยึดเมืองตามแนวแม่น้ำยูเฟรทีสที่เหนือได้โดยไม่ต้องต่อสู้มากนัก ด้วยความช่วยเหลือจากชนเผ่าท้องถิ่น
ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนม.ค. 2014 กลุ่มไอซิสเข้ายึดพื้นที่บางส่วนของเมืองรามาดี เมืองเอกของจังหวัดอันบาร์ และยึดพื้นที่ทั้งหมดของเมืองฟัลลูจา ที่อยู่ติดกันเอาไว้ได้ จากนั้นในชวงต้นเดือนมิ.ย. กลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ก็สามารถยึดเมือง โมซูล เมืองใหญ่ลำดับ 2 ของประเทศเอาไว้ได้ ก่อนจะเคลื่อนลงใต้ยึดเมืองบาอิจิ ที่ตั้งโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ตามด้วยยึดเมืองทิกริต บ้านเกิดของอดีตประธานาธิบดีซัดดัมฮุสเซนอีกด้วย
อีกด้านหนึ่ง ท่ามการสถานการณ์ความไม่สงบในอิรัก นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเยือนกรุงไคโรประเทศอียิปต์ ออกมาประณามกลุ่มไอซิส ว่าเป็นรากเหง้าของความรุนแรงที่เป็นภัยคุกคามไม่เพียงต่ออิรัก แต่รวมถึงทั่วทั้งภูมิภาค เขายังเรียกร้องให้ผู้นำอิรักก้าวข้ามความแตกแยกทางศาสนา และจัดตั้งรัฐบาลที่มีความเป็นเอกภาพและสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนทุกคนในประะเทศ