BlogGang.com : : amulet108 : ไม้เด็ดสยบชัตดาวน์ โอบามายึดประชาธิปไตย (คอลัมน์ สกู๊ปพิเศษ)

ไม้เด็ดสยบชัตดาวน์ โอบามายึดประชาธิปไตย (คอลัมน์ สกู๊ปพิเศษ)

ไม้เด็ดสยบชัตดาวน์ โอบามายึดประชาธิปไตย

คอลัมน์ สกู๊ปพิเศษ

มีภาษิตบทหนึ่งของชาวโรมันว่า "แม่ทัพที่ดี คือผู้ที่รู้ว่าเมื่อใดที่ไม่มีทางคว้าชัยชนะได้"

หมายความว่า นอกจากจะรบเก่งแล้ว ก็ไม่ประเมินตัวเองเกินความเป็นจริง ต้องรู้ว่าศึกใดบ้างที่ฝ่ายตนไม่มีทางชนะได้

ดูเหมือนว่าภาษิตนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อส.ส.พรรครีพับลิกัน ที่เดินเกม "ดับเครื่องชน" กับ ประธานาธิบดีบารัก โอบามา เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน โดยปฏิเสธที่จะผ่านงบประมาณสำหรับรัฐบาลกลาง ตราบใดที่นายโอบามายังไม่ยกเลิกกฎหมายประกันสุขภาพ หรือ "โอบามาแคร์" จนกลายเป็นวิกฤต "ชัตดาวน์"

ต่อมาส.ส.ฝ่ายขวาจัดในพรรครีพับลิกัน ยังข่มขู่อีกว่า หากโอบามายังไม่ยกเลิกกฎหมาย ดังกล่าว และตัดงบประมาณส่วนต่างๆ ตามที่พรรคต้องการ จะไม่ยอมโหวตรับรองการเพิ่มเพดานหนี้ของประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้ทั้งสหรัฐและทั่วโลกปั่นป่วนทันที

เพราะจะเท่ากับว่าสหรัฐไม่สามารถจ่ายหนี้ที่ตนยืมมาจากสถาบันการเงินต่างๆ ได้

ทว่าในที่สุดพรรครีพับลิกันก็ต้องยอม ถอยกรูด โดยผ่านทั้งงบประมาณและเพดานหนี้โดยดุษณี เฉียดฉิวก่อนถึงเส้นตาย และไม่ได้สิ่งใดที่เรียกร้องแต่แรกเลย

นอกจากถ้อยคำขู่ว่า จะเปิดศึกล้มกฎหมายโอบามาแคร์ต่อไป

ความพ่ายแพ้ราคาแพงที่เกิดขึ้นเพียงเพราะพรรครีพับลิกันไม่เข้าใจว่า ศึกนี้ไม่มีทางชนะตั้งแต่แรก

แต่กลุ่มอนุรักษนิยมของพรรครีพับลิกันกลับทำทุกวิถีทางที่จะ หยุดยั้งกฎหมายโอบามาแคร์ เพราะมีจุดยืนจำกัดบทบาทของรัฐบาลกลาง จึงต่อต้านการใช้งบประมาณรัฐเข้ามาอุ้มการประกันสุขภาพ สำหรับประชาชนที่ไม่สามารถซื้อประกันสุขภาพของเอกชนได้

เท็ด ครูซ ส.ว.ขวาจัดของพรรครีพับลิกันที่สังกัดขบวนการ "ที ปาร์ตี้" ปลุกระดมสมาชิกพรรคให้ใช้วิธีข่มขู่นายโอบามาด้วย เส้นตายเพดานหนี้ เพื่อบังคับให้โอบามายอมจำนน

พูดง่ายๆ ก็คือการเอาชะตากรรมของประเทศทั้งประเทศมาเป็นหมากต่อรองกับผู้นำรัฐบาล เพียงเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนเองต้องการ

อย่างไรก็ตาม นายครูซและพรรคพวกได้ประเมินนายโอบามาต่ำไป คิดว่าคงไม่เข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้าต่อการแบล็กเมล์ครั้งนี้

อาจประเมินจากกรณีที่ปล่อยให้รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน และไม่มีการโต้ตอบทางทหารใดๆ ทั้งที่เคยขีดเส้นตายไปนานแล้ว

แต่ความเป็นจริงคือ ตลอดการเผชิญหน้าที่เขย่าขวัญชาวอเมริกันทั้งประเทศนี้ โอบามาและแกนนำส.ว.เดโมแครตอย่าง แฮร์รี่ รีด ปฏิเสธที่จะเจรจาใดๆ ด้วย กับฝ่ายค้านที่แบล็กเมล์กันซึ่งๆ หน้า

โอบามาทราบดีว่า ถ้าหากโอนอ่อนต่อยุทธวิธีปิดประเทศของพรรครีพับลิกันครั้งนี้ จะไม่มีทางบริหารประเทศในอีก 2 ปีข้างหน้าก่อนหมดสมัยประธานาธิบดีอย่างแน่นอน

เพราะพรรครีพับลิกันจะได้ใจ และงัดเอามุขนี้มาใช้อีกเรื่อยๆ เพื่อทำลายการตัดสินของรัฐบาลต่างๆ ที่ฝ่ายค้านไม่พอใจ จนรัฐบาลมีสภาพเป็นเสมือน "ลูกไก่ในกำมือ" ของพรรครีพับลิกัน

ขณะเดียวกัน หากยอมเจรจาหรือประนีประนอมกับฝ่ายนายครูซ กลุ่มที ปาร์ตี้ ก็จะประกาศชัยชนะ และจะส่งเสริมให้ยุทธวิธีสุดโต่งผงาดขึ้นมามีอิทธิพลเหนืออนุรักษนิยมสายกลางอื่นๆ ทันที

ประธานาธิบดีโอบามาจึงแสดงความเป็นผู้นำ ยืนยันหนักแน่นว่า ในระบอบประชาธิปไตยนั้น "เสียงส่วนน้อยไม่มีสิทธิ์ที่จะล้มความชอบธรรมของเสียงส่วนใหญ่"

พร้อมระบุว่า หากเสียงส่วนน้อยไม่พอใจเสียงส่วนใหญ่ ก็ควรใช้วิธีตามกฎกติกาของประชาธิปไตย ด้วยการรณรงค์ให้ประชาชนเห็นด้วยกับตนลงเลือกตั้ง และเปลี่ยนขั้วรัฐบาลให้ได้

แทนที่จะใช้วิธีขู่กรรโชกล้มระบอบ ทั้งระบอบ!!

สําหรับพรรครีพับลิกันเสียหายอย่างหนักจากศึกการเมืองครั้งนี้ โพลเกือบทุกสำนักระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า ประชาชนมอง รีพับลิกันเป็นตัวการของวิกฤตชัตดาวน์ และมีความรู้สึกเชิงลบต่อพรรคฝ่ายค้านมากขึ้น โดยเฉพาะต่อขบวนการที ปาร์ตี้

แน่นอนว่าสมาชิกพรรคระดับสูงของรีพับลิกันกำลังสรุปบทเรียนนี้ กันอยู่ แม้แต่ส.ว.ฝ่ายขวาชื่อดัง จอห์น แม็กเคน ยังตัดพ้อว่าได้เตือนพรรคพวกนายครูซแต่แรกแล้วว่า ไม่ควรใช้ยุทธวิธีชัตดาวน์ตั้งแต่แรก

นักวิเคราะห์จำนวนมากชี้ว่า ถึงเวลาพรรครีพับลิกันต้องปฏิรูปพรรค และเลิกเกรงกลัวต่ออิทธิพลของฝ่ายขวาสุดโต่งในพรรคได้แล้ว มิฉะนั้นก็จะไม่มีทางชนะใจชาวอเมริกัน ซึ่งส่วนใหญ่มีแนวคิด สายกลาง โดยในปีหน้า ก็จะถึงวาระเลือกตั้งสภาคองเกรสอีกครั้งแล้ว

ขนาด นายมิตต์ รอมนีย์ อดีตผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ไม่ได้ มีภาพลักษณ์ว่าเป็นขวาสุดโต่งมากนักยังแพ้เลือกตั้ง แล้วหัวหอก มุ้งขวาจัดอย่างนายครูซจะเหลือหรือ?

โพลบางสำนักระบุว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่อาจจะไม่เลือกให้ส.ส. ของตนนั่งต่ออีกสมัย ซึ่งก็คงทำให้พรรครีพับลิกันที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ในสภาคองเกรสขณะนี้รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ กันพอสมควร

อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีสมาชิกพรรคระดับสูงของพรรครีพับลิกันกี่คน ที่จะกล้ายืนหยัดต่อขบวนการสุดโต่งในพรรคของตน

แม้แต่พรรคฝ่ายค้านในบางประเทศ ก็ยังผลักไสไล่ส่งหัวปฏิรูปและพรรคดังกล่าวก็คงยังถูกยึดกุมโดย "ความสุดโต่ง" สืบไป

Create Date : 20 ตุลาคม 2556

Last Update : 20 ตุลาคม 2556 0:47:07 น.

0 comments

Counter : 1290 Pageviews.