จับสัญญาณสันติภาพ "โป๊ป"เยือนตะวันออกกลาง
จับสัญญาณสันติภาพ "โป๊ป"เยือนตะวันออกกลาง
สกู๊ปพิเศษ
ความขัดแย้งอันเนื่องจากความแตกต่างทางศาสนาในภูมิภาคตะวันออกกลางดำเนินต่อเนื่องยาวนานนับร้อยปี ตั้งแต่สงครามครูเสดจนกระทั่งถึงความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ในปัจจุบัน
แม้จะมีความพยายามครั้งล่าสุดจากรัฐบาลสหรัฐที่พยายามชักชวนทั้งสองฝ่ายมานั่งโต๊ะเจรจาหาทางออก แต่ดูเหมือนว่าความคืบหน้าจะไม่ปรากฏชัด นอกจากนั้น ดูเหมือนว่าความแตกต่างทางศรัทธาจะยิ่งร้าวลึก จากเหตุการณ์สังหารชาวยิว 4 ราย ในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ซึ่งถูกประณามอย่างหนักจากทั่วโลก
จนกระทั่งล่าสุด การเสด็จจาริกแสวงบุญสู่ภูมิภาคตะวัน ออกกลางของสมเด็จพระสันตะปาปานั้น แม้ทางสำนักวาติกันจะออกตัวว่าเป็นการปฏิบัติภารกิจทางศาสนา เพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างนิกายคาทอลิกกับออร์ทอดอกซ์ แต่สิ่งที่หลายคนจับตามอง คือ "นัยยะ" ทางการเมืองที่ปรากฏอย่างเด่นชัด
โดยเป็น "นัยยะ" ของการใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือในการสร้างความสมานฉันท์ รวมถึงสร้างสันติสุขระหว่างประชาชนจากต่างศาสนา หาใช่การสร้างความขัดแย้งไม่
ประจักษ์พยานชัดแจ้งตั้งแต่เริ่มต้นทริปที่ประเทศจอร์แดน โป๊ปปฏิเสธที่จะเสด็จโดยรถยนต์กันกระสุน แต่ทรงเลือกรถยนต์เปิดประทุนเพื่อทักทายกับประชาชนที่มารอต้อนรับอย่างเนืองแน่น
ส่วนไฮไลต์ของการเสด็จเยือนจอร์แดนอยู่ที่การเสด็จเยี่ยมและทรงมีพระปฏิสันถารกับผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย ทรงประกาศเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันแก้ไขสงครามกลางเมืองในซีเรียผ่านการเจรจาอย่างสันติ เพื่อยุติความขัดแย้งซึ่งทำให้ประชาชนสูญเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และมีผู้อพยพหนีสงครามสู่จอร์แดนกว่า 600,000 คน นอกจากนั้น ทรงเรียกร้องให้นานาชาติร่วมกันดูแลผู้อพยพอย่างดีที่สุด
ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจในจอร์แดน โป๊ปเสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์สู่ดินแดนปาเลสไตน์ เพื่อเฉลิมฉลองร่วมกับคริสตศาสนิกชนนับหมื่นคนที่มารอชมพระบารมีอยู่ที่จัตุรัสแมงเกอร์ ในเมืองเบธเลเฮม โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์
ทรงสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งด้วยการเสด็จเยือนเขตเวสต์แบงก์ พร้อมกับทรงสวดภาวนาที่กำแพงซึ่งเป็นจุดแบ่งแยกเขตเมืองเบธเลเฮมของนครเยรูซาเลมเป็นเวลานานหลายนาที ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
และ "ส่งสัญญาณ" ในการสร้างสันติภาพให้กับภูมิภาคนี้ ผ่านการตรัสในภายหลังว่า ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์นั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจรับได้ และ "นี่คือเวลาที่ทุกคนต้องแสดงความกล้าในการแสวงหาสันติภาพ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทุกฝ่ายยอมรับในรัฐของกันและกัน และอยู่ร่วมกันอย่างมั่นคงภายใต้การยอมรับของนานาชาติ"
ขณะเดียวกัน การเสด็จเยือนตะวันออก กลางของโป๊ปฟรานซิสนั้นเปรียบเสมือน "ตัวกลาง" ในการเชื่อมสองดินแดนเข้าด้วยกัน โดยทรงเชิญ ประธานาธิบดีชิมอน เปเรส และ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู สองผู้นำจากอิสราเอล เข้าร่วมการสวดภาวนากับ ประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ ซึ่งจะจัดขึ้นที่นครรัฐวาติกันในเดือนหน้า
การเสด็จเยือนดินแดนของชาวยิวครั้งนี้ของโป๊ป ยังทรงแสดงจุดยืนในการต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติชาวยิว ในเวลาเดียวกับที่เกิดเหตุการณ์สังหารนักท่องเที่ยวชาวยิวในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมอีกด้วย
Create Date : 29 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 29 พฤษภาคม 2557 1:36:10 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1254 Pageviews. |
|
|
|
|
|