พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2556
 
23 ตุลาคม 2556
 
All Blogs
 
คดีพระวิหารที่ศาลโลก ถึงเวลาเปิดใจรับคำตัดสิน (สกู๊ปพิเศษ)

คดีพระวิหารที่ศาลโลก ถึงเวลาเปิดใจรับคำตัดสิน

สกู๊ปพิเศษ



ก่อนถึงวันนัดอ่านคำตัดสินคดี พระวิหารระหว่างไทยกับกัมพูชาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลก วันที่ 11 พ.ย. นักวิชาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างให้ความเห็นและคาดการณ์ไว้หลากหลาย



อาจารย์สุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในงานเสวนาทางวิชาการรัฐศาสตร์ภาคประชาชน ในหัวข้อ "นับถอยหลังวันเปิดคำพิพากษาคดีเขาพระวิหาร" ว่า ในความเห็นส่วนตัว มองว่าการที่จะเรียกว่าจะมีผลคำตัดสินที่ทำให้ไทยเสมอนั้น หากจะมองในมุมมองของ นักวิชาการด้านความมั่นคงนั้น คงจะมองด้านบวกไม่ได้



แต่ต้องคาดการณ์ตามความเป็นจริง และมองเหตุการณ์ดังกล่าวจำแนกออกเป็นทฤษฎี "3 แพ้ 2 ไม่"



"3 แพ้" ได้แก่ 1.แพ้หมด คือ ศาลตัดสินโดยยึดแผนที่ 1 : 200,000



2.แพ้น้อย คือ ศาลตัดสินให้ตัวเส้นรอบปราสาทเขาพระวิหารอยู่ในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชา





3.แพ้นิดหน่อย คือ มอบอำนาจให้อาเซียนเข้ามาจัดการปัญหาโดยมีอินโดนีเซียเป็นผู้รับหน้าที่หลัก



ส่วน "2 ไม่" ได้แก่ 1.ไม่รู้ คือ ให้ทั้ง 2 ฝ่ายกลับไปลากเส้นรอบตัวปราสาทใหม่ว่าแต่ละฝ่ายมีการวาดเส้นแตกต่างกันเช่นใด



2.ไม่รับ คือ ไม่รับคดีเพื่อการตัดสิน คาดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นแน่ๆ เพราะศาลมีหน้าที่รับเรื่องและจัดการปัญหาความขัดแย้งมากที่สุด ส่วนตนมองแบบยังไม่ฟันธงว่า การแพ้นิดหน่อยที่ให้อาเซียนโดยมีคนกลางเป็นตัวแทนจากอินโดนีเซียเข้ามาจัดการ น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด



อ.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงหนังสือชื่อ "ปริศนาคดี ปราสาทเขาพระวิหาร" ฉบับการ์ตูนเพื่อหวังให้ความรู้แก่ประชาชนชาวไทยในประเด็นเกี่ยวกับ คดีปราสาทเขาพระวิหารว่า ที่น่าสนใจคือหนังสือการ์ตูนเล่มนี้ ตีพิมพ์ออกมาเป็นภาษาไทยเพียงภาษาเดียวไม่มีภาษาอังกฤษด้วย แสดงว่าทางกระทรวงการต่างประเทศมีความต้องการที่จะปรับความเข้าใจในประเด็นเรื่องเขาพระวิหารของคนไทย





อันดับแรกคือ ไทยไม่มีสิทธิ์เหนือตัวปราสาทเขาพระวิหารอีกต่อไป เนื่องจาก ผลการตัดสินคดีในปีพ.ศ.2505 ที่ศาลโลกตัดสินให้ทางฝ่ายกัมพูชามีอำนาจอธิปไตยเหนือตัวปราสาทเขาพระวิหาร



สรุปคือผลการตัดสินดังกล่าว ไม่ "เจ๊ง" ก็ "เจ๊า"



สิ่งที่สามารถคาดการณ์ได้ คือ หากคำตัดสินออกมาเสมอก็ไม่มีปัญหา แต่หาก คำตัดสินออกมาว่าไทยแพ้ คาดว่าน่าจะมี คนไทยบางส่วนที่ยังคงความเข้าใจผิดพลาด หรือมีความคลั่งชาติ (Hyper Nationalism) ออกมาประท้วง



แต่ส่วนตัวคิดว่า แม้จะมีการก่อม็อบขึ้น มาจริงๆ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองอีกในประเด็นดังกล่าว กลุ่มคนเหล่านั้นก็ไม่อาจประสบความสำเร็จได้ เหมือนกับ "ฟืนเปียกที่ไม่สามารถจุดไฟติดได้อีกต่อไป"



ส่วนข้อเสนอทางออก อ.ชาญวิทย์มองว่า ควรจะสร้างพื้นที่ ทางวัฒนธรรม ในเมื่อแต่ละประเทศเพื่อนบ้านต่างก็มีวัฒนธรรม ที่ใกล้เคียงกัน รวมทั้งมีพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากร เขาใหญ่ พนมดงรัก พนมรุ้ง วัดคู จำปาสัก สามเหลี่ยมมรกต น้ำตกคอนพระเพ็ง (น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน) เป็นจุดร่วมในการพัฒนาพื้นที่สันติภาพไปสู่พื้นที่ทางวัฒนธรรมร่วมกันของประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง



ท้ายสุด ความหวังลึกๆ ของคนไทยที่ว่าจะได้พื้นที่รวมทั้งตัวปราสาทคืน แม้แท้จริงแล้วปัญหาไม่ได้อยู่ที่คำตัดสิน แต่อยู่ที่สำนึกของคนไทย ที่คิดว่าตนเองเป็นประเทศไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นใคร และที่สำคัญไทยมีความเชื่อว่าจะเสียดินแดนให้ประเทศเล็กไม่ได้



แต่ถึงเวลาที่คนไทยต้องกลับมาทบทวนตนเองเพื่อเปิดใจ แล้วหรือยัง



Create Date : 23 ตุลาคม 2556
Last Update : 23 ตุลาคม 2556 0:31:34 น. 0 comments
Counter : 1106 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.