สลด"ยูเครน"ร้อยศพ สงครามกลางเมืองระอุ?
สลด"ยูเครน"ร้อยศพ สงครามกลางเมืองระอุ?
คอลัมน์ สกู๊ปพิเศษ
ความตายจากการปะทะของกลุ่มผู้ขับไล่รัฐบาลยูเครนกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่อาจถึง "ร้อยศพ" นั้น ทำให้สถานการณ์ในยูเครนเป็นประเด็นใหญ่ระดับโลกอีกครั้ง
หลังจากการเผชิญหน้าครั้งนี้เข้าข่าย "สงครามตัวแทน" ในการเผชิญระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกที่มีสหภาพยุโรปผนึกกำลังกับสหรัฐอเมริกา
ประชาชนยูเครน 45 ล้านคนแตกเป็นสองฝ่ายชัดเจน ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ "การปฏิวัติสีส้ม" หรือ Orange Revolution ในปี 2547
ครั้งนั้น มวลชนฝ่ายนิยมยุโรปลุกฮือนับล้านเพื่อต่อต้านผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ นายวิกเตอร์ ยานุโควิช ผู้เอนเอียงเข้ารัสเซีย ชนะอย่างเฉียดฉิวและน่าเคลือบแคลงในการเลือกตั้งรอบแรก กระทั่งในการเลือกตั้งรอบสอง นายวิกเตอร์ ยุชเชนโก พลิกชนะ นำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลนิยมยุโรปในปี 2548
อย่างไรก็ตาม ยานุโควิชกลับมาชนะอีกครั้งในการเลือกตั้งปี 2553 และนำการบริหารที่เอียงเข้าหารัสเซียอีกครั้ง
ปลายปีที่ผ่านมา เมื่อนายยานุโควิชไม่ยอมลงนามในข้อตกลงกระชับความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรป ทั้งยังหันไปชื่นมื่นกับข้อตกลงทางเศรษฐกิจกับรัสเซีย มวลชนฝ่ายตรงข้ามจึงก่อตัวประท้วงใน กรุงเคียฟ เมืองหลวง และปะทะกับเจ้าหน้าที่มาเป็นระลอก
การเผชิญหน้ายกระดับจากปัญหาภายในประเทศสู่การแทรกแซงจากมหาอำนาจระดับนานาชาติอีกครั้ง
ในช่วงวิกฤตเผชิญหน้าดังกล่าว นายไมโคลา อาซารอฟ ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุผลว่าต้องการรักษาความเป็นเอกภาพของยูเครนไว้ และคาดหวังว่าจะเพิ่มความเป็นไปได้ในการประนีประนอมทางการเมือง
แต่กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงยืนยันข้อเรียกร้องเดิมที่ต้องการให้ประธานา ธิบดียานุโควิชลาออกจากตำแหน่งและจัดการเลือกตั้ง
เหตุการณ์นองเลือดตั้งแต่วันอังคารที่ 18 ก.พ. เป็นความรุนแรงครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ยูเครนแยกตัวออกจากสหภาพโซเวียต
จนเมื่อวันที่ 20 ก.พ. แม้ตัวแทนผู้นำสองฝ่ายเจรจาระงับศึกแล้ว แต่การปะทะยังดำเนินต่อไป เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลใช้กระสุนยางบุกเข้าสลายการชุมนุมของผู้ประท้วง จากนั้นมีการตอบโต้อย่างดุเดือด กลุ่มผู้ชุมนุมขว้างปาก้อนหิน โยนระเบิดเพลิงและยิงปืนเข้าใส่ เจ้าหน้าที่จึงใช้ปืนไรเฟิลและกระสุนจริง เปิดสมรภูมิรบกลางเมือง
คร่าชีวิตทั้งสองฝ่ายใน 3 วัน สูงถึง 77 ราย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ส่วนผู้ชุมนุม คาดว่ามีผู้เสียชีวิตทะลุร้อยไปแล้ว
อาสาสมัครพยาบาลระบุว่า ผู้ที่เสียชีวิตนั้นถูกยิงที่บริเวณศีรษะและหัวใจด้วยกระสุนจริง ไม่ใช่กระสุนยาง
ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลแย้งว่า กระสุนจริงจะใช้ก็ต่อเมื่อเป็นการ "ป้องกันตัวเอง" เท่านั้น พร้อมกล่าวหาผู้ที่จับตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 67 นาย ไปเป็นตัวประกันในอาคารใกล้กับจัตุรัสอินดีเพนเดนซ์ว่าเป็นพวก "สุดโต่ง"
ภายหลังจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นตลอด 3 วัน นายยานุโควิชสั่งปลดพล.ต.อ. โวลดีเมียร์ ซามานา ผู้บัญชาการตำรวจ และแต่งตั้งผู้บัญชาการกองทัพเรือขึ้นดำรงตำแหน่งแทน
สถานการณ์ยืดเยื้อมานานกว่า 3 เดือนนั้น เป็นช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับวิกฤตการประท้วงในประเทศไทย
แต่ยูเครนส่อเค้าซับซ้อนกว่าในแง่การเผชิญหน้ากับมหาอำนาจ
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ถูกกล่าวหาว่าชักใยอยู่เบื้องหลังนายยานุโควิช ส่วนฝ่ายสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาก็ถูกโจมตีว่าเข้าข้างและสนับสนุนฝ่ายผู้ประท้วงจนออกนอกหน้า
เพราะที่ผ่านมา รัฐบาลรัสเซียแสดงออกถึงการสนับสนุนนายยานุโควิช โดยประณามการใช้ความรุนแรงกับม็อบมาตลอด ขณะที่ชาติตะวันตกก็เลือกประณามแต่ฝ่ายรัฐบาลยูเครนที่ใช้กำลังรุนแรงเข้าสลายการชุมนุม
เป็นท่าทีที่แตกต่างกับปฏิกิริยาที่มีต่อรัฐบาลไทย เนื่องจากรัฐบาลไทยแสดงความชัดเจนว่า เลือกใช้วิธีเลี่ยงความรุนแรงและยังดำรงอยู่ในระบอบประชาธิปไตย
คำเตือนที่ผ่านมาของสหภาพยุโรป หรือ อียู และสหรัฐจึงไม่ปรากฏการตำหนิรัฐบาลไทย เพียงขอให้สองฝ่ายอดกลั้น เลี่ยงความรุนแรง รวมไปถึงประณามการขัดขวางการเลือกตั้ง
ล่าสุด เมื่ออียูประกาศมาตรการลงโทษยูเครนทันที เริ่มจากอายัดทรัพย์เจ้าหน้าที่ รัฐบาลระดับสูงของยูเครน 20 คนซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปะทะ และห้ามเดินทางเข้ายุโรป
ส่วนสหรัฐ นายโจ ไบเดน รองประธานา ธิบดี แจ้งกับผู้นำยูเครนว่า สหรัฐพร้อมจะใช้มาตรการแซงก์ชั่นกับยูเครนเช่นเดียวกัน
รัฐบาลรัสเซียตอบโต้ทันทีว่า วิธีการนี้เป็นการ "รุมรังแกกัน"
ท่ามกลางความขัดแย้งนี้ นางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ชาติมหา อำนาจในยุโรป พยายาม หาทางออกด้วยการโทรศัพท์ต่อสายตรงถึง ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีปูติน
จากนั้นทั้งสามคนร่วมเรียกร้องให้ยุติการนองเลือด เป็นภาพของความพยายามคลี่คลายความร้าวฉาน
เปิดทางให้ประธานาธิบดียานุโควิชและแกนนำผู้ประท้วงพูดคุยกัน แต่ได้ "ข้อตกลงเบื้องต้น" ว่าจะกลับไปใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2547 ซึ่งให้อำนาจกับรัฐสภามากกว่ารัฐบาลและประธานาธิบดี และจัดตั้งรัฐบาลผสมภายใน 10 วัน รวมถึงจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีเร็วขึ้นก่อนเดือนธันวาคมปีนี้
เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในไทย ยูเครนนั้นรุนแรงกว่า ตายมากกว่า แต่การเจรจาสองฝ่ายนั้นเกิดขึ้นแล้ว
Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2557 |
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2557 8:08:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1121 Pageviews. |
|
|
|
|
|