มันเป็น Project
"กลับบ้านเรา รักรออยู่" อย่างแท้จริง
เพราะผม เดินทาง กลับไทย เพื่อ "รัก" ล้วน ๆ
ด้วย ความ กระตือรือร้น อย่างออกนอกหน้า
และ คุณแม่ Sally ก็รู้อยู่แก่ใจ
ว่า ลูกของเธอ ต้องการ กลับไปหา แฟน ที่เมืองไทย ด่วน!!!
แบบไม่มีข้ออ้าง เหมือนตอนมัธยมว่า
"ไปทำรายงานบ้านเพื่อนตอนเย็น แต่ที่จริงแล้วไปทำอย่างอื่น" ใด ๆ ทั้งสิ้น
กล้าทำแม้กระทั่ง
เดินเรื่องขอ "out of the country" จากที่รร.กระทันหัน
(นักศึกษามีสิทธิ์ขอออกนอกประเทศอเมริกาเพื่อกลับบ้านเกิดได้สูงสุด 5 เดือน)
และกลับไทยใน ช่วงที่ตั๋วแพงที่สุดใน สหรัฐอเมริกา
แม้จะมีปมหวาดกลัวในจิตใจ
"กลัวการขอวีซ่าอเมริการอบ 2 สุดชีวิต"
แต่ลูกของเธอก็ยังไม่หวั่น
ยังยืนยันชู 2 นิ้วสู้ตาย!!!
(วันขอวีซ่าจริง ๆ ค่อยว่ากันอีกที)
ที่จริงแล้ว.....
คุณแม่ Sally นี่แหละที่ ทำให้ผมมี ทริปนี้!!!
เพราะหลังวีซ่าแป้งไม่ผ่าน ผมมืดแปดด้าน
ขาดสติสัมปะชัญญะ คิดอะไรไม่ออก บอกไม่ถูก
เอาแต่ซึมเศร้า
กินความเศร้าเคล้าความซึมเป็นอาหารหลัก
ได้แต่นอนเอามือก่ายหน้าผากฟังเพลงอกหัก
คิดไม่ตกว่า จะทำยังไงต่อไปกับ ชีวิตรักนักศึกษา!!!
เอาแต่อยากจะกลับไทยอย่างเดียว
ผมหมายถึงกลับอย่างถาวร!!!
แต่ เหตุผลสั้น ๆ ง่าย ๆ
ที่แป้ง ถูกเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐ ทิ้งไว้ให้หลังการ ถูกปฎิเสธ
ซึ่งดัง echo อยู่ในหัวของผมตลอดเวลา และผมก็เอาไปบอกให้แม่ได้รู้ว่า.......
"ภาษาคุณไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ไปเรียนภาษามาก่อนแล้วค่อยกลับมาขออีกที"
ประโยคนี้เองที่ทำให้คุณแม่ Sally ค้นพบทางสว่าง.......

"ทำไมไม่ให้แป้งไปลงเรียนภาษาซัก 2-3 เดือน
แล้วค่อยขอใหม่ล่ะ
ถ้าต้นอยากกลับ ก็ไปเที่ยวซัก 2-3 เดือนสิ
จะได้มีกำลังใจ
ไม่ต้องกลับถาวร ดีมั้ย?
กลับไปเที่ยวพักผ่อนซัก 2 เดือน แล้วค่อยขอวีซ่า มาด้วยกัน"
ขอบคุณครับคุณแม่
ที่ทำให้ผมมีวันนี้......

อีก 24 ช.ม ถึง เชียงใหม่.....