หายไปแล้วอาการนั้นไปไม่ลามาไม่ไหว้อาการอะไรก็ไม่รู้ที่จู่โจมผม 3 วันรวดสันนิษฐานว่า เกิดขึ้นเพราะระบบขัดข้องจากการอยู่คนเดียวจนถึงจุดอิ่มตัวร่างกายคงจะเอียนแต่สมองลืมรู้สึกสันนิษฐานว่า เกิดจากการขาดความอบอุ่นหรือถ้าไม่ได้ขาดความอบอุ่น ความอบอุ่น ที่สะสมไว้จาก ครอบครัว ในร่างกายของผมคงเริ่มหมดชีวิตที่ต้องลุย ๆ คนเดียวเป็นส่วนใหญ่ที่นึกว่า เต็มไปด้วย อิสระเลยทำให้ลืมไปว่า อิสระเยอะมากแค่ไหน ความเหงามันก็เยอะเท่ากันวันดีคืนดีอิสระที่มีอยู่เต็มกระเป๋า ดันแปลงร่าง กลายเป็นความเหงา เข้าจู่โจมเฉียบพลันในวันที่ ความอบอุ่นเริ่มจืดจางแม้จะโชคดีที่ตัวเราแข็งแรงนิดหน่อย(มั้ง)เวลาเจออาการ "วันนั้นของเดือน" ทีไรทำเต็มที่ก็แค่หงุดหงิด นั่งดูตัวเองหงุดหงิดเฉย ๆ วันนี้ผมพบว่าพอเบื่อพอหงุดหงิดจนถึงจุดอิ่มตัว(3 วัน) ความรู้สึกดี เดิม ๆ ก็กลับมาทวงที่ว่างในสมองคืนมันก็ผลัดกันทวงพื้นที่กันไปกันมานี่แหละ"ความอิสระ" กับ "ความเหงา"ที่จริงแล้ว ก็คงจะอยู่ในหมวดหมู่เดียวกันอิสระคงจะเป็น ส่วนแข็งเหงา คงจะเป็นด้าน อ่อนไหวเดินตีคู่กันไปกับผมในทุก ๆ ที่ที่คิดว่า ช่างอิสระเสรีที่จริงแล้ว ผมไม่ได้รัก "ความโดดเดี่ยว" หรอก(ยืนยันว่า อยู่คนเดียวสนุกมาก แต่มีคู่ สนุกกว่า )และเมื่อถูกหยิบยื่น "ความโสด" มาให้ "โดยไม่ได้เต็มใจ" รับ่ไหน ๆ ก็ต้อง ลุย บนเส้นทางของ ความโดดเดี่ยว บางครั้งผมก็คงจะต้องการความอบอุ่น มาช่วยทำให้ ลุย ไปได้อย่างทรหดอดทน บ้างวันนี้หลังจาก อาการหงุดหงิดรมณ์บ่'จอย หายไป เองผมโทร.ไปหาคนที่ผมรักที่สุดในโลกอันดับ 1 กับ 2 ที่เมืองไทยเหมือนที่โทร.ไปหาประจำเวลาคิดถึง ถามว่า กินข้าวหรือยัง?ฝนตกรึเปล่า?ทำอะไรอยู่?ดูละครช่อง 7 ตอนบ่าย ๆ เรื่องอะไร?ถามเหมือนทุก ๆ ครั้งที่โทร.ไปผมยิ้มได้ผมรู้สึกมีความสุขผมรู้สึกอบอุ่นและเสียงที่ได้ยินกลับมาทำให้ผมรู้ว่า....เสียงของ คนที่ผมรักที่สุดในโลก และก็รักผมอย่างไม่มีข้อแม้ คือ 1 ความอบอุ่นที่ผมต้องการ นี่เอง(จี ฮุน,ฟันกระต่ายดูไว้ นี่แหละคนที่อยู่ในใจของผมตัวจริง )
รู้และว่าเป็กโก๊ะ
นมใหญ่เหมือนใคร ??
ปล. ข้อความสุดท้าย
มีน้ำตาไหลแหง๋ๆๆค่ะ ^^