ตำนานฉัททันต์ปริตร(๑๒) พรานโสณุดร ได้ฟังคำของพญาฉัททันต์แล้ว คว้าเลื่อยซึ่งเตรียมมาพร้อม เดินเข้าไปใกล้พญาฉัททันต์ด้วยความประสงค์จะตัดงา พญาฉัททันต์นั้น ยืนตระหง่านเหมือนภูเขาเงินยวง พรานโสณุดรจึงเอื้อมเลื่อยงาไม่ถึง พญาฉัททันต์จึงคุกลงพร้อมกับก้มศีรษะยอมให้ตัดงา พรานโสณุดรจึงขึ้นเหยียบงวงอันงดงามเหมือนพวงเงิน ปีนขึ้นไปบนกระพอง ใช้เข่ากระตุ้นให้เนื้อที่ปากยัดเข้าไปข้างใน แล้วสอดเลื่อยเข้าไปในปาก เลื่อยอย่างทะมัดทะแมง พญาฉัททันต์แสนจะเจ็บปวด มีทุกขเวทนาสาหัสยิ่ง ภายในปากเต็มไปด้วยเลือด เพราะคมเลื่อยบาดเนื้อที่อยู่ภายใน พรานโสณุดร เลื่อยอยู่พักหนึ่ง งาของพญาฉัททันต์ก็ยังไม่ขาด เรี่ยวแรงก็อ่อนลง ทั้งจิตใจก็หวาดระแวงว่า พวกช้างที่เป็นบริวารจะกลับมาพบ เกิดความไม่มั่นใจในผลสำเร็จขึ้นมา พญาฉัททันต์อ่อนกำลังเต็มที ทุกขเวทนาบีบคั้นอย่างหนักสู้สะกดกลั้นกล้ำกลืน บ้วนเลือดออกจากปาก พลางถามพรานโสณุดรว่า “พรานเอ๋ย ท่านไม่สามารถจะเลื่อยงาของเราให้ขาดได้หรือ” ![]() พรานโสณุดรตอบว่า “ถูกแล้ว พญาช้าง ข้าพเจ้าไม่สามารถจะเลื่อยงาของท่านให้ขาดได้” พญาฉัททันต์กล่าวด้วยเสียอันบอกถึงความสะกดกลั้นเวทนาอย่างหนักว่า “ข้าพเจ้า ไม่มีกำลังเหลืออยู่พอ แม้แต่จะยกงวงของตนเอง ท่านช่วยหน่อยซิ ช่วยยกงวงของข้าพเจ้าขึ้นจับเลื่อยทีเถิด” พรานโสณุดรกระทำตามที่พญาฉัททันต์แนะนำโดยเร็ว พญาฉัททันต์ออกกำลังชักเลื่อยไปมาไม่นาน งาทั้งคู่ก็ขาด เหมือนตัดตอไม้ พญาฉัททันต์บอกโสณุดรให้หยิบงาคู่นั้นมาให้ เพราะตนเองหมดเรี่ยวแรงเสียแล้ว เมื่อโสณุดรหยิบงาทั้งคู่มาให้ พญาฉัททันต์ก็ค่อยๆเอางวงรวบรัดไว้ พลางพูดกะโสณุดรว่า “พรานเอ๋ย ข้าพเจ้าขอมอบงาคู่นี้ให้แก่ท่าน ให้เพราะปรารถนาจะเป็นพระอินทร์ เป็นมาร เป็นพรหมเลย แต่เรารักพระสัพพัญญุตญาณยิ่งกว่างาคู่นี้ร้อยเท่าพันทวี ขอกุศลผลทานนี้ จงเป็นปัจจัยให้เราได้บรรลุพระสัพพัญญุตญาณในอนาคตกาลโน้นเถิด” กล่าวแล้วมอบงาให้โสณุดร พร้อมกับถามต่อไปว่า “พรานเอ๋ย กว่าท่านจะมาถึงที่นี่ นานเท่าไร” โสณุดรนตอบว่า ๗ ปี ๗ เดือน และ ๗ วัน ก็กล่าวว่า “เชิญท่านเดินไปเถิด ด้วยอานุภาพแห่งงาคู่นี้ ท่านจะเดินทางถึงพระนครพาราณสีภายใน ๗ วัน เท่านั้น” ครั้นแล้วก็กระทำการป้องกันโสณุดร ส่งเขากลับด้วยกระทำสัจจกิริยาว่า “แม้เราจะถูกลูกศรอาบยาพิษแทงตนแล้ว แม้จะถูกเวทนาสาหัสบีบคั้นแล้ว เราก็มิได้มีความคิดประทุษร้ายในท่านผู้ทรงกาสาวพัสตร์เลย ถ้าข้อนี้เป็นความจริง อันเราผู้เป็นช้างประเสริฐตั้งไว้แล้ว ขอพาลมฤคทั้งหลายในป่า อย่ากล้ำกลายนายพรานนี้” กล่าวสัจจกิริยาจบแล้ว ก็สิ้นลมปราณล้มลงตรงนั้น เมื่อพวกช้างบริวารและนางมหาสุภัททายยังมาไม่ถึง พรานโสณุดรรีบยกงางามคู่นั้นของพญาฉัททันต์ ซึ่งจะหางาคู่ใดในโลกเปรียบปานได้ หลบหลีกเดินทางไป ก่อนที่ช้างทั้งหลายจะพากันมาถึงที่อยู่ |
บทความทั้งหมด
|