ชุมนุมเทวดา ![]() ผริตฺวานเมตฺตํ สเมตฺตา ภทนฺตา อวิกฺขิตฺตจิตฺตา ปริตฺตํ ภณนฺตุ สคฺเค กาเม จ รูเป ฯลฯ ธมฺมสฺสวนกาโล อยมฺภทนฺตา, ธมฺมสฺสวนกาโล อยมฺภทนฺตา, ธมฺมสฺสวนกาโล อยมฺภทนฺตา คำแปลทั้งหมด ดังนี้ ขอเชิญท่านผู้เจริญทั้งหลาย ผู้มีเมตตาจิต จงแผ่เมตตา อย่าได้มีจิตฟุ้งซ่าน สวดพระปริตรเทอญ ขอเชิญบรรดาเทพเจ้า ซึ่งสถิตในสรวงสวรรค์ ชั้นกามภพ รูปภพ และเทพเจ้าผู้สถิตเหนือยอดเขาและหุบเขาและในวิมานอันอยู่ในอากาศทั้งที่สถิตในเกาะ ในแว่นแคว้น ในแดนบ้าน ในต้นไม้ ในป่าโปร่งและป่าทึบ ในเรือน ในเรือกสวน ในไร่นา ทั้งบรรดายักษ์คนธรรพ์และนาค ผู้เป็นสาธุชนอันอยู่ในน้ำ บนบก ที่ลุ่ม ที่ดอนก็ดี ขอจงมาประชุมกันในที่นี้ ฟังคำของพระมุนีอันประเสริฐ ซึ่งข้าพเจ้าจะได้สวดต่อไป ณ บัดนี้ ท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม ท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม ท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม. อีกแบบหนึ่ง สะมันตา จักกะวาเฬสุ อัตราคัจฉันตุ เทวะตา สัทธัมมัง มุนิราชัสสะ สุณันตุ สัคคะโมกขะทัง สัคเค กาเม จะ รูเป ฯลฯ ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ฯลฯ ขอเชิญเทพเจ้าในจักรวาลทั้งหลายโดยรอบมา ณ สมาคมนี้ ขอเชิญฟังพระสัทธรรม ของพระมุนีเจ้า อันจะอำนวยให้ทั้งสวรรค์และนิพพานเถิด ฯลฯ (แปลเหมือนข้างบน) หมายเหตุ : บทนี้ทั้งสองแบบเป็นบทที่แต่งเพิ่มขึ้นใหม่ ไม่มีในพระไตรปิฎก เรียกว่าบทชุมนุมเทวดา บทชุมนุมเทวดานี้ แต่เดิมมาคฤหัสถ์ที่เป็นผู้อาราธนาพระปริตรเป็นผู้ว่า คืออาราธนาพระปริตรจบแล้ว ก็ว่าบทชุมนุมเทวดาด้วย ต่อมาภายหลังจึงได้ยกถวายพระสวดมนต์เป็นผู้ว่า พระที่ว่าบทนี้โดยปกติเป็นรูปที่ ๓ นับจากพระที่เป็นหัวหน้า |
บทความทั้งหมด
|