วิธีทำกระเทียมดำ กระเทียมดำ Black Garlic Homemade ![]() ที่มา //goo.gl/mHCAXO กระเทียมดำ Black Garlic เกรดพิเศษที่คัดแล้วจะเรียกว่า Black Diamond Garlic "กระเทียมดำ" หรือ "Black Garlic" ประมาณ 5 ปีที่แล้ว ประเทศเกาหลีได้ออกมาเผยแพร่ข้อมูล สู่วงการอาหารและวงการแพทย์ถึงสิ่งที่เรียกว่า กระเทียมดำ หรือ Black Garlic โดยกระเทียมดำเกิดจากการผ่านกระบวนการอบบ่ม (Fermentation) ที่อุณหภูมิสูงในสภาวะที่มีความชื้น เป็นเวลา 50-60 วัน จนกระเทียมขาวที่มีสีปกติ กลายเป็นสีดำ และพบว่ากระเทียมดำ มีกรดอะมิโน 18 ชนิด โปรตีน เอนไซม์ SOD และโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายดูดซึมได้ง่าย และมีสารที่เป็นประโยชน์มากกว่ากระเทียมขาวปกติ หลายเท่าตัว ที่มา https://goo.gl/UK43NV (www.nextsteptv.com) มีความต้องการมากในตลาดจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ใช้ในการรับประทาน ทำอาหาร และเครื่องดื่ม ยังมีราคาจำหน่ายค่อนข้างสูงพอสมควร เพราะผลผลิตใช้เวลานาน และมีอัตราสูญเสียค่อนข้างมาก ในกระบวนการผลิตแต่ละรอบ ข้อมูลเพิ่มเติม https://goo.gl/uUPa1S //goo.gl/mHCAXO ![]() สำหรับกระบวนการผลิต/วิธีทำกระเทียมดำ ได้รับการเผยแพร่จากผู้ประกอบการชาวไทย ที่มีโรงงานผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ในเวียตนาม 4 โรงงาน สอบถามนักธุรกิจไทยที่ไปลงทุนในเวียตนาม จะรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของท่านได้เป็นอย่างดี ท่านได้ทดลองทำการผลิตแบบลองผิดลองถูกหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่การใช้หม้อนึ่ง ตู้นึ่ง ตู้อบอาหาร หม้อหุงข้าวแบบฝาเปิด หม้อหุงช้าวแบบอุ่นทิพย์ดิจิตอล หม้อหุงข้าวแบบอุ่นทิพย์ธรรมดา จนได้วิธีการผลิตกระเทียมดำค่อนข้างนิ่งและลงตัวแล้ว หรือไม่ค่อยแกว่งแล้วในตอนผลิต นำมาใช้ภายในครอบครัวของท่าน และแจกจ่ายเพื่อนพ้องน้องพี่ จากเดิมที่สรุปกระบวนการผลิตดังนี้ ที่อุณหภูมิ 60 องศาเซนเซียส ใช้เวลาผลิต 3 เดือน ที่อุณหภูมิ 70 องศาเซนเซียส ใช้เวลาผลิต 2 เดือน ที่อุณหภูมิ 80 องศาเซนเซียส ใช้เวลาผลิต 20 วัน โดยใช้หม้อหุงข้าวแบบอุ่นทิพย์แบบธรรมดา (มีตัวอย่างภาพด้านล่าง) ไม่จำเป็นต้องผสมน้ำส้มสายชู หรือแช่เบียร์ ใช้เพียงแต่กระเทียมสดเท่านั้น ปัจจัยตัวแปรที่สำคัญในกระบวนการผลิตนี้ ความร้อนกับความชื้นสัมพัทธ์ภายในหม้อหุงข้าว วัตถุดิบกระเทียมดิบต้องเก่าเก็บพอสมควร ถ้าสดมากเกินไปจะทำให้มีผิวเปลือกด้านนอกสีดำ เพราะน้ำภายในกระเทียมออกมามากในตอนทำ ทำให้ด้านในค่อนข้างฉ่ำน้ำ แต่กินได้ ขายไม่ค่อยได้ อุณหภูมิภายนอกที่กระทบเช่น หนาว ร้อน เย็น และอื่น ๆ เช่น ไฟฟ้าดับ อุปกรณ์สูญเสีย เป็นต้น ท่านยินดีแนะนำเป็นวิทยาทาน และให้นำไปใช้โดยไม่สงวนสิทธิ์ พร้อมทั้งยินดีตอบคำถามทาง LINE ID ที่ปรากฎใน Youtube จากการถ่ายทำแบบบ้าน ๆ ของมืออาภัพไม่ใช่มืออาชีพในคลิปนี้ ท่านระบุว่าไม่สะดวกในการตอบทางโทรศัพท์ เพราะภาระงานค่อนข้างมาก กอปรกับในเวียตนามการรับโทรศัพท์ ถ้ามีคนโทรไปจากเมืองไทยจะมีอัตราเรียกเก็บ คนที่รับสายโทรศัพท์ปลายทางต้องจ่ายนาทีละ 15 บาท ![]() ผลผลิตจากหม้อหุงข้าวแบบอุ่นทิพย์แบบธรรมดา วิธีทำกระเทียมดำ 1. หากระเทียมโทนเบื้องต้นก่อน เพราะมีขนาดเล็ก จะมีจำนวนมากและจุในพื่นที่หม้อหุงข้าวได้มากที่สุด มากกว่ากระเทียมจีนลูกใหญ่ ซึ่งก็ทำได้เหมือนกัน แต่จะมีจำนวนน้อยกว่าและมีช่องว่างภายในหม้อมาก 2. หากระเทียมที่ค้างเก่า/ค้างเก็บหลายเดือนสักหน่อย เพราะถ้าสด ๆ มักจะมีน้ำภายในกระเทียมมาก เวลาผลิตออกมามักจะมีผิวเปลือกสีดำ เพราะมีน้ำภายในกระเทียมออกมามากกว่าของค้างเก็บ ถ้าจำเป็นต้องใช้ ต้องหาวิธีการให้ลมโชยกระเทียมมาก ๆ เพื่อขับไล่ความชื้นภายในกระเทียมออกให้มากที่สุด ไม่แนะนำให้ไปวางตากกลางแจ้งเพราะจะทำให้กระเทียมเหี่ยว ![]() 3. หาเสื้อกล้ามคอกลมผ้าฝ้ายไม่ใช้แล้ว 2 ตัว ![]() 4. หาหม้อหุงข้าวแบบอุ่นทิพย์แบบธรรมดา ไม่แนะนำแบบดิจิตอลเพราะมีปัญหาหยุมหยิมมาก เพราะต้องอุ่นตลอดเวลา 20 วัน ให้กดปุ่มแบบอุ่น/warm เท่านั้น ขนาด 1.8 ลิตร จะใส่กระเทียมสดได้ประมาณ 2 กิโลกรัมเศษ ขนาด 3.6 ลิตร จะใส่กระเทียมสดได้ประมาณ 5 กิโลกรัมเศษ ![]() ขนาด 1.8 ลิตร ใส่กระเทียมสดได้ประมาณ 2 กิโลกรัมเศษ ![]() ขนาด 3.6 ลิตร ใส่กระเทียมสดได้ประมาณ 5 กิโลกรัมเศษ 5. เอาเสื้อกล้ามด้านคอเสื้อกับแขนเสื้อ ใส่ลงในหม้อหุงข้าวแล้วคลี่ออก ตรงกลางจะเป็นหลุมพอดี ![]() 6. เทกระเทียมลงไปให้มีขนาดพอปิดฝาหม้อได้ ![]() และพับเสื้อกล้ามอีกตัวใส่ไว้ด้านบน หรือ topping จะช่วยซับไอน้ำ/หยดน้ำจากฝาไว้ก่อนลงไปถูกผิวกระเทียม แล้วเอาด้านเอวเสื้อปิดทับเสื้อกล้ามที่วางด้านบนกระเทียม ![]() ![]() 7. ปิดฝาหม้อและกดปุ่มอุ่นอย่างเดียวเท่านั้น ห้ามกดปุ่มหุงต้มโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้กระเทียมแฉะ/เสียหายเกินเยียวยาได้ ในวันที่ 2 เอามือจับดู ถ้าเริ่มอุ่น ๆ ให้หาผ้าขนหนูขนาดพอสมควร 1 ผืน ปิดทับด้านบนเพื่อรักษาความร้อน กับกันไม่ให้ไอน้ำไหลออกมามาก ![]() 8. วันที่ 3 หรือครบระยะเวลา 72 ชั่วโมงแล้ว จับฝาหม้อจะอุ่น ๆ 9. รีบเปิดฝาหม้อดู จะเห็นหยดน้ำเกาะตรงฝาหม้อสแตนเลสด้านใน รีบหยิบเสื้อกล้ามคอกลมที่วางข้างบน/topping ออกมาสะบัด ๆ 3-4 ที แล้ววางกลับเข้าที่เดิมแล้วรีบปิดฝาหม้อทันที (ส่วนใครจะถนัดท่อง พุธโธ ธัมโม สังโฆ เพื่อนับในใจ/เพื่อบูชาพุทธคุณ แล้วแต่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล คัดลอกจากคำบรรยายผู้ทำ) ![]() 10. นำเอาผ้าขนหนูปิดไว้ด้านบนฝาหม้อ เพื่อรักษาอุณหภมิ/ความชื้นไม่ให้แกว่งมากกว่าปกติ 11. วันที่ 4,5,6,7 หรือทุก 24 ชั่วโมง เช่น เริ่มลงมือทำตอน 9 โมงเช้าวันที่ 1 ก็เปิดฝาหม้อดูตอน 9 โมงเช้าวันที่ 3 หลังจากครบรอบระยะเวลา 72 ชั่วโมงแล้ว จะเห็นมีหยดน้ำที่ฝาหม้อสแตนเลสด้านใน นำเสื้อกล้ามตัวบน/topping ออกมาแล้วสะบัด ๆ 3-4 ที รีบปิดฝาหม้อทันที พร้อมกับวางผ้าขนหนูไว้แบบเดิม ไฟยังต้องอุ่นที่ตัวอุ่นเหมือนเดิมตลอดเวลา ![]() ภาพกระเทียมดำที่ผลิตขนาด 10 เท่า 12. วันที่ 7 จะมีหยดน้ำเกาะที่ฝาหม้อด้านใน น้อยมากกว่าวันที่ 3,4,5,6 และจะไม่หยดตอนที่เปิดออกมาดู ตั้งแต่วันที่ 8-20 ไม่ต้องไปทำอะไร อย่าไปเปิดฝาหม้อดูภายในแต่อย่างใด เพราะต้องการความร้อนกับความชื้นสัมพัทธ์ ในการทำกระเทียมดำ รอจนครบกำหนด 480 ชั่วโมง บางรุ่นวันที่ 18 ก็กินได้แล้ว (กำลังจะไปถ่ายเพิ่มชุดที่ทำที่บ้านท่านที่ ห.ใ ในวันที่ครบกำหนด 20 วัน) 13. เตรียมลังกระดาษขนาดใหญ่ หรือโต๊ะกว้าง ๆ 14. พัดลมสัก 1- 2 ตัว 15. เอาผ้าแห้งจับหม้อด้านใน ยกออกมาเทกระเทียมลงบนลังกระดาษหรือโต๊ะ แล้วเกลี่ยให้กระจายออกมากที่สุด อย่าทับซ้อนกัน 16. เอาพัดลมเป่ากระเทียมราว ๆ 10-15 นาที หรือจนกว่าจะจับกระเทียมได้ นำมาใส่กล่องหรือขวดแก้ว ไม่ควรนำเข้าตู้เย็นเพราะจะแฉะหรือเปียก ![]() สรุปวิธีทำ 1. กระเทียมที่ผลิตออกมาจะมี 2 แบบ เปลือกน้ำตาล แกะเปลือกออกมาข้างในสีดำ จะเห็นเยื่อขาว ๆ บาง ๆ จับไม่ติดมือ จัดว่าสวยงามตลาดผู้ขาย/ผู้ซื้อนิยมกันมากที่สุด เปลือกสีดำและแกะข้างในออกมาก็สีดำ เพราะถูกน้ำหยดใส่ แต่กินได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าจะนิ่มกว่า/น้ำฉ่ำแบบเปลือกสีน้ำตาล บางเม็ดที่ผลิตออกมาจะแข็งกว่าปกติ กินได้เหมือนกันแต่ต้องเคี้ยวมากสักหน่อย 2. รอบการผลิตแบบอุณหภูมิ 60 องศาใช้เวลา 3 เดือน แบบอุณหภูมิ 70 องศาใช้เวลา 2 เดือน แบบอุณหภูมิ 80 องศาใช้เวลา 20 วัน วัสดุกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกระเทียมดำ ผลผลิตที่ออกมาค่อนข้างนิ่งแล้ว/ไม่แกว่งตัวมาก 3. ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำส้มสายชู น้ำผึ้ง เบียร์ มาแช่หรือร่วมในกระบวนการทำกระเทียมดำ ใช้แต่เพียงกระเทียมสดค้างเก่า/ค้างเก็บเท่านั้น ขอให้โชคดีมีความสุขกับการทำกระเทียมดำ หมายเหตุ พืชผลทางการเกษตรจะควบคุมคุณภาพค่อนข้างยาก เพราะปัจจัยหลักคือ พันธุ์พืช ดิน น้ำ ลม ไฟ คุณภาพของดิน น้ำฝน/น้ำรดพืชผล/คุณภาพน้ำที่ใช้ ลมเบา/ลมแรง/อากาศชื้น/หนาว/ร้อน ไฟ/แสงแดด ปัจจัยอื่น ๆ มีบ้าง เช่น ระยะเวลาจัดเก็บ การขนส่ง คนงาน ฯลฯ มีผลต่อเนื่องถึงกระบวนการผลิต ทำให้ผลลัพธ์ออกมา บางครั้งเหนือความคาดหมาย ได้ตามมาตรฐาน หรือตำ่กว่ามาตรฐาน ภาษาโรงงานมักเรียกกันว่า มีการแกว่ง ถ้าได้ตามมาตรฐานก็ ค่อนข้างนิ่ง ตัวอย่าง พืชผลทางการเกษตร พริกขี้หนู กระทบแล้ง 7 วันจะเผ็ดมากที่สุด แต่จะสูญเสียน้ำหนักมากในตอนเก็บ/ขาย องุ่น ต้องแดดจัด ๆ หลายวันก่อนเก็บ เวลานำไปทำไวน์จะมีรสชาติดีมาก แต่ถ้าฝนตกลงมาในช่วงรอแดดจัด ๆ องุ่นชุดนั้นจะเสื่อมรสชาติลงไปมากเลย ลองกองหลังออกลูกแล้วจะเป็นสีเขียวก่อนแล้วเป็นสีเหลือง สลับสีไปมาในช่อลูกลองกองจนครบ 3 ครั้ง จะมีคุณภาพหวานมากที่สุด/รสเปรี้ยวแทบไม่มีเลย แต่ระยะเวลาเก็บรักษาจะน้อยวันลง/เสี่ยงต่อศัตรูพืช เหมือนกับแหล่งที่มาของผลไม้ในเมืองไทย แต่ละแห่งจะมีรสชาติ/คุณภาพแตกต่างกัน ดังนั้น กระเทียมโทนในแต่ละรุ่นที่นำมาผลิต อาจจะมีการแกว่ง (มาก/น้อย สูง/ต่ำ) ขึ้นกับปัจจัยดังกล่าวด้วย เมื่อผลลัพธ์ออกมาเป็นกระเทียมดำ ภาพเพิ่มเติม ![]() ![]() ![]() ภาพขยายขนาด 10 เท่า 20 เท่า ควรวางบนหนังสือ และจัดแสงก่อนถ่ายภาพ ![]() ![]() สรรพคุณรสชาติของกระเทียมดำ โปรดศึกษาและวินิจฉัยด้วยตนเอง เพราะแล้วแต่รสนิยมของแต่ละคน ส่วนสรรพคุณอื่น ๆ ลางเนื้อชอบลางยา โรคบางโรครักษาก็หาย ไม่รักษาก็หาย โรคบางโรครักษาก็มตะ ไม่รักษาก็มตะ |
บทความทั้งหมด
|
ได้ความรู้และน่าสนใจมากค่ะ
สุขสันต์วันคริสต์มาสนะคะ