แนวคิดดังกล่าวได้มาจากการวิจัยเชิงคุณภาพของ Karl Pillemer Ph.D.
ที่สำรวจอเมริกันชน วัยอาวุโส จำนวนกว่า 1,200 ราย
ในช่วงระยะเวลา 6 ปี จนได้ตกผลึกเป็นรายงานส่วนหนึ่งดังนี้
ในสังคมปัจจุบัน พวกเราไม่มักจะขอคำแนะนำจากผู้อาวุโส
พวกเราส่วนมากมีแนวโน้มที่จะพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ
หรืออ่านหนังสือที่แต่งโดยนักจิตวิทยาร่วมสมัย
หรือนักพูดที่สร้างแรงจูงใจ/สร้างแรงบันดาลใจ
หรือค้นหาในอินเทอร์เน็ตสำหรับแนวทางเพื่อแก้ปัญหาของเรา
โดยทั่วไป (และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ)
เรามักจะมองข้ามสมาชิกสังคมที่เก่าแก่ที่สุดของเรา
ในฐานะที่เป็นกุญแจสำคัญของภูมิปัญญา/ความเฉลียวฉลาด
สำหรับวิธีการที่จะอยู่อย่างเป็นสุขกว่า สุขภาพที่ดีกว่า
หรือการเติมเต็มชีวิตที่มากขึ้น
ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องผู้สูงอายุ
ผมเชื่อว่าทัศนคติดังกล่าวนี้เป็นข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรง
บุคคลทั่วไปโดยมากผู้ที่มีอายุมากกว่า
(โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อายุเฉลี่ย 70 และเกินกว่า)
โดยข้อเท็จจริงแล้วเป็นผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือที่สุด
พวกเราจะได้รับประโยชน์จากความรู้เกี่ยวกับ
วิธีการที่จะอยู่กันอย่างผาสุกผ่านช่วงเวลายากลำบาก
เพราะพวกเขาได้ผ่านประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ไม่ซ้ำกันเลย
เช่น ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ที่ได้สอนบทเรียนกับพวกเขาว่า
จะอยู่รอดในการเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากลำบาก
และพวกเขายังมีประสบการณ์ส่วนตัวร่วมกันในช่วงเยาว์วัย
เกี่ยวกับโศกนาฏกรรมที่รู้สึกแย่มาก/น่ากลัวหลายสิ่งหลายอย่างในช่วงนั้น
ทำให้พวกเขาสามารถจะให้คำแนะนำพวกเรา
ในเรื่องการทำใจยอมรับเกี่ยวกับเรื่องราว
ที่เกิดขึ้นได้อย่างสงบเยือกเย็น
ในการเผชิญกับความเจ็บป่วยและการสูญเสีย
ช่วงเวลาที่ผ่านมามากกว่าหกปี
ผมได้ดำเนินการโครงการวิจัยที่ออกแบบมา
เพื่อเจาะลึก ภูมิปัญญา/ความเฉลียวฉลาด
จากประสบการณ์ของชาวอเมริกันที่มีอายุมากกว่า
ด้วยการใช้ระเบียบวิธีการทางสังคมศาสตร์หลายรูปแบบที่แตกต่างกัน
ผมได้รวบรวมคำตอบจากผู้อาวุโสกว่า 1,200 ราย ในเรื่องคำถามที่ว่า
"ช่วงชีวิตผ่านมาได้เรียนรู้ว่า อะไรคือบทเรียนที่สำคัญที่สุด
ที่ต้องการจะถ่ายทอดให้กับคนที่มีอายุน้อยกว่า"
ผมได้ทำการรวบรวมและสรุปประเด็นจากคำตอบ
และผลลัพธ์ที่ได้คือ สาระสำคัญของบทเรียน
ในการใช้ชีวิตจากกลุ่มคนที่ผมขอยกย่องว่า
"อเมริกันชนที่ฉลาดที่สุด"
เมื่อผมหวนคิดย้อนกลับไปจากช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ในการพูดคุยกับผู้อาวุโสของอเมริกา
10 บทเรียนที่โดดเด่นที่สุดจากพวกเขา
ที่ต้องการถ่ายทอดให้กับเยาวชน/คนที่อายุน้อยกว่า
ด้วยบทเรียนนี้ "10 บทเรียนสุดยอดสำหรับการใช้ชีวิต"
และโปรดตอบกลับ/แจ้งให้ผมทราบด้วยว่า
จะนำใช้กับชีวิตของคุณเองอย่างไรได้บ้าง
- เลือกอาชีพเพื่อผลตอบแทนแรงจูงใจภายในใจตนเอง
ไม่ใช่ผลตอบแทนทางการเงิน
แม้ว่าหลายคนจะเติบโตขึ้นมาในภายใต้ความยากจน
ผู้สูงอายุหลายคนเชื่อว่า ข้อผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพของคนเราคือ
การเลือกอาชีพที่มีตอบแทนตามศักยภาพ(ผลการปฏิบัติงาน)
ความรู้สึกสำนึกถึงเป้าหมายและความหลงใหลในงานของตนเอง
จะได้ผลตอบแทนที่มากกว่าไม่วันใดก็วันหนึ่ง (Steve Jobs, Bill Gates)
- ทำตัวเองในตอนนี้ให้เสมือนหนึ่งว่า
ร่างกายพร้อมที่จะมีอายุกว่าร้อยปี
หยุดคำพูดที่ว่า "ไม่สนใจว่าจะมีอายุอยู่อีกนานเท่าใด"
มันจะเป็นข้ออ้างสำหรับนิสัยแย่ ๆ ที่ทำร้ายทำลายสุขภาพ
ด้วยพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น การสูบบุหรี่ นิสัยการกินอาหารพร่ำเพร่อ
และการขาดการออกกำลังกาย (การมีส่วนร่วมกิจกรรมที่มีชีวิตชีวา)
ซึ่งดูเสมือนหนึ่งว่าจะฆ่าตนเอง
ด้วยการตัดสินให้ต้องทนทุกข์ทรมานในอีกหลายปีต่อมา
หรือด้วยอาการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง
ผู้สูงอายุหลายคนได้เห็นถึงภัยพิบัติ
ที่มีสาเหตุมาจากการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม
ในหลายทศวรรษที่ผ่านมาจนถึงบั้นปลายของชีวิต
ทำตอนนี้เพื่อป้องกันมัน
- ตอบรับว่า " ได้เลย " สำหรับโอกาสหลายเรื่องหลายอย่าง
เมื่อได้รับข้อเสนอสำหรับโอกาสเรื่องใหม่/ครั้งใหม่หรือเรื่องที่ท้าทาย
ส่วนมากคุณมีแนวโน้มที่จะเสียใจที่จะตอบรับว่า ได้เลย
และมีแนวโน้มที่จะเสียใจในการปฏิเสธโอกาสนั้น
พวกเขาแนะนำว่า ให้หัดยอมรับความเสี่ยง
และเชื่อมั่นในตนเองเมื่อมีโอกาสมาเคาะประตู
- เลือกคู่ครองด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง
เรื่องที่สำคัญ คือ ไม่รีบด่วนตัดสินใจ ใช้เวลาทั้งหมดที่มีอยู่
เพราะจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องรับรู้เรื่องราว
หลายแง่หลายมุมของคู่ครองในภายข้างหน้า
เพื่อตรวจสอบให้มั่นใจว่าจะอยู่ด้วยกันได้
ผู้อาวุโสกลุ่มหนึ่งได้บอกว่า
"อย่ารีบเร่งโดยไม่รู้จักซึ่งกันและกันอย่างถ่องแท้
นั่นเป็นเรื่องอันตรายมาก แต่คนเรามักจะทำมันผิดพลาดตลอดเวลา.."
- เดินทางท่องเที่ยวให้มาก
การเดินทางท่องเที่ยวในขณะที่คุณยังสามารถอยู่
ให้ยอมสละทิ้งสิ่งอื่น ๆ ถ้าจำเป็นจะต้องทำเช่นนั้น
คนส่วนใหญ่มักหวนคิดถึง/มองย้อนกลับไป
ในการเดินทางผจญภัยของพวกเขา (ไม่ว่าจะครั้งใหญ่และเล็ก)
เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญของชีวิตพวกเขา
และพวกเขามักจะเสียใจที่ไม่ได้เดินทางท่องเที่ยวให้มากกว่านี้
หนึ่งในผู้สูงอายุบอกกับผมว่า
"ถ้าต้องตัดสินใจว่า จะทำ/ปรับปรุงห้องครัวใหม่
หรือใช้เวลาเดินทางท่องเที่ยว แน่ละ- ผมบอกว่า
ให้เลือกการเดินทางท่องเที่ยวดีกว่า"
- บอกไปเลยตอนนี้
คนส่วนมากลงเอยด้วยคำพูดที่เศร้าสลดในที่สุดด้วยคำว่า
"ไม่น่าเลย/ไม่คิดเลย"
โดยไม่สามารถแสดงความรู้สึกของตนเองออกมาก่อนที่จะสายเกินไป
มีเพียงครั้งเดียวในชีวิต ที่สามารถแสดงออกถึงความรู้สึกในส่วนลึก
ของหัวใจของคุณคือ ในขณะที่คนคนนั้นยังมีชีวิตอยู่
ตามที่ได้พูดคุยกับคนที่อายุมากกว่า
"ถ้าคุณรู้สึกเสียใจกับใครบางคน ทำไมไม่บอกเสียแต่ตอนนี้เลย
ทำทุกอย่างทุกเรื่องทุกราวให้ถูกต้องตอนนี้
เพราะอาจไม่มีโอกาสอีกเลย ใครจะรู้
ดังนั้น ทำในสิ่งที่ตอนนี้ยังทำได้."
- เวลาเป็นเรื่องสำคัญ
ใช้ชีวิตราวกับว่าจะมีอายุสั้น เพราะมันเป็นเช่นนั้น
เรื่องสำคัญ คือ ไม่ใช่การถูกกดดันจากความรู้เรื่องนี้
แต่ให้บริหารจัดการในเรื่องนี้
เพื่อให้แน่ใจว่าได้ทำในเริ่อง/สิ่งที่สำคัญตอนนี้
เมื่อมีอายุมากขึ้นผู้ตอบคำถามในเรื่องนี้
ส่วนมากจะยอมรับและพูดว่า
ชีวิตที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วและน่าอัศจรรย์
หนึ่งในผู้สูงอายุกล่าวว่า
"ผมต้องการจะได้เรียนรู้ว่าในวัยสามสิบ
แทนในวัยหกสิบกว่าของผม !"
- ความสุข คือ ทางเลือก ไม่ใช่เงื่อนไข
ความสุขไม่ใช่เงื่อนไขที่เกิดขึ้น
เมื่อสภาวการณ์พร้อมสมบูรณ์แล้ว
หรือเกือบจะเป็นเช่นนั้น
ดังนั้น ไม่เร็วก็ช้าคุณต้องจำเป็นต้องหาทางเลือก
ด้วยความตั้งใจว่าจะมีความสุข
ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องที่ท้าทายและยากลำบาก
ชายสูงวัยมากกว่าคนหนึ่งได้สะท้อนเรื่องนี้แทนคนอื่น ๆ ว่า
" คำแนะนำที่ดีที่สุดอย่างเดียวของผม คือ
คุณต้องรับผิดชอบความสุขของตัวคุณเอง ตลอดชีวิตของคุณ"
- เวลาที่เสียไปกับความกังวล คือ เวลาที่สูญเปล่า
หยุดวิตกกังวล หรือ อย่างน้อยลดมันลงบ้าง
มันเป็นเรื่องสูญเสียที่ยิ่งใหญ่สำหรับชีวิตอันมีค่าของคุณ
แน่นอนหนึ่งในเรื่องเสียใจที่สำคัญของผู้สูงอายุจำนวนมาก
คือ เสียเวลาไปกับความกังวลกับเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลย
- คิดว่าเป็นเรื่องเล็ก
เมื่อเวลามาถึง ให้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ด้วยการคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก
ปรับสภาพอารมณ์และจิตใจตนเอง
เพื่อความสุขในชีวิตประจำวันที่เรียบง่าย
และเรียนรู้ที่จะรับมือกับมันในตอนนี้
เมื่อวันหยุดพักผ่อน/วันหยุดยาวนานของชีวิตมาถึง
บทเรียนสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ในการรำลึกไว้
เพราะการรับรู้ของพวกเขาคือ ชีวิตไม่ยืนยาว
ผู้สูงอายุรับรู้ได้ถึงนาทีของความสุข
ขณะที่คนหนุ่มสาวมักจะตระหนัก
เฉพาะตอนที่พวกเขาได้สูญเสียมันไปเท่านั้น
รับเช้าวันใหม่ด้วยถ้วยกาแฟดีดี
เตียงนอนที่อบอุ่นในวันคืนฤดูหนาว
การให้อาหารกับนกสีสดใสบนสนามหญ้า
จดหมายที่ไม่คาดคิดจากเพื่อน
แม้แต่เพลงที่ชื่นชอบทางวิทยุ
(ความสุขทั้งหมดที่กล่าวถึง
มาจากการสัมภาษณ์ของผม)
การเอาใส่ใจเป็นพิเศษกับกิจกรรมเหล่านี้
"ของชนชั้นกลุ่มน้อย(ผู้อาวุโส)"
แม้แต่รูปแบบต่าง ๆ ของความสุข
ที่ปรุงแต่งขึ้นมาเอง
ในการใช้ชีวิตประจำวัน
พวกเขาเชื่ออย่างเดียวกันว่า
สามารถเป็นจริงได้สำหรับคนที่อายุน้อยกว่านี้เช่นกัน
และมันคุ้มค่าสำหรับการพยายามทุกเพศทุกวัย !
เรียบเรียงจาก
Top 10 List from the Wisest Americans: How to Be Happier
from Karl Pillemer Ph.D.
ที่มา //goo.gl/eqAWR