...เป็นอะไรไปใจเรา...
วันนี้ใจเราเป็นอะไรไป คล้ายๆอยากร้องไห้ แต่มันก็ไม่มีน้ำตา
ตื่นเช้ามาก็ไปทำงานตามปกติ ทั้งๆที่ดีใจแล้วว่าวันนี้หลังจากเคลียร์งานที่ค้างเสร็จเราคงได้กลับบ้านเร็วเพราะเมื่อคืนฝนตก ชาวบ้านชาวช่องกรีดยางกันไม่ได้ และแอบคิดไว้ในใจว่า
1.วันนี้คงได้ไปหาดใหญ่ซะที จะได้ไปหาซื้อหนังสือที่อยากอ่าน ซื้อของมาแต่งบ้านอย่างที่คิดไว้ว่าจะซื้อ
2.หากไม่ได้ไปหาดใหญ่ เราคงได้เจอกับพี่ปริ้นซ์ในMSN เพราะวันนี้เป็นวันหยุดชดเชย พี่ชายคงไม่ไปทำงานและมาคุยกับเราได้
แต่....
ทุกอย่างฝันสลาย
อดไปหาดใหญ่เพราะงานพิเศษที่เรารับทำ มันอยู่คนละพื้นที่กันกับบ้านเราและที่นั่นเมื่อคืนฝนไม่ตก พวกพี่ๆไปหาดใหญ่กันตอนสิบเอ็ดโมงกว่าแต่ เราเสร็จงานตอนบ่ายโมง
กลับมาบ้านเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อจะเข้าเรียน Mini MBA เน็ตก็หลุดซ้ำซาก เสียเวลาไปสองชั่วโมงไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เข้าเรียนโหลดเข้าไม่ทันเสร็จเน็ตก็หลุด ลองสามรอบก็ยังเข้าไม่ได้ ขาดเรียนไปอีก1วัน เฮ้อ...
เปิด MSN หวังว่าจะได้เจอพี่ปริ้นซ์ แต่ก็ไม่เจอมีเพียงข้อความฝากไว้ ตอนเจ็ดโมงเช้าวันนี้ ว่า
“ดีใจด้วยที่ไม่ต้องไปทำงาน ส่วนพี่มีนัดทำงานกับเพื่อน เฮ้อ.อ.อ.อ..ช่วงนี้นอนดึกไปหรือเปล่า ได้หยุดก็พักผ่อนบ้างเน้อ....จะพยายามรีบกลับ (แต่หวังยากเหลือเกิน ยิ่งทำงานร่วมกับคนอื่นยิ่งบานปลาย)”

งานไม่ได้หยุด หาดใหญ่ไม่ได้ไป พี่ชายก็ไม่ได้คุยด้วย เฮ้อ...ยังพอมีหวังที่พี่เค้าบอกว่าจะพยายามรีบกลับ แต่มันก็คงยากจริงๆอย่างที่พี่เค้าบอก

ไปอ่านบล็อกของคนรู้จักคนนึงมา สนิทกันไหม?
ไม่นะ...แต่ก่อนอาจจะเจอกันบ่อยในแจ่มใส แต่เดี๋ยวนี้เราไม่ได้ไปแชทที่นั่นอีกแล้วเพราะ
เราไม่ชอบคนเสแสร้ง เข้าใจว่าโลกอินเตอร์เน็ตเค้าก็ไม่จริงใจกันหรอกส่วนมาก แต่ในความคิดเรา
ถ้าไม่อยากให้เรารู้จักตัวตนที่แท้จริง คุณก็ไม่ต้องบอกสิ ไม่เห็นจำเป็นต้องเมคสร้างเรื่องมาโกหก เราเป็นหญิงเราเป็นชาย มีปัญหาครอบครัวบ้างล่ะ เป็นโรคมะเร็งหมอบอกว่าจะอยู่ได้อีกแค่ 6เดือนบ้างล่ะ ปาเข้าไปเป็นปีทำไมยังมาแชทได้ สงสัยว่าลืมว่าพูดอะไรไป นี่แหละหนาคนเรา
เจอบ่อยเข้าเราเลยเบื่อแชทไปเลย เบื่อที่ต้องมานั่งรับฟังอะไรก็ไม่รู้จากใคร ที่มันไม่ใช่เรื่องจริง เบื่อที่จะทำให้คนอื่นสนุกแต่เรากลับไม่สนุกเอาเสียเลย
ที่จริงเราไม่เคยเข้าแชทมานานแล้วตั้งแต่เรียนปีหนึ่งเคยลองครั้งสองครั้ง แต่ความไม่ชอบทำให้เราไม่เข้าไปอีกเลย
จนเมื่อมีคอมพิวเตอร์เองที่บ้านและเราเริ่มเอางานที่เขียนไปโพสในแจ่มใส เข้าไปเพราะคิดว่า มันคงจะมีแต่คนที่ชอบอ่านชอบเขียนหนังสือเข้ามาคุยกัน
ใช่ ....
แรกๆภาพที่เราเจอคืออย่างนั้น แต่นานไปความจริงเริ่มเปิดเผย คนนั้นโกหกว่าอย่างนี้ คนนี้โกหกว่าอย่างนั้น
เสียดาย...
ความรู้สึกดีๆที่เรามีให้คนจำพวกนั้น
เสียดาย...
ที่คนจำพวกนั้นมีโอกาสสร้างสรรค์สิ่งดีๆที่ทางเวปเปิดให้แต่กลับไม่ทำ
เสียดาย...
วันเวลาที่คิดว่าจะบ้างสักคนที่จริงใจ
ตอนนี้ คนในแชทของแจ่มที่เราติดต่อ มีเพียง
น้องเอิร์น :น้องสาวที่น่ารัก กิริยามารยาทดี เป็นน้องคนแรกที่เราคุยด้วยในแชท อยากเจอเราใจจะขาดตอนเราไปกรุงเทพฯ แต่น้องกลับต้องไปเข้าค่ายกับทางโรงเรียน
น้องฟุ้ง: น้องสาวมาดเซอที่อยากเป็นผู้กำกับหนัง แต่เสียดายที่ไม่ได้คุยกันบ่อยเหมือนแต่ก่อน
น้องอี๊ฟ : ความจริงน้องอี๊ฟนี่ เราเจอกันทางบอร์ดกวีมากกว่า แล้วมีโอกาสได้คุยกันทางแชทของแจ่ม อี๊ฟเป็นเด็กน่ารัก นิสัยคล้ายเรา เป็นคนหนึ่งที่ตามกลอนเราอย่างจริงจัง ตามอ่านมันทุกบท ช่วงนี้น้องสาวคนนี้ได้งานทำแล้วและเลิกแชทไปแล้วเหมือนกับเรา คุยกันแต่ทางเอ็ม และโทรหากัน ซึ่งส่วนมากน้องมันจะโทรมาเพราะว่าน้องมันโทรฟรี
น้องติ้ก: น้องสาวอีกคนทีน่ารักมากๆ แถมเรียนเก่งอีกตะหากมีกำหนดจบเทอมนี้เสียด้วย
พี่ปู : พี่สาวที่ทั้งสวยและใจดี พูดคุยได้ทุกเรื่อง แต่เพราะงานที่พี่เค้าทำทำให้เจอกันในเอ็มไม่บ่อยนัก แถมไม่ว่างบ่อยมาก
เรียว: รายนี้อยากเป็นทอมใจจะขาดทั้งที่หน้าตาออกจะน่ารัก แถมเขียนนิยายบทโรแมนติกได้เก่งมากๆ แต่ดื้อไปนิดชอบแหกคอก ทำอะไรแผลงๆปีนี้เรียนม.4 แล้วคงซ่าส์น้อยลง
พี่เน็ต: รู้จักเพราะบอร์ดกวีเช่นกัน โทรคุยทีไรได้เป็นชั่วโมง จนพี่เค้าถาม “นาตัวจริงทำไมพูดน้อยจังเลย” ตอนที่นัดเจอกัน
ส้มโอ : เพื่อนอีกคนที่เราเจอในแชท คนนี้ยามโทรหาไม่เคยได้คุย ต้องรอให้มันโทรหาเองตลอดและตอนนี้ เลิกเข้าแชทไปแล้วเหมือนกัน
พี่เพลิน: พี่สาวที่ใจดี รู้จักกันเพราะบอร์ดกวีอีกราย พี่เพลินเขียนนิยายได้โรแมนติกมากบรรยากาศอบอุ่นอบอวลไปด้วยความรักที่แฝงไปด้วยความเหงา อาจเป็นเพราะพี่เค้าอยู่เมืองนอกเลยเหงาบ่อยเพราะคิดถึงบ้าน เป็นหนึ่งคนที่เราปรึกษาอะไรๆได้เสมอ
น้องเตย : รู้จักกันเพราะบอร์ดกวีเช่นกัน เป็นเด็กน่ารัก ตั้งใจเรียน ตอนนี้มาเป็นรุ่นน้องที่มหาลัยรามคำแหง คนนี้ชอบดองนิยาย กว่าจะมาอัพทีน้านนาน โทรหากันบ่อยรองจากอี๊ฟ
พี่อ้อม เด็กทะเล : เป็นนักเขียนคนแรกที่เรามีโอกาสได้คุยทางในแชทของแจ่มใส เราเมลล์หาพี่เค้าก็ตอบทุกครั้ง หลังๆมานี่เราหายไปเอง แต่มาเจอพี่อ้อมอีกครั้งที่บล็อก ก็เลยคุยกันผ่านบล็อค
พี่ปริ้น์: พี่ชายที่แสนดี รู้จักกันเพราะบอร์ดกวี เมนต์กันไปเมนต์กันมา พี่เค้าดันเป็นห่วงเราเห็นแต่งกลอนอกหักบ่อย เลยแอดมาคุยด้วยทางเอ็ม ทั้งที่ไม่ชอบคุยกับคนไม่รู้จัก พี่เพลินยืนยันได้เพราะเราเคยลากพี่เค้ามาคุยด้วยกัน เพราะพี่เพลินชอบกลอนที่พี่ชายแต่ง แต่พี่ชายน่ะแกล้งทำว่าเน็ตหลุดไปเฉยเลย แล้วกลับมาคุยกับเราต่อหน้าตาเฉย ผู้ชายที่ทั้งดุและใจดีในคนๆเดียวกัน อายุห่างกับเราแค่4ปี แต่ทำไมเวลาคุยด้วยเราคิดว่าพี่ชายอายุมากกว่าเป็นสิบๆปีก็ไม่รู้ (ถ้ามาอ่านเจอละก็น้องพูดเรื่องจริงงงงงงงงงนะพี่ชาย) พี่ชายเคยบอกว่าเพราะพี่ชายอยู่ในสังคมที่วุ่นวายมีแต่การแข่งขันโดยเฉพาะเรื่องงาน คนนี้เจอไม่บ่อยแต่เรามีความรู้สึกว่าเป็นคนที่อบอุ่นเวลาเรามีอะไรไม่สบายใจพี่เค้าจะยื่นมือมาช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ และมีหลายตอนที่เราเขียนถึงพี่ชายไปแล้ว

นอกเหนือจากนั้น....ถ้าเป็นคนในบอร์ดกวีเราก็คุยด้วยหากเจอกันทางMSN แต่พวกที่แชท บอกตามตรงบางคนเราบล็อกเค้าไปเลย รำคาญ และไม่ชอบใจในสิ่งที่เค้ากระทำบางสิ่ง ในเมื่อไม่รู้จักก็ไม่จำเป็นต้องคบต่อให้เหนื่อยใจ นี่คือเรา
ส่วนเจ้าของบล็อกที่เราเข้าไปอ่านนั้น เป็นคนที่เรารู้จักในแชทของแจ่มเช่นกัน เมื่อก่อนที่เรายังเข้าแชทก็คุยกันบ้าง แซวเล่นน้องเค้าบ้าง แต่ก็รู้ว่าน้องเค้าไม่ค่อยเปิดใจที่จะรู้จักกับเรามากนัก เราเองใครคุยมาก็คุยไป ใครที่เราทักแล้วไม่คุยเราก็ไม่คุยด้วยอีก ถือว่าเค้าคงไม่อยากคุยด้วย เราก็ไม่คุย เรามีทั้งเมลล์และเบอร์โทรน้องเค้า แต่เราก็ไม่เคยโทรหา อย่างที่บอกเพราะไม่สนิท เอ็มก็เจอน้องเค้าออนบ่อย แต่เคยทักแล้วน้องเค้าไม่ตอบ เราก็เลยไม่ทักอีกเลยหลังๆมานี่
เหมือนเป็นคนนิสัยไม่ดีที่ไปเปิดอ่านบล็อกของเค้า แล้วทำให้เราเองที่รู้สึกแย่กับสิ่งที่เจอ เพราะในสิ่งที่น้องเค้าไม่ชอบนั้น เราเองก็เคยทำ อาจเพราะเราไม่ได้คิดว่าการที่เราเอาลิงค์ที่เราเขียนกลอน เขียนนิยายมาโพสในห้องคุยนั้นมันจะทำให้คนบางคนไม่พอใจ แค่มีเจตนาอยากให้คนที่อ่านประจำรู้ว่าเราโพสแล้วนะ จริงที่เราบอกให้บางคนไปเมนต์ให้เราด้วย รวมทั้งน้องเค้าเราก็เคยบอก แต่…
ไม่ใช่เพราะเราอยากได้คะแนนโหวตเยอะๆ อาจจะจริงที่เราอยากให้มีคนมาเมนต์ข้อความให้เพราะอะไรน่ะหรือ
เพราะ....เราอยากรู้ว่าคนที่อ่านเรื่องที่เราเขียนเค้ารู้สึกเช่นไร คิดอย่างเราหรือเปล่า เหมือนกับได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
ซึ่ง....
ในความคิดของน้องคนนี้เค้าบอกว่า อะไรที่เราเขียนแค่ได้เขียนมันก็พอแล้ว ได้ระบายในสิ่งที่เราเขียนแล้ว ทำไมต้องอยากให้ใครๆอ่าน
เรายอมรับ…
ว่าที่น้องเค้าคิดมันไม่ผิด แต่อยากให้น้องเค้าเปิดใจกว้างกว่านี้สักนิด
บางครั้งเราเห็นว่าลิงค์ที่เพื่อนๆโพสให้เข้าไปอ่าน มันยังจะดีเสียกว่าการจีบกันทางแชท การหยอกล้อด่าทอกันด้วยคำหยาบ การคุยเรื่องไม่เป็นเรื่องและเสแสร้งตลอด
แม้ว่า ตอนนี้กับน้องคนนี้เราไม่ได้คุยกัน แต่ทำไมเราเสียความรู้สึกจัง เฮ้อ...
มันจบไปแล้วล่ะ เพราะอะไรที่น้องเค้าไม่พอใจนั่น มันก็ไม่เกี่ยวกับเราอีกแล้ว เพราะเราเลิกเข้าแชทไปนานแล้ว
และไม่เคยเข้าไปแชทที่ไหนอีกเลย จะมีคุยก็แต่ MSN กับคนที่เราคิดว่าพอจะคุยได้ด้วยเท่านั้น

วันนี้เป็นวันที่อัพบล็อกยาวที่สุดเลยกระมังตั้งแต่สร้างบล็อกมา
ปล1. รอพี่ชายอยู่ จนป่านนี้ยังไม่มาเลย
ปล2. ใครที่เราแอดไว้นั่นคือคนที่เราคิดว่าดีพอที่เราจะคุยด้วยแล้วล่ะ
ปล3. ขอบคุณเพื่อนๆพี่น้องลุงป้าน้าอาในบล็อกนะค่ะ ที่มาอ่านกัน
ปล4.ขอบคุณอะไรๆหลายอย่างในโลกนี้ที่ทำให้เราได้เรียนรู้มากขึ้นกว่าในตำราที่เคยเรียน
ปล5. เป็นอะไรไปน่ะใจเรา เฮ้อ...ขอถอนหายใจอีกรอบก่อนปิดบล็อกละกัน

13 สิงหาคม 2550







Create Date : 13 สิงหาคม 2550
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 20:13:19 น.
Counter : 882 Pageviews.

2 comments
เกมเทียบกับชีวิตจริง I toor36
(30 มิ.ย. 2568 22:09:27 น.)
Day..14 โฮมสเตย์ริมน้ำ
(26 มิ.ย. 2568 08:37:37 น.)
โจทย์ตะพาบ ... เรื่องที่มักเข้าใจผิด ... tanjira
(25 มิ.ย. 2568 17:23:31 น.)
ทำไมเธอดูไม่ออก? nonnoiGiwGiw
(24 มิ.ย. 2568 12:52:05 น.)
  
อ่านแล้วอยากจะบอกเจ้าของBlog เหลือเกินว่า อย่าถอนหายใจทิ้งบ่อยนะค่ะเสียดาย
แค่คนๆเดียวอย่าให้เค้ามามีบทบาทกับเราเลยค่ะ
ดูสิคุณมีเพื่อนดีๆตั้งหลายคนแนะเท่าที่อ่านมา โชคดีจริงๆนะค่ะ
คิดเสียว่าคนเราไม่เหมือนกันเถอะค่ะ จะได้สบายใจ ว่าทำไมบางคนต้องแสแสร้ง คนพวกนี้น่าสงสารค่ะ
--ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ--
โดย: Cheerfully วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:22:38:44 น.
  
พี่ได้อ่านเรื่องน้องนาแล้ว..ได้แต่ให้กำลังใจน้องนาค่ะ..

ตอนอยู่แคนาดาใหม่ๆ ตอนนั้นยังไม่มีลูกๆ ก็เคยได้คุยกับเพื่อนๆทางยาฮูและเอ็มฯบ้างค่ะ
แต่ก็ไม่ค่อยบ่อย
พอพี่มีน้องแพทคนแรก ตั้งแต่นั้นก็ไม่ค่อยได้แชทกับเพื่อนๆเลยค่ะ ยิ่งมีลูกอีกคน ยิ่งหาเวลายากขึ้นจริงๆนะคะ..เพื่อนๆพี่จะเข้าใจพี่จุดนี้ เลยทำให้คบกันสบายใจไปด้วยน่ะค่ะ..

แถวๆที่พี่อยู่ไม่ค่อยได้เจอคนไทยจริงๆนะคะ แต่จะมีพี่ๆสองคนอยู่ไกลออกไปอีกเมืองหนึ่ง นานๆก็ส่งอีเมลคุยกัน โทร.ถามทุกข์สุขถึงกันดีค่ะ ..

..พี่คิดว่าการที่ได้คบเพื่อนที่เราสนิทใจจริงๆ ขอเลือกคบสองสามคน แค่นี้พี่ก็สุขใจแล้วค่ะน้องนา..

..อย่างน้อยน้องนาก็มีเพื่อนๆที่ยังรักเข้าใจ มีความสบายใจที่จะคบกันตลอดไปนะคะ..

โดย: tiktoth วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:0:52:43 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Naa-atorm.BlogGang.com

มัยดีนาห์
Location :
สงขลา  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]

บทความทั้งหมด